แค่อยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ที่ให้ได้ระบายความรู้สึก ปัญหาที่เกิดขึ้น
พ่อกับแม่ แยกทางกันตั้งเเต่ เราเข้าเรียนปี 1 ตอนนี้เราอายุ 31 แล้ว พ่อเสียสละบ้านที่อยู่ให้แม่กับลูกได้อยู่ด้วยกัน
พ่อจะเป็นคนย้ายออกไปอยู่อีกที่อื่นเอง จังหวัดเดียวกัน แต่พ่อก็ยังหาเงินส่งเราและน้องอีก 2 คนเรียนเพียงคนเดียว
แม่หายไปจากโลกที่พวกเราอยู่ ติดต่อไม่ได้ ไปทำงานต่างจังหวัด ทิ้งน้องคนเล็ก อยู่บ้านตจวคนเดียว
เรากับน้องคนที่ 2 เรียนอยู่กทม ผ่านไปจนเราขึ้นปี 2 น้องโทรมาบอกเราว่ามีคนเอาป้ายกรมบังคับคดีมาติดหน้าบ้าน
เพราะแม่เอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง แล้วไม่ส่ง จนดอกเบี้ย เกือบ 2 ล้าน เงินต้น เกือบ 2ล้าน...
พ่อยื่นมือมาช่วยจัดการเพื่อให้บ้านยังอยู่เพื่อลูกๆ พ่อให้เราติดต่อธ.สาขาใหญ่ที่กทมเพื่อดำเนินการต่างๆ
เราจำได้เลยว่า งง ไปหมด แม่ไม่เคยส่งเงินเรียนป.เลยสักบาท แล้วทิ้งหนี้ไว้ แบบนี้ ติดต่อไม่ได้
พ่อหาเงินก้อนมาโป๊ะ ทำเรื่องทำหนังสือกับธนาคาร กับกรมบังคับคดี เราต้องไปขึ้นศาล แทนแม่ ชีวิตบัดซบสุดๆ ตอนอยู่ปี2-3
กรมบังคับคดี งดขายทอดตลาดบ้านเราไว้ พ่อมาช่วยผ่อนชำระหนี้บ้านแทนแม่ จนถึงตอนนี้ ยังผ่อนไม่หมด
เวลาล่วงเลยไป แม่ก็มาบ้านที่เหมือนรู้ว่า รอดเรื่องบ้านโดนยึดแล้ว แต่แม่ไม่ได้สนใจมันด้วยซ้ำ มาบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าแม่ทำงานอะไร ... รถที่แม่เอาไปด้วยก็หายไป ถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ ว่าไม่ต้องยุ่งอย่างเดียว
แม่ไม่เคยสนใจ ถามว่าเรียนเป็นยังไงบ้าง แม้แต่ชื่อ คณะ แม่ยังไม่รู้เลย จนถึงวันที่เราเรียนจบ รับปริญญา ต้องสลับวันให้พ่อกับแม่มา
แม่อยากมา เราก็ยินดีให้มาค่าใช้จ่ายพ่อก็จัดการให้ทุกอย่าง เฮ้อออ
เรียนจบเราก็ทำงานอยู่กทม เงินเดือน หมื่นปลายๆ ค่าหอ อื่นๆ เราจ่ายเองทุกอย่างไม่ได้ขอพ่อ หรือเดือนไหนช็อตพ่อก็ให้มา
*จนวันหยุดกลับบ้านตจว แม่ก็เอาแต่ถามหาเงินเดือน จากเรา เราบอกไม่มี เหลือก็เก็บนิดๆหน่อยๆ ให้แม่เดือนละครั้งสองครั้ง พันสองพัน
ที่เจ็บสุดคือ เรียนมาสูงหาเงินได้แค่นี้หรอ แม่จบแค่ป4 ยังเคยหาเงินได้เดือนหลายเเสน
เยี่ยม.. เหตุการณ์คล้ายๆนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ซ้ำๆ วนเวียนเรื่องเงิน เรื่องบ้าน หลายอย่าง
แม่ว่าพ่อมาช่วยจ่าย เพราะคงอยากได้บ้านหลังนี่ละสิท่า เฮ้อ โคตร Toxic เลยๆเรื่อง
เรามาทำงานกทมหลายปี แทบไม่ได้คุยหรือติดต่อกับแม่เลย แม่ก็ไม่เคยโทรมา
มีแค่พ่อที่คอยโทรถาม มาหาที่กทม พามาย้ายหอ ย้ายที่ทำงาน กินข้าว หลายอย่าง จนพ่อมีแฟนใหม่ เราก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้
แฟนพ่อคอยช่วยเหลือพ่อทุกอย่างเหมือนกัน
และพาร์ทสุดท้าย ก่อนอายุ30 ย้ายมาช่วยธุรกิจพ่อที่บ้าน ทำธุรกิจจนทะเลาะกับพ่อบ่อยๆมากๆๆ เหนื่อยมาก โดนพ่อด่าอี
สะสม จนไม่อยากทำงานกับพ่ออีก ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ยิ่งจะซ้ำเติม ยิ่งสะใจ แม่บอกแล้ว ทำกับพ่อนุ้นนี่นั่นไม่ดี
ไม่ได้ให้กำลังใจเลยสักนิด
ยังคงทำกับพ่อไป จนแยกมาทำแบรนด์ของตัวเอง กับแฟนก็แฮปปี้ ในระดับนึง ทุกอย่างค่อยๆดีขึ้น
จนมีใบหมายศาลมาที่บ้าน 2 ใบ เชิญแม่ขึ้นศาล เรื่องรถลิสสิ่ง หลักแสน กับ หนี้จำนองที่ดิน หลักแสน บันเทิงไหมละ
เงินที่เรากับแฟนหามาได้ในแต่ละเดือน สุดท้าย มาแบ่งจ่ายหนี้ส่วนตรงนี้ ของแม่อีก ไหนจะหนั้บ้านที่อยู่นี่อีก
หนี้บัตรเครดิตแม่ เราก็เพิ่งไปปิดให้
เรากับแฟนช่วยซัพพอร์ตแม่ทุกอย่าง อยากหาอาชีพ ขายไก่ทอด ปลาหมึกย่าง ขายหลายอย่างหลายอาชีพ ไม่รอดสักอย่าง
ลงทุนให้หมด จนสุดท้ายก็ไม่รอด 100 อาชีพ
เราบอกให้แม่รับสมัครแม่บ้าน ก็ไม่เอาไม่ไป แม่ไม่ได้แก่ขนาดนั้น (แม่เกิด2515) เห็นแม่เพื่อนยังไปขายของ ทำงานกันอยุ่เลย
อยู่บ้านด้วยกันเห็นหน้ากัน ไม่มีอะไรจะคุยด้วยเลย คุยอะไรไปจะรู้สึก Toxic สุดๆ
มีหนี้มีสินให้เราต้องใช้ 5-6ล้าน แล้วยัง Toxic กับลูก ที่พยายามดิ้นรนทำงาน ทำธุรกิจ 2-3 อย่างในเวลาเดียวกัน
ไม่ได้ต้องการ Safe Zone แต่แค่ คิดว่าคนเป็นแม่คน จะ Toxic ตั้งแต่ลูกเรียนมหาลัย จนจบทำงาน ก็ยังไม่มีความดีๆ
หรือแม้แต่การให้กำลังใจลูก สักครั้งเลย จนทุกวันนี้ยังเป็นแบบนี้อยู่ เหนื่อยใจสุดๆ
แม่ไม่ใช่เซฟโซน..
พ่อกับแม่ แยกทางกันตั้งเเต่ เราเข้าเรียนปี 1 ตอนนี้เราอายุ 31 แล้ว พ่อเสียสละบ้านที่อยู่ให้แม่กับลูกได้อยู่ด้วยกัน
พ่อจะเป็นคนย้ายออกไปอยู่อีกที่อื่นเอง จังหวัดเดียวกัน แต่พ่อก็ยังหาเงินส่งเราและน้องอีก 2 คนเรียนเพียงคนเดียว
แม่หายไปจากโลกที่พวกเราอยู่ ติดต่อไม่ได้ ไปทำงานต่างจังหวัด ทิ้งน้องคนเล็ก อยู่บ้านตจวคนเดียว
เรากับน้องคนที่ 2 เรียนอยู่กทม ผ่านไปจนเราขึ้นปี 2 น้องโทรมาบอกเราว่ามีคนเอาป้ายกรมบังคับคดีมาติดหน้าบ้าน
เพราะแม่เอาบ้านหลังนี้ไปจำนอง แล้วไม่ส่ง จนดอกเบี้ย เกือบ 2 ล้าน เงินต้น เกือบ 2ล้าน...
พ่อยื่นมือมาช่วยจัดการเพื่อให้บ้านยังอยู่เพื่อลูกๆ พ่อให้เราติดต่อธ.สาขาใหญ่ที่กทมเพื่อดำเนินการต่างๆ
เราจำได้เลยว่า งง ไปหมด แม่ไม่เคยส่งเงินเรียนป.เลยสักบาท แล้วทิ้งหนี้ไว้ แบบนี้ ติดต่อไม่ได้
พ่อหาเงินก้อนมาโป๊ะ ทำเรื่องทำหนังสือกับธนาคาร กับกรมบังคับคดี เราต้องไปขึ้นศาล แทนแม่ ชีวิตบัดซบสุดๆ ตอนอยู่ปี2-3
กรมบังคับคดี งดขายทอดตลาดบ้านเราไว้ พ่อมาช่วยผ่อนชำระหนี้บ้านแทนแม่ จนถึงตอนนี้ ยังผ่อนไม่หมด
เวลาล่วงเลยไป แม่ก็มาบ้านที่เหมือนรู้ว่า รอดเรื่องบ้านโดนยึดแล้ว แต่แม่ไม่ได้สนใจมันด้วยซ้ำ มาบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าแม่ทำงานอะไร ... รถที่แม่เอาไปด้วยก็หายไป ถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ ว่าไม่ต้องยุ่งอย่างเดียว
แม่ไม่เคยสนใจ ถามว่าเรียนเป็นยังไงบ้าง แม้แต่ชื่อ คณะ แม่ยังไม่รู้เลย จนถึงวันที่เราเรียนจบ รับปริญญา ต้องสลับวันให้พ่อกับแม่มา
แม่อยากมา เราก็ยินดีให้มาค่าใช้จ่ายพ่อก็จัดการให้ทุกอย่าง เฮ้อออ
เรียนจบเราก็ทำงานอยู่กทม เงินเดือน หมื่นปลายๆ ค่าหอ อื่นๆ เราจ่ายเองทุกอย่างไม่ได้ขอพ่อ หรือเดือนไหนช็อตพ่อก็ให้มา
*จนวันหยุดกลับบ้านตจว แม่ก็เอาแต่ถามหาเงินเดือน จากเรา เราบอกไม่มี เหลือก็เก็บนิดๆหน่อยๆ ให้แม่เดือนละครั้งสองครั้ง พันสองพัน
ที่เจ็บสุดคือ เรียนมาสูงหาเงินได้แค่นี้หรอ แม่จบแค่ป4 ยังเคยหาเงินได้เดือนหลายเเสน
เยี่ยม.. เหตุการณ์คล้ายๆนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ ซ้ำๆ วนเวียนเรื่องเงิน เรื่องบ้าน หลายอย่าง
แม่ว่าพ่อมาช่วยจ่าย เพราะคงอยากได้บ้านหลังนี่ละสิท่า เฮ้อ โคตร Toxic เลยๆเรื่อง
เรามาทำงานกทมหลายปี แทบไม่ได้คุยหรือติดต่อกับแม่เลย แม่ก็ไม่เคยโทรมา
มีแค่พ่อที่คอยโทรถาม มาหาที่กทม พามาย้ายหอ ย้ายที่ทำงาน กินข้าว หลายอย่าง จนพ่อมีแฟนใหม่ เราก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้
แฟนพ่อคอยช่วยเหลือพ่อทุกอย่างเหมือนกัน
และพาร์ทสุดท้าย ก่อนอายุ30 ย้ายมาช่วยธุรกิจพ่อที่บ้าน ทำธุรกิจจนทะเลาะกับพ่อบ่อยๆมากๆๆ เหนื่อยมาก โดนพ่อด่าอี
สะสม จนไม่อยากทำงานกับพ่ออีก ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ยิ่งจะซ้ำเติม ยิ่งสะใจ แม่บอกแล้ว ทำกับพ่อนุ้นนี่นั่นไม่ดี
ไม่ได้ให้กำลังใจเลยสักนิด
ยังคงทำกับพ่อไป จนแยกมาทำแบรนด์ของตัวเอง กับแฟนก็แฮปปี้ ในระดับนึง ทุกอย่างค่อยๆดีขึ้น
จนมีใบหมายศาลมาที่บ้าน 2 ใบ เชิญแม่ขึ้นศาล เรื่องรถลิสสิ่ง หลักแสน กับ หนี้จำนองที่ดิน หลักแสน บันเทิงไหมละ
เงินที่เรากับแฟนหามาได้ในแต่ละเดือน สุดท้าย มาแบ่งจ่ายหนี้ส่วนตรงนี้ ของแม่อีก ไหนจะหนั้บ้านที่อยู่นี่อีก
หนี้บัตรเครดิตแม่ เราก็เพิ่งไปปิดให้
เรากับแฟนช่วยซัพพอร์ตแม่ทุกอย่าง อยากหาอาชีพ ขายไก่ทอด ปลาหมึกย่าง ขายหลายอย่างหลายอาชีพ ไม่รอดสักอย่าง
ลงทุนให้หมด จนสุดท้ายก็ไม่รอด 100 อาชีพ
เราบอกให้แม่รับสมัครแม่บ้าน ก็ไม่เอาไม่ไป แม่ไม่ได้แก่ขนาดนั้น (แม่เกิด2515) เห็นแม่เพื่อนยังไปขายของ ทำงานกันอยุ่เลย
อยู่บ้านด้วยกันเห็นหน้ากัน ไม่มีอะไรจะคุยด้วยเลย คุยอะไรไปจะรู้สึก Toxic สุดๆ
มีหนี้มีสินให้เราต้องใช้ 5-6ล้าน แล้วยัง Toxic กับลูก ที่พยายามดิ้นรนทำงาน ทำธุรกิจ 2-3 อย่างในเวลาเดียวกัน
ไม่ได้ต้องการ Safe Zone แต่แค่ คิดว่าคนเป็นแม่คน จะ Toxic ตั้งแต่ลูกเรียนมหาลัย จนจบทำงาน ก็ยังไม่มีความดีๆ
หรือแม้แต่การให้กำลังใจลูก สักครั้งเลย จนทุกวันนี้ยังเป็นแบบนี้อยู่ เหนื่อยใจสุดๆ