คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ผมเข้าใจว่า Programmer ส่วนใหญ่มีรายได้ดี แต่รายได้เยอะ งานจะเครียดตามไหมครับ
- ดีจริงครับ เครียดในช่วงเวลางานครับ เลิกงานแล้วจะไม่เอาเรื่องงานมาคิดครับ
ต้องกลัวพวก ระบบโดน Hack โปรแกรมมีช่องโหว่ หรือระบบล่ม จนเกิดความเสียหาย ฯลฯ หรือไม่
- ต้องมีการป้องกันอยู่แล้วครับ แต่ต้องกลัวไหม ความกลัวไม่ได้ทำให้ระบบดีขึ้นครับ ไม่กลัวครับ รอบคอบตอนทำงานครับ และระบบยุคปัจจุบันมีการ back up data กันตลอดอยู่แล้วครับ และเก็บไว้หลายที่ด้วย
จำเป็นต้องภาวนาไหมว่าอย่าให้ Hacker เก่งๆมาเจอ หรือเล่นระบบเรา
- ยังไม่เคยเจอนะ ส่วนคำตอบข้อนี้เหมือนข้อที่แล้ว ภาวนาไปก็ไม่ได้ทำให้ระบบปลอดภัยขึ้น
พวกเคสที่เกี่ยวกับเงิน เช่น โค้ดส่วนลดผิดพลาด โอนเงินผิด ตัดเงินซ้ำ หรือที่เกี่ยวกับตัวเงินหลักล้าน หากพลาดขึ้นมา สงสัยว่าตามหลักแล้ว คนเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน
- ในบริษัทใหญ่ และเป็นมืออาชีพระดับนึงจะมีการเทสหลายขั้นตอนมาก ไม่ใช่แค่โปรแกรมเมอร์ เช็คผ่าน senior ผ่าน unit test, intregation test, automated test แม้แต่ manual test หรือทดสอบใช้งานโดยคนจากหลายๆส่วนรวมถึงกลุ่ม alpha, beta testers ซึ่งตอนปล่อยพวกนี้จะมีการสำรองข้อมูลเป็นช่วงๆ เพราะงั้นถ้าผิดพลาดขึ้นมาก็ต้องไล่กันเป็นขั้นๆไปว่าใครเซ็นอนุมัติปล่อยผ่านขึ้นมา
และส่วนที่เป็นเงิน ถ้าสุดท้ายตรวจสอบแล้วเป็นระบบผิดพลาดก็แค่แก้ตัวเลขครับ เพราะสุดท้ายก็เป็นโปรแกรมเมอร์ที่จัดการข้อมูลข้างหลัง
ตัวอย่างเช่น กดเงินที่ตู้ เงินหน้าตู้ไม่ออก แต่เงินในบัญชีหายไป หากตรวจสอบแล้วผลคือเงินไม่ออกจริงๆ ก็แก้โดยการคืนเงินเขาไป(ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะผ่าน ขั้นตอนยิบย่อย แต่แก้ได้ก็คือแก้ได้ และเคสแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นบ่อย)
หรือหากไม่ใช่พนักงานบริษัท แต่เป็นการรับ Freelance เอง นี่ก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆเลยหรือเปล่า
- ตอบไม่ได้ไม่เคยเป็น freelance
และส่วนใหญ่มีลูกกันไหมครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคนเรารายได้ดี น่าจะอยากมีลูกกัน
- ยังไม่มีลูกครับ แต่ผมว่ารายได้กับความอยากมีลูกมันไม่น่าจะโยงกันได้ สองอย่างนี้ไม่เกี่ยวข้องกันสำหรับผม
แต่ผมยังสงสัยตามเรื่องข้างบนนี้ จะมีส่วนทำให้ไม่กล้ามีลูกไหมครับ
- ไม่ครับ ความอยากมีลูกของผม ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับงาน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครอบครัว และความอยากตามช่วงเวลาของชีวิต
นอกจากนี้ยังต้องอัพเดตความรู้ด้าน Programming ไปตลอดชีวิตด้วยใช่ไหมครับ
- ตลอดชีวิตครับ เป็นสาเหตุที่โปรแกรมเมอร์รายได้ดีเพราะตัวงานก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
จะทำให้มีเวลาดูลูกน้อยลงไหม
- ไม่ครับ สำหรับผม เวลาในชีวิตมากกว่างานออฟฟิศทั่วไปด้วยซ้ำ งานผม ทำ จ-ศ เข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 1 วัน ที่เหลือ WFH ทำให้ไม่เสียเวลาเดินทาง เริ่มงาน 9 โมง ตื่น 8.45 ยังได้เลย ลาพักร้อนปีละ 20 วัน หยุดนักขัตฤกษ์ตามปกติ เลิกงานเท่ากับเลิก ไม่เก็บงานมาทำนอกเวลางาน
- ดีจริงครับ เครียดในช่วงเวลางานครับ เลิกงานแล้วจะไม่เอาเรื่องงานมาคิดครับ
ต้องกลัวพวก ระบบโดน Hack โปรแกรมมีช่องโหว่ หรือระบบล่ม จนเกิดความเสียหาย ฯลฯ หรือไม่
- ต้องมีการป้องกันอยู่แล้วครับ แต่ต้องกลัวไหม ความกลัวไม่ได้ทำให้ระบบดีขึ้นครับ ไม่กลัวครับ รอบคอบตอนทำงานครับ และระบบยุคปัจจุบันมีการ back up data กันตลอดอยู่แล้วครับ และเก็บไว้หลายที่ด้วย
จำเป็นต้องภาวนาไหมว่าอย่าให้ Hacker เก่งๆมาเจอ หรือเล่นระบบเรา
- ยังไม่เคยเจอนะ ส่วนคำตอบข้อนี้เหมือนข้อที่แล้ว ภาวนาไปก็ไม่ได้ทำให้ระบบปลอดภัยขึ้น
พวกเคสที่เกี่ยวกับเงิน เช่น โค้ดส่วนลดผิดพลาด โอนเงินผิด ตัดเงินซ้ำ หรือที่เกี่ยวกับตัวเงินหลักล้าน หากพลาดขึ้นมา สงสัยว่าตามหลักแล้ว คนเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน
- ในบริษัทใหญ่ และเป็นมืออาชีพระดับนึงจะมีการเทสหลายขั้นตอนมาก ไม่ใช่แค่โปรแกรมเมอร์ เช็คผ่าน senior ผ่าน unit test, intregation test, automated test แม้แต่ manual test หรือทดสอบใช้งานโดยคนจากหลายๆส่วนรวมถึงกลุ่ม alpha, beta testers ซึ่งตอนปล่อยพวกนี้จะมีการสำรองข้อมูลเป็นช่วงๆ เพราะงั้นถ้าผิดพลาดขึ้นมาก็ต้องไล่กันเป็นขั้นๆไปว่าใครเซ็นอนุมัติปล่อยผ่านขึ้นมา
และส่วนที่เป็นเงิน ถ้าสุดท้ายตรวจสอบแล้วเป็นระบบผิดพลาดก็แค่แก้ตัวเลขครับ เพราะสุดท้ายก็เป็นโปรแกรมเมอร์ที่จัดการข้อมูลข้างหลัง
ตัวอย่างเช่น กดเงินที่ตู้ เงินหน้าตู้ไม่ออก แต่เงินในบัญชีหายไป หากตรวจสอบแล้วผลคือเงินไม่ออกจริงๆ ก็แก้โดยการคืนเงินเขาไป(ถึงแม้ขั้นตอนนี้จะผ่าน ขั้นตอนยิบย่อย แต่แก้ได้ก็คือแก้ได้ และเคสแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นบ่อย)
หรือหากไม่ใช่พนักงานบริษัท แต่เป็นการรับ Freelance เอง นี่ก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆเลยหรือเปล่า
- ตอบไม่ได้ไม่เคยเป็น freelance
และส่วนใหญ่มีลูกกันไหมครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคนเรารายได้ดี น่าจะอยากมีลูกกัน
- ยังไม่มีลูกครับ แต่ผมว่ารายได้กับความอยากมีลูกมันไม่น่าจะโยงกันได้ สองอย่างนี้ไม่เกี่ยวข้องกันสำหรับผม
แต่ผมยังสงสัยตามเรื่องข้างบนนี้ จะมีส่วนทำให้ไม่กล้ามีลูกไหมครับ
- ไม่ครับ ความอยากมีลูกของผม ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับงาน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครอบครัว และความอยากตามช่วงเวลาของชีวิต
นอกจากนี้ยังต้องอัพเดตความรู้ด้าน Programming ไปตลอดชีวิตด้วยใช่ไหมครับ
- ตลอดชีวิตครับ เป็นสาเหตุที่โปรแกรมเมอร์รายได้ดีเพราะตัวงานก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
จะทำให้มีเวลาดูลูกน้อยลงไหม
- ไม่ครับ สำหรับผม เวลาในชีวิตมากกว่างานออฟฟิศทั่วไปด้วยซ้ำ งานผม ทำ จ-ศ เข้าออฟฟิศสัปดาห์ละ 1 วัน ที่เหลือ WFH ทำให้ไม่เสียเวลาเดินทาง เริ่มงาน 9 โมง ตื่น 8.45 ยังได้เลย ลาพักร้อนปีละ 20 วัน หยุดนักขัตฤกษ์ตามปกติ เลิกงานเท่ากับเลิก ไม่เก็บงานมาทำนอกเวลางาน
แสดงความคิดเห็น
Programmer ส่วนใหญ่มีลูกกันไหมครับ แล้วงานเครียดไหม
ต้องกลัวพวก ระบบโดน Hack โปรแกรมมีช่องโหว่ หรือระบบล่ม จนเกิดความเสียหาย ฯลฯ หรือไม่
จำเป็นต้องภาวนาไหมว่าอย่าให้ Hacker เก่งๆมาเจอ หรือเล่นระบบเรา
หรือหากเราระมัดระวังพอ มีความรู้จริง ทดสอบระบบหนักๆ ก็ไม่ต้องห่วงว่าระบบจะมีปัญหา (แต่ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้นนั้นล่ะ?)
พวกเคสที่เกี่ยวกับเงิน เช่น โค้ดส่วนลดผิดพลาด โอนเงินผิด ตัดเงินซ้ำ หรือที่เกี่ยวกับตัวเงินหลักล้าน หากพลาดขึ้นมา สงสัยว่าตามหลักแล้ว คนเป็นโปรแกรมเมอร์ต้องรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน (ที่มากกว่าโดนไล่ออก เช่น ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หรือดำเนินคดี)
หรือหากไม่ใช่พนักงานบริษัท แต่เป็นการรับ Freelance เอง นี่ก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆเลยหรือเปล่า
(อันนี้สงสัยว่า ระหว่างโจร กับเรา แบ่งความรับผิดชอบกันยังไงครับ)
และส่วนใหญ่มีลูกกันไหมครับ ส่วนตัวผมคิดว่าถ้าคนเรารายได้ดี น่าจะอยากมีลูกกัน
แต่ผมยังสงสัยตามเรื่องข้างบนนี้ จะมีส่วนทำให้ไม่กล้ามีลูกไหมครับ
นอกจากนี้ยังต้องอัพเดตความรู้ด้าน Programming ไปตลอดชีวิตด้วยใช่ไหมครับ จะทำให้มีเวลาดูลูกน้อยลงไหม
ขอบคุณครับ