JJNY : ปริญญาเสียดายสภา│กัณวีร์ภูมิใจ ดันเรื่อง‘ปาตานี’เข้าสภา│จาตุรนต์ตอบกลับ‘อาจารย์ มช.’│‘เป็นคนเก่ง แต่ทำผิดหลายหน’

ปริญญา เสียดาย สภามัวแต่รุมติงเครื่องแต่งกาย แทนที่จะใช้เวลาถกเรื่องเป็นประโยชน์กับ ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4146144
 
 
ปริญญา ชี้สภาควรใช้เวลากับเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อ ปชช. ไม่ใช่หยุมหยิมรุมติง ‘เครื่องแต่งกาย’ เผยแต่งกายสุภาพทำได้หลายแบบ
 
จากกรณีระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมกำลังพิจารณารับทราบรายงานผู้สอบบัญชี และรายงานการเงินกองทุนพัฒนาน้ำบาดาล สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 นั้น นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) รวมถึง นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นตำหนิเครื่องแต่งกายของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ซึ่งใส่เสื้อคอจีนและใส่เสื้อสูททับแต่ไม่ได้ผูกเนกไทเป็นการแต่งกายไม่สุภาพ อีกทั้งไม่ใช่สากลนิยม
 
ขณะที่ นายปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า การใส่เสื้อคอจีนแล้วใส่สูททับโดยไม่ใส่เนกไทเป็นชุดสุภาพตามระเบียบสภา ตนเคารพทุกคน ถ้าไม่สบายใจก็จะแต่งตัวให้ดีขึ้น ยืนยันว่าแต่งกายถูกต้องตามระเบียบ วันนี้ถ้าจะยึดแบบสากลนิยมจริงๆ การแต่งกายของหลายคนคงไม่ผ่าน ขอให้เดินหน้าประชุมก่อนเรื่องระเบียบต่างๆ จะนำกลับไปพิจารณาปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงดึกวันที่ 24 สิงหาคม นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงทรรศนะผ่านเฟซบุ๊ก Prinya Thaewanarumitkul ความดังนี้
 
#การแต่งกายสุภาพ นั้น สามารถแต่งได้หลายแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็น “ชุดสากลนิยม” เสมอไปครับ ในสภาผู้แทนราษฎรก็มีสมาชิกหลายคนที่แต่งกายด้วยชุดแบบอื่น เช่น เสื้อม่อฮ่อม ชุดราชการ ชุดพระราชทาน ซึ่งไม่ใช่ชุดสากล แต่ก็ถือว่าเป็นชุดสุภาพทั้งสิ้น
 
หากว่าใส่เสื้อเชิ้ตมีปกแล้วไม่ผูกไท ก็อาจจะถือได้ว่าไม่สุภาพเพียงพอในสภา แต่ถ้าเป็นเสื้อที่ไม่ใช่เสื้อสำหรับผูกไทแต่ปิดกระดุมถึงคอ เช่น เสื้อคอจีน แล้วใส่สูททับ ความจริงก็ถือกันว่าสุภาพเรียบร้อยเพียงพอ และก็เป็นสากลนิยมแล้วด้วยซ้ำ อาจารย์มหาวิทยาลัยก็แต่งตัวแบบนี้ออกงานที่เป็นงานทางการกันบ่อยๆ

ด้วยความเคารพ ผมเห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรควรใช้เวลากับเรื่องที่ #เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ควรต้องหมดเวลาการประชุมของสภาผู้แทนราษฎรไปกับเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ครับ

https://www.facebook.com/prinya.thaewanarumitkul/posts/pfbid02aMD74s6F9QA92nyJS6fzDiVNfE92CVLB1KtCawKRho5bPYnE8dcGAkqu9sekyYR5l
 

 
กัณวีร์ ภูมิใจ ดันเรื่อง ‘ปาตานี’ เข้าสภา เสนอ ‘นายกฯใหม่’ ทบทวนแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4146070
 
กัณวีร์ ยืดอกภูมิใจ ดันเรื่อง ‘ปาตานี’ เข้าสภาสำเร็จ เสนอ ‘นายกฯใหม่’ ในฐานะ ปธ.สภาความมั่นคง ทบทวนแนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน-จริงจัง
 
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นธรรม กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาวันนี้ว่า

วันนี้ผมรู้สึกภูมิใจได้ทำตามคำสัตย์ช่วงหาเสียงไว้ในพื้นที่ปาตานี (3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ที่ผมได้บอกพี่น้องประชาชนว่าผมจะผลักดันเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ปาตานีให้เป็นวาระแห่งชาติให้ได้ เรื่องการแก้ไขที่ไม่ถูกจุด เพราะตั้งสมมุติฐานปัญหาที่ผิดพลาด จึงทำให้แนวทางและการปฏิบัติไม่ตอบโจทย์ต่อการจัดการที่รากเหง้าแห่งปัญหา
 
แค่หารือ 3 นาที แต่เป็นการเปิดประเด็นและเปิดหัวให้สภาได้ยินว่าปัญหามันเร่งด่วนเพียงใด ต้องแบ่งการแก้ไขให้เป็นสามระยะ คือ เร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาวแบบยั่งยืน
 
ผมขอเสนอในระยะเร่งด่วน ที่ นายกฯท่านใหม่ ในฐานะ ประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ต้องเร่งพิจารณาทบทวนแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนและจริงจัง
 
อย่างน้อยวันนี้ผมทำได้สองอย่างที่ดีใจคือ หนึ่ง คำว่า “ปาตานี” ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการในสภา และ สอง ได้ทำตามคำสัตย์ที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนว่าจะผลักดันการแก้ไขปัญหานี้ในกรอบรัฐสภา
 
คงต้องตามต่อไปครับว่าเรื่องการทบทวนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จะเป็ยอย่างไรจากรัฐบาลชุดใหม่ แต่เราจะติดตาม ตรวจสอบ และถ่วงดุลอย่างเป็นระบบครับ

#สันติภาพกินได้
#สันติภาพปาตานี

https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/314262361123273
 


จาตุรนต์ ตอบกลับ ‘อาจารย์ มช.’ ยืนยันไม่มีเรื่องไหน ‘สับปลับ’ โหวตเห็นชอบตามมติพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_4145996
 
จาตุรนต์ ตอบกลับ ‘อาจารย์ มช.’ ยืนยันไม่มีเรื่องไหน ‘สับปลับ’ โหวตเห็นชอบ ‘เศรษฐา’ ตามมติพรรค แม้วิจารณ์กันแรงบ้างก็ไม่เสียใจ ยินดีรับฟังคำแนะนำอีก
 
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เขียนข้อความตอบกลับ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ที่ออกมากล่าวถึงตน กรณีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาได้ “เห็นชอบ” ให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ โดยพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันมี พรรคพลังประชารัฐ กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมอยู่ด้วย

นายจาตุรนต์ระบุทางเฟซบุ๊ก รวมถึงทวิตเตอร์ส่วนตัว ดังนี้
 
สวัสดีครับ อาจารย์สมชาย ศูนย์วิจัยฯ มหาวิทยาลัยหน้าบางแห่งหนึ่ง
 
ผมจำอาจารย์ได้ดีครับ ผมติดตามบทบาทของอาจารย์ในเรื่องประชาธิปไตยและความยุติธรรมด้วยความชื่นชมมาตลอดครับ
ขอบคุณที่อาจารย์แสดงความชื่นชมบทบาททางการเมืองของผมในอดีต ส่วนที่หวังว่าผมจะมีบทบาทอย่างสำคัญในการผลักดันพรรคการเมืองที่ผมสังกัดนั้น นานมาแล้วที่ผมอาจจะเคยมีบทบาทมากๆ แต่ช่วงนี้ผมไม่ได้มีบทบาทอย่างสำคัญอะไรเลยครับ

ผมยินดีรับฟังคำวิจารณ์ของอาจารย์เสมอครับ แต่ที่อาจารย์ใช้คำว่า “สับปลับ” ผมว่าไม่ตรงกับความเป็นจริงแน่ๆ ครับ
ในการปราศรัยหาเสียงที่ผ่านมา ผมพูดเรื่องการต่อต้านคัดค้านการสืบทอดอำนาจและทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย และได้เน้นย้ำคำประกาศของแกนนำพรรคว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับสองพรรค ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ
 
หลังการเลือกตั้ง ผมแสดงความเห็นสนับสนุนการตั้งรัฐบาลโดย 8 พรรค เมื่อไม่สำเร็จ ผมก็แสดงความเห็นทั้งในที่ประชุมแกนนำของพรรคและพูดผ่านสื่อมวลชนว่าไม่เห็นด้วยกับการข้ามขั้วและทักท้วงการจับมือกับสองพรรค ด้วยความหวังว่าการจับมือกันดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น
ผลปรากฏว่า ผมเป็นเสียงข้างน้อย พรรคมีมติและดำเนินการไปดังที่เกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังยืนยันความเห็นต่อการจัดตั้งรัฐบาลตามที่ผมพูดไว้ทุกอย่าง ไม่เปลี่ยนแปลง
 
มาถึงการโหวตนายกฯ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง ขอเรียนว่า การโหวตนี้เป็นการโหวตเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบให้ คุณเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ตลอดการหาเสียงผมก็ร่วมหาเสียงเพื่อสนับสนุนคุณเศรษฐาเป็นนายกฯ ผมยังสนับสนุนเหมือนเดิมและก็เป็นมติพรรค ผมจึงโหวตเห็นชอบ
ส่วนที่อาจารย์เห็นว่าการโหวต “เห็นชอบ” เป็นการสนับสนุนรัฐบาลที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น ก็มีส่วนจริง แต่ถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับองค์ประกอบของรัฐบาลผสมที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น ผมก็ต้องปฏิบัติตามมติพรรคอยู่ดี
 
การปฏิบัติตามมติพรรคเป็นหลักการสำคัญอย่างหนึ่งในระบบรัฐสภา หากจะไม่ปฏิบัติตามมติพรรคในเรื่องใหญ่มากๆ ก็ต้องพร้อมที่จะลาออกจากพรรคการเมืองนั้นไป แต่ผมไม่คิดจะลาออก
 
ในช่วง 20 กว่าปีมานี้ ผมผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองมาทั้งในฐานะที่เป็นเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อยในพรรค แต่ก็ได้ร่วมกับพี่น้องในพรรคฟันฝ่าวิกฤตมาด้วยกันหลายครั้งหลายหน เมื่อพรรคเพื่อไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายและยากลำบาก ผมก็ยังมีความตั้งใจที่จะมีส่วนช่วยในการฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้
 
ผมไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไรทั้งในรัฐบาลและในพรรค ในฐานะ ส.ส.ของพรรคก็ตั้งใจว่าจะทำหน้าที่นิติบัญญัติ ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และจะร่วมกับ ส.ส.ของพรรคผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ ที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ตามนโยบายของพรรคที่ได้เคยประกาศไว้
อาจารย์ครับ
 
ผมเล่าให้อาจารย์ฟังไปมากกว่าประเด็นที่อาจารย์พูดถึงผม ก็เพราะเห็นว่าอาจารย์เป็นผู้ที่ผมเคารพนับถือ โดยสรุปก็เพื่อจะบอกว่า ที่ผมพูดไปตั้งแต่ตอนหาเสียงมาจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคัดค้านการสืบทอดอำนาจ การตั้งรัฐบาลแบบข้ามขั้ว การไม่เป็นรัฐมนตรี การไม่ลาออกจากพรรค และสิ่งที่ตั้งใจจะทำต่อไป ไม่มีเรื่องไหนที่ผมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาครับ
ขอบคุณที่อาจารย์วิจารณ์ผม แม้แรงไปบ้างก็ไม่เสียใจ ผมยังนับถืออาจารย์เหมือนเดิมจึงชี้แจงมา มีอะไรจะแนะนำผมอีกก็ยินดีรับฟังเสมอครับ
จาตุรนต์ คนเดิมครับ
24 สิงหาคม 2566

https://www.facebook.com/Chaturon.FanPage/posts/840294017461286
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่