พันทิป
สวัสดีค่ะ พอดีต้องการถามเป็นความรู้และความสบายใจค่ะ คือตัวหนูได้ไปเช่าคอนโดแห่งหนึ่ง พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมตัวหนูจึงกลับบ้านค่ะ หลังจากนั้นสักพักใหญ่ๆหนูคิดว่าใกล้จะเปิดเทอมแล้วหนูอยากกลับห้องไปเคลียร์ของภายในห้องและประจวบกับเดินทางไปหาหอพักใหม่ด้วยเพราะคอนโดดังกล่าวใกล้จะหมดสัญญาในเดือนถัดไป แต่พอถึงห้องปรากฎว่ามีการเปลี่ยนลูกบิดและทรัพย์สินในห้องได้หายไป ทรัพย์สินที่หายไปมีดังนี้(คร่าวๆ) เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องครัว ของใช้ในห้องน้ำ เอกสารสำคัญเช่น พาสปอร์ต สำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนบ้านตัวจริง ของใช้จิปาถะ เป็นต้น. สภาพภายในห้องเหมือนห้องใหม่ โดยขั้นแรกหนูทำการติดต่อเจ้าของห้อง(ขอแทนเจ้าของห้องว่านายซี)เพื่ออยากสอบถามกับปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ติดต่อไม่ได้จึงแจ้งนิติ นิติให้ไปแจ้งความและมาขอดูกล้อง ทางหนูเลยไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ หลังจากนั้นในวันเดียวกันนายซีได้ทำการติดต่อกลับมาและบอกว่าทางทีมของนายซีส่งเงินผิดพลาด เงินไม่เข้าระบบ ซึ่งตอนแรกหนูไม่เข้าใจว่าไม่เข้าระบบอะไรเพราะเราไม่รู้มาก่อนสิ่งที่หนูต้องการคือต้องการรู้ว่าทรัพย์สินหนูหายไปไหนเพียงแค่นั้น หลังจากนั้นนายซีแจ้งมาว่าทางบริษัทอสังหาฯ.ได้ส่งคนมาเก็บทรัพย์สินของหนูออกไป หลังจากนั้นได้ให้บุคคล บุคคลหนึ่ง(ขอแทนว่านางเอ)ติดต่อกลับมาหาหนูพร้อมแจ้งว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ที่ออฟฟิศของนางเอ หนูจึงสอบถามว่าทรัพย์สินหนูมีอะไรบ้างเพราะทราบมาจากนายซีว่าทางฝั่งนางเอได้ทิ้งทรัพย์สินไปบางส่วน ทางนางเอพยายามอ้างว่าติดต่อนายซีไม่ได้จึงได้กระทำการแบบนี้ลงไป หนูได้มีการคุยกันกับนางเอคร่าวๆและนางเอบอกว่าในวันพรุ่งนี้จะเอาทรัพย์สินที่ได้นำไปทุกอย่างมาคืนให้เวลาประมาณ4โมงเย็น หลังจากนั้นในวันเดียวกันช่วงค่ำ มีบุคคลอีกบุคคลหนึ่งติดต่อมา(ขอแทนว่านางบี) นางบีได้ติดต่อพูดคุยในเชิงว่าอยากให้หนูย้ายออกเพราะในวันมรืนผู้เช่าใหม่จะเข้าอยู่และห้องได้ทำการปล่อยเช่าต่อแล้ว ทางฝั่งนางบีระบุว่าจะชดใช้ให้เป็นเงินจำนวนหนึ่ง แต่หนูยังไม่ตกลงและอยากรู้ว่าทรัพย์สินของหนูยังอยู่ครบทุกชิ้นไหมหรือมีอะไรเสียหายหรือเปล่า ทางฝั่งนางบีได้ถามคำถามมาว่าหนูต้องการอยู่ห้องพักต่อจนหมดสัญญาไหม ถ้าต้องการนางบีมีห้องพักให้อีกห้องในโครงการเดียวกันแต่ตัวหนูรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงปฏิเสธไป หนูจึงไม่คุยเรื่องจำนวนเงินและได้ให้เบอร์ติดต่อพี่ชายไป พร้อมสอบถามนางบีเกี่ยวกับทรัพย์สินของหนูว่ายังอยู่ครบไหม นางบีพยายามไม่พูดถึงทรัพย์สินว่าได้มีการทิ้งหรือเก็บอะไรบ้าง ในวันนั้นช่วงดึกนางบีติดต่อกลับหาหนูพร้อมบอกว่าได้มีการติดต่อกับพี่ชายของหนูแล้วเกี่ยวกับเรื่องจำนวนเงิน แต่ทางเราก็ไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดเพราะต้องการเห็นทรัพย์สินของเราก่อนว่าเหลือเท่าใดบ้าง และมีอะไรเสียหายบ้าง ในวันถัดมาวันที่นางเอและนางบีนัดคืนทรัพย์สินที่ได้เอาไป พบว่าทรัพย์สินที่กล่าวข้างต้นได้ถูกทิ้งไปทั้งหมด โดยเหลือมาแค่เศษกระดาษ อย่างเช่นบิลไฟเพราะโดยส่วนตัวเวลาชำระค่าไฟจะชอบเก็บบิลไฟที่ชำระแล้วไว้เสมอเผื่อมีปัญหาภายหลัง หนูจึงไม่พอใจและไม่ตกลงกับจำนวนเงินที่นางบีเสนอมาเพราะคิดว่าไม่สมเหตุสมผลกับทรัพย์สินที่ทางฝั่งนางเอและนางบีได้เอาไปทิ้ง หนูจึงดำเนินการตามกฎหมาย ผ่านไป1เดือนกว่าๆ หลังจากเข้าพบตำรวจ ตำรวจท่านนี้ได้ทำการติดต่อไปหานางเอ นางเอรับทราบเรื่อง และหลังจากนั้นในวันที่ให้การกับตำรวจวันเดียวกัน นางเอติดต่อกลับแต่ปลายสายระบุว่าตนคือหัวหน้างานของนางเอ(ขอแทนว่านางอี) นางอีอ้างว่านายซีได้ซื้อคอนโดนชุดนี้กับบริษัทของตนโดยผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง (ในเรื่องสัญญาตรงนี้หนูไม่แน่ใจเพราะไม่เก่งเรื่องนี้ค่ะขออธิบายคร่าวๆ) บริษัทของตนติดต่อนายซีไม่ได้และนายซีได้ค้างชำระค่าคอนโดเป็นเงินจำนวนหนึ่งและไม่เป็นไปตามสัญญาที่ระบุไว้ ทางฝั่งของนางอีเลยกระทำการโดยปล่อยเช่าห้องต่อเพื่อจะได้นำเงินค่าเช่าไปชำระกับธนาคารต่อไป แต่ทั้งนี้สิ่งที่อยากจะถามทุกคนคือ หนูได้ดำเนินคดีกับนางเอและนางบีเพราะเป็นบุคคลในกล้องวงจรปิดที่นำทรัพย์สินของหนูไปและนำไปทิ้งเพราะในวันที่เกิดเหตุพบว่าทรัพย์สินได้หายไปหนูไม่ได้ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังระหว่างนายซีกับบริษัทอสังหาฯ.มาก่อนว่าเป็นมายังไง หนูดำเนินคดีไปตามที่เห็นว่าผู้ใดกระทำการบุกรุกหรือลักทรัพย์ นางอีพูดประมาณว่าไม่อยากเสียเวลากับเรื่องแค่นี้ส่วนตัวหนูฟังนางอีพูดกับคุณตำรวจ รู้สึกเสียใจเพราะทรัพย์สินที่หายไปมีคุณค่าทางจิตใจและต้องใช้เงินซื้อทุกบาททุกสตางค์ ตำรวจท่านนี้บันทึกสำนวน โดยหลังจากคุยกับนางอีเสร็จสรรพ ท่านได้พูดกับหนูว่าระวังเข้าตัวซึ่งหนูไม่เข้าใจว่าจะเข้าตัวยังไงในเมื่อหนูคือผู้เสียหายและไม่เคยทราบมาก่อนว่าระหว่างบริษัทอสังหาฯ.กับนายซีมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ท่านพูดประมาณว่าหนูฟ้องผิดคน ทั้งๆที่หนูฟ้องไปตามหลักฐานที่เห็นในวันเกิดเหตุ
จากที่เล่ามาทั้งหมดอยากทราบว่าหนูฟ้องผิดคนหรอคะ ช่วยอธิบายเป็นความรู้ค่ะ และอยากทราบว่าในกรณีนี้หนูมีโอกาสชนะคดีไหมคะ ขอบคุณค่ะ
ช่วยบอกเป็นความรู้และแนวทางทีค่ะ
สวัสดีค่ะ พอดีต้องการถามเป็นความรู้และความสบายใจค่ะ คือตัวหนูได้ไปเช่าคอนโดแห่งหนึ่ง พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอมตัวหนูจึงกลับบ้านค่ะ หลังจากนั้นสักพักใหญ่ๆหนูคิดว่าใกล้จะเปิดเทอมแล้วหนูอยากกลับห้องไปเคลียร์ของภายในห้องและประจวบกับเดินทางไปหาหอพักใหม่ด้วยเพราะคอนโดดังกล่าวใกล้จะหมดสัญญาในเดือนถัดไป แต่พอถึงห้องปรากฎว่ามีการเปลี่ยนลูกบิดและทรัพย์สินในห้องได้หายไป ทรัพย์สินที่หายไปมีดังนี้(คร่าวๆ) เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องครัว ของใช้ในห้องน้ำ เอกสารสำคัญเช่น พาสปอร์ต สำเนาทะเบียนบ้าน ทะเบียนบ้านตัวจริง ของใช้จิปาถะ เป็นต้น. สภาพภายในห้องเหมือนห้องใหม่ โดยขั้นแรกหนูทำการติดต่อเจ้าของห้อง(ขอแทนเจ้าของห้องว่านายซี)เพื่ออยากสอบถามกับปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ติดต่อไม่ได้จึงแจ้งนิติ นิติให้ไปแจ้งความและมาขอดูกล้อง ทางหนูเลยไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ หลังจากนั้นในวันเดียวกันนายซีได้ทำการติดต่อกลับมาและบอกว่าทางทีมของนายซีส่งเงินผิดพลาด เงินไม่เข้าระบบ ซึ่งตอนแรกหนูไม่เข้าใจว่าไม่เข้าระบบอะไรเพราะเราไม่รู้มาก่อนสิ่งที่หนูต้องการคือต้องการรู้ว่าทรัพย์สินหนูหายไปไหนเพียงแค่นั้น หลังจากนั้นนายซีแจ้งมาว่าทางบริษัทอสังหาฯ.ได้ส่งคนมาเก็บทรัพย์สินของหนูออกไป หลังจากนั้นได้ให้บุคคล บุคคลหนึ่ง(ขอแทนว่านางเอ)ติดต่อกลับมาหาหนูพร้อมแจ้งว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ที่ออฟฟิศของนางเอ หนูจึงสอบถามว่าทรัพย์สินหนูมีอะไรบ้างเพราะทราบมาจากนายซีว่าทางฝั่งนางเอได้ทิ้งทรัพย์สินไปบางส่วน ทางนางเอพยายามอ้างว่าติดต่อนายซีไม่ได้จึงได้กระทำการแบบนี้ลงไป หนูได้มีการคุยกันกับนางเอคร่าวๆและนางเอบอกว่าในวันพรุ่งนี้จะเอาทรัพย์สินที่ได้นำไปทุกอย่างมาคืนให้เวลาประมาณ4โมงเย็น หลังจากนั้นในวันเดียวกันช่วงค่ำ มีบุคคลอีกบุคคลหนึ่งติดต่อมา(ขอแทนว่านางบี) นางบีได้ติดต่อพูดคุยในเชิงว่าอยากให้หนูย้ายออกเพราะในวันมรืนผู้เช่าใหม่จะเข้าอยู่และห้องได้ทำการปล่อยเช่าต่อแล้ว ทางฝั่งนางบีระบุว่าจะชดใช้ให้เป็นเงินจำนวนหนึ่ง แต่หนูยังไม่ตกลงและอยากรู้ว่าทรัพย์สินของหนูยังอยู่ครบทุกชิ้นไหมหรือมีอะไรเสียหายหรือเปล่า ทางฝั่งนางบีได้ถามคำถามมาว่าหนูต้องการอยู่ห้องพักต่อจนหมดสัญญาไหม ถ้าต้องการนางบีมีห้องพักให้อีกห้องในโครงการเดียวกันแต่ตัวหนูรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงปฏิเสธไป หนูจึงไม่คุยเรื่องจำนวนเงินและได้ให้เบอร์ติดต่อพี่ชายไป พร้อมสอบถามนางบีเกี่ยวกับทรัพย์สินของหนูว่ายังอยู่ครบไหม นางบีพยายามไม่พูดถึงทรัพย์สินว่าได้มีการทิ้งหรือเก็บอะไรบ้าง ในวันนั้นช่วงดึกนางบีติดต่อกลับหาหนูพร้อมบอกว่าได้มีการติดต่อกับพี่ชายของหนูแล้วเกี่ยวกับเรื่องจำนวนเงิน แต่ทางเราก็ไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดเพราะต้องการเห็นทรัพย์สินของเราก่อนว่าเหลือเท่าใดบ้าง และมีอะไรเสียหายบ้าง ในวันถัดมาวันที่นางเอและนางบีนัดคืนทรัพย์สินที่ได้เอาไป พบว่าทรัพย์สินที่กล่าวข้างต้นได้ถูกทิ้งไปทั้งหมด โดยเหลือมาแค่เศษกระดาษ อย่างเช่นบิลไฟเพราะโดยส่วนตัวเวลาชำระค่าไฟจะชอบเก็บบิลไฟที่ชำระแล้วไว้เสมอเผื่อมีปัญหาภายหลัง หนูจึงไม่พอใจและไม่ตกลงกับจำนวนเงินที่นางบีเสนอมาเพราะคิดว่าไม่สมเหตุสมผลกับทรัพย์สินที่ทางฝั่งนางเอและนางบีได้เอาไปทิ้ง หนูจึงดำเนินการตามกฎหมาย ผ่านไป1เดือนกว่าๆ หลังจากเข้าพบตำรวจ ตำรวจท่านนี้ได้ทำการติดต่อไปหานางเอ นางเอรับทราบเรื่อง และหลังจากนั้นในวันที่ให้การกับตำรวจวันเดียวกัน นางเอติดต่อกลับแต่ปลายสายระบุว่าตนคือหัวหน้างานของนางเอ(ขอแทนว่านางอี) นางอีอ้างว่านายซีได้ซื้อคอนโดนชุดนี้กับบริษัทของตนโดยผ่านธนาคารแห่งหนึ่ง (ในเรื่องสัญญาตรงนี้หนูไม่แน่ใจเพราะไม่เก่งเรื่องนี้ค่ะขออธิบายคร่าวๆ) บริษัทของตนติดต่อนายซีไม่ได้และนายซีได้ค้างชำระค่าคอนโดเป็นเงินจำนวนหนึ่งและไม่เป็นไปตามสัญญาที่ระบุไว้ ทางฝั่งของนางอีเลยกระทำการโดยปล่อยเช่าห้องต่อเพื่อจะได้นำเงินค่าเช่าไปชำระกับธนาคารต่อไป แต่ทั้งนี้สิ่งที่อยากจะถามทุกคนคือ หนูได้ดำเนินคดีกับนางเอและนางบีเพราะเป็นบุคคลในกล้องวงจรปิดที่นำทรัพย์สินของหนูไปและนำไปทิ้งเพราะในวันที่เกิดเหตุพบว่าทรัพย์สินได้หายไปหนูไม่ได้ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังระหว่างนายซีกับบริษัทอสังหาฯ.มาก่อนว่าเป็นมายังไง หนูดำเนินคดีไปตามที่เห็นว่าผู้ใดกระทำการบุกรุกหรือลักทรัพย์ นางอีพูดประมาณว่าไม่อยากเสียเวลากับเรื่องแค่นี้ส่วนตัวหนูฟังนางอีพูดกับคุณตำรวจ รู้สึกเสียใจเพราะทรัพย์สินที่หายไปมีคุณค่าทางจิตใจและต้องใช้เงินซื้อทุกบาททุกสตางค์ ตำรวจท่านนี้บันทึกสำนวน โดยหลังจากคุยกับนางอีเสร็จสรรพ ท่านได้พูดกับหนูว่าระวังเข้าตัวซึ่งหนูไม่เข้าใจว่าจะเข้าตัวยังไงในเมื่อหนูคือผู้เสียหายและไม่เคยทราบมาก่อนว่าระหว่างบริษัทอสังหาฯ.กับนายซีมีปัญหาอะไรกันมาก่อน ท่านพูดประมาณว่าหนูฟ้องผิดคน ทั้งๆที่หนูฟ้องไปตามหลักฐานที่เห็นในวันเกิดเหตุ
จากที่เล่ามาทั้งหมดอยากทราบว่าหนูฟ้องผิดคนหรอคะ ช่วยอธิบายเป็นความรู้ค่ะ และอยากทราบว่าในกรณีนี้หนูมีโอกาสชนะคดีไหมคะ ขอบคุณค่ะ