== Blue Again (2022) ท่ามกลางคนมากมาย ขอแค่คนเดียวที่เข้าใจเราก็พอแล้ว.. ==



...ครามก็มีชีวิต ดูแลมันให้ดีมันก็รอด ถ้าปล่อยไว้ไม่สนใจมันก็ตาย...



เอ (ตะวัน จริยาพรรุ่ง) หญิงสาวลูกครึ่ง เข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้านการออกแบบในกรุงเทพฯ 
ด้วยความหวังที่จะมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเองโดยต่อยอดกิจการโรงย้อมครามของครอบครัวที่มีอยู่ที่สกลนครบ้านเกิด 



แพร (อสมาภรณ์ สมัครพันธ์) สาวน้อยร่าเริงเป็นมิตรกับทุกคน และเป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวของเอ 
เธอมีความฝันคล้ายกันกับเอ ด้วยความที่พื้นฐานทางสังคมและครอบครัวที่ไม่ต่างกันมากนัก ทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว



Blue Again เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทโดยคุณฐา-ฐาปณี หลูสุวรรณ ซึ่งเมื่อตัวผมได้มีโอกาสอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอผ่าน https://adaymagazine.com มันทำให้ผมเข้าใจได้ว่า หนังเรื่องนี้เปรียบเสมือนการถ่ายทอดความเป็นตัวตนของคุณฐาปณีเอง 
และสิ่งที่เรากำลังชมอยู่นั้นก็คือชีวิตส่วนนึงของตัวเธอ



ด้วยความยาวของหนัง 3 ชั่วโมง 10 นาที ซึ่งถือว่ายาวมาก หากโดยปกติแล้วถ้าเป็นหนังต่างประเทศดังๆแนวซูเปอร์ฮีโร่ หรือไม่ก็ Action 
ผมเชื่อว่าคนดูหนังโดยทั่วไปคงไม่หวั่น หากแต่ Blue Again คือหนังแนว coming-of-age drama ซึ่งหากใครไม่ชอบในแนวนี้ 
ผมเชื่อเลยว่าหลายท่านคงตั้งธงในใจไปก่อนแล้วว่าต้องน่าเบื่อ ไม่ก็ทนดูไม่ไหวมีหลับแน่นอน... แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นจริงๆครับ



การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ตลอดระยะเวลา 190 นาทีสำหรับผม คือมันผ่านไปไวมาก 
เราจะได้เห็นชีวิตของเอในรั้วมหาวิทยาลัยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เธออยู่ที่นั่น 
ทุกอย่างที่หนังถ่ายทอดออกมามันก็คือชีวิตของเราหลายๆคน ที่เคยพบเจอเช่นกัน.. 
โดยเฉพาะเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เพื่อนคนเดียวที่เอมี นั่นก็คือแพร....



เอ เป็นคนที่ซื่อตรงทางความรู้สึกของตัวเอง ตรงไปตรงมา คิดเห็นอย่างไรพูดออกไปเช่นนั้นไม่มีอ้อมค้อม 
ด้วยลักษณะนิสัยเช่นนี้ทำให้เข้ากับคนอื่นได้ยาก แต่เอาจริงๆ คนแบบนี้ล่ะที่น่าคบหา 
เพราะความจริงใจแบบไม่ใส่หน้ากากเข้าหา ไม่หน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากในปัจจุบัน.. 



ขณะที่แพร สาวน้อยร่างเล็กเธอเป็นเหมือนไผ่ที่ลู่ลม โอนอ่อนและคล้อยตามไปได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายยังไง 
แพรจะเป็นเหมือนคนที่พร้อมจะซัพพอร์ตทางความรู้สึกให้กับคนรอบข้างได้เสมอ 
และสิ่งนี้เองทำให้โลกใบใหม่ที่เอ เพิ่งก้าวเข้ามา รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเพราะมีแพรอยู่ข้างๆ...
แพรมีความสุขที่ได้เป็นเพื่อนกับเอ และเอ ก็รู้สึกไม่ต่างกัน.. แต่ด้วยอะไรบางอย่าง ก็ทำให้อะไรๆเปลี่ยนไป......



นอกจากในส่วนของชีวิตในมหาวิทยาลัยแล้ว หนังยังมีเส้นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวของเอที่บ้านเกิด 
รวมถึงเพื่อนเก่าคนเดียวที่เอมีอย่างสุเมธ (ศรัณย์เมศ รัตนพงษ์) เซฟโซนเดียวในโลกใบนี้ของเอ.. 
ซึ่งเรื่องของเมธเองนั้นก็แตกย่อยออกไปเป็นประเด็นทางศาสนาที่เมื่อเราดูแล้วก็มีอะไรให้ขบคิดตามมาอีกมากมายนัก...



ด้านงานภาพก็โดดเด่นในเรื่องของแสงและสี ซึ่งทำให้ความรู้สึกมันไปกับหนังได้ดั่งใจ.. 
แถมยังได้คุณชัพวิชญ์ เต็มนิธิกุล นักทำเพลงประกอบมือรางวัล ที่เคยได้รับรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากเรื่อง ‘อนธการ’ (The Blue Hour) 
ก็มารับหน้าที่ Music Composer ให้อีก...องค์ประกอบต่างๆล้วนทำให้ Blue Again สวยงามมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว...



สิ่งที่อยากจะบอกก็คือหนังเรื่องนี้แม้ว่าจะดูเป็นหนังนอกกระแส (ก็จริงๆล่ะ มันนอกกระแสจริงๆ) 
หลายคนอาจจะคิดว่าดูยากแน่ๆ ต้องปีนบันได ดูจบงงไปอีกหลายวันแน่เลย.. แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
อย่างที่ผมบอกไว้ นี่คือหนังชีวิตของวัยรุ่น วัยกำลังเปลี่ยนผ่านทางความคิด วัยที่ค้นหาตัวตนซึ่งเราทุกคนเคยผ่านมากันแล้วทั้งนั้น 
หรือน้องๆคนไหนที่กำลังศึกษาอยู่ก็ต้องเจอกับชีวิตแบบนี้สักวัน... ดังนั้นดูง่ายมากครับ 
ขอแค่เปิดใจและปล่อยให้หนังได้ทำหน้าที่ของมันตลอดระยะเวลา 190 นาที ซึ่งมันจะผ่านไปเร็วจนน่าเหลือเชื่อแน่นอน



ผมดูหนังเรื่องนี้จบลง บอกตามตรงว่าผมคิดถึงเพื่อน คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นที่มันผ่านมานานมากแล้ว..
เอาจริงๆ ชีวิตนี้เราไม่ได้ต้องการใครมากมายเลย ขอแค่คนเดียวที่เข้าใจในตัวเรา สามารถพูดบอกเล่าเรื่องราวต่างๆได้อย่างสนิทใจ 
คนเดียวที่เราจะหัวเราะ ร้องไห้ เล่าเรื่องบ้าบอคอแตก หรือความฝันที่ดูเกินตัวได้โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเกร็ง หรือกลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไงกับเรา.. 
ไม่ต้องตัวติดกัน ไม่ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา... คนที่เราจะรู้เสมอว่า เมื่อไหร่ที่เราต้องการมัน.. มันจะอยู่ที่ไหน



คนคนนั้นล่ะ คือคนที่เราพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า .. เพื่อน...

ขอแสดงความยินดีกับ Blue Again อีกครั้งด้วยนะครับที่สามารถคว้า 2 รางวัลจากการประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์ครั้งที่ 31 ประจำปี 2565 
ได้แก่ อสมาภรณ์ สมัครพันธ์ ในบทของแพรจากรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress) 
และรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Screenplay) ยินดีด้วยนะครับ

ฟังเพลงนี้ระหว่างอ่านกระทู้จะได้อรรถรสขึ้นมากนะครับ
My Life as Ali Thomas – Winter’s Love
1 ในเพลงประกอบหนังเรื่องนี้...

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร 
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่