#ผมไม่อยากพูดและทำแบบนี้เลยครับ
#แต่ครั้งนี้มันจำเป็นต้องทำจริงๆครับ
ในช่วงเวลาของปี 2562-2564 ภรรยาผมได้ติดพนันออนไลน์อย่างหนัก และได้สร้างหนี้ไว้หลายแสนมาก ซึ่งผมจับได้และไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ด้วยความที่ไม่รู้และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
ซึ่งผมไปทราบข่าวจากคนที่เขาไปขอยืมเงิน แล้วคนๆนั่นก็มาถามผมว่าทำไมได้มายืมเงิน ผมเลยรู้สึกแปลกๆ เขาไปยืมเงินจากญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ในหมู่บ้าน เพื่อนๆในเฟส รวมถึงกองทุนหมู่บ้าน จนมีหนี้รวมกันหลายแสน บวกกับสมัครแอพเงินกู้อีกเป็น 10 แอพ เป็นหนี้รวมกันเกือบแสนเช่นกัน เพื่อนำไปเล่นพนันในเว็บออนไลน์
ผมจับได้หลายครั้งและทยอยใช้หนี้ให้เรื่อยๆ จนต้องขายรถกระบะ 4 ประตูตัวเองไป 1 คัน และทำสินเชื่อกับธนาคารเพื่อมาใช้หนี้นอกระบบทั้งหมด ซึ่งคิดรวมๆทั้งหมดราว 4-5 แสนบาท
จนปี 65 หนี้ทุกอย่างเริ่มเบาลงมาก ผมเลยตัดสินใจสร้างบ้าน แต่เมื่อช่วงเดือนก.ค. 66 ที่ผ่านมา ผมหยิบมือถือของภรรยามาเล่น และบังเอิญเจอหลักฐานว่าเธอกลับมาเล่นพนันอีกครั้ง จากการเข้า-ออกของเงินในบัญชีตลอดทั้งวันทั้งคืน จากที่เคยไว้ใจแล้วว่าน่าจะเลิกเล่นพนันไปแล้ว
แต่ปรากฎว่า เธอกลับมาเล่นพนันอีก ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 และเอาทองที่ผมซื้อให้ไปจำ (สร้อยทอง 1 บาท กำไรข้อมือ 2 สลึง ซึ่งก่อนหน้านี้ไปจำ ผมก็ไถ่ออกมาแล้วรอบนึง) แล้วไปซื้อทองปลอมที่เหมือนกันมาเก็บ เผื่อเวลาผมถามหา บวกกับยืมคนรู้จักอีก รอบนี้มีหนี้รวมกันเกือบแสน
ผมจึงตัดสินใจขอคุยกับผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อขอเลิกกัน แต่เขาของโอกาสผม
ด้วยความที่ผมสงสารลูก และขอให้แม่ผมเป็นคนตัดสินใจเลยว่าจะเอาแบบไหน เพราะตอนนี้ผมไม่มีใจจะอยู่แล้ว ผมเสียดายเวลา เสียดายทุกอย่างที่หาได้และสร้างขึ้นมา กว่าจะได้มามันเหนื่อยมาก และกว่าจะเคลียร์รอบแรกหมด ผมก็เสียทุกอย่างไปไม่น้อยแล้ว จะให้ผมกลับมาติดลบอีก ผมเลยขอหย่า
แม่ผมบอกผมให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง เผื่อรอบนี้เขาจะไม่ทำอีก ผมเลยบอกว่าให้โอกาสได้ แต่ต้องเซ็นใบหย่าให้ผม เพราะหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ผมจะได้ไปแบบไม่ต้องพูดอะไรอีก สามารถไปได้เลยแบบไม่ติดเรื่องอะไร และยินดีที่จะดูแลและเลี้ยงลูก ตามที่สมควร หรือจะให้ลูกอยู่กับผมทั้งหมดเลยก็ได้
ที่ผมต้องพูดเรื่องนี้ เพราะผมสุดแล้วครับ ผมเก็บเรื่องนี้ไว้นานมาก แม้แต่แม่ผมก็พึ่งมารู้ เพราะผมเลือกที่จะเก็บทุกอย่างและเคลียร์ทุกอย่างเอง ผมพยายามรักษาภาพลักษณ์ของภรรยา และของครอบครัวมาหลายปีมาก
จนรอบนี้ผมจำเป็นต้องพูดครับ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นแสดงว่ามันมีเรื่องราวและเหตุผลของมันเป็นแบบนี้
และเพื่อบอกกับทุกคนที่รู้จักกับผมว่า อย่าให้เขายืมเงินนะครับ เพราะผมคงไม่มีเงินตามใช้หนี้ให้แล้ว และผมเองคงจะไม่รับผิดชอบหนี้ต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนี้แล้วครับ และผมกับเขาได้หย่ากันถูกต้องตามกฏหมายแล้วครับ
สถานะตอนนี้คือเพื่อครอบครัวและเพื่อลูกอย่างเดียวครับ แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนะครับ เพราะผมไม่มีเจตนาหรือตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว หากในรอบนี้เขากลับตัวได้ ผมยินดีจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ และยินดีจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง
สิ่งที่ผมต้องการตอนนี้คือ อยากให้เขาสำนึกและกลับตัวได้จริงๆครับ
แต่ถ้าไม่ ผมขอแยกย้ายกันตั้งแต่นี้เป็นต้นไปครับ
ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายคนด้วยนะครับ คนเราผิดพลาดกันได้ครับ แต่ขอร้องครับ อย่าผิดซ้ำเลย
ผมทำถูกไหมครับ หรือ ใครมีความคิดเห็นยังไง ผมควรทำเช่นไร แนะนำหน่อยครับ
การพนันมันพังทุกอย่าง
#แต่ครั้งนี้มันจำเป็นต้องทำจริงๆครับ
ในช่วงเวลาของปี 2562-2564 ภรรยาผมได้ติดพนันออนไลน์อย่างหนัก และได้สร้างหนี้ไว้หลายแสนมาก ซึ่งผมจับได้และไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ด้วยความที่ไม่รู้และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
ซึ่งผมไปทราบข่าวจากคนที่เขาไปขอยืมเงิน แล้วคนๆนั่นก็มาถามผมว่าทำไมได้มายืมเงิน ผมเลยรู้สึกแปลกๆ เขาไปยืมเงินจากญาติพี่น้อง เพื่อนๆ ในหมู่บ้าน เพื่อนๆในเฟส รวมถึงกองทุนหมู่บ้าน จนมีหนี้รวมกันหลายแสน บวกกับสมัครแอพเงินกู้อีกเป็น 10 แอพ เป็นหนี้รวมกันเกือบแสนเช่นกัน เพื่อนำไปเล่นพนันในเว็บออนไลน์
ผมจับได้หลายครั้งและทยอยใช้หนี้ให้เรื่อยๆ จนต้องขายรถกระบะ 4 ประตูตัวเองไป 1 คัน และทำสินเชื่อกับธนาคารเพื่อมาใช้หนี้นอกระบบทั้งหมด ซึ่งคิดรวมๆทั้งหมดราว 4-5 แสนบาท
จนปี 65 หนี้ทุกอย่างเริ่มเบาลงมาก ผมเลยตัดสินใจสร้างบ้าน แต่เมื่อช่วงเดือนก.ค. 66 ที่ผ่านมา ผมหยิบมือถือของภรรยามาเล่น และบังเอิญเจอหลักฐานว่าเธอกลับมาเล่นพนันอีกครั้ง จากการเข้า-ออกของเงินในบัญชีตลอดทั้งวันทั้งคืน จากที่เคยไว้ใจแล้วว่าน่าจะเลิกเล่นพนันไปแล้ว
แต่ปรากฎว่า เธอกลับมาเล่นพนันอีก ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 และเอาทองที่ผมซื้อให้ไปจำ (สร้อยทอง 1 บาท กำไรข้อมือ 2 สลึง ซึ่งก่อนหน้านี้ไปจำ ผมก็ไถ่ออกมาแล้วรอบนึง) แล้วไปซื้อทองปลอมที่เหมือนกันมาเก็บ เผื่อเวลาผมถามหา บวกกับยืมคนรู้จักอีก รอบนี้มีหนี้รวมกันเกือบแสน
ผมจึงตัดสินใจขอคุยกับผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อขอเลิกกัน แต่เขาของโอกาสผม
ด้วยความที่ผมสงสารลูก และขอให้แม่ผมเป็นคนตัดสินใจเลยว่าจะเอาแบบไหน เพราะตอนนี้ผมไม่มีใจจะอยู่แล้ว ผมเสียดายเวลา เสียดายทุกอย่างที่หาได้และสร้างขึ้นมา กว่าจะได้มามันเหนื่อยมาก และกว่าจะเคลียร์รอบแรกหมด ผมก็เสียทุกอย่างไปไม่น้อยแล้ว จะให้ผมกลับมาติดลบอีก ผมเลยขอหย่า
แม่ผมบอกผมให้โอกาสเขาอีกสักครั้ง เผื่อรอบนี้เขาจะไม่ทำอีก ผมเลยบอกว่าให้โอกาสได้ แต่ต้องเซ็นใบหย่าให้ผม เพราะหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ผมจะได้ไปแบบไม่ต้องพูดอะไรอีก สามารถไปได้เลยแบบไม่ติดเรื่องอะไร และยินดีที่จะดูแลและเลี้ยงลูก ตามที่สมควร หรือจะให้ลูกอยู่กับผมทั้งหมดเลยก็ได้
ที่ผมต้องพูดเรื่องนี้ เพราะผมสุดแล้วครับ ผมเก็บเรื่องนี้ไว้นานมาก แม้แต่แม่ผมก็พึ่งมารู้ เพราะผมเลือกที่จะเก็บทุกอย่างและเคลียร์ทุกอย่างเอง ผมพยายามรักษาภาพลักษณ์ของภรรยา และของครอบครัวมาหลายปีมาก
จนรอบนี้ผมจำเป็นต้องพูดครับ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นแสดงว่ามันมีเรื่องราวและเหตุผลของมันเป็นแบบนี้
และเพื่อบอกกับทุกคนที่รู้จักกับผมว่า อย่าให้เขายืมเงินนะครับ เพราะผมคงไม่มีเงินตามใช้หนี้ให้แล้ว และผมเองคงจะไม่รับผิดชอบหนี้ต่างๆที่เกิดขึ้นหลังจากนี้แล้วครับ และผมกับเขาได้หย่ากันถูกต้องตามกฏหมายแล้วครับ
สถานะตอนนี้คือเพื่อครอบครัวและเพื่อลูกอย่างเดียวครับ แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนะครับ เพราะผมไม่มีเจตนาหรือตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว หากในรอบนี้เขากลับตัวได้ ผมยินดีจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมครับ และยินดีจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง
สิ่งที่ผมต้องการตอนนี้คือ อยากให้เขาสำนึกและกลับตัวได้จริงๆครับ
แต่ถ้าไม่ ผมขอแยกย้ายกันตั้งแต่นี้เป็นต้นไปครับ
ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายคนด้วยนะครับ คนเราผิดพลาดกันได้ครับ แต่ขอร้องครับ อย่าผิดซ้ำเลย
ผมทำถูกไหมครับ หรือ ใครมีความคิดเห็นยังไง ผมควรทำเช่นไร แนะนำหน่อยครับ