รีวิว Daihatsu Yonex Japan Open 2023 กับการดูกีฬาครั้งในชีวิตที่ต่างประเทศ

สวัสดีแฟนแบดทุกคนและแฟนคลับกีฬาอื่นๆ ทุกท่านครับ

ต้องขออภัยด้วยนะครับที่มาตั้งกระทู้ช้ามากหลังจากการแข่งจบไปกว่า 2 อาทิตย์แล้ว 
เพราะผมต้องใช้เวลาเขียนกระทู้แถมช่วงนี้เป็นที่ผมกำลังเตรียมสอบกลางภาค
อีกทั้งผมกำลังเตรียมที่จะไปทำงานพาร์ทไทม์แล้วเลยมาตั้งกระทู้ช้ามาก 

หลังจากที่ผมได้เคยสัญญากับแฟนๆ ห้องแบดมาตั้งแต่ ออลอิงแลนด์ 2023 นะครับว่า หลังจากที่ต้องเจอกับโควิดมาตลอด 3 ปี 
ในที่สุดผมได้มาเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นตามที่ผมตั้งใจไว้แล้ว และถ้ามีโอกาสครั้งนี้ผมจะไปรีวิวศึก แบดมินตัน เจแปน โอเพ่น 750

แล้วในที่สุดผมก็ได้ทำสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนจะออกเดินทางมาโตเกียวแล้วครับ มาวันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปประสบ
พบเจอมาที่สนามในรอบรองและรอบชิงนะครับ รวมทั้งการเดินทาง วิธีการซื้อบัตร กิจกรรมและภาพถ่ายต่างๆ มาให้รับชม 
ผมขอเกริ่นก่อนเลยว่านี่เป็นการดูกีฬาครั้งนึงที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิตจริงๆ ครับ



ภาพส่วนใหญ่ถ่ายจากกล้องมือถือนะครับ ซึ่งมันไม่ชัดเท่ากล้องดิจิตอลนะครับ เพราะฉะนั้นต้องขออภัยแฟนๆ กีฬาทุกๆ คนด้วยนะครับ 
ส่วนภาพอื่นๆ ไปเอามาจากช่างและนักข่าวที่ได้ไปถ่ายที่สนามมานะครับ ก็ขอขอบคุณช่างภาพทุกๆ คนด้วย

ผมแท๊กวอลเลย์บอลด้วยเพราะสนามโยโยกิในเดือนตุลาคม ก็จะถูกใช้เป็นสนามสำหรับคัดโอลิมปิก 2024 ด้วย ทั้งทีมชายและทีมหญิงเลย
ซึ่งผมมั่นใจว่าจะต้องมีคนที่ซื้อบัตรมาดูแน่นอน ถือว่าเป็นการรีวิวบรรยากาศสนามไปในตัวด้วยเลยนะครับ แล้วตอนนี้บัตรทีมหญิงก็ยังขายอยู่นะครับ
แต่เหลือแค่โซนที่นั่งด้านบนราคา 3000 เยนอย่างเดียวนะครับ ส่วนทีมชายขายหมดไปแล้วเรียบร้อย

Lawson ticket link

โดยปกติผมเป็นคนที่ชอบดูกีฬาอยู่แล้ว และกีฬาแบดมินตันก็เป็นกีฬาแรกที่ทำให้ผมมาตามกีฬาในห้องพันทิปอย่างจริงจัง จนตอนนี้ก็ 10 ปีแล้ว 
โดย พี่เมย์ รัชนก อินทนนท์ นี่แหละเป็นคนที่ทำให้ผมได้มาตามแบดมินตัน และผมเองก็ได้ไปดูแบดมินตันมาแล้ว 3 ครั้งคือรายการ โธมัสคัพ อูเบอรคัพ 2018 ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019 ซุปเปอร์ 500 และ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2013 กรังซ์ปรีซ์ โกลด์ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมได้มาดูที่ต่างประเทศ แล้วทั้ง 4 ครั้งรวมที่ญี่ปุ่นด้วย ถ้าวันใดวันนั้นผมได้ไปดูรายการดังกล่าวที่สนาม นักกีฬาจะเข้าชิงทุกครั้งเลยและครั้งนี้ก็เช่นกันครับ 

แต่การดูแบดมินตันครั้งนี้ของผมก็เกือบจะไม่ได้มาดูแล้วเหมือนกันนะครับ แม้ตอนที่ประกาศสนามแข่งผมจะดีใจมากๆ ก็ตาม เพราะเป็นสนามโยโยกิ ซึ่งเดินทางง่ายที่สุดในบรรดาทุกสนามอินดอร์ ในโตเกียว แล้วสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวล้วนๆ เพราะ โดยปกติการจองบัตรแบดมินตันของผมมักจะจองรอบแรกๆ ไว้เพื่อที่จะได้รับประกันว่าจะได้ดูนักกีฬาไทยแน่นอน

แต่ที่ผมมาญี่ปุ่นครั้งนี้คือเพื่อมาเรียนภาษา แล้วเวลาเรียนของผมคือตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งจนถึง 5 โมงเย็น ซึ่งทับซ้อนกับเวลาแข่ง แล้วด้วยกฎของโรงเรียนภาษาที่ผมไปเข้าเรียนนั้นเข้มงวดมาก ลาเรียนแบบไม่มีเหตุผลไม่ได้ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะทำให้ผมซ้ำชั้นหรือไม่งั้นก็อาจจะถูกส่งกลับไทยได้ คลาสผมมีคนต่างชาติโดนไป 4-5 คน แล้ว แล้วถ้าต้องมาเสียโอกาสกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง มันก็ดูไม่คุ้ม เพราะฉะนั้นผมจึงสามารถซื้อบัตรได้แค่เฉพาะรอบรอง และ รอบชิงเท่านั้น



ปัญหาต่อมาก็คือ บัตรมันแพงมากๆ แพงกว่าบัตรแพงสุดที่ไทยเคยขายช่วงทัวร์ไฟนอลเมื่อปีที่แล้วกว่า 3 เท่า แม้ช่วงนี้บาทไทยจะแข็งก็ตาม แล้วญี่ปุ่นเองก็จะมีรายการ 500 ช่วงปลายปีอีก แถมพอประกาศสายการแข่งออกมาก็สุ่มเสี่ยงมากว่าผมจะได้ดูไทยไหมอีกตังหาก เล่นเอาผมต้องถอยออกมาพิจารณาใหม่เลย ว่าจะทิ้ง 750 แล้วไปดูรายการ 500 ดีไหม 

แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะมาดูรายการ 750 แบบหมดทางเลือก  เพราะรายการ 500 ช่วงปลายปี พอทางญี่ปุ่นประกาศสนามออกมา เจ้าภาพดันไปจัดเสียแถว คุมาโมโตะ ตรงเกาะคิวชูโน้นเลยต้องนั่งชินคันเซนหรือไม่ก็เครื่องบินซึ่งไม่มีทางแน่ๆ  ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะซื้อบัตรรอบรองและรอบชิงรายการ 750 ครับ แล้วก็คาดหวังให้นักกีฬาไทยสักคนผ่านไปจนถึงรอบรองชนะเลิศ ตอนรอบก่อนรองคือผมลุ้นเกมการแข่งจนแทบจะไม่เป็นอันเรียนกันเลยเพราะในรอบแรกรอบ 2 นักกีฬาทำผลงานดีมากแต่มารอบ 8 คนนักกีฬาไทยตกรอบรัวๆ จนในที่สุดบาสป้อก็สามารถล้มคู่เกาหลีได้แบบขาดๆ ในเกม 2 ตอนนั้นคือผมยิ้มแล้วอย่างน้อยก็ได้ดูไทยสักที

ดูราคาบัตรจากตรงนี้ได้เลยครับ 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วิธีซื้อบัตรเข้าชม

ถ้าในประเทศไทย รู้กันดีว่าเวลาจะซื้อบัตรอีเวนต์ต่างๆ มักจะทำผ่าน Thai Ticket Major ที่ประเทศญี่ปุ่น ร้าน Lawson ก็ไม่ต่างกันเลยครับเพราะนอกจากจะมีเว็บไซด์ lawson ticket แล้ว วิธีซื้อบัตรงานอีเวนต์ต่างๆ ในญี่ปุ่นนั้นก็สามารถจ่ายผ่านเคาต์เตอร์ ร้านลอว์สัน ได้เลย นั่นก็เพราะ ร้านลอว์สันพวกนี้จะมี ตู้ Loppi อยู่ ซึ่งสามารถซื้อโดยตรงผ่านตู้ได้เลย แล้วผมก็ใช้วิธีนี้แหละครับซื้อบัตร ที่จริงผมจะจองผ่านเว็บก็ได้ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำบัตรเครดิต เน้นจ่ายสด อีกทั้งระบบการจองในเว็บแล้วให้ไปรับที่ ลอว์สัน จะต้องทำภายใน 30 นาที ซึ่งสาขาที่ใกล้ที่พักผมที่สุดห่างไปประมาณ 1 กิโล เลยซื้อทางเครื่องโดยตรงเลยสะดวกกว่า และชัวร์ที่สุด



แต่ข้อเสียของการซื้อแบบนี้ก็คือมันซื้อได้แค่ใบเดียวต่อรอบ แล้วค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร อีกทั้งเครื่องขายบัตรตัวนี้ไม่มีภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นคนที่จะซื้อผ่านตู้ Loppi แนะนำให้มีสกิลภาษาญี่ปุ่นสักหน่อยนะครับใคร ไม่มีเหนื่อยครับอย่างน้อยต้องสนทนาระดับพื้นฐานได้เพื่อที่เกิดปัญหาจะได้คุยกับพนักงานได้ ภาษาอังกฤษผมเคยใช้กับคนญี่ปุ่นมาแล้วล่ะครับ มึนกันเป็นแถว 
 
มาดูวิธีที่ผมซื้อกันเลยครับ

1.       จะเห็นว่าบนหน้าจอเครื่อง Loppi มีปุ่มอยู่ 3 ปุ่ม ให้กดปุ่ม 各種サ一ビス( Kakushu sabisu – บริการต่างๆ )

2.       เมื่อกดเข้ามาแล้วจะเห็นออพชั่นมากมาย ทั้งหมดแปลออกมาเป็นแบบนี้ครับ เรียงตามลำดับเลย
 
          1.       Sports / Concerts / Plays, Musicals & Comedy / Members' Service / Fan Club Membership & Renewal
          2.       Transportation Tickets (Highway Bus, Airline, etc.) / Theme Parks / Events & Shows / Circuses / Movies / Travel / Leisure / Ghibli Museum / Fujiko F. Fujio Museum / Snoopy Museum
          3.       Shopping (Loppi Goods / Gifts / HMV@Loppi / L-Paca Books@Loppi)
          4.       Payments, Internet Receipts & Smartpit / Cash Payout / Credit Payments, etc. / Amazon Receipts, etc.
          5.       Cellphones & Prepaid International / Net Money / Home QUO / Study, Insurance & Fundraising
          6.       Toto & BIG / Soccer & Pro Baseball Tickets / Lifestyle & Living / Tanita Pedometer Data Transfer

3.       สำหรับการซื้อบัตรงานอีเวนต์ เมื่อกดเข้ามาแล้วฝั่งขวาปุ่มสีขาว จะมีให้เลือกว่าต้องการที่จะซื้อบัตรประเภทไหน สำคัญที่สุดอยู่ที่ปุ่มที่ 1 และ 2 ปุ่มแรกคือซื้อผ่าน โค๊ต Loppi รหัสตัวนี้อยู่ในเว็บ Lawson Ticket ถ้าใครรู้รหัสตัวนี้ก็ง่ายเลยเพราะมันจะเข้ามาหน้าที่งานอีเวนต์ที่เราต้องการทันที 

แต่สำหรับคนไม่มีรหัส วิธีการที่ 2 คือต้องหาชื่อ เป็นคีย์เวิร์ด ซึ่งตั้งแต่ตรงนี้จะต้องใช้สกิลภาษาญี่ปุ่นแล้วนะครับ พิมพ์ชื่องานหรือกิจกรรมให้ถูกต้อง ใช้ฮิรางานะ เขียนได้ ไม่จำเป็นต้อง คาตาคานะ ตามหลักพื้นฐานของภาษาญี่ปุ่น

4.       เมื่อมาถึงหน้าจองบัตร เขาจะถามเราว่าจะเลือกวันแสดงวันไหน จองกี่ใบ บอกราคา ค่าบริการ และจ่ายผ่านทางไหน ซึ่งการซื้อผ่านเครื่องนี้จะมีค่าบริการ 110 เยนต่อรอบ 

5.       เมื่อยืนยันการจอง เครื่องจะให้เราใส่ชื่อ และ นามสกุล ของเรา ญี่ปุ่นมักจะเอานาสกุลขึ้นก่อนชื่อจริงนะครับ  แต่มันก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แล้วชื่อสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้ จากนั้นจะให้ใส่เบอร์โทร ตรงนี้แหละที่ผมไม่มั่นใจว่ามันใช้เบอร์ไทยรหัส +88 ได้ไหม เพราะตอนซื้อผมใช้เบอร์ญี่ปุ่นซื้อ แต่ดูแล้วไม่น่าจะได้ 

6.       สุดท้ายเครื่องจะออกใบเสร็จออกมา แล้วก็ให้ไปยื่นที่เคาต์เตอร์ร้านลอว์สันแล้วก็จ่ายเงินได้เลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผมซื้อบัตรที่นั่งไม่กำหนดหมายเลขชั้น 1 โซนสีเหลืองตามภาพ เอาแบบติดขอบสนามหน่อยจะได้ดูชัดๆ  

รวมเบ็ดเสร็จดู 2 วัน รอบรองและรอบชิง ค่าบัตร ค่าบริการตกอยู่ที่ 18,220 เยน หรือประมาณ 5446 บาท
( ค่าเงินตีมาตรฐาน 1 เยน =0.3 บาท ไม่ได้ตีตามค่าเงินในปัจจุบัน ) ตกใบล่ะ 2723 บาท

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่