[CR] รีวิว จอร์แดน 2023 ดินแดนแห่งเพตรา ทะเลทรายและ Dead sea


สวัสดีค่ะทุกคน ปีนี้เราพามาเที่ยวแถบตะวันออกกลาง เป็นประเทศที่เป็น Bucket List ของใครหลายๆคน คือ "จอร์แดน" นั่นเอง
ทริปนี้เราไปกัน 25-29 กรกฏาคม 2023 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ อากาศช่วงนี้ตัวดีเลยค่ะ ร้อนมากถึงมากที่สุด 

จอร์แดน มี 4 ฤดู ได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิ อยู่ในช่วงเดือนเมษายน– เดือนพฤษภาคม
ฤดูร้อน อยู่ในช่วงเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม (ของเราช่วงนี้เลยค่ะ)
ฤดูใบไม้ร่วง อยู่ในช่วงเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน
ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือน ธันวาคม – เดือนมีนาคม

มาเริ่มต้นทริปกันเลยนะคะ ทริปนี้เราไปกับสายการบิน Royal Jordanian ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9ชม. สายการบิน full service บริการดี มีโหลดกระเป๋า อาหารพร้อมค่ะ มีแค่เมื่อยหลังมากเพราะใช้เวลานานค่ะ

ภายในเครื่องบินค่ะ คืนนี้เราออกเดินทางกันตอน 00.25 ถึงที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดนก็จะประมาณตีห้าครึ่ง แต่วันนี้เครื่องเราบินเร็วค่ะ ถึงที่อัมมานตีสี่กว่าๆเอง


ถึงสนามบินที่จอร์แดน เราก็มาทำ Visa on arrival กันนะคะสำหรับคนไทย คิวยาวนิดนึงค่ะ แต่หลายๆคนมักจะซื้อ Jordan pass เพราะมันรวมค่าวีซ่าไปด้วยแล้ว คุ้มกว่าค่ะ ไม่ต้องไปเสียตังค่าเข้าสถานที่ต่างๆหลายรอบ

พอเราจัดการเรื่องวีซ่า ผ่านตม. ออกมาก็มาแวะแลกตังกันค่ะ ที่นี่เราแลกเป็นเงิน ดีนาร์ (JOD) มานะคะ แต่คิดว่าไม่น่าจะพอ เลยเอา USD มาแลกเพิ่มค่ะ
มีร้านแลกเงินอยู่2-3ร้าน เปิดตอนเช้าๆแบบนี้


วันนี้ที่แรกเลย เราจะตรงไปสู่เมืองเพตร้า PETRA กันค่ะ แต่ก่อนออกเดินทางกองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องก่อนค่ะ แวะทานอาหารเช้าข้างทาง คือเราไม่ค่อยชินกับอาหารเช้าแบบชาวอาหรับเท่าไร ส่วนมากจะมี Bread ซึ่งเหมือนแป้งนานของอินเดียแต่แผ่นหนาหน่อย มีชีสให้เลือกหลายแบบ มีมะกอก มีสลัดแบบหลายแบบมาก แต่ในใจอยากคนอร์คัพโจ๊กมากกว่าค่ะ เช้าๆแบบนี้ทานไม่ค่อยลง คิดถึงแฮมบ้านเรามาก ที่นี่ไม่อร่อยเลยค่ะ


พอท้องอิ่ม เราก็นั่งรถต่อกันไปอีกประมาณ 3 ชม.ค่ะ เพื่อไปเมืองเพตร้า PETRA มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) ส่วนตัวแล้วอยากไปมากค่ะเพตร้า เป็นที่ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิตก่อนตาย เราถึงเพตราแล้วก็จะต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 

นี่คือแผนที่ Petra ค่ะ


เราเริ่มกันที่ Visitor center ใครมาที่นี่เป็นที่นี่หาซื้อผ้าโพกหัวไม่ได้ที่นี่ก็มีค่ะ ลายแดง ลายดำ ราคาแตกต่างกันไป แบบธรรมดา 3JOD หรือประมาณ 210บาท แต่ถ้าแบบมีลวดลายหน่อยก็ 5JOD (250บ)



เอาล่ะค่ะ เริ่มออกเดินทางกันได้ ทริปนี้ ครีมกันแดด ร่มกัน UV แว่นตากันแดด สำคัญมาก เพราะแดดแรงมาก เราว่าหมวกก็เอาไม่อยู่ ร่มกัน UV จะดีกว่าค่ะ มันช่วยชีวิตเราจะความร้อนมากๆ เพราะเดือนกค.ที่เราไปนี่แดดแรงเอาเรื่องอยู่

ระหว่างทางใครอยากจะนั่งม้าก็ได้นะคะ แต่เราอยากเดินชมความสวยงามเองมากกว่า ระหว่างทางก็จะมีสุสานที่สมัยก่อนเค้าจะเจาะรู้หินเยอะมาก ตามรูปค่ะ

เดินพอเหนื่อยมาสักพัก ก็ถึงหินรูปปลาค่ะ เพื่อนๆมองออกกันไหมคะ

มีรูปปั้นเทพเจ้า สัตว์ เหลือแต่ส่วนล่างค่ะ

และเราก็ต้องผ่านช่อง THE SIQ เป็นช่องทางเดินที่ขนาบสองฝั่งด้วยหน้าผา กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน ส่วนใหญ่ทางเดินร่มๆ สบายๆ (ทางเดินค่อนข้างลาดลง ไม่เหนื่อย ระหว่างทางก็มีมุมสวยๆ ให้เก็บภาพเรื่อยๆค่ะ)


และแล้วเราก็เดินมาถึงไฮไลท์ค่ะ The treasury หรือ เอล คาซเนท์ (EL-KHAZNEH) คลังสมบัติของฟาโรห์ เอล คาซเนท์ เป็นที่ที่ประณีตที่สุดในเมืองเพตรา (Petra) แห่งราชอาณาจักรนาบาเทีย

ส่วนตัวแล้วแบบอึ้ง ทึ่งในความสวย ความสงสัยค่ะว่าสมัยก่อนเค้าสร้างมาได้อย่างไร เครื่องจักรหรืออะไรก็ไม่มี เราถึงกับต้องถอดแว่นตากันแดดออกเพื่ออยากเห้นด้วยตาเปล่าตัวเองสักครั้ง และนี่น่ะเหรอ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ทำไมมันชั่งสวยและอลังการอะไรเช่นนี้นะ

จากนั้นเราจะเดินต่อกันไป Theater หรือ โรงละครโรมัน กันค่ะ ระหว่างทางก็จะมีของที่ระลึกขาย จริงๆราคาแอบแรง ออกไปซื้อข้างนอกซะดีกว่า แต่เราก็ซื้อมานะคะจากที่นี่ตอนนั้นแบบกำลังอินแล้วกลัวออกไปแล้วไม่มีให้ซื้อ
หิ
หิวน้ำมากค่ะ มีร้านน้ำอยู่ 1 ร้าน ทำใจไม่ได้ค่ะ โค้กกระป๋องละ 3 USD หรือ 100บาท 

พักให้หายเหนื่อย ต่อไปเราจะเดินกลับไปที่จุด Visitor center กันเหมือนเดิมนะคะ เพราะถ้าเข้าไปถึงจุดสุดท้าย Monastery ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงซึ่งเรามีเวลาจำกัดค่ะ และแค่นี้ก็โอเคแล้ว

จะบอกว่าขากลับเป็นอะไรที่เหนื่อยและหมดแรงมากๆ ขามาคือเหมือนเราเดินลงเนินเลยไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อย แต่ขากลับคือ เดินขึ้นเนินชัดๆ คือนี่แวะพักระหว่างทางบ่อยมาก จิบน้ำทีละนิดๆ บางคนถ้าไม่อยากเหนื่อยและเสียเวลาก็มีรถกอล์ฟ นะคะ สามารถใช้บริการด้วยน่าจะประมาณ 28 USD ค่ะ แต่เราคิดว่าไหว ก็เลยเดินต่อไปเรื่อยๆ ลมแทบจับค่ะ

เสร็จแล้ว เราแวะมากินข้าวกลางวันกันที่โรงแรมแห่งนึง บอกตรงๆคือทานไม่ลงเลยค่ะ แต่หน้าตาอาหารก็ดูดีนะคะ หรือเป็นเพราะว่าเราเหนื่อยสุดๆและก็มาทานอาหารเลย เลยอ้วกไป1ถุงค่ะ สบายตัวขึ้นมาเลย
หน้าตาอาหารค่ะ

หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มอ่อน วันนี้เราไปต่อกันที่ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM) จากเพตราประมาณ 1.40นาทีค่ะ 


เราจะใช้รถกระบะตะลุยทะเลกันค่ะ และคืนนี้กิจกรรมของเราจะจบด้วยนอนชมดาวที่โดมกลางทะเลทรายค่ะ
 
ระหว่างทางค่ะ

แวะ sand dune ค่ะ

แวะพักกินชาให้หายเหนื่อยก่อนไปต่อกันค่ะ

และจุดสุดท้ายเราก็เข้าที่พักกันค่ะ คืนนี้เราจะนอนกันที่กระโจมค่ะ ชื่อ ALADIN CAMP WADI RUM @PANORAMIC DOME ที่พักคือสวยมาก เหมือนอยู่บนดาวอังคารเลยค่ะ
<img class="img-in-post in-tiny-editor">
ข้างในห้อง สวยและสะอาดค่ะ ตอนแรกนึกว่าจะมีทรายหรือฝุ่น แต่ไม่มีเลย มีแอร์ด้วยค่ะ มีน้ำอุ่น คิดว่าจะน่าปั่นไฟใช้เอา แต่สะดวกสบายค่ะ

ห้องน้ำค่ะ


ขณะนี้เวลา 19.40ก่อนออกไปทานข้าวเย็นกันที่ลานกิจกรรม
ท้องฟ้าคือพระจันทร์ขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มืดเลยค่ะ อยากจะบอกว่าสุขใจสุดๆ มันเงียบ เวิ้งว้างมาก มีหุบเขาล้อมรอบไปอีก

และนี่คือที่ที่เรามารวมตัวกันเพื่อทานข้าวเย็นค่ะ เค้าจะอบไก่ เนื้อแพะไว้แล้วใต้ดิน ทำโชว์ให้เราดู อาหารใช้ได้ค่ะ

เบียร์ 0%ค่ะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวจอร์แดน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่