จักษุวิญญาณธาตุ "ที่สมกัน" เรียนเชิญคุณเอิงเอย ครับ

แปลไทย
จักขุวิญญาณธาตุ เป็นไฉน
             จิต มโน มานัส หทัย ปัณฑร มโน มนายตนะ มนินทรีย์
วิญญาณ วิญญาณขันธ์ จักขุวิญญาณธาตุที่สมกัน อาศัยจักขุปสาทและรูปารมณ์
เกิดขึ้น นี้เรียกว่า จักขุวิญญาณธาตุ
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=35&A=2252

พระบาลี
ตตฺถ   กตมา   จกฺขุวิญฺญาณธาตุ   จกฺขุญฺจ   ปฏิจฺจ  รูเป  จ  อุปฺปชฺชติ
จิตฺตํ    มโน    มานสํ   หทยํ   ปณฺฑรํ   มโน   มนายตนํ   มนินฺทฺริยํ
วิญฺญาณํ    วิญฺญาณกฺขนฺโธ    ตชฺชา    จกฺขุวิญฺญาณธาตุ    อยํ   วุจฺจติ
จกฺขุวิญฺญาณธาตุ ฯ
https://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=35&A=2205

----------------------

เกริ่นก่อนนะครับว่า ผมผ่านตามาเมื่อสามสี่วันก่อน โดยมีสมาชิกท่านนึงแสดงความเห็นว่า
อ่านพระไตรปิฎก "บทแบบในลักษณะนี้" แล้วเข้าใจยาก ตรงคำว่า "ที่สมกัน"

ผมก็เลยตามเข้าไปดู ก็เห็นจะจริงตามนั้นทีเดียวครับ เพราะภาษาเก่าแบบพระไตรปิฎกแปลไทยนี้
บางคำก็สื่อความหมายยาก ไม่เข้ากันกับความเข้าใจของคนในสมัยนี้แล้ว

การศึกษาพระอภิธรรมของผมนั้น ผมศึกษาเอาจากพระอภิธรรมมัตถสังคหะเป็นหลัก  หาได้ศึกษาจาก
พระอภิธรรมปิฎกโดยตรงไม่ครับ เลยทำให้ไม่คุ้นเคยกับโครงสร้างของพระอภิธรรมปิฎกสักเท่าไหร่
ก็ต้องขอบอกว่าท่านพระอนุรุทธาจารย์ มีคุณูปการต่อชาวพุทธเป็นอย่างมาก ที่ทำให้ชาวพุทธสามารถเข้าถึง
เนื้อหาของพระอภิธรรมปิฎกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ถ้าไม่มีท่าน ผมว่าหากจะมีใครกระโดดเข้าไปศึกษาพระอภิธรรมปิฎก
โดยไม่มีพื้นที่แน่นพอ มีหงายหลังกลับมาทุกรายแน่ๆ ครับ

เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ค่อยๆ ไปกันช้าๆ

ทราบมาว่าคุณเอิงเอยกำลังศึกษาภาษาบาลีอยู่ จึงอยากชวนเพื่อนสมาชิกสนทนาธรรม
เพื่อความแตกฉานในธรรมและแตกฉานในคัมภีร์สำคัญของเราชาวพุทธครับ

เริ่มประเด็นแรกก่อนนะครับ

คำว่า "ที่สมกัน" นี้ มาจากคำว่า "ตชฺชา" ใช่หรือไม่ครับ ?
และถ้าจะแปลให้เป็นคำที่คนสมัยนี้อ่านแล้วเข้าใจ ควรเป็นคำไทยว่าอะไรดีครับ ?

หมายเหตุว่า สมาชิกช่วยกันสนทนาธรรมกันตามกาลได้ทุกท่านนะครับ เป็นกุศลกรรมนะครับ มีอานิสงส์
แต่ขอล๊อคตัวหมอเอิงเอาไว้เป็นตัวประกันก่อน กลัวไม่มีใครตอบบคำถามผมครับ ฮ่าฮ่าฮ่า

อนุโมทนาบุญครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้าดูจาก ต้นพระอภิธรรมตั้งแต่ต้น  คือ ตั้งแต่ข้อ ๑๒๔ ลงมา เมื่อท่านจะอธิบาย ธาตุ ๑๘ ท่านจะอธิบาย ทีละสามข้อ เช่น จะอธิบายจักขุวิญญาณธาตุ ท่านก็จะอธิบาย จักขุธาตุก่อน แล้วมา รูปธาตุ แล้วจึง อธิบายว่า จักขุวิญญาณธาตุก็เกิดเพราะ จักขุธาตุ และ รูปธาตุ นั่นแหละ
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=35&A=2252

(ซึ่งในหน้า ก่อน ท่านก็อธิบาย มหาภูตรูป (ปฐวี อาโป เตโช วาโย) ไปแล้ว)
https://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=35&A=2064



ทีนี้ มาถึง จักขุวิญญาณที่เป็นต้นกระทู้  เรามาดูอรรถกถา และ พจนานุกรมกัน ก่อนแปลนะคะ

  คำว่า จกฺขญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ (อาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์) อธิบายว่า เพราะอาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์ทั้ง ๒ นี้ด้วย
1.เพราะอาศัยธรรมอื่น คือกิริยามโนธาตุและขันธ์ ๓ (เวทนา สัญญา สังขารขันธ์) ที่สัมปยุตกันด้วย
(เวทนา สัญญา สังขารเป็นปัจจัยโดยเกิดร่วมกัน)
2.เพราะจักขุ (ประสาท) เป็นนิสสยปัจจัย
(เป็นปัจจัยโดยจักขุวิญญาณ อาศัย จักขุประสาทเป็นที่เกิด)
3.รูปเป็นอารัมมณปัจจัย กิริยามโนธาตุ (อาวัชชนจิต) เป็นวิคตปัจจัย
(หมายถึง อาวัชชนจิต เป็นปัจจัยโดยการปราศ(ดับ)ไปก่อน จักขุวิญญาณจิตจึงเกิด)
4.อรูปขันธ์ ๓ (เวทนา สัญญา สังขารขันธ์) เป็นสหชาตปัจจัย(เป็นปัจจัยโดยเกิดพร้อมกันดับพร้อมกัน)ของจักขุวิญญาณธาตุ
เพราะฉะนั้น จักขุวิญญาณธาตุนี้จึงชื่อว่าย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย ๔ เหล่านี้.

--------------------

ต่อมา เรามาดูคำที่ สงสัยกันคือ ตชฺชา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

คำแปล ตชฺช


ตชฺช เอิงเรียนถามท่านอาจารย์ ท่านให้ความหมายว่า "ที่เป็นไปโดยอาการนั้น , ที่สมควรแก่สิ่งนั้น , ที่เป็นไปโดยสมควรแก่สิ่งนั้น"

ก็คล้ายๆ กับพจนานุกรมอยู่นะคะ เพื่อนๆ ลองเลือกใช้ดูนะคะว่าคำแปลไหนเหมาะสมที่สุด

ตัว ต ของ ตชฺช  ที่เป็นสรรพนาม แปลว่า สิ่งนั้น (ผู้แปล ต้องเลือกเอาเองว่าจะแปลโดยให้ ต กล่าวถึงอะไร)

-------------------------------------------
ทีนี้เรามาแปลพระบาลีกันค่ะ


ตตฺถ      =  ในธาตุ ๑๘ นั้น
กตมา   จกฺขุวิญฺญาณธาตุ     =  จักขุวิญญาณธาตุ เป็นไฉน
จกฺขุญฺจ   ปฏิจฺจ  รูเป  จ  อุปฺปชฺชติ   =  เกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์
(ถ้าโดยย่อ ก็จบเพียงแค่นี้ แต่ท่านอธิบายขยายความอีกในบรรทัดต่อมา)

จิตฺตํ    มโน    มานสํ   หทยํ   ปณฺฑรํ   มโน   มนายตนํ   มนินฺทฺริยํ วิญฺญาณํ    วิญฺญาณกฺขนฺโธ    ตชฺชา  จกฺขุวิญฺญาณธาตุ
=อันว่า จิต มโน มานัส ปัณฑร มโน มนายตนะ มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์ หรือ จักขุวิญญาณธาตุ ที่สมควรแก่เหตุปัจจัยนั้น(เอิง)

จกฺขุญฺจ   ปฏิจฺจ  รูเป  จ  อุปฺปชฺชติ  = ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์
(เอาบทเหล่านี้มาแปลอีกครั้ง)

แล้วสรุป ปิดท้ายว่า
อยํ   วุจฺจติ จกฺขุวิญฺญาณธาตุ ฯ  = (จิตตํ.....ตชฺชา จกฺขุวิญญาณธาตุ) นี้เรียกว่า จักขุวิญญาณธาตุ




จักขุวิญญาณธาตุ ที่สมควรแก่เหตุปัจจัยนั้น ก็ย้อนกลับไปดูอรรถกถาว่า เหตุปัจจัย ก็มี 4 เหล่า ตามที่อรรถกถาท่านกล่าวมา
ถ้ามีเหตุปัจจัยเหล่านั้นแล้ว จักขุวิญญาณต้องเกิดไม่เกิดไม่ได้ เหมือนที่คุณโอ กล่าวไว้ "เมื่อลืมตาขึ้นแล้ว จะไม่เห็นเป็นไม่ได้" ข้อความสั้นๆ ของคุณโอนั้น มีความนัยที่สนทนากันได้ยาวเลยทีเดียว flower

ถ้าเป็นอิฏฐารมณ์มากระทบ จักขุวิญญาณจิตที่เป็นกุศลวิบากก็เกิดขึ้นรับอารมณ์ ถ้าอนิฏฐารมณ์มากระทบ จักขุวิญญาณจิตที่เป็นอกุศลวิบากก็เกิดรับอารมณ์นั้น




ข้อความ ที่กล่าวถึงจิต คือ "จิตฺตํ    มโน    มานสํ..... " นั้น ก็เป็น ไวพจน์กันกับ "จกฺขุวิญญาณธาตุ"
ตชฺชา เป็น คำขยาย(วิเสสนะ)ของ จกฺขุวิญญาณธาตุ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้





คุณมะม่วง ทราบความหมายและ ตำแหน่งของ "ตชฺชา" แล้ว จะเลือกใช้ความหมายว่า "สมกัน" "สมควร" "เหมาะสม" หรืออะไรดีคะ

สาธุ อนุโมทนากับทุกท่านที่ช่วยกันหาคำตอบนะคะ
ขอบคุณมะม่วงที่ตั้งกระทู้ดีๆ ร่วมกันศึกษาไปด้วยกันนะคะ

pinkrose



ปล. (คำแปลของ ตชฺช นั้น คุณมะม่วงได้ให้ความเห็นว่า น่าจะแปลว่า “เช่นเดียวกัน” (กับ จิตต่างๆ ที่ท่านแสดงก่อนหน้านี้)
(เอิงเห็นว่า ความเห็นของคุณมะม่วงเป็นไปได้ เดี๋ยวขอเวลาทบทวนก่อนนะคะ ว่าจะเห็นด้วยเต็ม 100% หรือไม่นะคะ 😁)

แก้ไข 01/08/66 22:58
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่