กระทู้นี้จากประสบการณ์จริง หรือคนกำลังหาข้อมูลหรือคนกำลังตัดสินใจในการผ่าตัดหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท รพ เอกชน งดดราม่าน้า no sponser ทุกอย่างจ้า
ต้องเกริ่นก่อนว่า เราอายุย่างก้าว 30 ปี ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองแข็งแรงมากไม่เคยป่วยหนักๆ ป่วยเล็กๆก็แทบไม่เคยเลย ด้วยความที่เป็นคนตัวค่อนข้างใหญ่เลยคิดว่าตัวเองแรงเยอะ อึด ถึก ทน ยกของหนักได้แบบเหมือนผู้ชาย ตอนสมัยมัธยมปลายแบก textbook เล่มหนาๆขึ้นรถเมล์ไปเรียนทุกวัน ตอนทำงานอยู่ญี่ปุ่น ก็สามารถแบกข้าว 10 โล เดินได้อย่างชิวๆ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ตอนสมัยเด็กๆมันก็สะสมมาเรื่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ป่วยเป็นโควิด การป่วยโควิดครั้งนี้รู้เลยว่า ร่างกายเราไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เราคิด พอป่วยทีคืออาการหนักเลย แล้วด้วยความที่คิดว่าตัวเองแข็งแรงไม่เคยคิดที่จะซื้อประกันสุขภาพ เพราะคิดมาเสมอว่า เราแข็งแรงจะซื้อไปทำไมเปลืองตังไม่ได้ใช้หรอก แต่พอป่วยเป็นโควิดช่วงที่ระบาดรอบแรก รู้ซึงเลยเพราะไม่มีประกัน จ่ายสดหมดไปเกือบ 3 แสน บาท บอกเลยว่าหน้ามืดเลย นั้นคือจุดเริ่มต้นของการซื้อประกันสุขภาพ (บอกก่อนหน้า ไม่ได้เป็นตัวแทน) แล้วก็ดำรงชีวิตมาอย่างปกติ ทำประกันมาได้เกือบ 2 ปี เกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม หลังกระแทก แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ฟก ชำ ตามขาแขนและหลัง มีอาการปวดหลัง แขน เล็กน้อย หลังเกิดอุบัติเหตุก็ไป X-Ray ตามปกติ ผลออกมากระดูกก็ปกติ ไม่แตกหรือร้าว ก็รักษาตามอาการ กินยา ทายา แต่แล้ว ผ่านไปไม่ถึง 1 เดือน อาการปวดหลังไม่หาย ก็ไปหาหมอ หมอก็ให้กินยา ทายา อาการไม่ดีขึ้นเนื่องจากมีอยู่วันหนึ่ง กำลังเดินอยู่ มีอาการ ปวดหลังแบบจี๊ดที่หลังจนขยับไม่ได้ ต้องรีบคว้าเก้าอี้มานั่งทันที เริ่มรู้ตัวเลยว่ามันไม่ปกติแน่ๆ เลยลองเปลี่ยน โรงพยาบาล ก็ไปเล่าอาการให้คุณหมอฟังรอบนี้มาหาเฉพาะทางกระดูกและข้อเลย เบื้องต้นคุณหมอก็ให้กินยา ทายา ตามสเต็ปเดิม นัดติดตามอาการ 1 เดือน ก็รักษามาเรื่อยๆ ไม่ดีขึ้น ก็ไปหาหมออีก บอกอาการไม่หาย คุณหมอก็เลยให้ไปทำกายภาพ ก็ทำกายภาพ มา 2-3 เดือน (กายภาพที่ทำมามี Shockwave Therapy, Laser Therapy, Ultrasound therapy, Electrotherapy, ดึงหลัง และประคบร้อน) อาการก็เหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ปวดหลังเริ่มไม่ค่อยปวดแล้ว แต่ด้วยลักษณะงานที่เราทำอยู่ตอนนี้คือ พนักงานออฟฟิต นั่งทำงานหน้าคอม คิดว่าอาจจะมีผลทำให้อาการกำเริบ เดาล้วนๆ แล้ววันนึงกำลังขับรถอยู่ ขาขวาชา ขยับไม่ได้ เหยียบเบรกไม่ได้ ตอนนั่นใจหวิวเลย รู้ตัวเลยว่า ไม่ไหวแล้ว อาการกำเริบแน่ๆ รีบไปหาหมอทันที คุณหมอเลยส่งไป X-Ray ผลออกมาปกติ คุณหมอเลยถามเราว่า จะลอง MRI ดูไหม เลยตัดสินใจทำ MRI ทันที ผลออกมาคือ เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และ โพรงเส้นประสาทตีบแคบ บั้นเอวที่ 4-5 ด้านขวา คุณหมอเลยรักษาด้วยวิธีการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงประสาท หลังจากการฉีดยาแล้ว ดีขึ้น อาการปวดหลังหาย อาการชาหาย ตอนนั้นคือดีใจมากๆ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่แล้ว ไม่ถึง 1 เดือน อาการชากลับมาอีก ตอนนี้คือ เดินได้ไม่ถึง 10 นาที ต้องนั่งพัก นั่งทำงานแล้วเจ็บหลังมากๆ เริ่มมีอาการปวดน่องขวา ปวดจนแบบไม่สามารถนอนได้ ตอนนั้นคือทำทุกอย่างทั้งประคบร้อน กายบริหารก่อนนอน ออกกำลังกายเบาๆ ลดอาหาร คุมน้ำหนัก อาการชาเริ่มกลับมา การปวดน่อง ปวดแบบไม่ได้ปวดเมื่อย คนที่เป็นอยู่น่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ เลยเริ่มรู้สึกว่า มันไม่ปกติแล้ว อาการชาเริ่มมาถี่ขึ้น ชาคือจากสะโพกแปร๊บลงมาที่น่อง ปวดบ่อยมากๆ เลยไปหาคุณหมอ เล่าอาการให้คุณหมอฟัง คุณหมอเลยส่งไปให้หมอผ่าตัดส่องกล้องแบบแผลเล็ก ให้ไปปรึกษาคุณหมอดู หลังจากที่คุยกับคุณหมอผ่าตัดแล้วเขาก็แนะนำว่า มาถึงจุดนี้แล้วกินยา กายภาพ ฉีดยา แล้วอาการไม่ดีขึ้น เขาก็แนะนำให้ผ่าตัด ซึ่งโดยปกติแล้ว เขาไม่ค่อยแนะนำผ่าเท่าไรเพราะอายุเรายังน้อย แต่เมื่อรักษามาทุกทางแล้ว ไม่หาย ทางเลือกสุดท้ายก็คือผ่า คุณหมอแนะนำดีมากๆ ให้เวลาตัดสินใจ แนะนำข้อดีข้อเสีย การผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ผ่าตัดแผลเล็ก 1 คืนกลับบ้านได้ เราก็กลับไปศึกษาหาข้อมูลแบบเยอะมากๆ ทั้งคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ หาจาก google ยูทูป ทุกแหล่งเท่าที่จะหาได้ ณ ตอนนั้น สุดท้ายตัดสินใจผ่าตัด เพราะอาการมันมีผลต่อการดำรงชีวิตมากๆ เราผ่าตัดตอนเดือน 2 ปี66 หลังจากผ่าตัด อยากจะตะโกนว่า โอโห้ ชีวิตที่ไม่ปวดหลัง ไม่ชา มันดีแบบนี้นี่เอง (ตอนนั้นคือจำไม่ได้เลยนะว่า ใช้ชีวิตแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน) ผลลัพธ์จากการผ่าครั้งแรก อาการปวดหลัง หายสนิท กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแฮปปี้มากๆ ระหว่างพักฟื้นคือ ระวังตัวไม่ยกของหนัก ไม่ก้ม ไม่นั่งยอง ไม่เอี้ยวตัว ไม่นั่งนาน ระวังตัวมากๆ ก็ follow up หลังผ่า มาได้เข้าเดือนที่ 3 ผ่านไป อาการยังแฮปปี้ คุณหมอบอกเริ่มออกกำลังกายได้ ด้วยความที่พอคุณหมอบอกเริ่มออกกำลังกายได้ ดีใจมาก ก็เริ่มเดินให้นานขึ้น เล่นคาดิโอ ว่ายน้ำ เล่นวนไป พอเริ่มเข้าเดือนที่ 4 อาการมันกลับมาอีกครั้ง เริ่มปวดน่อง ปวดแบบครั้งแรกที่ปวดเลย ปวดจนนอนไม่ได้ เริ่มเอ๊ะ มันแปลกๆนะ ทำไมยังมีอาการอีก เลยรีบมาหาหมอทันที คุณหมอเลยส่ง MRI ทันที ผลออกมาชัดเจน เป็นซ้ำ ที่เดิม จุดเดิม ตำแหน่งเดิม คือ L4,L5 ด้านขวา รอบที่แล้วปลิ้นตรงกลาง รอบนี้ปลิ้นเอียงขวา คุณหมอเลยบอกให้ลองทานยาก่อนดูไหม อาการอาจจะดีขึ้น เลยทานยา ไป 2 อาทิตย์ ไม่ดีขึ้น อาการชา เริ่มมาถี่ขึ้น ตอนนั้นรู้เลยว่า การผ่าตัด ครั้งที่ 2 มีแน่นอน ทำใจมาระดับหนึ่งแล้ว เลยขอข้อมูล ผล X-Ray และ MRI ข้อมูลการรักษาทั้งหมด ไปปรึกษาที่ รพ อื่นๆด้วย ทั้ง รพ เฉพาะทางกระดูกสันหลัง และ รพ เอกชนอีก 1 แห่ง เริ่มศึกษาวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด หรือ วิธีอื่นๆร่วมด้วย หลังจากที่ลองหารพ อื่นๆอีก 2 ที่ ผลออกมาก็คือ การผ่าตัดส่องกล้อง endoscope ทั้ง 2 ที่บอกเหมือนกัน แต่ด้วยเงื่อนไขทั้งระยะทาง ความสะดวก และเงื่อนไขอื่นๆ เลยตัดสินใจกลับมารักษาที่ รพ เอกชนที่เดิมที่เคยผ่ามาครั้งแรก ตอบตกลงนัดวันผ่าครั้งที่ 2 เราผ่าครั้งที่ 2 สดๆร้อนๆเลย เมื่อกลางเดือน 7 ปี 66 ที่ผ่านมา ผ่าเสร็จคือ โล่งนะ โล่งเลย แต่อาการชายังมีอยู่ ซึ่งคุณหมอบอกว่า ตอนผ่าเจอเส้นประสาทงอกมาเพิ่ม 1 ที่ เขาคาดว่าอาการชาน่าจะมาจากตรงนั้นด้วย เลยไปเอาหมอนรองที่มันทับอยู่ออกให้แล้ว ก็เลยกินยาต่อมาอีก 2 อาทิตย์ วันนี้นัดมาล้างแผล อาการปวดหลังหาย แต่ปวดน่องขวายังมีอยู่ เดินได้แค่ 10 นาที ปวดน่องเลย อาการชา ยังมีบ้าง คุณหมอเลยส่งตรวจ EMG (การตรวจระบบประสาทและกล้ามเนื้อ) ตอนนี้คือรอตรวจอีก 2 อาทิตย์ ไว้มาเล่าอาการให้ฟังต่อนะคะ
ปล.กระทู้นี้เกิดจาก ปสก โดยตรงนะ การรักษาที่ผ่านมาบอกได้เลยว่าเกินล้านแล้ว คิดถูกที่ทำประกันสุขภาพไม่งั้นเจ็บตัวแน่ๆ อยากเตือนหลายๆคนว่า นั่งทำงานชาวเราพนักงานออฟฟิต นั่งให้ถูกท่า ขยับร่างกายบ่อยๆ ยกของให้ถูกวิธี ช่วยได้น้า ไว้กระทู้หน้าจะเล่าเรื่องการฉีดยาเข้าโพรงประสาท การกายภาพบำบัด และการผ่าตัดส่องกล้อง แผลใหญ่ไหม บลาๆ สำหรับใครที่เตรียมตัวที่จะรักษา ถามมาได้ค่ะ ปสก โดยตรง อาจจะช่วยแนะนำได้ไม่มากหรือมาแชร์ ปสก กันได้นะคะ
ให้ดูผล mri คร่าวๆ
ตัวหมอนรองกระดูกที่ปลิ้นออกมา
รูปกายภาพที่ทำบางส่วน
มาแชร์ประสบการณ์เป็นหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาท ผ่าตัดส่องกล้อง มาแล้ว 2 ครั้ง
ต้องเกริ่นก่อนว่า เราอายุย่างก้าว 30 ปี ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองแข็งแรงมากไม่เคยป่วยหนักๆ ป่วยเล็กๆก็แทบไม่เคยเลย ด้วยความที่เป็นคนตัวค่อนข้างใหญ่เลยคิดว่าตัวเองแรงเยอะ อึด ถึก ทน ยกของหนักได้แบบเหมือนผู้ชาย ตอนสมัยมัธยมปลายแบก textbook เล่มหนาๆขึ้นรถเมล์ไปเรียนทุกวัน ตอนทำงานอยู่ญี่ปุ่น ก็สามารถแบกข้าว 10 โล เดินได้อย่างชิวๆ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ตอนสมัยเด็กๆมันก็สะสมมาเรื่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ป่วยเป็นโควิด การป่วยโควิดครั้งนี้รู้เลยว่า ร่างกายเราไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เราคิด พอป่วยทีคืออาการหนักเลย แล้วด้วยความที่คิดว่าตัวเองแข็งแรงไม่เคยคิดที่จะซื้อประกันสุขภาพ เพราะคิดมาเสมอว่า เราแข็งแรงจะซื้อไปทำไมเปลืองตังไม่ได้ใช้หรอก แต่พอป่วยเป็นโควิดช่วงที่ระบาดรอบแรก รู้ซึงเลยเพราะไม่มีประกัน จ่ายสดหมดไปเกือบ 3 แสน บาท บอกเลยว่าหน้ามืดเลย นั้นคือจุดเริ่มต้นของการซื้อประกันสุขภาพ (บอกก่อนหน้า ไม่ได้เป็นตัวแทน) แล้วก็ดำรงชีวิตมาอย่างปกติ ทำประกันมาได้เกือบ 2 ปี เกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้ม หลังกระแทก แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ฟก ชำ ตามขาแขนและหลัง มีอาการปวดหลัง แขน เล็กน้อย หลังเกิดอุบัติเหตุก็ไป X-Ray ตามปกติ ผลออกมากระดูกก็ปกติ ไม่แตกหรือร้าว ก็รักษาตามอาการ กินยา ทายา แต่แล้ว ผ่านไปไม่ถึง 1 เดือน อาการปวดหลังไม่หาย ก็ไปหาหมอ หมอก็ให้กินยา ทายา อาการไม่ดีขึ้นเนื่องจากมีอยู่วันหนึ่ง กำลังเดินอยู่ มีอาการ ปวดหลังแบบจี๊ดที่หลังจนขยับไม่ได้ ต้องรีบคว้าเก้าอี้มานั่งทันที เริ่มรู้ตัวเลยว่ามันไม่ปกติแน่ๆ เลยลองเปลี่ยน โรงพยาบาล ก็ไปเล่าอาการให้คุณหมอฟังรอบนี้มาหาเฉพาะทางกระดูกและข้อเลย เบื้องต้นคุณหมอก็ให้กินยา ทายา ตามสเต็ปเดิม นัดติดตามอาการ 1 เดือน ก็รักษามาเรื่อยๆ ไม่ดีขึ้น ก็ไปหาหมออีก บอกอาการไม่หาย คุณหมอก็เลยให้ไปทำกายภาพ ก็ทำกายภาพ มา 2-3 เดือน (กายภาพที่ทำมามี Shockwave Therapy, Laser Therapy, Ultrasound therapy, Electrotherapy, ดึงหลัง และประคบร้อน) อาการก็เหมือนจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ ปวดหลังเริ่มไม่ค่อยปวดแล้ว แต่ด้วยลักษณะงานที่เราทำอยู่ตอนนี้คือ พนักงานออฟฟิต นั่งทำงานหน้าคอม คิดว่าอาจจะมีผลทำให้อาการกำเริบ เดาล้วนๆ แล้ววันนึงกำลังขับรถอยู่ ขาขวาชา ขยับไม่ได้ เหยียบเบรกไม่ได้ ตอนนั่นใจหวิวเลย รู้ตัวเลยว่า ไม่ไหวแล้ว อาการกำเริบแน่ๆ รีบไปหาหมอทันที คุณหมอเลยส่งไป X-Ray ผลออกมาปกติ คุณหมอเลยถามเราว่า จะลอง MRI ดูไหม เลยตัดสินใจทำ MRI ทันที ผลออกมาคือ เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และ โพรงเส้นประสาทตีบแคบ บั้นเอวที่ 4-5 ด้านขวา คุณหมอเลยรักษาด้วยวิธีการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงประสาท หลังจากการฉีดยาแล้ว ดีขึ้น อาการปวดหลังหาย อาการชาหาย ตอนนั้นคือดีใจมากๆ กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่แล้ว ไม่ถึง 1 เดือน อาการชากลับมาอีก ตอนนี้คือ เดินได้ไม่ถึง 10 นาที ต้องนั่งพัก นั่งทำงานแล้วเจ็บหลังมากๆ เริ่มมีอาการปวดน่องขวา ปวดจนแบบไม่สามารถนอนได้ ตอนนั้นคือทำทุกอย่างทั้งประคบร้อน กายบริหารก่อนนอน ออกกำลังกายเบาๆ ลดอาหาร คุมน้ำหนัก อาการชาเริ่มกลับมา การปวดน่อง ปวดแบบไม่ได้ปวดเมื่อย คนที่เป็นอยู่น่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ได้ เลยเริ่มรู้สึกว่า มันไม่ปกติแล้ว อาการชาเริ่มมาถี่ขึ้น ชาคือจากสะโพกแปร๊บลงมาที่น่อง ปวดบ่อยมากๆ เลยไปหาคุณหมอ เล่าอาการให้คุณหมอฟัง คุณหมอเลยส่งไปให้หมอผ่าตัดส่องกล้องแบบแผลเล็ก ให้ไปปรึกษาคุณหมอดู หลังจากที่คุยกับคุณหมอผ่าตัดแล้วเขาก็แนะนำว่า มาถึงจุดนี้แล้วกินยา กายภาพ ฉีดยา แล้วอาการไม่ดีขึ้น เขาก็แนะนำให้ผ่าตัด ซึ่งโดยปกติแล้ว เขาไม่ค่อยแนะนำผ่าเท่าไรเพราะอายุเรายังน้อย แต่เมื่อรักษามาทุกทางแล้ว ไม่หาย ทางเลือกสุดท้ายก็คือผ่า คุณหมอแนะนำดีมากๆ ให้เวลาตัดสินใจ แนะนำข้อดีข้อเสีย การผ่าตัดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ผ่าตัดแผลเล็ก 1 คืนกลับบ้านได้ เราก็กลับไปศึกษาหาข้อมูลแบบเยอะมากๆ ทั้งคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ หาจาก google ยูทูป ทุกแหล่งเท่าที่จะหาได้ ณ ตอนนั้น สุดท้ายตัดสินใจผ่าตัด เพราะอาการมันมีผลต่อการดำรงชีวิตมากๆ เราผ่าตัดตอนเดือน 2 ปี66 หลังจากผ่าตัด อยากจะตะโกนว่า โอโห้ ชีวิตที่ไม่ปวดหลัง ไม่ชา มันดีแบบนี้นี่เอง (ตอนนั้นคือจำไม่ได้เลยนะว่า ใช้ชีวิตแบบคนปกติมันเป็นแบบไหน) ผลลัพธ์จากการผ่าครั้งแรก อาการปวดหลัง หายสนิท กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างแฮปปี้มากๆ ระหว่างพักฟื้นคือ ระวังตัวไม่ยกของหนัก ไม่ก้ม ไม่นั่งยอง ไม่เอี้ยวตัว ไม่นั่งนาน ระวังตัวมากๆ ก็ follow up หลังผ่า มาได้เข้าเดือนที่ 3 ผ่านไป อาการยังแฮปปี้ คุณหมอบอกเริ่มออกกำลังกายได้ ด้วยความที่พอคุณหมอบอกเริ่มออกกำลังกายได้ ดีใจมาก ก็เริ่มเดินให้นานขึ้น เล่นคาดิโอ ว่ายน้ำ เล่นวนไป พอเริ่มเข้าเดือนที่ 4 อาการมันกลับมาอีกครั้ง เริ่มปวดน่อง ปวดแบบครั้งแรกที่ปวดเลย ปวดจนนอนไม่ได้ เริ่มเอ๊ะ มันแปลกๆนะ ทำไมยังมีอาการอีก เลยรีบมาหาหมอทันที คุณหมอเลยส่ง MRI ทันที ผลออกมาชัดเจน เป็นซ้ำ ที่เดิม จุดเดิม ตำแหน่งเดิม คือ L4,L5 ด้านขวา รอบที่แล้วปลิ้นตรงกลาง รอบนี้ปลิ้นเอียงขวา คุณหมอเลยบอกให้ลองทานยาก่อนดูไหม อาการอาจจะดีขึ้น เลยทานยา ไป 2 อาทิตย์ ไม่ดีขึ้น อาการชา เริ่มมาถี่ขึ้น ตอนนั้นรู้เลยว่า การผ่าตัด ครั้งที่ 2 มีแน่นอน ทำใจมาระดับหนึ่งแล้ว เลยขอข้อมูล ผล X-Ray และ MRI ข้อมูลการรักษาทั้งหมด ไปปรึกษาที่ รพ อื่นๆด้วย ทั้ง รพ เฉพาะทางกระดูกสันหลัง และ รพ เอกชนอีก 1 แห่ง เริ่มศึกษาวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด หรือ วิธีอื่นๆร่วมด้วย หลังจากที่ลองหารพ อื่นๆอีก 2 ที่ ผลออกมาก็คือ การผ่าตัดส่องกล้อง endoscope ทั้ง 2 ที่บอกเหมือนกัน แต่ด้วยเงื่อนไขทั้งระยะทาง ความสะดวก และเงื่อนไขอื่นๆ เลยตัดสินใจกลับมารักษาที่ รพ เอกชนที่เดิมที่เคยผ่ามาครั้งแรก ตอบตกลงนัดวันผ่าครั้งที่ 2 เราผ่าครั้งที่ 2 สดๆร้อนๆเลย เมื่อกลางเดือน 7 ปี 66 ที่ผ่านมา ผ่าเสร็จคือ โล่งนะ โล่งเลย แต่อาการชายังมีอยู่ ซึ่งคุณหมอบอกว่า ตอนผ่าเจอเส้นประสาทงอกมาเพิ่ม 1 ที่ เขาคาดว่าอาการชาน่าจะมาจากตรงนั้นด้วย เลยไปเอาหมอนรองที่มันทับอยู่ออกให้แล้ว ก็เลยกินยาต่อมาอีก 2 อาทิตย์ วันนี้นัดมาล้างแผล อาการปวดหลังหาย แต่ปวดน่องขวายังมีอยู่ เดินได้แค่ 10 นาที ปวดน่องเลย อาการชา ยังมีบ้าง คุณหมอเลยส่งตรวจ EMG (การตรวจระบบประสาทและกล้ามเนื้อ) ตอนนี้คือรอตรวจอีก 2 อาทิตย์ ไว้มาเล่าอาการให้ฟังต่อนะคะ
ปล.กระทู้นี้เกิดจาก ปสก โดยตรงนะ การรักษาที่ผ่านมาบอกได้เลยว่าเกินล้านแล้ว คิดถูกที่ทำประกันสุขภาพไม่งั้นเจ็บตัวแน่ๆ อยากเตือนหลายๆคนว่า นั่งทำงานชาวเราพนักงานออฟฟิต นั่งให้ถูกท่า ขยับร่างกายบ่อยๆ ยกของให้ถูกวิธี ช่วยได้น้า ไว้กระทู้หน้าจะเล่าเรื่องการฉีดยาเข้าโพรงประสาท การกายภาพบำบัด และการผ่าตัดส่องกล้อง แผลใหญ่ไหม บลาๆ สำหรับใครที่เตรียมตัวที่จะรักษา ถามมาได้ค่ะ ปสก โดยตรง อาจจะช่วยแนะนำได้ไม่มากหรือมาแชร์ ปสก กันได้นะคะ
ให้ดูผล mri คร่าวๆ
ตัวหมอนรองกระดูกที่ปลิ้นออกมา
รูปกายภาพที่ทำบางส่วน