ผู้เชื่อเทียมเท็จอาจต้องพบกับความวิบัติ

กระทู้นี้ขอกล่าวถึงผู้เชื่อเทียมเท็จเฉพาะในศาสนาคริสต์เท่านั้น

นิยาม  พระเจ้าในที่นี้หมายถึง พระเจ้าผู้ประเสริฐ (พระเจ้าผู้สูงสุด : God)

ปัจจุบันมีความเชื่อเทียมเท็จในศาสนาคริสต์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก  และยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างไม่หยุดหย่อน
ซึ่งเป็นไปตามที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้  ทำให้มนุษย์หลงผิดเป็นจำนวนมหาศาล  เปรียบเหมือนกับเลือดไหลไม่หยุด

คนเป็นจำนวนมากแทนที่จะเดินในทางชอบธรรม  แต่กลับต้องเดินในทางอธรรม
คนเป็นจำนวนมากแทนที่จะมีสันติสุข  แต่กลับต้องพบกับความทุกข์ระทม
คนเป็นจำนวนมากแทนที่จะได้ไปสวรรค์  แต่กลับจะต้องตกนรก

ผมเชื่อว่าผู้เชื่อเทียมเท็จส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าตนเองมีความเชื่อผิด  เพราะว่าถูกสอนและปลูกฝังความเชื่อที่ผิดมาตั้งแต่ต้น
และเชื่อว่าตนเองจะได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์อย่างแน่นอน  แถมยังไปประกาศความเชื่อของตนเองให้แก่ผู้อื่น
ที่สำคัญ มีความเชื่อว่าผู้ที่มีความเชื่อแตกต่างจากตนเองเป็นผู้เชื่อเทียมเท็จ  โดยที่ผู้เชื่อคนนั้นอาจมีความเชื่อถูกต้อง

ผู้เชื่อเทียมเท็จมีลักษณะอย่างไรบ้าง ?

# ความเชื่อเทียมเท็จขั้นพื้นฐาน

1. มีความเชื่อนอกเหนือจากคัมภีร์ไบเบิล โดยยึดถือคัมภีร์อื่นหรือคำสอนอื่นเท่าเทียมกับคัมภีร์ไบเบิล

2. ตีความในคัมภีร์ไบเบิลผิดไปจากวัตถุประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการสื่อสารให้แก่มนุษย์
- เชื่อว่าพระเยซูคริสต์ไม่ได้เท่าเทียมกับพระบิดาในสวรรค์  หรือไม่เชื่อว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า
- เชื่อว่ามีพระผู้ช่วยให้รอดเกิดขึ้นมาใหม่เพิ่มเติมจากพระเยซูคริสต์
- เชื่อว่าเพียงแค่เชื่อพระเจ้าจากใจจริง  ถึงแม้ว่าไม่ได้ประพฤติตามคำสอนของพระเยซูคริสต์ก็ยังจะได้รับความรอด
ซึ่งพระเยซูคริสต์ได้ตรัสสอนว่ามนุษย์จะต้องวางใจในพระเจ้าเท่านั้นจึงจะได้รับความรอด  และยากอบได้บันทึกไว้ว่า
ผู้ที่จะได้รับความรอดไม่เพียงจะต้องเชื่อในพระเจ้าเท่านั้น  แต่จะต้องประพฤติตามคำสอนของพระเยซูคริสต์อีกด้วย

# ความเชื่อเทียมเท็จขั้นสูง

1. กรณีนี้อาจส่งผลไม่มากนัก  แต่ก็ทำให้จิตวิญญาณไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร  เพราะว่าทำให้เกิดความสับสน
หรือเกิดความสงสัยในพระเจ้า และขาดความวางใจในพระเจ้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการได้รับความรอด
- เชื่อว่าข้อความทุกตอนในคัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนขึ้นโดยได้รับการดลใจจากพระเจ้า
ซึ่งผมได้ทำการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีข้อความบางตอนในคัมภีร์ไบเบิลที่ผิด 100% โดยใช้หลักคณิตศาสตร์มาตรวจสอบ
อ้างอิงจาก  อย่าติดกับดักในคัมภีร์ไบเบิล  19 มีนาคม 2566   https://pantip.com/topic/41922452

2. กรณีนี้อาจส่งผลมาก จนทำให้เดินออกจากทางของพระเจ้าก็เป็นได้
- เชื่อว่าการพูดภาษาแปลกๆ ในที่ประชุมโดยที่ไม่มีการแปลนั้น เป็นการทรงนำของพระเจ้า
โดยที่เปาโลได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะต้องมีการแปลด้วยเสมอ  เพื่อให้ผู้อื่นได้ทราบว่าพระเจ้าตรัสอะไรกับพวกเขา
ดังนั้นการที่พูดภาษาแปลกๆ ในที่ประชุมโดยที่ไม่มีการแปล  จึงไม่ได้เป็นการทรงนำของพระเจ้า  ซึ่งตกลงแล้วมาจากใคร ?

ตัวผมเองก็ต้องทำการตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอว่า เรามีความเชื่อเทียมเท็จหรือไม่ ?
เพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ถูกต้องก่อนที่จะสายเกินไป

แล้วตัวท่านได้ตรวจสอบตนเองแล้วหรือยัง ?