นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการผิดปกติ เช่น
- มีความผิดปกติเกี่ยวกับการขับถ่าย เช่น ท้องผูกหรือท้องเสียเป็นประจำ
- มีอาการแน่นท้อง ท้องอืด และปวดท้องร่วมด้วย
- ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน อาจมีสีแดงสดหรือสีแดงคล้ำ มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
- เวลาเบ่งถ่ายอุจจาระ มีติ่งเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนักและมีเลือดออก
- น้ำหนักลดผิดปกติ ร่วมกับมีภาวะซีด อ่อนเพลีย

ควรเข้ารับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หรือคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากโรคนี้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะก่อนเป็นมะเร็ง จะมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ถึง 90%

โดยแพทย์เฉพาะทางแนะนำผู้ที่มีความเสี่ยงทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ซ้ำ ทุก ๆ 5 – 10 ปี  แต่ในบางรายอาจจำเป็นต้องเริ่มตรวจคัดกรองเร็วขึ้นหรือตรวจบ่อยขึ้น เพราะปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง เช่น ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ ผู้ป่วยมีประวัติเกี่ยวกับโรคลำไส้อักเสบ หรือภาวะทางพันธุกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้

ดังนั้นหากมีความเสี่ยงดังกล่าวควรมาพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อซักประวัติ 
และกำหนดตารางการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ที่เหมาะสมตามปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยในแต่ละรายต่อไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นพ. วรัญญู จิรามริทธิ์
ศูนย์ศัลยกรรมลำไส้ใหญ่และทวารหนัก