เริ่มจากครอบครัวเราเลี้ยงมาแบบผิด ๆ คือ พ่อแม่ไม่ได้หย่าร้างใด ๆ แต่แบ่งลูกกันเลี้ยง พ่อเลี้ยงดูเรา ส่วนแม่เลี้ยงดูพี่สาว แต่เราโชคร้ายที่พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เราอายุ 13 ปี (ตอนนี้เราอายุ 40 ปี ) ทำให้เราเติบโตมาเองแบบทุลักทุเล พี่สาวกับเราไม่ถูกกันเลยในตอนเด็ก ทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ พี่สาวเป็นคนเจ้าอารมณ์ อารมณ์รุนแรงอย่างมาก แม่ก็เข้าข้างพี่ตลอด บอกตลอดว่าเป็นน้องต้องยอมพี่ แต่เวลาที่ทะเลาะกันก็สงสารแม่นะคะ เพราะแม่ก็เป็นคนกลาง ต้องเห็นลูกทะเลาะกันตลอด แต่เราก็คิดว่าแม่ก็ไม่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เช่นพูดคุย รักลูกให้เท่าเทียม ไม่ลำเอียง เขาเลี้ยงลูกแปลก ๆ ในสายตาเรา
พี่สาวเรามีลูก 2 คน เป็นลูกคนละพ่อ ตอนนั้นแม่เราต้องสร้างบ้านให้ใหม่ในที่ดินเดียวกันนี่แหล่ะ เพราะเราไม่สามารถอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวได้
..แม่ก็ให้เราเลือกระหว่างจะเอาบ้านใหม่ที่กำลังจะสร้าง หรือ เลือกบ้านเก่าที่มีอยู่ (ข้างล่างปูน ข้างบ้านไม้) และจะให้เงินที่พ่อทิ้งไว้ประมาณ 500,000 บาท เราเลือกอยู่บ้านเก่าแล้วเอาเงิน จะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แม่บอกว่าเงินหมดแล้ว แกขอเงินเก็บที่จะให้เราได้ไหม เราเห็นว่าเงินทองเป็นของนอกกาย ( ไม่ใช้เงินที่เราสร้างมาด้วย เลยไม่ซีเรียส ) เลยบอกแม่ว่าเอาไปเลย เราไม่เอา ( เราก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกนะ ) สรุปก็อยู่บ้านหลังเก่าที่เมื่อไม่นานก็ต้องซ่อมไปเกือบแสน เพราะไม้บนบ้านผุ อ่าาา!!!! ต่อค่ะ พี่สาวอยู่บ้านใหม่ที่มีแค่ 2 ห้องนอน พอมาตอนนี้หลานเริ่มโต ก็เริ่มอยากมีห้องส่วนตัว เขาก็มาขอห้องที่บ้านเรา 1 ห้อง เพื่อขยับขยาย เราก็ไห้เพราะมีห้องเหลืออยู่ แต่!!! ไม่พอนะ สักพักมาขออีกห้อง เราเริ่มรู้สึกตอนนี้แหล่ะค่ะ ว่ามันเกินไปไหม คือ ถ้าเป็นเรานะ ก็คงต้องพยายาม เพราะปัญหาเป็นเรื่องของลูกเขา (เราคงต้องต่อเติมห้องอีกสักห้องให้ลูก) แต่พี่สาวก็ได้แต่ด่าเราว่าเราเห็นแก่ตัว เรารู้สึกว่าให้ไม่รู้เท่าไรแล้ว เรื่องลูกคนโตเขาเราก็ช่วยค่าใช้จ่ายตอนเรียน ป.ตรี ตลอด ปัญหาอีกหลาย ๆ เรื่องที่ไม่ได้กล่าวอีก
ก่อนหน้านี้เราได้แยกตัวไปอยู่กับสามีอีกบ้าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่มันอยู่นอกเมือง แต่ก็เหมือนความสัมพันธ์มันจะดีขึ้น เพราะมันอยู่ไกลกันนี่แหล่ะ แต่พี่สาวเราก็แอบว่าเราว่าไม่ได้อยู่ดูแลแม่เหมือนกัน แต่เราเข้าบ้านทุกอาทิตย์นะ จนมาช่วงโควิดแหล่ะ เราไม่ได้เข้าเท่าไร เขาก็ได้เข้ามาเริ่มอยู่ในบ้านเรา เอาของมาเก็บบ้านเรา เพราะเขาว่าบ้านเขาเล็ก ฝากของหน่อยไม่ได้หรือ???
(พี่เราเป็นคนชอบซื้อของมาก ชอบเก็บของมาก ไม่ได้ใช้ ขอให้เก็บ แต่ก็ไม่ยอมเก็บในบ้านตัวเองนะ จนบ้านเรารกมาก )
จนตอนนี้เรามีความจำเป็นเรื่องการเดินทางมาทำงานเพราะอยู่บ้านสะดวกกว่าและเราคิดว่าแม่แก่แล้วอยากไปดูแลแก (พอเราไม่ไปอยู่ ก็เหมือนอยากให้ไปอยู่ แต่พอจะกลับมาอยู่ก็เหมือนเขาไม่โอเคกัน ) และตอนนี้ทั้งแม่และพี่ ก็แอบว่าเรา เหมือนไม่อยากให้กลับมาอยู่ เพราะเราบ่นเขาแหล่ะ
ตอนนี้เราคิดมากไปหมดแล้ว คิดไม่ตก นี่คิดถึงขั้นว่า เราควรไปอยู่ของเรากับสามีเองเลยไหม ไม่ส่งเสียใครทั้งนั้นแล้ว?? ตัดขาดจากบ้านที่เป็นสมบัติของพ่อ สถานที่สะดวกติดรถไฟฟ้า สะดวกต่อการเดินทางมาก หรือ เอาไงดี คิดไม่ตกเลยค่ะ
ไม่ถูกกับพี่สาว แม่ก็ไม่รัก เราควรทำไงต่อไปดี ???
พี่สาวเรามีลูก 2 คน เป็นลูกคนละพ่อ ตอนนั้นแม่เราต้องสร้างบ้านให้ใหม่ในที่ดินเดียวกันนี่แหล่ะ เพราะเราไม่สามารถอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวได้
..แม่ก็ให้เราเลือกระหว่างจะเอาบ้านใหม่ที่กำลังจะสร้าง หรือ เลือกบ้านเก่าที่มีอยู่ (ข้างล่างปูน ข้างบ้านไม้) และจะให้เงินที่พ่อทิ้งไว้ประมาณ 500,000 บาท เราเลือกอยู่บ้านเก่าแล้วเอาเงิน จะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แม่บอกว่าเงินหมดแล้ว แกขอเงินเก็บที่จะให้เราได้ไหม เราเห็นว่าเงินทองเป็นของนอกกาย ( ไม่ใช้เงินที่เราสร้างมาด้วย เลยไม่ซีเรียส ) เลยบอกแม่ว่าเอาไปเลย เราไม่เอา ( เราก็รู้สึกเหมือนโดนหลอกนะ ) สรุปก็อยู่บ้านหลังเก่าที่เมื่อไม่นานก็ต้องซ่อมไปเกือบแสน เพราะไม้บนบ้านผุ อ่าาา!!!! ต่อค่ะ พี่สาวอยู่บ้านใหม่ที่มีแค่ 2 ห้องนอน พอมาตอนนี้หลานเริ่มโต ก็เริ่มอยากมีห้องส่วนตัว เขาก็มาขอห้องที่บ้านเรา 1 ห้อง เพื่อขยับขยาย เราก็ไห้เพราะมีห้องเหลืออยู่ แต่!!! ไม่พอนะ สักพักมาขออีกห้อง เราเริ่มรู้สึกตอนนี้แหล่ะค่ะ ว่ามันเกินไปไหม คือ ถ้าเป็นเรานะ ก็คงต้องพยายาม เพราะปัญหาเป็นเรื่องของลูกเขา (เราคงต้องต่อเติมห้องอีกสักห้องให้ลูก) แต่พี่สาวก็ได้แต่ด่าเราว่าเราเห็นแก่ตัว เรารู้สึกว่าให้ไม่รู้เท่าไรแล้ว เรื่องลูกคนโตเขาเราก็ช่วยค่าใช้จ่ายตอนเรียน ป.ตรี ตลอด ปัญหาอีกหลาย ๆ เรื่องที่ไม่ได้กล่าวอีก
ก่อนหน้านี้เราได้แยกตัวไปอยู่กับสามีอีกบ้าน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่มันอยู่นอกเมือง แต่ก็เหมือนความสัมพันธ์มันจะดีขึ้น เพราะมันอยู่ไกลกันนี่แหล่ะ แต่พี่สาวเราก็แอบว่าเราว่าไม่ได้อยู่ดูแลแม่เหมือนกัน แต่เราเข้าบ้านทุกอาทิตย์นะ จนมาช่วงโควิดแหล่ะ เราไม่ได้เข้าเท่าไร เขาก็ได้เข้ามาเริ่มอยู่ในบ้านเรา เอาของมาเก็บบ้านเรา เพราะเขาว่าบ้านเขาเล็ก ฝากของหน่อยไม่ได้หรือ???
(พี่เราเป็นคนชอบซื้อของมาก ชอบเก็บของมาก ไม่ได้ใช้ ขอให้เก็บ แต่ก็ไม่ยอมเก็บในบ้านตัวเองนะ จนบ้านเรารกมาก )
จนตอนนี้เรามีความจำเป็นเรื่องการเดินทางมาทำงานเพราะอยู่บ้านสะดวกกว่าและเราคิดว่าแม่แก่แล้วอยากไปดูแลแก (พอเราไม่ไปอยู่ ก็เหมือนอยากให้ไปอยู่ แต่พอจะกลับมาอยู่ก็เหมือนเขาไม่โอเคกัน ) และตอนนี้ทั้งแม่และพี่ ก็แอบว่าเรา เหมือนไม่อยากให้กลับมาอยู่ เพราะเราบ่นเขาแหล่ะ
ตอนนี้เราคิดมากไปหมดแล้ว คิดไม่ตก นี่คิดถึงขั้นว่า เราควรไปอยู่ของเรากับสามีเองเลยไหม ไม่ส่งเสียใครทั้งนั้นแล้ว?? ตัดขาดจากบ้านที่เป็นสมบัติของพ่อ สถานที่สะดวกติดรถไฟฟ้า สะดวกต่อการเดินทางมาก หรือ เอาไงดี คิดไม่ตกเลยค่ะ