รีวิวเทศกาลหนังธีซิสของคณะวารสาร ธรรมศาสตร์ ที่สมาคมฝรั่งเศส 2023

#Coreหนัง2023

ส่วนที่ 1 เล่าเรื่องปัญหาและตอนเข้างาน
   
    สวัสดีครับ ผมได้มีโอกาสไปดูเทศกาลฉายหนังสั้นธีสิสของ นศ. คณะวารสาร ธรรมศาสตร์ ที่สมาคมฝรั่งเศส โดยงานจัดสองวัน 15~16 เสาร์ อาทิตย์ วันละ 3 โปรแกรม โปรแกรมละ 3~4 เรื่อง ผมเลือกไปดูวันเสาร์รอบแรก หลังจากลง mrt ลุมพีนี และดู google map แบบ งง ความรู้สึกแรกเลย คือนั้นใช่ทางเข้าจริงๆมั้ยเนี้ย เนื่องด้วยว่าทางเข้าเป็นซอยระหว่างไซต์ก่อสร้างคอนโดมิเนียม และกำแพง สถานทูตออสเตรเลีย มีวินมอเตอร์ไซต์วางขว้างหน้าอยู่ ต้องขอบคุณพี่วินที่บอกทาง จนผมสามารถไปถึงก่อนที่จะปิดลงทะเบียน ผมรีบวิ่งพองานเปิดลงทะเบียน 11:00 ถึงก่อนหนังฉาย 15 นาที ก่อนหนังฉาย โดยความที่ผมอยากไปดูรอบแรกที่มีหนังที่เพื่อนผมเล่น แต่กลับผิดหวัง เพราะเมื่อผมไปถึงเจอเพื่อนในคณะเดียวกันของผมที่ไปดูงาน บอกว่าที่นั่งเต็มตั้งแต่ ครึ่งชั่วโมงแรก ผมหัวเสียนิดหน่อย ที่อุสามาตั้งไกลแต่ก็ลืมคิดไปว่าคนจะเยอะแบบนี้ ตอนมาผมต่อแถวรอรอบโปรแกรมสอง ที่จะฉายในเวลา 14:25 ผมแปลกใจกับวิธีการจัดเตรียมแถวคนเยอะเข้าคิวเพราะมันเป็นแถวที่ขดเคี้ยวและงงงวยมาก555 คุณป้าข้างบ้านด้านหลังผมก็ชอบเร่งให้เดินกลัวบัตรหมด ผมแปลกใจว่าทำไม ม. ที่เตรียมงานแบบนี้ แต่ผมถามเพื่อนที่ ธรรมศาสตร์ เขาบอกว่าเหมือนจะเป็นที่สมาคมจัดการไม่ใช่ ม. อันนี้ก็ไม่มั่นใจ ผมได้บัตร ทันก่อนที่อีกไม่ถึงสิบนาทีหลังจากแถวผม จะหมดลง เพื่อนผมตอนแรกเหมือนจะไม่ได้ดู แต่ผมก็ขอชมเชยทีมงาน นศ. ที่จัดให้สามารถนั่งดู ตรงบรรไดทางขึ้นในโรงหนังได้ เพื่อนผมเลยได้ดู เกริ่นในสิ่งที่ไม่จำเป็นมายาวพอควรละ ประเด็นคือผมแค่อยากเล่าเก็บไว้เฉยๆ แต่จริงๆผมจะมารีวิวหนัง!! ของโปรแกรมสองของวันเสาร์ที่ 15 สามเรื่องชื่อ How we say good bye, Family portrait,และ นครสีชาด ตามลำดับ
 
ส่วนที่ 2 รีวิวหนังสั้น
     
     How we say good bye.
เนื่องเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปเรียนต่างประเทศของเพื่อนหญิง และการบอกลาความทรงจำที่ผ่านมาในระหว่างวัยเรียน ถึงแม้จะเดินเรื่องได้ช้าตามสไตล์หนังอาร์ตๆ บางทีก็เนิบๆ แต่ผมเข้าใจถึงแมสเสจที่ผู้สร้างจะสื่อนะครับ ทำเอานึกถึงการที่ต้องจากลาจากวัยเรียนที่ซึ่งเป็นวัยที่ดีที่สุดในชีวิต ซีนร้องไห้บอกลาระหว่างเพื่อนตอนไปส่งสนามบินผมรู้สึกว่านักแสดงเล่นดีมากเลยครับ 
     Family portrait
การทำโปรเจคถ่ายภาพครอบครัวของ นศ.ชายที่ไม่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัวนาน เรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามีความประณีตในการงานสร้างอยู่นะครับ ทั้งองค์ประกอบสีชุดเสื้อผ้าของพ่อแม่และลูก สัญญะ มูดแอนโทน และการเล่าเรื่องที่เป็นธรรมชาติสามารถเล่าให้จบได้ภายในเวลาสั้นๆ น่ายกย่องมากเลยนะครับ
    นครสีชาด
จากสองเรื่องที่เป็นแนวดราม่าอบอุ่นหัวใจ ก็ปิดท้ายโปรแกรมสองด้วยหนัง thriller กระตุ้นขวัญ ผมชอบคอนเซ็ปท์เรื่องนี้ที่สุดนะครับ ผมชอบการกล้าที่จะนำเสนอแนวทางใหม่ๆของหนังสั้น ปืน เด็ก ความมืด และความรุนแรงที่กล้าเล่นผมเข้าใจถึงแกนเรื่องของความชายเป็นใหญ่หรือการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น ผมเข้าใจดีเลย แต่สิ่งที่น่าเป็นข้อสังเกตหรือติหน่อยๆ คือ เสียงครับ ผมรู้สึกว่าหนังสั้นเรื่องนี้ใส่เสียงประกอบและปรับได้ดังเกินไป ผมไม่รู้ว่าเป็นที่โรงหนังหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่ามันออกจะกวนใจมากกว่าระทึกขวัญมากกว่า แต่เองไงผมก็ชอบโทนและการนำเสนอแนวใหม่ๆครับ
   สุดท้ายนี้ผมก็ขอขอบคุณทีมงานทุกคนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังที่ได้ทำหนังสั้นและสามารถจัดฉายที่โรงได้ เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากการดูหนังใหญ่ตามโรงทั่วไป เสียงโฮ่ร้องและเสียงหัวเราะของทีมงานที่ทำหนังที่ได้นั่งดูในโรงหนังด้วยกันในวันฉาย เสียงประมาณ เห็นชื่อกูป่ะนี้ๆตรงนี้กูเล่นเครดิตชื่อเพื่อนกู เป็นความอบอุ่นและความรู้สึกร่วมที่ผมอิน ในฐานะที่ผมเป็นนักศึกษาวิชาภาพยนตร์(ปัจจุบันปีสองละครับ) ผมก็หวังว่าวันหนึ่งผมจะได้มีผมโอกาสนั่งดูหนังที่ผมทำและมีความสุขไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้ทีมงานทั้งหมดและอวยพรให้ประสบผลสำเร็จในวงการต่อไปนะครับ 😎
 
 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่