ด้วยความอึดอัด

ด้วยความอึดอัด
โพสนี้ โพสด้วยความอึดอัด ด้วยความเป็นคนนอก และด้วยความที่ทำอะไรๆ ไม่ได้เลยจริง สมัครสมาชิก Pantip เพราะไม่รู้จะระบายกับใครดี
 
          เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ไม่กี่วันก่อนมีต่างด้าวแม่-ลูกสาว 3 ขวบ โดนรวบตัว พร้อมของกลางเป็นเงินมากกว่าล้าน  และพี่ชายแท้ของต่างด้าวพอรู้เรื่องก็ไปตามที่สถานีทันที แต่ตอนเย็นก็ยังไม่ได้กลับมา แม่บ้านเราซึ่งก็เป็นต่างด้าว และเป็นลูกพี่ลูกน้องของทั้งคู่พอรู้เรื่องก็ขอให้แฟนเราพาไปดูที่โรงพักหน่อย 
 ตอนแรกไอ้เราก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวกับเขาเลยฟังจากแม่บ้านอย่างเดียวว่า น้องสาวลูกพี่ลูกน้องเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ญาติต่างรวมกันและขายที่ดินที่บ้าน(ต่างประเทศ) รวมเงินกันได้ตังค์ล้านกว่าบาท เพื่อส่งตัวผู้หญิงคนนี้มารักษาที่เมืองไทย มากับลูกสาวอายุ 3 ขวบ มาทางช่องทางธรรมชาติ ไม่มีบัตรด้วย มาถึงเมื่อวานเย็น วันนี้ช่วงบ่ายๆ โดยตำรวจจับตัวไป สงสัยเขาจับเพราะไม่มีบัตร พี่ชายไปตามหาก็ยังไม่ได้กลับมา  แฟนเราก็พาแม่บ้านไปโรงพักทั้งกลางคืนนั้นเลย พากันไปตามหา กว่าจะกลับมาก็เกือบเที่ยงคืน

           ตอนแรกเราก็นึกว่าโดนจับเพราะไม่มีบัตร เขาถือตังค์เยอะมาก มีพิรุธหรือเปล่า แฟนเลยเล่าว่า ไปโรงพัก หาทั่วก็ไม่เจอ จนไปคุยกับนายตำรวจคนหนึ่งบอกว่าคนต่างต้าวที่ถือตังค์เยอะๆ เขาเลยบอกว่าอาจอยู่ที่ห้องสืบ เลยไปดูก็เจอจริงๆ ตอนแรกเขาดูเหมือนจะไม่ได้อยากปล่อยตัว แต่คนป่วยที่เดินแทบจะไม่ไหว และเด็ก 3 ขวบ เราก็ห่วงเด็ก และจะขอเด็กมาดูแลก่อน คุยไปคุยมา เขาก็ปล่อยตัวมาหมดเลย ทั้งคนป่วย เด็ก 3ขวบ และพี่ชายที่เขาไปตามหา แต่ไม่ได้คืนเงิน เขาบอกยึดเงินเป็นของกลาง จะตรวจดูที่มาก่อน

             แม่บ้านเราก็เล่าให้เขาฟังว่าเงินมาจากการขายที่ดินและญาตๆ รวมกันมาให้คนป่วยมารักษาตัว แต่ตำรวจขอให้เอาหลักฐานมายืนยันพรุ่งนี้
แฟนเราเลยเข้าไปคุยรายละเอียดกับหมวดแถวนั้นพอจะได้ข้อมูลเลาๆ ว่า ห้องที่คนป่วยและเด็กพักอยู่เป็นห้องที่มีผู้ต้องสงสัยพักอยู่ พอเห็นคนมาเลยเข้ารวบตัวและตรวจสอบ พบเงินสดเยอะสงสัยจะเกี่ยวกับคดีค้ามนุษย์ หรือยาเสพติด อะไรประมาณนี้
             แม่บ้านเลยโทรถามคนแถวๆห้อง คนที่รู้จักบอกว่า ห้องที่คนป่วยอยู่เป็นน้องชายเขาเช่าไว้กับแฟน แต่มีคดีรถระเบิดเมื่อวันก่อน ชื่อรถเป็นของคนนี้ และตำรวจตามตัว ตอนแรกก็จับไปแต่ก็ให้ประกันตัวมา พอมาแล้วน้องชายคนนี้ก็หนีกลับบ้าน(ต่างประเทศไปแล้ว)สวนทางกับพี่สาวที่มาพักที่ห้องนี้พอดี โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย
              เช้าวันต่อมาแม่บ้านเราและพี่ชายเลยพากันเอาหลักฐานการขายที่ซึ่งเป็นภาษาบ้านเขาไปให้ตำรวจดู ตำรวจก็บอกว่าอันนี้ไม่เกี่ยวกัน ต้องให้เจ้าของห้องมาเซ็นเอาเงินคืน  เพราะน้องชายมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ไอเราก็คิด อ้าวถ้าให้น้องชายมาเซ็นรับเงินนี่ก็เป็นเงินยาเสพติดทันทีสิ แล้วคนป่วยจะทำยังไง สงสารจริงๆ ตั้งใจมารับการรักษาก็ไม่ได้รักษา ต้องรอเงินตรงนี้ อาการก็ทรุดเพราะเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย และลามมาที่ขาแล้ว จะยืนยังแทบไม่ไหว ต้องมารอขั้นตอนราชการอีกเยอะเยอะมากมาย
              แฟนเราก็พยายามจะช่วยขอให้เขาได้เงินมาสักหน่อยเบื้องต้นก็ดี จะได้นำตัวส่งโรงพยาบาลก่อน ไอ้เราถ้ามีเงินก็อยากช่วยเขาก่อน แฟนก็เลยโทรหาผู้ใหญ่แถวๆ นั้นดูว่าพอจะมีใครช่วยคนป่วยดำเนินเรื่องก่อนได้บ้าง พอคุยรายละเอียดไปๆ มา เขาก็บอกมาว่า มีคำถาม 2 คำที่ต้องการคำตอบในเรื่องเงินตรงนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมืองนะ อันนั้นเป็นเรื่องรอง แต่เงินล้านกว่าเยอะมาก และมีข้อสงสัยที่มีเหตุอยู่ คือ
1.      ที่มาของเงิน มาจากไหน
2.      แล้วแปลงเป็นเงินไทยได้ยังไง
ถ้าหาหลักฐานและตอบคำถาม 2 ข้อนี้ได้ ได้เงินคืนร้อยเปอร์เซ็น
              แฟนเราถามคำถาม 2 คำถามนี้แม่บ้าน   แม่บ้านก็ตอบทันที ก็นี่ไงหลักฐานการขายที่ แต่ตำรวจเขาบอกหลักฐานนี้ใช้ไม่ได้  และคนบ้านเขาก็รู้ว่ามาเมืองไทย จะมีนายหน้าให้แลกเงิน เขาไม่รู้หรอกนายหน้าเอาเงินมาจากไหน  (ตอนนี้ใจแม่บ้านเริ่มห่อเหี่ยวเสียดายเงิน คิดว่าไม่ได้เงินคืนแน่ๆ )  จะให้นายหน้ามาช่วยยืนยันก็เป็นไปไม่ได้ เขาก็กลัวจะเข้าตัวโดนตรวจสอบ
             แฟนเราว่าถ้านายหน้าเอาเงินผิดกฎหมายมา มันก็เหมือนเป็นการฟอกเงิน โอกาสได้เงินคืนก็ยาก
             แฟนเราก็โทรปรึกษาผู้ใหญ่แจ้งเรื่องประเด็นนี้ ผู้ใหญ่ท่านก็อยากช่วย พยายามแนะนำให้ญาติที่เกี่ยวข้องโดยตรงออกตัว และให้นายจ้างไปด้วย ลองไปคุยกับรองผู้กำกับสิ เพราะเรื่องนี้น่าจะยังไม่ถึงระดับผู้ใหญ่(กลัวว่าเวลานานไปเงินจะสลายไปกับเวลา) แม่บ้านคุยกับพี่ชายคนป่วย บอกว่าวันที่ไปวันแรกเขาก็โดนหนักเหมือนกัน ยังกลัวไม่หาย ถ้าแฟนเรากับแม่บ้านไม่ไปไม่รู้จะโดนซ้อมหรือเปล่า ไม่กล้าไปแล้ว ปรึกษาเจ้านาย เจ้านายก็กลัวเหมือนกัน
                ผ่านมาวันที่ 4 ตำรวจเรียกทั้งแม่บ้าน คนป่วย และพี่ชาย และแฟนคนป่วย(แม่บ้านบอกว่าคนนี้อ้างเป็นแฟน เพราะอยากช่วย แฟนจริงๆ เลิกไปแล้ว) ไปคุยรายละเอียดและให้เซ็นเอกสารอะไรไม่รู้ (แม่บ้านบอกเขาให้เซ็น ไม่ได้อ่านให้ฟัง) หลังจากกลับมา ทุกคนคิดว่าน่าจะไม่ได้เงินคืนแล้ว คนป่วยก็ถอดใจ และอาการไม่ค่อยดี(เราคิดว่าอาจจะเครียด กดดัน) เลยอยากกลับไปตายที่บ้าน แฟนคนป่วย (คนที่อ้างว่าเป็นแฟน)ก็เลยเช่ารถพากลับชายแดนวันนั้นเลย
              ผู้ใหญ่ที่แฟนเราโทรปรึกษา ก็พยายามตามเรื่องถามว่าเป็นยังไงบ้าง พยายามหาผู้ติดต่อมูลนิธิต่างๆ เข้าช่วย แต่ต่างด้าวกลัวไปหมด ไม่กล้าทำอะไร ใครจะไปรู้ว่าขายที่ดินที่บ้านหมดทั้งตระกูล แต่ต้องเสียเงินไปเปล่าๆ อย่างนี้ ป่วยระยะสุดท้ายก็ยังไม่ได้รักษา มาและก็กลับไปอย่างเปล่าๆ ปลี้ๆ 
เราในฐานะคนนอก นอกจากจะเห็นใจแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง ช่วยประสานงานหลายๆ ที่ให้ได้เท่านั้น แต่ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ สงสารจริงๆ  สรุปแล้ว เงินนี้จะไปไหน ยังไม่มีใครรู้เลย  ถ้าเงินนี้ไปอยู่ที่ใคร เราก็คิดว่าเป็นเงินที่บาป เอามาจากคนใกล้ตาย เอาความหวังของคนป่วยไป 
อึดอัดใจจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่