จักรยานที่ผมใช้คือ Chevrolet พับได้ ล้อ 20" 6 speed
รูปแบบการใช้งาน
ใช้ปั่นเล่น เดินทางระยะกลางๆ หรือใกล้ๆ ไม่เกิน 10 กิโล เป็นส่วนใหญ่
ใช้ปั่นออกกำลังกายบ้างนานๆ ครั้ง (ประมาณ 40 กิโล)
มีพับเพื่อเข็นไปขึ้น BTS, MRT บ้าง ในบางวันหยุดครับ วันธรรมดาคนเยอะ ไม่เอาไป เพราะจะเกะกะคนอื่นครับ
ลักษณะการแต่ง
เน้นเผื่อพกพาของเล็กๆ โดยที่ยังคงความสามารถพับได้ และเข็นได้อยู่ครับ
ของที่ใช้แต่ง
ที่แฮนด์หน้า จะมีไฟหน้า กระเป๋าสะพาย และสายล็อคจักรยาน (มีรีโมทควบคุมไฟท้ายด้วย ให้แสดงสัญลักษณ์ เลี้ยว ซ้าย-ขวา หรือแต๊ะไฟกระพริบ)
สายล็อคจักรยานเวลาปั่นก็เอาไปล็อคกระเป๋าครับ พอถึงที่จอดจักรยานก็เอากระเป๋าติดตัวไป แล้วเอาสายล็อคไปล็อคจักรยานตามปกติ
เบาะจะติดไฟท้ายไว้ อยู่ตรงตูด เพราะสะดวกในการปิดเปิด คนตามหลังมาก็จะเห็นด้วยครับ ติดใต้อานไม่ได้เนื่องจากตะกร้าและกระเป๋าที่เอาไว้ใส่ของมันบังครับ ยกเว้นจะไม่เอาตะกร้ากับกระเป๋าท้ายมาด้วย ถึงไปติดใต้อาน แล้วก็มีสายรัดเส้นนึง เอาไว้รัดตอนพับเพื่อยึดให้ที่พับไว้ไม่หลุด
ส่วนด้านท้ายจะมี ตะแกรง ติดเบาะหลังเอาไว้ มีที่พักเท้าด้านซ้ายแบบแท่ง ส่วนด้านขวาจะเป็นแบบพับได้ ที่ใช้ต่างกัน เพราะด้านซ้ายเอาไว้ค้ำตะเกียบล้อหน้าตอนพับ ส่วนด้านขวาติดไว้เผื่อวางเท้า และเวลาที่ต้องพับเก็บจะได้ไม่ยื่นออกมาครับ
ส่วนบนเบาะจะเป็นตระกร้าพับได้ติดไว้หลังแนวดุมล้อหลังเพื่อให้ไม่เกะกะเวลาปั่นครับ ถ้าติดลึกไปบางทีเวลาปั่น ส้นเท้าจะไปโดน และเวลาใส่กระเป๋าจะดึงออกจากตะกร้ายาก เพราะติดเบาะครับ ตะแกรงหลังมีตำแหน่งติดเม็ดทับทิม เมื่อก่อนก็ติดไฟท้ายตรงนั้นครับ แต่ชอบลืมปิด
ขั้นตอนการพับเพื่อเข็น
1. กางขาตั้งออกมา
2. บิดแฮนด์ทวนเข็มนาฬิกา 180 องศา เพื่อให้แฮนด์กลับด้าน (ถ้าคันอื่นบิดไม่ได้ก็ไม่ต้องบิดครับ ที่บิดเพราะเวลาพับเพื่อเข็น แฮนด์จะอยู่ด้านปกติ ไม่ได้กลับข้างครับ)
3. กดหลักคานอานลงให้ปลายอยู่ระพับเดียวกับขาตั้ง เมื่อรถตั้งตรง (เอาไว้ช่วยค้ำ รถจะได้ตั้งได้ไม่ล้มง่ายครับ)
4. ปลดล็อคกลางจักรยานแล้วพับครึ่ง
5. สอดดุมล้อหน้า ไปที่แกนของที่พักเท้าด้านซ้าย เพื่อล็อคตำแหน่งให้ล้อหน้ากับหลังขนานกันครับ ถ้าไม่มีที่พักเท้า ดุมล้อหน้าเวลาพับ จะอยู่เลย ดุมล้อหลังมานิดหน่อยครับ พอมีที่พักเท้ามาค้ำแล้วกางออก จะอยู่ในตำแหน่งเกือบตรงกันครับ ดุมล้อหน้าผม เกลียวมันเล็กกว่าของล้อหลังด้วย เลยเกือบสอดเข้ารูอีกด้านของที่พักเท้าได้ เลยเอาตะไบลบเกลียวด้านในที่พักเท้าให้สามารถสอดและดึงออกได้
6. เอาสายรัด รัดโครงหน้ากับตะแกรงหลัง ไม่ให้หลุดออกจากกันเวลาเข็น
7.กำเบร็คเพื่อให้ล้อไม่หมุนฟรีแล้วดึงมาด้านหลังในองศาที่พร้อมเข็น แล้วค่อยปล่อยเบร็ค แล้วเข็นไปด้านหน้าครับ
*เพิ่มเติม
รูปถ่ายด้านหน้า จะเห็นว่าขาตั้งจะช่วยค้ำอีกด้าน ให้เกือบสมดุล รถจะล้มยากขึ้นมากกว่าการใช้หลักอานค้ำอย่างเดียว
เวลาเข้ารถไฟฟ้าก็แค่หันหน้าไปด้านหัวหรือท้าย แล้วเอามือประคองนิดหน่อยไม่ต้องออกแรงเยอะครับ ถ้าใช้หลักอานค้ำอย่างเดียว จะชอบล้มด้านมุมขาตั้งชี้ไปครับเวลามีบางช่วยที่รถไฟฟ้าส่าย
เวลาไปเดินห้างก็แค่เอากระเป๋าของมีค่าติดตัวออกไป แล้วล็อคจักรยานไว้ตรงที่จอดครับ
ของบางอย่างใส่ได้แต่พับไม่ได้ หรือเข็นไม่ได้ครับ เดี๋ยวว่างจะมาเม้นต์เพิ่มเติมครับ
มาแชร์ไอเดียการแต่งจักรยานพับกันครับ
รูปแบบการใช้งาน
ใช้ปั่นเล่น เดินทางระยะกลางๆ หรือใกล้ๆ ไม่เกิน 10 กิโล เป็นส่วนใหญ่
ใช้ปั่นออกกำลังกายบ้างนานๆ ครั้ง (ประมาณ 40 กิโล)
มีพับเพื่อเข็นไปขึ้น BTS, MRT บ้าง ในบางวันหยุดครับ วันธรรมดาคนเยอะ ไม่เอาไป เพราะจะเกะกะคนอื่นครับ
ลักษณะการแต่ง
เน้นเผื่อพกพาของเล็กๆ โดยที่ยังคงความสามารถพับได้ และเข็นได้อยู่ครับ
ของที่ใช้แต่ง
ที่แฮนด์หน้า จะมีไฟหน้า กระเป๋าสะพาย และสายล็อคจักรยาน (มีรีโมทควบคุมไฟท้ายด้วย ให้แสดงสัญลักษณ์ เลี้ยว ซ้าย-ขวา หรือแต๊ะไฟกระพริบ)
สายล็อคจักรยานเวลาปั่นก็เอาไปล็อคกระเป๋าครับ พอถึงที่จอดจักรยานก็เอากระเป๋าติดตัวไป แล้วเอาสายล็อคไปล็อคจักรยานตามปกติ
เบาะจะติดไฟท้ายไว้ อยู่ตรงตูด เพราะสะดวกในการปิดเปิด คนตามหลังมาก็จะเห็นด้วยครับ ติดใต้อานไม่ได้เนื่องจากตะกร้าและกระเป๋าที่เอาไว้ใส่ของมันบังครับ ยกเว้นจะไม่เอาตะกร้ากับกระเป๋าท้ายมาด้วย ถึงไปติดใต้อาน แล้วก็มีสายรัดเส้นนึง เอาไว้รัดตอนพับเพื่อยึดให้ที่พับไว้ไม่หลุด
ส่วนด้านท้ายจะมี ตะแกรง ติดเบาะหลังเอาไว้ มีที่พักเท้าด้านซ้ายแบบแท่ง ส่วนด้านขวาจะเป็นแบบพับได้ ที่ใช้ต่างกัน เพราะด้านซ้ายเอาไว้ค้ำตะเกียบล้อหน้าตอนพับ ส่วนด้านขวาติดไว้เผื่อวางเท้า และเวลาที่ต้องพับเก็บจะได้ไม่ยื่นออกมาครับ
ส่วนบนเบาะจะเป็นตระกร้าพับได้ติดไว้หลังแนวดุมล้อหลังเพื่อให้ไม่เกะกะเวลาปั่นครับ ถ้าติดลึกไปบางทีเวลาปั่น ส้นเท้าจะไปโดน และเวลาใส่กระเป๋าจะดึงออกจากตะกร้ายาก เพราะติดเบาะครับ ตะแกรงหลังมีตำแหน่งติดเม็ดทับทิม เมื่อก่อนก็ติดไฟท้ายตรงนั้นครับ แต่ชอบลืมปิด
ขั้นตอนการพับเพื่อเข็น
1. กางขาตั้งออกมา
2. บิดแฮนด์ทวนเข็มนาฬิกา 180 องศา เพื่อให้แฮนด์กลับด้าน (ถ้าคันอื่นบิดไม่ได้ก็ไม่ต้องบิดครับ ที่บิดเพราะเวลาพับเพื่อเข็น แฮนด์จะอยู่ด้านปกติ ไม่ได้กลับข้างครับ)
3. กดหลักคานอานลงให้ปลายอยู่ระพับเดียวกับขาตั้ง เมื่อรถตั้งตรง (เอาไว้ช่วยค้ำ รถจะได้ตั้งได้ไม่ล้มง่ายครับ)
4. ปลดล็อคกลางจักรยานแล้วพับครึ่ง
5. สอดดุมล้อหน้า ไปที่แกนของที่พักเท้าด้านซ้าย เพื่อล็อคตำแหน่งให้ล้อหน้ากับหลังขนานกันครับ ถ้าไม่มีที่พักเท้า ดุมล้อหน้าเวลาพับ จะอยู่เลย ดุมล้อหลังมานิดหน่อยครับ พอมีที่พักเท้ามาค้ำแล้วกางออก จะอยู่ในตำแหน่งเกือบตรงกันครับ ดุมล้อหน้าผม เกลียวมันเล็กกว่าของล้อหลังด้วย เลยเกือบสอดเข้ารูอีกด้านของที่พักเท้าได้ เลยเอาตะไบลบเกลียวด้านในที่พักเท้าให้สามารถสอดและดึงออกได้
6. เอาสายรัด รัดโครงหน้ากับตะแกรงหลัง ไม่ให้หลุดออกจากกันเวลาเข็น
7.กำเบร็คเพื่อให้ล้อไม่หมุนฟรีแล้วดึงมาด้านหลังในองศาที่พร้อมเข็น แล้วค่อยปล่อยเบร็ค แล้วเข็นไปด้านหน้าครับ
*เพิ่มเติม
รูปถ่ายด้านหน้า จะเห็นว่าขาตั้งจะช่วยค้ำอีกด้าน ให้เกือบสมดุล รถจะล้มยากขึ้นมากกว่าการใช้หลักอานค้ำอย่างเดียว
เวลาเข้ารถไฟฟ้าก็แค่หันหน้าไปด้านหัวหรือท้าย แล้วเอามือประคองนิดหน่อยไม่ต้องออกแรงเยอะครับ ถ้าใช้หลักอานค้ำอย่างเดียว จะชอบล้มด้านมุมขาตั้งชี้ไปครับเวลามีบางช่วยที่รถไฟฟ้าส่าย
เวลาไปเดินห้างก็แค่เอากระเป๋าของมีค่าติดตัวออกไป แล้วล็อคจักรยานไว้ตรงที่จอดครับ
ของบางอย่างใส่ได้แต่พับไม่ได้ หรือเข็นไม่ได้ครับ เดี๋ยวว่างจะมาเม้นต์เพิ่มเติมครับ