16 มิ.ย. 2566 - 20:10 น.
เพื่อนแฉเพิ่งสูบกัญชา ก่อนลงมือแทงสาว 13 แผล ลูก 8 ขวบกำพร้า เผยนาทีเจรจามอบตัว แฟนหนุ่มเล่าสุดช็อก ถ้าไปหาคงไม่เกิดเรื่อง ยันไม่รู้จักคนก่อเหตุ
จากกรณี นายสุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ธนิฐดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี จำนวน 13 แผลจนเสียชีวิต เหตุเกิดภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านวงเวียนใหญ่ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. คาดสาเหตุเกิดจากเรื่องชู้สาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 มิ.ย.66 ที่ สน.บุปผาราม นายหรั่ง อายุ 21 ปี เพื่อนของ นายสุวัฒน์ เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพัก พร้อมกล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 มิ.ย.) ได้ไปที่ห้องพักของ นายสุวัฒน์ พร้อมเพื่อนอีก 3 คน แล้วล้อมวงสูบกัญชากัน ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยไม่ทราบว่า นายสุวัฒน์ ออกไปไหน หรือไปหาใคร จนตอนเช้ามาทราบข่าวว่า นายสุวัฒน์ แทงคนตาย
รู้สึกตกใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกันตามปกติ ไม่มีอาการคลุ้มคลั่งให้เห็น แต่ นายสุวัฒน์ เคยเล่าว่าเมื่อหลายปีก่อน อยากเอามีดไปแทงคน และเคยทำร้ายตัวเองด้วยการกรีดหน้า เมื่อพ่อรู้ว่าลูกป่วยจึงพาไปรักษา และกินยามาโดยตลอด จนอาการดีขึ้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก็ไม่ได้กินยาอีกเลย เหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเสพกัญชา เพราะตนก็ไม่มีอาการอะไร
ซึ่ง นายสุวัฒน์ จะพกมีดติดตัวตลอด เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกับคู่อริ และไปก่อเหตุแทงคู่อริจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว เมื่อสอบถามว่ารู้จักผู้เสียชีวิตได้อย่างไร นายสุวัฒน์ ได้ตอบว่ารู้จักเพราะอีกฝ่ายทำงานไซด์ไลน์ ส่วนที่ต้องแทงก็เพราะผู้เสียชีวิตแย่งมีด จนทำให้เกิดบันดาลโทสะ
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายเสนอ อุปชัย อายุ 69 ปี และ นางละมุม พรมราช อายุ 55 ปี ตาและยายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายัง สน.บุปผาราม เพื่อให้ปากคำ โดยระบุว่า หลานสาวพักอาศัยอยู่ที่หอพักตามลำพัง โดยทำงานอยู่ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้เลิกกับอดีตสามี และนำลูกไปให้ตนเลี้ยง ปัจจุบันอายุ 8 ขวบแล้ว ที่ผ่านมาทราบเพียงว่าหลานสาวคบหากับเพื่อนชายชื่อกอล์ฟ ส่วนคนอื่นทางครอบครัวไม่ทราบ
โดยหลานสาวจะส่งเงินมาให้ครอบครัวอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อวานได้คุยกันถึงเรื่องหลานสาวมีปากเสียงกับเพื่อนชาย แต่ไม่ทราบว่าจะใช่คนที่ก่อเหตุหรือไม่ เพราะว่าหลานสาวไม่เคยพูดถึงคนที่ก่อเหตุ แต่สงสัยว่าทำไม เหตุผลที่ไม่ให้สูบบุหรี่ ทำให้ถึงขั้นฆ่ากันได้ คิดว่าปัญหาน่าจะมากกว่าเรื่องสูบบุหรี่
ด้าน นายกอล์ฟ แฟนของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตนคบหากันมาได้ 8 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมายอมรับว่ามีปากมีเสียงเป็นเรื่องปกติ ในวันเกิดเหตุได้นัดหมายจะไปทานข้าวด้วยกัน แต่ว่าเกิดท้องเสียจึงไม่ได้มาหา และทราบว่าจะมีเพื่อนสาวมาหาที่ห้องพัก จึงอนุญาตให้สาวๆ อยู่ด้วยกัน กระทั่งช่วงดึก เพื่อนสาวโทรมาบอกว่า แฟนตนโดนทำร้าย จึงรีบขับรถไปหา ปรากฏว่าพบตำรวจและกู้ภัยจึงรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น
จากนั้นตำรวจจึงได้กันตัวออกเพราะทราบว่าเป็นแฟนกับผู้เสียชีวิต เพื่อมาสอบถามข้อมูล โดยตนยังไม่ทันได้เจอหน้าผู้ก่อเหตุ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่สำหรับกรณีที่ผู้ก่อเหตุให้การว่าบันดาลโทสะที่ไม่ให้สูบบุหรี่ในห้อง แล้วถึงขั้นแทงแฟนถึง 13 แผล มองว่าเกินกว่าเหตุ และอยากถามว่ามาทำแบบนี้ทำไม ส่วนโทรศัพท์ของแฟนที่ผ่านมาไม่เคยตรวจเช็ค ว่าติดต่อกับใครหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และหากถามว่าแฟนสาวจะรู้จักกับผู้ตายหรือไม่ตรงนี้ไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการพูดถึง
ขณะเดียวกัน ภาพกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 00.42 น. จะเห็นได้ว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในชุดนอนสีชมพู เดินลงมารับ นายสุวัฒน์ ที่ขี่รถจยย.มาหาผู้ตายที่หอดังกล่าว จากนั้นผู้ตายได้ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูนำผู้ก่อเหตุขึ้นไปบนห้อง
นอกจากนี้ยังมีกล้องจากตำรวจสายตรวจที่เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นได้วิ่งขึ้นไปบนตึก พบผู้ชาย 3 คนกำลังช่วยกันจับประตูห้องพัก เพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีออกไป ในขณะที่บริเวณประตูห้องพัก มีคราบเลือดติดอยู่ หลังจากนั้นตำรวจก็ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในห้อง แล้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้ส่งอาวุธมีดออกมาให้
ส่วนผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในห้องโวยวายพร้อมพูดว่า “ผมแทงเขานิดเดียว ผมแทงเขานิดเดียว” เมื่อตำรวจถามว่ามีอาวุธอื่นนอกจากมีดหรือไม่ ผู้ก่อเหตุพูดเพียงว่า “พี่ผมกลัว” และบอกว่า “ถ้ามีปืนผมยิงเขาแล้ว ผมไม่ยอมให้เขาแทงผมหรอก” หลังจากนั้นตำรวจก็ได้ขออาวุธมีด โดยให้ส่งออกมาจากห้องก่อน
ด้าน พ.ต.อ.รัตน์เกล้า อาณานุการ ผกก.สน.บุปผาราม กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา อ้างว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้ต้องหาได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียชีวิต โดยชนวนเหตุเกิดจากการที่ฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ผู้ต้องหาสูบบุหรี่ภายในห้อง อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ขณะนี้ยังคงต้องสอบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติมต่อไป
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7719072
เพื่อนเผยเพิ่งสูบกัญชา ก่อนลงมือแทงสาว 13 แผล ลูก 8 ขวบกำพร้า แฟนหนุ่มเล่าสุดช็อก
16 มิ.ย. 2566 - 20:10 น.
เพื่อนแฉเพิ่งสูบกัญชา ก่อนลงมือแทงสาว 13 แผล ลูก 8 ขวบกำพร้า เผยนาทีเจรจามอบตัว แฟนหนุ่มเล่าสุดช็อก ถ้าไปหาคงไม่เกิดเรื่อง ยันไม่รู้จักคนก่อเหตุ
จากกรณี นายสุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ธนิฐดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี จำนวน 13 แผลจนเสียชีวิต เหตุเกิดภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านวงเวียนใหญ่ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม. คาดสาเหตุเกิดจากเรื่องชู้สาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 16 มิ.ย.66 ที่ สน.บุปผาราม นายหรั่ง อายุ 21 ปี เพื่อนของ นายสุวัฒน์ เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพัก พร้อมกล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 มิ.ย.) ได้ไปที่ห้องพักของ นายสุวัฒน์ พร้อมเพื่อนอีก 3 คน แล้วล้อมวงสูบกัญชากัน ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยไม่ทราบว่า นายสุวัฒน์ ออกไปไหน หรือไปหาใคร จนตอนเช้ามาทราบข่าวว่า นายสุวัฒน์ แทงคนตาย
รู้สึกตกใจมาก เพราะก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกันตามปกติ ไม่มีอาการคลุ้มคลั่งให้เห็น แต่ นายสุวัฒน์ เคยเล่าว่าเมื่อหลายปีก่อน อยากเอามีดไปแทงคน และเคยทำร้ายตัวเองด้วยการกรีดหน้า เมื่อพ่อรู้ว่าลูกป่วยจึงพาไปรักษา และกินยามาโดยตลอด จนอาการดีขึ้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ก็ไม่ได้กินยาอีกเลย เหตุการณ์ครั้งนี้เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเสพกัญชา เพราะตนก็ไม่มีอาการอะไร
ซึ่ง นายสุวัฒน์ จะพกมีดติดตัวตลอด เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกับคู่อริ และไปก่อเหตุแทงคู่อริจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว เมื่อสอบถามว่ารู้จักผู้เสียชีวิตได้อย่างไร นายสุวัฒน์ ได้ตอบว่ารู้จักเพราะอีกฝ่ายทำงานไซด์ไลน์ ส่วนที่ต้องแทงก็เพราะผู้เสียชีวิตแย่งมีด จนทำให้เกิดบันดาลโทสะ
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายเสนอ อุปชัย อายุ 69 ปี และ นางละมุม พรมราช อายุ 55 ปี ตาและยายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายัง สน.บุปผาราม เพื่อให้ปากคำ โดยระบุว่า หลานสาวพักอาศัยอยู่ที่หอพักตามลำพัง โดยทำงานอยู่ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้เลิกกับอดีตสามี และนำลูกไปให้ตนเลี้ยง ปัจจุบันอายุ 8 ขวบแล้ว ที่ผ่านมาทราบเพียงว่าหลานสาวคบหากับเพื่อนชายชื่อกอล์ฟ ส่วนคนอื่นทางครอบครัวไม่ทราบ
โดยหลานสาวจะส่งเงินมาให้ครอบครัวอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อวานได้คุยกันถึงเรื่องหลานสาวมีปากเสียงกับเพื่อนชาย แต่ไม่ทราบว่าจะใช่คนที่ก่อเหตุหรือไม่ เพราะว่าหลานสาวไม่เคยพูดถึงคนที่ก่อเหตุ แต่สงสัยว่าทำไม เหตุผลที่ไม่ให้สูบบุหรี่ ทำให้ถึงขั้นฆ่ากันได้ คิดว่าปัญหาน่าจะมากกว่าเรื่องสูบบุหรี่
ด้าน นายกอล์ฟ แฟนของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตนคบหากันมาได้ 8 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมายอมรับว่ามีปากมีเสียงเป็นเรื่องปกติ ในวันเกิดเหตุได้นัดหมายจะไปทานข้าวด้วยกัน แต่ว่าเกิดท้องเสียจึงไม่ได้มาหา และทราบว่าจะมีเพื่อนสาวมาหาที่ห้องพัก จึงอนุญาตให้สาวๆ อยู่ด้วยกัน กระทั่งช่วงดึก เพื่อนสาวโทรมาบอกว่า แฟนตนโดนทำร้าย จึงรีบขับรถไปหา ปรากฏว่าพบตำรวจและกู้ภัยจึงรู้ว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น
จากนั้นตำรวจจึงได้กันตัวออกเพราะทราบว่าเป็นแฟนกับผู้เสียชีวิต เพื่อมาสอบถามข้อมูล โดยตนยังไม่ทันได้เจอหน้าผู้ก่อเหตุ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ทราบมาก่อนว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่สำหรับกรณีที่ผู้ก่อเหตุให้การว่าบันดาลโทสะที่ไม่ให้สูบบุหรี่ในห้อง แล้วถึงขั้นแทงแฟนถึง 13 แผล มองว่าเกินกว่าเหตุ และอยากถามว่ามาทำแบบนี้ทำไม ส่วนโทรศัพท์ของแฟนที่ผ่านมาไม่เคยตรวจเช็ค ว่าติดต่อกับใครหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และหากถามว่าแฟนสาวจะรู้จักกับผู้ตายหรือไม่ตรงนี้ไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการพูดถึง
ขณะเดียวกัน ภาพกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 00.42 น. จะเห็นได้ว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งอยู่ในชุดนอนสีชมพู เดินลงมารับ นายสุวัฒน์ ที่ขี่รถจยย.มาหาผู้ตายที่หอดังกล่าว จากนั้นผู้ตายได้ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูนำผู้ก่อเหตุขึ้นไปบนห้อง
นอกจากนี้ยังมีกล้องจากตำรวจสายตรวจที่เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นได้วิ่งขึ้นไปบนตึก พบผู้ชาย 3 คนกำลังช่วยกันจับประตูห้องพัก เพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีออกไป ในขณะที่บริเวณประตูห้องพัก มีคราบเลือดติดอยู่ หลังจากนั้นตำรวจก็ได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในห้อง แล้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้ส่งอาวุธมีดออกมาให้
ส่วนผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในห้องโวยวายพร้อมพูดว่า “ผมแทงเขานิดเดียว ผมแทงเขานิดเดียว” เมื่อตำรวจถามว่ามีอาวุธอื่นนอกจากมีดหรือไม่ ผู้ก่อเหตุพูดเพียงว่า “พี่ผมกลัว” และบอกว่า “ถ้ามีปืนผมยิงเขาแล้ว ผมไม่ยอมให้เขาแทงผมหรอก” หลังจากนั้นตำรวจก็ได้ขออาวุธมีด โดยให้ส่งออกมาจากห้องก่อน
ด้าน พ.ต.อ.รัตน์เกล้า อาณานุการ ผกก.สน.บุปผาราม กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา อ้างว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้ต้องหาได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียชีวิต โดยชนวนเหตุเกิดจากการที่ฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ผู้ต้องหาสูบบุหรี่ภายในห้อง อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ ขณะนี้ยังคงต้องสอบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติมต่อไป
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_7719072