สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
แม่ของคุณ
(1) แม่ของคุณ ต้องเจอเรื่องร้ายๆ จากพ่อของคุณแล้ว (นอกใจ หรือเรื่องรุนแรง)
การที่พ่อจากไป แบบไม่สนิทใจกัน + พ่อจ่ายค่าอิสรภาพ ด้วยบ้านหลังนี้
วันนั้น แม่คุณถูกบังคับให้ยอมเดียวดาย และเค้าปกป้องสิทธิ์ให้คุณ(จึงได้บ้านนี้) แลกด้วย"น้ำตาแม่"
วันหน้า รบกวนอย่ารับพ่อ กลับมาดูแลในบ้านนี้ร่วมกับแม่คุณ (แม่บอกชัดว่าไม่ต้องการ)
อย่าทรมานใจแม่คุณ ด้วยสถานการณ์ที่เค้าถูกบังคับให้ยอมอีกครั้ง ด้วย"น้ำมือคุณ" (ลูกสาวที่เค้าปกป้อง)
อย่าให้แม่จนตรอก ให้ภาพเก่าวันวานกลับมาหลอกหลอนเค้าในบ้านนี้อีกเลย
-------------------------------
แฟนทอมของคุณ
(1) ไม่ทำงาน ,ปล่อยบ้านเช่า20,000+ , กินอยู่บ้านคุณ ..... จะทำงานทำไม มีคนเลี้ยงดู มีข้าวกิน
(2) เค้าพูดขณะอยู่บ้านน้องชายที่สมบูรณ์แบบ ขณะที่เค้าตกงาน ... เค้ากำลังอวดข่มน้องชาย เพราะตนกระจอกกว่า
(3) ใช่ค่ะ เค้าตั้งใจมัดมือชก! เค้าตั้งใจฮุบเงินค่าเช่าบ้านของแม่ด้วย ... เค้าไม่คิดทำงาน แต่ต้องการรายได้จากบ้านเช่า2หลัง
(4) มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องตัดสินใจทันที แต่เมื่อมีจุดเฉลียวใจแล้ว ต้องเปลี่ยนท่าที และทดสอบใจเค้าได้แล้ว (อาจตัดปัญหาได้ด้วย)
เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ คุณจะเสียโอกาสอีกมาก และอย่าให้คุณพัฒนาเป็นความผูกพัน (และอย่าให้เค้าพัฒนาเป็นการครอบครอง)
ถ้าเค้ารู้สึกครอบครองคุณ มันจะเป็นอันตราย(ทางกายและทางใจ) เมื่อผู้หญิงตีจาก (คนขี้แพ้ จะรับการแพ้ไม่ได้)
.. (คนขี้แพ้ คือคนที่ทำอะไรก็แพ้ แพ้ซ้ำๆก็ง่อย ไม่ทำห่านอะไร เกาะคนอื่นกิน )
ข่าว"คนขี้แพ้" ทำร้าย "เมียที่ตีจาก" มีทุกวัน ... ไอ้ขี้แพ้ มันเลี้ยงตัวเองไม่รอดทั้งนั้น แต่เมียคือสิ่งของที่เค้าครอบครอง !!
(1) แม่ของคุณ ต้องเจอเรื่องร้ายๆ จากพ่อของคุณแล้ว (นอกใจ หรือเรื่องรุนแรง)
การที่พ่อจากไป แบบไม่สนิทใจกัน + พ่อจ่ายค่าอิสรภาพ ด้วยบ้านหลังนี้
วันนั้น แม่คุณถูกบังคับให้ยอมเดียวดาย และเค้าปกป้องสิทธิ์ให้คุณ(จึงได้บ้านนี้) แลกด้วย"น้ำตาแม่"
วันหน้า รบกวนอย่ารับพ่อ กลับมาดูแลในบ้านนี้ร่วมกับแม่คุณ (แม่บอกชัดว่าไม่ต้องการ)
อย่าทรมานใจแม่คุณ ด้วยสถานการณ์ที่เค้าถูกบังคับให้ยอมอีกครั้ง ด้วย"น้ำมือคุณ" (ลูกสาวที่เค้าปกป้อง)
อย่าให้แม่จนตรอก ให้ภาพเก่าวันวานกลับมาหลอกหลอนเค้าในบ้านนี้อีกเลย
-------------------------------
แฟนทอมของคุณ
(1) ไม่ทำงาน ,ปล่อยบ้านเช่า20,000+ , กินอยู่บ้านคุณ ..... จะทำงานทำไม มีคนเลี้ยงดู มีข้าวกิน
(2) เค้าพูดขณะอยู่บ้านน้องชายที่สมบูรณ์แบบ ขณะที่เค้าตกงาน ... เค้ากำลังอวดข่มน้องชาย เพราะตนกระจอกกว่า
(3) ใช่ค่ะ เค้าตั้งใจมัดมือชก! เค้าตั้งใจฮุบเงินค่าเช่าบ้านของแม่ด้วย ... เค้าไม่คิดทำงาน แต่ต้องการรายได้จากบ้านเช่า2หลัง
(4) มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องตัดสินใจทันที แต่เมื่อมีจุดเฉลียวใจแล้ว ต้องเปลี่ยนท่าที และทดสอบใจเค้าได้แล้ว (อาจตัดปัญหาได้ด้วย)
เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ คุณจะเสียโอกาสอีกมาก และอย่าให้คุณพัฒนาเป็นความผูกพัน (และอย่าให้เค้าพัฒนาเป็นการครอบครอง)
ถ้าเค้ารู้สึกครอบครองคุณ มันจะเป็นอันตราย(ทางกายและทางใจ) เมื่อผู้หญิงตีจาก (คนขี้แพ้ จะรับการแพ้ไม่ได้)
.. (คนขี้แพ้ คือคนที่ทำอะไรก็แพ้ แพ้ซ้ำๆก็ง่อย ไม่ทำห่านอะไร เกาะคนอื่นกิน )
ข่าว"คนขี้แพ้" ทำร้าย "เมียที่ตีจาก" มีทุกวัน ... ไอ้ขี้แพ้ มันเลี้ยงตัวเองไม่รอดทั้งนั้น แต่เมียคือสิ่งของที่เค้าครอบครอง !!
ความคิดเห็นที่ 12
ผมว่า เรื่องนี้ มันอีกตั้งนาน อย่าเพิ่งกลุ้มไปก่อน
และจากที่คุณเขียนมา โอกาสที่คุณกับแฟนไปกันไม่รอดสูงมาก อาจจะได้เลิกกันก่อน 5 ปี ที่กว่าจะทุบและสร้างบ้านใหม่เสร็จ
ถ้าแฟนคุณเป็นคนฉลาด เมื่อเขาพูดแบบนั้นกับแม่ต่อหน้าคุณ แล้วคุณหัวเราะแห้งๆ เขาต้องรู้แล้วว่า คุณไม่เต็มใจ
(ถ้าเขาไม่ช่างสังเกต จนไม่รู้ว่าเรื่องนี้ทำให้คุณทุกข์จนนอนไม่หลับ ผมแนะนำให้รีบเปลี่ยนแฟน)
เรื่องนี้มีอีกหลายด่าน
และแม่คุณ คือ ตัวแปรสำคัญ ที่คุณจะต้องได้รับความยินยอมจากท่าน
ในเมื่อคุณรู้นิสัยแม่คุณอยู่แล้วว่าท่านไม่ชอบอยู่ร่วมกับใคร ก็บอกแฟนไปตรงๆ
บอกว่าไม่อยากให้แม่อึดอัด บอกไปว่า แม่อาจจะไม่ปฏิเสธตรงๆ เพราะรักแฟนคุณ แต่คุณรู้นิสัยแม่ดี
และเล่าเรื่องที่พ่อขอมาอยู่ให้แฟนฟัง บอกว่า ถ้าแม่อึดอัดมากๆ แม่อาจจะหนีไปอยู่วัด
ถ้าคุณพูดขนาดนี้ แล้วแฟนยังดึงดัน
แปลว่าเขาไม่เหมาะที่คุณจะใช้ชีวิตคู่ด้วยครับ
ในอนาคต ยังมีเรื่องอีกเยอะนะ ให้คุณต้องปวดหัวน่ะ
รีบมีเรื่องให้เห็นความขัดกันทางความคิดตอนนี้ มันก็ดี คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่ นานเกินไป
และจากที่คุณเขียนมา โอกาสที่คุณกับแฟนไปกันไม่รอดสูงมาก อาจจะได้เลิกกันก่อน 5 ปี ที่กว่าจะทุบและสร้างบ้านใหม่เสร็จ
ถ้าแฟนคุณเป็นคนฉลาด เมื่อเขาพูดแบบนั้นกับแม่ต่อหน้าคุณ แล้วคุณหัวเราะแห้งๆ เขาต้องรู้แล้วว่า คุณไม่เต็มใจ
(ถ้าเขาไม่ช่างสังเกต จนไม่รู้ว่าเรื่องนี้ทำให้คุณทุกข์จนนอนไม่หลับ ผมแนะนำให้รีบเปลี่ยนแฟน)
เรื่องนี้มีอีกหลายด่าน
และแม่คุณ คือ ตัวแปรสำคัญ ที่คุณจะต้องได้รับความยินยอมจากท่าน
ในเมื่อคุณรู้นิสัยแม่คุณอยู่แล้วว่าท่านไม่ชอบอยู่ร่วมกับใคร ก็บอกแฟนไปตรงๆ
บอกว่าไม่อยากให้แม่อึดอัด บอกไปว่า แม่อาจจะไม่ปฏิเสธตรงๆ เพราะรักแฟนคุณ แต่คุณรู้นิสัยแม่ดี
และเล่าเรื่องที่พ่อขอมาอยู่ให้แฟนฟัง บอกว่า ถ้าแม่อึดอัดมากๆ แม่อาจจะหนีไปอยู่วัด
ถ้าคุณพูดขนาดนี้ แล้วแฟนยังดึงดัน
แปลว่าเขาไม่เหมาะที่คุณจะใช้ชีวิตคู่ด้วยครับ
ในอนาคต ยังมีเรื่องอีกเยอะนะ ให้คุณต้องปวดหัวน่ะ
รีบมีเรื่องให้เห็นความขัดกันทางความคิดตอนนี้ มันก็ดี คุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่ นานเกินไป
ความคิดเห็นที่ 10
เดี๋ยวนะ ขอ review ใหม่
"แล้วเรื่องที่อยากปรึกษาพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาวpantipของกะทู้แรกก็มีอยู่ว่า...
วันนี้ในระหว่างเราวิดิโอคอลกับแฟนของเราปกติ(แฟนไปนอนบ้านน้องชายของเขา) อยู่ๆแฟนเราก็หันไปพูดกับแม่เขาว่า "อนาคตแม่ก็ปล่อยบ้านแม่ให้เขาเช่าไปนะ สัก10k+ แล้วแม่เขาย้ายมาอยู่บ้านน้อง***ชื่อเรา*** ไม่ต้องอยู่ต่างจังหวัดแล้ว แก่แล้ว! เดี๋ยวน้อง**ชื่อเรา**จะทุบบ้านทำใหม่ มีตั้งหลายห้อง แม่มาอยู่ด้วยนี่แหละ หนูจะได้อุ่นใจ" แล้วเขาก็หันมายิ้มกับเรา แล้วบอกว่า "เนอะ**เนอะ"
เรานี่อึ้งไปเลยค่ะ ตอบไม่ถูก ได้แต่หัวเราะ"
นี่คือ เห็นแก่ตัวกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?
ครอบครัวตัวเอง ยังจัดการให้เรียบร้อยไม่ได้เลย ยังจะเอาเรื่องวุ่นวายแพร่กระจายไปสู่บ้านอื่นอีกหรือครับ?
"แล้วเรื่องที่อยากปรึกษาพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาวpantipของกะทู้แรกก็มีอยู่ว่า...
วันนี้ในระหว่างเราวิดิโอคอลกับแฟนของเราปกติ(แฟนไปนอนบ้านน้องชายของเขา) อยู่ๆแฟนเราก็หันไปพูดกับแม่เขาว่า "อนาคตแม่ก็ปล่อยบ้านแม่ให้เขาเช่าไปนะ สัก10k+ แล้วแม่เขาย้ายมาอยู่บ้านน้อง***ชื่อเรา*** ไม่ต้องอยู่ต่างจังหวัดแล้ว แก่แล้ว! เดี๋ยวน้อง**ชื่อเรา**จะทุบบ้านทำใหม่ มีตั้งหลายห้อง แม่มาอยู่ด้วยนี่แหละ หนูจะได้อุ่นใจ" แล้วเขาก็หันมายิ้มกับเรา แล้วบอกว่า "เนอะ**เนอะ"
เรานี่อึ้งไปเลยค่ะ ตอบไม่ถูก ได้แต่หัวเราะ"
นี่คือ เห็นแก่ตัวกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ?
ครอบครัวตัวเอง ยังจัดการให้เรียบร้อยไม่ได้เลย ยังจะเอาเรื่องวุ่นวายแพร่กระจายไปสู่บ้านอื่นอีกหรือครับ?

ความคิดเห็นที่ 2
อ่านมาแล้วหนักใจแทน มองตามที่คุณเขียนมา แฟนคุณ เอาแต่ได้ฝ่ายเดียว คนเรารักกัน คือต้องมีความเกรงใจ เห็นใจกันนะครับ แต่นี่ดูๆเขาเอาเปรียบคุณทุกรูปแบบ ยิ่งเรื่อง จะเอาพ่อแม่มาแฟนอยู่บ้านคุณนี่เรียกว่า บอกก่อนเลยจะเจอปัญหาหนักกว่าเดิมครับ ไม่เชื่อคอยดูก็เรื่องแค่นี้
แฟนคุณเขาพูดเอาแต่ได้ ในเรื่องการหาเงินของคุณ เออถ้าเขาช่วยแบ่งเบาภาระ หรือช่วยคุณบ้างผมว่านั่นคือสิ่งที่ควรจะทำ แต่นี่อะไรก็ตีขลุมเอาดื้อๆ มันไม่ใช่ละครับ หรือคุณคิดยังไง?!
แฟนคุณเขาพูดเอาแต่ได้ ในเรื่องการหาเงินของคุณ เออถ้าเขาช่วยแบ่งเบาภาระ หรือช่วยคุณบ้างผมว่านั่นคือสิ่งที่ควรจะทำ แต่นี่อะไรก็ตีขลุมเอาดื้อๆ มันไม่ใช่ละครับ หรือคุณคิดยังไง?!
ความคิดเห็นที่ 21
คุณคะ เราคนนอกอ่านจากที่คุณเขียนเฉย ๆ สิ่งที่เรารู้สึก แฟนคุณมันเขี้ยวเห็นแก่ตัวแบบเนียน ๆ
ส่วนคุณหน้าบางค่ะ กลัวว่าแฟนจะคิดว่าคุณใจแคบ กลัวว่าเค้าจะมองคุณไม่ดี
เฮลโหลลล เอาตั้งแต่เงิน สองพันสี่พัน คือถ้าแฟนคุณไม่มีรายได้ว่าไปอย่าง แต่ก็มีเนี่ยะ ไปเช่าห้องอยู่เองยังจ่ายแพงกว่าเยอะ
เรื่องเอาแม่มาอยู่ เฮลโหลลลสอง บ้านก็บ้านพ่อแม่คุณ ด้านหน้ามากกก ตัวเองน้องตัวเองก็มีบ้านอยู่ ต่อให้คุณทำบ้าน ก็ไม่เกี่ยวไหม
คุณอย่าให้เค้าออกเงินเลยนะ เด๋วจะมาอ้างขอมีส่วนร่วม
แนะนำ ถ้าเค้าเป็นแฟนที่ดี เค้าจะควักจ่ายคุณสี่พันอย่างไม่อิดออด ถ้าคุณบอกเรื่องบ้าน ว่าไม่สะดวกให้พ่อแม่เค้ามาอยู่ด้วยเพราะเป็นบ้านครอบครัวคุณ ถ้าเค้าเป็นแฟนที่ดี เค้าจะต้องขอโทษที่ทำให้คุณไม่สบายใจ แต่ถ้าเค้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัว เค้าจะพูดว่า นี่แม่เค้านะ ทำไมอยู่ด้วยไม่ได้ (ไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะคนนิสัยไม่ดี มักจะหาข้ออ้างให้ตัวเองถูกเสมอ)
ส่วนคุณ อย่างน้อยยังมีความคิด ไม่ได้เออออไปทุกเรื่อง ยังพอมีสติคิดได้ว่ากำลังโดนเอาเปรียบ
แฟนคนนี้ เอาจริงเราอยากแนะนำให้ย้ายออกจากบ้านคุณนะ อ้างว่าพ่อจะมาจะมีญาติพี่น้องมาอยู่ บลา ๆ
เพราะดูทรงคล้ายจะเริ่มเป็นปลิง
ส่วนคุณหน้าบางค่ะ กลัวว่าแฟนจะคิดว่าคุณใจแคบ กลัวว่าเค้าจะมองคุณไม่ดี
เฮลโหลลล เอาตั้งแต่เงิน สองพันสี่พัน คือถ้าแฟนคุณไม่มีรายได้ว่าไปอย่าง แต่ก็มีเนี่ยะ ไปเช่าห้องอยู่เองยังจ่ายแพงกว่าเยอะ
เรื่องเอาแม่มาอยู่ เฮลโหลลลสอง บ้านก็บ้านพ่อแม่คุณ ด้านหน้ามากกก ตัวเองน้องตัวเองก็มีบ้านอยู่ ต่อให้คุณทำบ้าน ก็ไม่เกี่ยวไหม
คุณอย่าให้เค้าออกเงินเลยนะ เด๋วจะมาอ้างขอมีส่วนร่วม
แนะนำ ถ้าเค้าเป็นแฟนที่ดี เค้าจะควักจ่ายคุณสี่พันอย่างไม่อิดออด ถ้าคุณบอกเรื่องบ้าน ว่าไม่สะดวกให้พ่อแม่เค้ามาอยู่ด้วยเพราะเป็นบ้านครอบครัวคุณ ถ้าเค้าเป็นแฟนที่ดี เค้าจะต้องขอโทษที่ทำให้คุณไม่สบายใจ แต่ถ้าเค้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัว เค้าจะพูดว่า นี่แม่เค้านะ ทำไมอยู่ด้วยไม่ได้ (ไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะคนนิสัยไม่ดี มักจะหาข้ออ้างให้ตัวเองถูกเสมอ)
ส่วนคุณ อย่างน้อยยังมีความคิด ไม่ได้เออออไปทุกเรื่อง ยังพอมีสติคิดได้ว่ากำลังโดนเอาเปรียบ
แฟนคนนี้ เอาจริงเราอยากแนะนำให้ย้ายออกจากบ้านคุณนะ อ้างว่าพ่อจะมาจะมีญาติพี่น้องมาอยู่ บลา ๆ
เพราะดูทรงคล้ายจะเริ่มเป็นปลิง
แสดงความคิดเห็น
แฟนมีความต้องการจะพาคุณแม่เขาเข้ามาอยู่ในบ้าน ร่วมกับแม่(และพ่อ)ของเรา โดยบ้านนี้เป็นชื่อของแม่เราและเรา50/50
ขอเกริ่นก่อนว่า เราเป็นผญ.รักผญ.นะคะ เราเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวเรา โดยปัจจุบันเราอาศัยอยู่กับคุณแม่ ส่วนคุณพ่อจะมาๆไปๆเนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่ตกลงเป็นเพื่อนกันแล้ว...
บ้านที่เราอยู่ปัจจุบันเป็นมรดกจากคุณพ่อที่มอบให้เรา และเราก็ไปทำเรื่องเพิ่มชื่อแม่ของเราให้มีอำนาจถือครองกรรมสิทธิ์50/50เท่ากับเราค่ะ
....
แล้วเรื่องที่อยากปรึกษาพี่ๆน้องๆเพื่อนๆชาวpantipของกะทู้แรกก็มีอยู่ว่า...
วันนี้ในระหว่างเราวิดิโอคอลกับแฟนของเราปกติ(แฟนไปนอนบ้านน้องชายของเขา) อยู่ๆแฟนเราก็หันไปพูดกับแม่เขาว่า "อนาคตแม่ก็ปล่อยบ้านแม่ให้เขาเช่าไปนะ สัก10k+ แล้วแม่เขาย้ายมาอยู่บ้านน้อง***ชื่อเรา*** ไม่ต้องอยู่ต่างจังหวัดแล้ว แก่แล้ว! เดี๋ยวน้อง**ชื่อเรา**จะทุบบ้านทำใหม่ มีตั้งหลายห้อง แม่มาอยู่ด้วยนี่แหละ หนูจะได้อุ่นใจ" แล้วเขาก็หันมายิ้มกับเรา แล้วบอกว่า "เนอะ**เนอะ"
เรานี่อึ้งไปเลยค่ะ ตอบไม่ถูก ได้แต่หัวเราะ
แต่ในใจเราไม่หัวเราะเลยค่ะ เรามีคำถามขึ้นมาให้หลายอย่างมาก
เราเกิดความคิดที่ไม่ดีขึ้น เราเลยอยากมาปรึกษาทุกท่านในpantipว่าถ้าเรามีความคิดแบบนี้ เราผิดไหม? มันเห็นแก่ตัวไปหรือป่าว? แล้วเราควรทำอย่างไร? รบกวนทุกท่านให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะหน่อยนะคะ
คำถามในใจ
1. เนื่องจากบ้านนี้เป็นบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมของเราและแม่ เราควรบอกกับแม่ให้ทราบล่วงหน้าก่อนไหมคะ?? (มีแพลนจะทุบบ้านทิ้งและสร้างใหม่ในอีก5ปีข้างหน้า)
2. เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวแฟน แฟนมีน้องชาย1คนซึ่งเขามีครอบครัวและลูกแล้ว อยู่จังหวัดเดียวกับเรา ส่วนพ่อกับแม่แฟนอยู่ต่างจังหวัดค่ะ พวกเขาจะมาเยี่ยมหลานๆ(ลูกน้องชายของแฟน)ทุกๆ3เดือนครั้ง โดยแต่ละครั้งเขาจะพักอยู่กับครอบครัวน้องชายของแฟน แต่แฟนของเราอาศัยอยู่กับเราที่บ้านของเราและแม่เราค่ะ
3. แฟนมีบ้านเป็นของตัวเองที่ซื้อไว้ ซึ่งอยู่จังหวัดเดียวกับเรา แต่เขาปล่อยเช่ารายปี
4. เราทำข้อตกลงกับแฟนว่าถ้าจะอยู่บ้านเราต้องให้เงินแม่เราเดือนละ4,000บาทเป็นค่าพักอาศัย(เมื่อก่อนตอนที่น้องชายเขายังไม่มีลูก แฟนเราจะอยู่กับน้องชายเขา และชำระให้น้องชายเขาเดือนละ4,000) แฟนก็โอเคพร้อมที่จะจ่าย แต่เนื่องจากแฟนเราไม่มีงานทำ...แม่เราเลยบอกว่าให้2,000ก็พอ แม่บอกสงสารแฟน (แฟนเราตกงานมาจะเป็นปีแล้วค่ะ) แต่เขาก็ยังมีรายได้จากการปล่อยบ้านให้เช่าเป็นจำนวน20k+/เดือนอยู่นะคะ(เขาไม่เคยให้เงินในส่วนของค่าเช่าบ้านตั้งแต่เขามีงานทำจนกระทั่งเขาลาออกจากงาน เราเองก็ไม่ได้ขอเขาด้วย เพราะเราถือว่านั่นบ้านเขาไม่ใช่บ้านเรา)
5. เนื่องด้วยปัจจุบันบ้านเรามีแค่2ห้องนอน1ชั้น เราแพลนเก็บเงินสัก5ปีแล้วจะทุบสร้างบ้านใหม่2ชั้น 3-4ห้องนอน (1ห้องนอนล่างให้แม่, 1ห้องนอนบนของเรา, 1 ห้องนอนบนไว้ให้พ่อเราเผื่อเขาไม่มีที่ไป และอีก 1ห้องนอนสำหรับรับแขกญาติพี่น้องที่มาเยี่ยมเราและแม่) โดยประเมินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ2-3ล้านบาท แฟนเราก็เห็นใบเสนอราคาการสร้างบ้านนะคะ แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะช่วยเรื่องการเงินด้วย เขาแค่บอกว่าเรา "5ปีเอง เทอหาเงินได้อยู่แล้ว สู้ๆ"
6. แม่เราไม่เคยอาศัยบ้านเดียวอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องค่ะ แฟนเราเป็นคนแรกที่เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเรา
ดังนั้นถ้าหากแฟนเราต้องการพาแม่มาอยู่ด้วยจริงๆ เราควรทำอย่างไรดีคะ?? แล้วแม่เราจะโอเคไหม?
ถ้าเราจะพูดกับแฟนเรื่องให้จ่ายค่าบ้านเราให้กับแม่ของเราในส่วนที่แม่เขาเข้ามาอยู่ด้วยจะน่าเกลียดไหม?
แล้วถ้าหากแฟนมีงานทำแล้ว เราขอให้เขาเพิ่มเงินให้แม่เรามากกว่า2,000บาทจะเป็นไรไหม??
เราสมองตันมากเลยค่ะ หนูนอนไม่หลับค่ะ ช่วยหนูหน่อยนะคะ 🙏🙏🙏