ไม่รู้สึกสำนึกบุญคุณหรืออยากตอบแทนพ่อแม่ครับ

ตามชื่อกระทู้เลยครับ ผมไม่ได้รู้สึกว่าต้องตอบแทนบุญคุณ สำนึกในสิ่งที่พวกเขาเคยทำ หรือว่ารู้สึกถึง gratitude อะไรเลย

ผมเคยรักพ่อแม่มากๆ แต่ตั้งแต่เป็นวันรุ่นมา ผมก็ค่อนๆ ถอยห่างจากพวกเขาเรื่อยๆ อาจมีบางช่วงที่กลับมาใกล้ชิดกันบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกรักใคร่หรือ affectionate ต่อพวกเขาแบบเมื่อก่อนครับ

ผมเป็นโรค Asperger’s และผมไม่ชอบอย่างแรงเมื่อมีคนมาตะคอกใส่ เวลาพ่อผมโมโหก็จะมีแบบนี้บ้าง ผมรู้สึกว่าพ่อผมเข้าหายากคั้งแต่ผมอยู่ประถมแล้วครับ เขาเป็นคนที่คุยกับลูกไม่เป็น เขามักคิดว่าตัวเองถูกเสมอ และเคยบอกด้วยว่าผมทำอะไรก็ได้ แต่ถ้ารักเขาก็ค้องทำตามที่เขาบอก ส่วนแม่ปกติก็เป็นคนอ่อนหวานแต่ก็อารมณ์สั้น ผมเริ่มมีเรื่องไม่ถูกกับทางบ้านเมื่อช่างม.1 ผมไม่ได้เป็นคนที่คิดใหญ่ไฝ่สูงอะไรมากคิดว่าเรียนแค่ม.เกษตรก็ดีแล้ว แต่ว่าพ่อผมอยากให้ผมไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัย Ivy League ที่อมเริกา (ผมเขาบอกไว้ตอนอยู่ป.2 เพราะทราบว่า Albert Einstein เคยอยู่ที่นี่) พ่อก็บอกผมด้วยครับว่าถ้าหากไปไม่ได้ก็อย่ามาเป็นลูกเขา ตอนนั้นผมร้องไห้เลยครับ แม่ก็มาบอกพร้อมกับให้ดูคนงานก่อสร้างที่ทำงานอยู่ข้างนอก (ประมาณว่าจะได้ไม่เป็าแบบพวกเขา) เรื่องมันมาถึงจุดแตกอีกครั้งตอนผมกำลังจะขึ้นม.3 ตอนนั้นผมไปเข้าค่ายที่อังกฤษ แล้วได้เจอคนสองคนมาบอกว่าเราแปลก ไม่เข้าพวก และนังถามถึงพ่อแม่ผมว่าเลี้ยงผมมาแบบไข่ในหินหรือ sheltered  ผมเลยไม่ค่อยทันคน พอทบทวนดูผมก็พบว่าจริง และเขาสองคนยังบอกให้ผมคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกด้วย พอไปเล่ามห้พวกเขาฟัง พ่อก็บอกง่าไม่ต้องไปฟัง พอผมคุยกับเขาเรื่องนี้เป็นครั้งที่สอง พ่อก็ตะคอกใส่ หลังจากนั้นเรื่อยมา ผมก็ไม่ได้ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวเท่าแต่ก่อน พอเริ่มเรียนหนังสือ ผมก็เริ่มรู้สึกหรือคิดถึงความคาดหวังที่ต้องเรียนหนังสือให้ได้เกรดดีๆ และที่จะต้องมาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจครอบครัว ผมอยากจะไปทำตามความฝันของตัวเอง แต่พอทราบเรื่องเกี่ยวกับการสืบทอดธุรกิจ มันทำให้ผมรู้สึกเครียดและอึดอัดมาก ว่าเรามีแผนของเรา แต่การที่ความฝันเราถูกดับไปแบบนี้มันเหมือนกับการหมดอนาคต ผมเครียดมาก เริ่มเศร้า และคิดไว้ตอนนั้นว่าจะต้องตายให้ได้ก่อนเรียนจบ พอผมขึ้นม.4 ผมได้คุยกับพ่อว่าผมไม่อยากทำธุรกิจครอบครัว ซึ่งพ่อผมก็บอกว่าผมไปตามทางของตัวเองได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้บังคับผมแล้ว แต่มันก็ยังมีความรู้สึกค้างคาอยู่ ผมยังไม่รู้สึกใกล้ชิดกับครอบครัว และพยายามเติมเต็มสิ่งที่ขาดโดยการเข้าหาคนในโรงเรียนจนเป็นที่รู้จักใน high school (ผมเรียนนานาชาติ)

เวลามีอะไรผมมักจะไม่ค่อยกล้าคุยกับพ่อแม่ และยอมรับเลยครับว่าคิดเก็บกดเกี่ยวกับพวกเขามาก ถึงขั้นเคยแค้นเลยก็มีครับ (ประมาณว่าเลี้ยงเรามาเป็นเครื่องมือ เลี้ยงเรามาด้วยเจตนาแฝง) พอเล่าให้คนฟังก็มักจะมีคนถามประมาณว่า “แล้วสิ่งของที่พวกเขาซื้อให้ การที่ได้พบปะกับคนดีๆ สังคมดีๆ และการได้ไปเรียนต่างประเทศล่ะ?” ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดีให้จุกๆ ครับ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง ผมก็พยายามคิดที่จะไม่นับสิ่งพวกนี้ แต่มันก็เกิดไปแล้ว

แม่ผมยังเคยบอกผมเลยง่าผมทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ว่าเป็นลูกอกตัญญู ว่าทำให้พวกเขาเสียใจเพราะการอยากมาทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ ว่าไม่เคยคิดจะตอบแทนพ่อแม่

ตอนนี้ผมมีคติประจำใจนะครับ (ได้มาจาก comment YouTube และจะขอดัดแปลงเล็กน้อย): “ไม่มีแม่วัวตัวไหนดื่มนมจากลูกตัวเอง / แม่วัวประสาอะไรดื่มนมจากลูกตัวเองบ้าง?” (What kind of mother cow drinks its own calf’s milk?)

ผมไม่เคยรู้สึกจำเป็นว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ เพราะที่เขาทำมันก็แค่หน้าที่ ถ้าหากจะขอให้ผมตกต่ำหรือลำบากสักวันก็ขอให้สมพรปากแล้วกันครับ จะได้รู้สึกกับเขาบ้าง และขอให้เกิดขึ้นเร็วๆ ด้วยครับ

อย่างที่บอกไปตอนต้น ผมไม่เคยรู่สึกว่าจะต้องตอบแทนพ่อแม่ พอได้ยินอะไรแบบนี้แล้วผมอารมณ์ทุกทีครับ ยังแค้นอยู่เลยด้วย แม้ว่ามันจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม (ปัจจุบันผมจะป.ตรีแล้วครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่