คงมีหลายคนที่แทบไม่ได้เปิดโทรทัศน์ หรือแม้แต่ดูละครไทยมานานมากแล้ว ทั้งที่จริงๆ ในทุกวันนี้ ละครโทรทัศน์บ้านเราหลายเรื่องก็ดูจะมีพัฒนาการอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในแง่ประเด็นของเรื่องเล่าที่พยายามสำรวจและวิพากษ์ความเป็นไปในสังคมให้เท่าทันโลกยุคใหม่มากขึ้น
เช่นเดียวกับละครทางช่อง 3 อย่าง ‘มาตาลดา’ ที่กลายเป็นกระแสพูดถึงในโลกโซเชียลมีเดียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องด้วยมีบทพูดจากหลายฉากที่ดูจะเข้าอกเข้าใจความหลากหลายทางเพศ และมองว่าคนทุกคนเป็น ‘มนุษย์’ เท่ากัน ซึ่งสอดรับกับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month ของ LGBTQ+ ในเดือนมิถุนายนนี้พอดิบพอดี

โดยบทพูดสำคัญบทหนึ่งเกิดขึ้นในตอนที่ 2 หลังจากที่ตัวละคร มาตาลดา หรือ มาตา ในวัยเด็ก ถูกกลุ่มเพื่อนผู้ชายร่วมชั้นรุมล้อว่า เธอมีพ่อเป็น ‘ตุ๊ด’ พร้อมส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยันกึกก้องที่ห้องเรียน เมื่อกลับมาที่บ้าน เกรซ พ่อของเธอ (รับบทโดย ชาย-ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) ที่เป็นเจ้าของ The Cage บาร์ชื่อดังในพัทยา ซึ่งมาในชุดนางโชว์แบบจัดเต็ม จึงพูดปลอบใจลูกสาวตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม ว่าเธอไม่จำเป็นต้องถือเอาถ้อยคำเหล่านั้นมาเป็นเรื่องใหญ่ให้ต้องกังวลใจหรือโกรธเคือง
มาตา : ต้นน้ำ บอกว่าพ่อเป็นตุ๊ด …ตุ๊ดเป็นคนไม่ดีเหรอคะ
พ่อเกรซ : ในโลกเราเนี่ยนะลูก มีคนหลากหลายเพศเต็มไปหมดเลย ไม่ใช่แค่ผู้ชายกับผู้หญิงนะลูก แต่ทุกคนเป็นคนธรรมดาเหมือนๆ กันหมดเลย บางวันก็หงุดหงิด บางวันก็ใจดี แต่เพศเนี่ยไม่ได้เกี่ยวกับการที่ใครคนใดคนนึงจะเป็นคนดี หรือไม่ดีเลยนะลูก
คำว่าตุ๊ดไม่ใช่คำหยาบ ถ้าใจเราไม่ได้เหยียด
และแม้จะยังมีดีเบตกันอยู่ประปราย ว่าคำว่า ‘ตุ๊ด’ อาจไม่สมควรถูกใช้กับอีกฝ่ายไม่ว่าจะในบริบทใดก็ตาม หากเจ้าตัวไม่ยินยอมพร้อมใจ (consent) แต่อย่างน้อยๆ ‘มาตาลดา’ ก็ดูจะยังเป็นหนึ่งในความหวังของละครไทย พ.ศ. นี้ เพราะไม่เพียงบทพูดแสนกินใจที่ถูกโควตไปชื่นชมกันเท่านั้น แต่พล็อตเรื่องของมันก็ยังยึดโยงกับการพยายามทำความเข้าใจเรื่อง ‘เพศหลากหลาย’ ในสังคมไทยอย่างชัดเจนอีกด้วย
เนื่องจากตัวละคร เกรซ เดิมทีมีชื่อว่า เกริกพล และการที่ ‘เธอ’ ได้มาตั้งรกราก รวมถึงเปิดบาร์นางโชว์ที่พัทยาจนสามารถสร้างตัวได้นั้น ก็เป็นผลมาจากการที่เธอต้องถูกพ่อเชื้อสายจีนขับไล่ออกจากบ้าน พร้อมกับมาตาลดาในวัยแบเบาะ โทษฐานที่เธอเป็นพวก ‘ลักเพศ’ จนทำให้ความคาดหวังของผู้เป็นพ่อที่มีต่อลูกชายที่พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี หนำซ้ำเธอยังถูกพ่อที่เธอเคารพรักเฆี่ยนตีจนเลือดตกยางออก หลังจากที่เธอพยายามกลับไปเป็นครอบครัวเดียวกับเขาตามเดิม ในวันที่มาตาลดาเติบใหญ่จนรู้ความแล้ว


พ่อเกรซ : ในโลกเราเนี่ยนะลูก มีคนหลากหลายเพศเต็มไปหมดเลย ไม่ใช่แค่ผู้ชายกับผู้หญิงนะลูก แต่ทุกคนเป็นคนธรรมดาเหมือนๆ กันหมดเลย บางวันก็หงุดหงิด บางวันก็ใจดี แต่เพศเนี่ยไม่ได้เกี่ยวกับการที่ใครคนใดคนนึงจะเป็นคนดี หรือไม่ดีเลยนะลูก
‘มาตาลดา’ ในวันที่ละครไทย เจาะจงลงลึกถึงความใจดี ความใจร้าย 🎡♾️💟
เช่นเดียวกับละครทางช่อง 3 อย่าง ‘มาตาลดา’ ที่กลายเป็นกระแสพูดถึงในโลกโซเชียลมีเดียเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องด้วยมีบทพูดจากหลายฉากที่ดูจะเข้าอกเข้าใจความหลากหลายทางเพศ และมองว่าคนทุกคนเป็น ‘มนุษย์’ เท่ากัน ซึ่งสอดรับกับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month ของ LGBTQ+ ในเดือนมิถุนายนนี้พอดิบพอดี
มาตา : ต้นน้ำ บอกว่าพ่อเป็นตุ๊ด …ตุ๊ดเป็นคนไม่ดีเหรอคะ
พ่อเกรซ : ในโลกเราเนี่ยนะลูก มีคนหลากหลายเพศเต็มไปหมดเลย ไม่ใช่แค่ผู้ชายกับผู้หญิงนะลูก แต่ทุกคนเป็นคนธรรมดาเหมือนๆ กันหมดเลย บางวันก็หงุดหงิด บางวันก็ใจดี แต่เพศเนี่ยไม่ได้เกี่ยวกับการที่ใครคนใดคนนึงจะเป็นคนดี หรือไม่ดีเลยนะลูก
คำว่าตุ๊ดไม่ใช่คำหยาบ ถ้าใจเราไม่ได้เหยียด
เนื่องจากตัวละคร เกรซ เดิมทีมีชื่อว่า เกริกพล และการที่ ‘เธอ’ ได้มาตั้งรกราก รวมถึงเปิดบาร์นางโชว์ที่พัทยาจนสามารถสร้างตัวได้นั้น ก็เป็นผลมาจากการที่เธอต้องถูกพ่อเชื้อสายจีนขับไล่ออกจากบ้าน พร้อมกับมาตาลดาในวัยแบเบาะ โทษฐานที่เธอเป็นพวก ‘ลักเพศ’ จนทำให้ความคาดหวังของผู้เป็นพ่อที่มีต่อลูกชายที่พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี หนำซ้ำเธอยังถูกพ่อที่เธอเคารพรักเฆี่ยนตีจนเลือดตกยางออก หลังจากที่เธอพยายามกลับไปเป็นครอบครัวเดียวกับเขาตามเดิม ในวันที่มาตาลดาเติบใหญ่จนรู้ความแล้ว