สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
คุณไม่ใช่คนขี้เกรงใจ แต่ขี้ขลาด ขลาดในการที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น กฏของการอยู่ร่วมกันโดยเฉพาะการที่เราเป็นเจ้าบ้าน แถมยังจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่าง อีกทั้งเป็นพี่สาวที่ถือว่ามีวัยวุฒิที่สูงกว่า กฎมันต้องถูกกำหนดไว้ในระดับนึง ไม่ถึงกับเคร่งครัดมากมาย แต่ต้องทำความเข้าใจ มาอยู่ด้วย ก็ต้องช่วยงาน หรือช่วยตัวเองในระดับนึง ขอให้กล้าที่จะพูดอย่าไปกลัวโน่นกลัวนี่ เพียงแต่ตอนพูดรู้จักใช้คำในการสื่อสารที่ดูไม่รุนแรง มีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน จะให้ดีก็ควรคุยต่อหน้าแม่ เตรียมคำตอบสำหรับคำถามไว้ ว่าตอบยังไงให้ดูดี
แต่ถ้าได้ทำแล้วไม่ดีขึ้น มาหน้าหงิกหน้างอไม่พูด เขาใช้ภาษากายแบบนี้ เราก็โต้ตอบได้เช่นกัน เช่น ถามว่าวันนี้กลับกี่โมง ไม่ตอบ ก็ไปสายซักชั่วโมงไปเลย เอาให้เข็ด หรือวันไหนมีธุระก็บอกเลยว่าวันนี้ไม่ว่างไปรับนะ เขาก็ต้องปรับตัวเองไปอัตโนมัติ อย่ายอมในสิ่งที่ไม่ควรยอมจนเขาเคยตัวแบบนี้ อำนาจมีใช้ให้เป็นและเหมาะสมครับ
แต่ถ้าได้ทำแล้วไม่ดีขึ้น มาหน้าหงิกหน้างอไม่พูด เขาใช้ภาษากายแบบนี้ เราก็โต้ตอบได้เช่นกัน เช่น ถามว่าวันนี้กลับกี่โมง ไม่ตอบ ก็ไปสายซักชั่วโมงไปเลย เอาให้เข็ด หรือวันไหนมีธุระก็บอกเลยว่าวันนี้ไม่ว่างไปรับนะ เขาก็ต้องปรับตัวเองไปอัตโนมัติ อย่ายอมในสิ่งที่ไม่ควรยอมจนเขาเคยตัวแบบนี้ อำนาจมีใช้ให้เป็นและเหมาะสมครับ
ความคิดเห็นที่ 9
6-1
พูดไม่พูด ตอนนี้น้องก็เกลียดคุณอยู่แล้วครับ
แล้วมันเรื่องอะไร จะต้องไปรับส่ง หรือ ออกค่าข้าวค่าน้ำ ให้คนที่ไม่เห็นหัวคุณล่ะ
ทำดีเสมอตัว
ทำไม่ดี ก็โดนแม่ด่า โดนน้องเหวี่ยงใส่
เย็นนี้ สั่งสอนให้น้องมีมารยาทนะครับ ไปรับ ไปส่ง ต้องขอบคุณ
มาอยู่ด้วยกันต้องแชร์ค่าใช้จ่าย ถ้าตอนนี้ยังไม่มี ให้จดลงบัญชีไว้
ถ้าไม่ทำ ถ้ายังจะดื้อ บอกให้ไปหาหออยู่เอง และไปกลับเองครับ
น้องอายุ 19 แม่ไม่สั่งสอน เอาใจตลอด เป็นเรื่องของแม่คุณกับน้อง
แต่มาอยู่กับคุณแล้วคุณต้องตามทรีตเป็นเจ้าหญิง ที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณแบบนี้
มันเป็นหน้าที่คุณต้องรู้จักสั่งสอนน้องบ้างครับ
พูดไม่พูด ตอนนี้น้องก็เกลียดคุณอยู่แล้วครับ
แล้วมันเรื่องอะไร จะต้องไปรับส่ง หรือ ออกค่าข้าวค่าน้ำ ให้คนที่ไม่เห็นหัวคุณล่ะ
ทำดีเสมอตัว
ทำไม่ดี ก็โดนแม่ด่า โดนน้องเหวี่ยงใส่
เย็นนี้ สั่งสอนให้น้องมีมารยาทนะครับ ไปรับ ไปส่ง ต้องขอบคุณ
มาอยู่ด้วยกันต้องแชร์ค่าใช้จ่าย ถ้าตอนนี้ยังไม่มี ให้จดลงบัญชีไว้
ถ้าไม่ทำ ถ้ายังจะดื้อ บอกให้ไปหาหออยู่เอง และไปกลับเองครับ
น้องอายุ 19 แม่ไม่สั่งสอน เอาใจตลอด เป็นเรื่องของแม่คุณกับน้อง
แต่มาอยู่กับคุณแล้วคุณต้องตามทรีตเป็นเจ้าหญิง ที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณแบบนี้
มันเป็นหน้าที่คุณต้องรู้จักสั่งสอนน้องบ้างครับ
ความคิดเห็นที่ 2
บอกให้กลับเองไป แค่ไปส่งนี่ก็หรูละ
คุณกลัวไรแม่อะ โตแล้วเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องฟังแม่ค่ะ
หัดมีปากเสียงบ้าง บอกไปเลยมาอยู่กับชั้นแกต้องทำตัวยังไง ไม่งั้นก็ออกไปอยู่เอง ชั้นไม่ใช่ขี้ข้าคอยรับส่งแกนะ เป็นเจ้าหญิงมาจากไหนเหรอไง
ถ้าคุณไม่ด่า แม่ไม่ด่า ต่อไปน้องคุณนิสัยเสียแน่ คงเอาแต่ใจตัวเองจนคนอื่นด่าอะบอกเลย
คุณกลัวไรแม่อะ โตแล้วเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องฟังแม่ค่ะ
หัดมีปากเสียงบ้าง บอกไปเลยมาอยู่กับชั้นแกต้องทำตัวยังไง ไม่งั้นก็ออกไปอยู่เอง ชั้นไม่ใช่ขี้ข้าคอยรับส่งแกนะ เป็นเจ้าหญิงมาจากไหนเหรอไง
ถ้าคุณไม่ด่า แม่ไม่ด่า ต่อไปน้องคุณนิสัยเสียแน่ คงเอาแต่ใจตัวเองจนคนอื่นด่าอะบอกเลย
แสดงความคิดเห็น
ต้องไปรับไปส่งน้องสาวทุกวันที่น้องไปทำงาน
.....จนวันหนึ่งที่เราไปรอรับน้องกลับจากที่ทำงาน แต่ยังไม่เห็นออกมาเลยโทรไปหา ส่งข้อความไปหาก็ไม่มีการตอบรับ เลยคิดว่าเดี่ยวค่อยมารับ เดี่ยวแวะไปซื้อกับข้าวที่ตลาดรอ ... น้องเลยโทรกลับหาเรา บอกเพิ่มเลิก ... เราเลยตอบไปว่าตอนนี้อยู่ตลาด รออยู่นั้นก่อนเดี่ยวไปรับ ... เลยบอกน้องว่าไปรออยู่ตั้งนานไม่เห็นออกมา ... น้องตอบกลับและขึ้นเสียงใส่เล็กน้อยว่า เอ้า! เพิ่งเลิก! เราเลยวางสายไป และรีบไปรับน้อง.... ไปถึงน้องก็เงียบไม่พูดอะไรกับเรา เราก็โกธรเหมือนกันที่ตะคอกใส่เรา น้องก็โกธรเหมือนกันว่ามารับช้า โทรหาเราหลายรอบแต่ไม่มีคนรับ แต่ตอนน้องโทรมาเราไม่ได้รับ เพราะเราขับรถ กลับไปถึงบ้านก็ไม่พูดอะไรกัน ต่างคนต่างเข้าห้อง
.....เข้าอีกวันหนึ่งเราต้องไปส่งน้องไปทำงานอีก ช่วง 7.00 น. พอถึงที่ทำงานน้องไม่พูดอะไรสักคำ พอรถจอดก็เดินหนีไปเลย แม้แต่คำว่า โอเคไปก่อนนะ หรือ ขอบคุณ หรือ ยกมือไหว้ก็ไม่มี เราควรทำอย่างไรดี แต่ต้องบอกก่อนว่าน้องเป็นคนที่อีโก้สูง พ่อแม่จะเอาใจตลอด และเค้าก็เป็นคนโกธรง่าย บอกสอนอะไรนิดๆหน่อยๆ ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ เงียบ ไม่พูด เวลาเราคุยด้วยก็เหมือนไม่อยากคุยด้วย แบบนี้ต้องทำยังไงดีคะ หรือจะต้องจัดการแบบไหนดี
อัปเดต ตอนนี้น้องได้ทำงานแล้ว แล้วก็อาศัยอยู่กับเรา แต่เราก็เป็นคนจ่ายค่าเช่น ค่าน้ำ ไฟ และอื่นๆ ส่วนน้องก็มีเงินเดือนก็สามารถซื้อของกินของใช้ได้ด้วยตัวเอง แต่ค่าไฟคา่น้ำ ค่าเช่าบ้าน และอื่นๆ เป็นเรา แถมเรายังเป็นคนที่หาซื้อรถมือสองมาไว้ให้น้องขี่อีกต่างหาก แต่นิสัยน้องก็ยังเป็นคนที่ขี่โกรธ เอาแต่ใจเหมือนเดิม เวลาบอกให้ประหยัดนุ่นนี่ ช่วยกัน หรือบอกในสิ่งที่ควรทำ ก็จะมีอาการโกรธมห้เรา ไม่พอใจ เงียบ เช่นเคย เวลาเราเริ่มพูดคุยกับเค้า น้ำเสียงของเค้าก็จะพูดกับเรา ตอบคำถามเราด้วยนำเสียงที่ไม่เหมือนเดิม เหมือนไม่เต็มใจที่จะตอบ หรือพูดคุยกับเรา เวลาเราอยู่บนบ้านในห้องนอน น้องนั่งอยู่ชั้นล่างหน้าทีวี แต่พอเราลงไปนั่งด้วยข้างล่าง เค้าก็จะขึ้นมาข้างบนห้องเค้า เหมือนไม่อยากคุยกับเราหรือไม่อยากนั่งคุยหรือแม้แต่เวลากินข้าวเค้าก็จะให้เรากินเสร็จแล้วเค้าค่อยลงมากิน หรือรีบกินก่อนเราแล้วขึ้นไปข้างบน อะไรประมาณนี้ คิดว่ามันไม่โอเค ให้ที่อยู่ที่พักอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่างแต่รู้สึกว่าเค้าไม่ได้เห็นค่า แต่น้องจะมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่รู้จักกันมานานเพื่อนเช่าอยู่ห้องเช่า พอเวลาเพื่อนไม่สบายเค้าจะชอบไปดูแลซื้อข้าวซื้อน้ำให้กิน พาไปหาหมอ เวลาพ่อของเพื่อนเค้าบอกอะไรเค้าก็จะฟังหมด แต่ต่างจากเราที่เวลาเราไม่สบาย ปวดท้อง ไม่มีแม้แต่คำถาม หรือหาคนออกไปซื้อยาให้ก็ไม่มี ล่าสุดเลยตัดสินใจบอกน้องไปว่า เตรียมหาห้อง หาที่อยู่ไว้เลยนะ เพราะว่าจะย้ายออกแล้ว ให้ไปหาที่อยู่เอาเอง แต่คิดว่าน่าจะย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นเพราะไม่อยากแบกรับหรือรับผิดชอบใคร ตอนนี้ชีวิตเหมือนมีลูกเลยค่ะ ทั้งๆ ลุกก็ยังไม่มี ส่วนแม่ก็ไม่อยากให้เราย้ายไปอยู่จ.อื่น เพราะกลัวว่าน้องจะได้จ่ายค่าห้องเอง แล้วกลัวว่าน้องจะไม่มีเงินพอที่จะส่งให้ตัวเอง เพราะว่าตอนนี้น้องไม่ได้จ่ายค่าอะไรเลย ไฟ น้ำ เน็ต เช่าบ้าน น้ำมัน เราจ่ายหมด แต่ตอนนี้โชคดีที่ไม่ได้จ่ายค่ากับข้าวให้ทุกมื้อเพราะเค้าทำงานเป็นพนง.มีเงินเดือนแล้ว