ครอบครัวหนึ่งนั่งล้อมวงรอบโต๊ะอาหาร ร่วมกินมื้อค่ำพร้อมกับพูดคุยกันในครอบครัว
"ฉันรู้ว่างานบริษัทสำคัญ แต่คุณอย่าทำให้มันเป็นปัญหาในครอบครัวสิคะ หลายวันก่อน
ทั้งๆที่เป็นวันเกิดของยูนา กว่าคุณจะกลับมาก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว"
คุณแม่บ่นขึ้น แล้วยูนาที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก็ตะโกนแทรกขึ้นทันที
"ใช่ วันนั้นหนูคอยพ่อนานขนาดไหนรู้มั้ยคะ"
"รู้แล้วน่า รู้แล้ว พ่อขอโกษนะ คราวหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้อีก" พ่อตอบอย่างไม่สนใจ
แล้วกินอาหารต่ออย่างรีบร้อน
คราวนี้ยูกิ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ห้าตะโกนขึ้นบ้าง "วันนี้เป็นวันแรกในรอบเดือนเลย
นะ ที่เห็นหน้าพ่อ พ่อชอบออกจากบ้านไปแต่เช้ามืด กลับเข้ามาอีกทีก็ดึกแล้วเป็นแบบนี้ทุกวัน
จนผมเกือบลืมหน้าพ่อไปแล้วด้วยซ้ำ"
แม้แต่ยูชิก นักเรียนชั้นมัรยมต้นก็ร่วมตัดพ้อพ่อเช่นกัน "ยูกิพูดถูก พ่อละเลยครอบครัวเรา
มากเกินไปแล้วนะ แม้แต่วันอาทิตย์พ่อก็ยังทำงานอีก พ่อจะบ้างานมากเกินไปแล้ว"
พ่อจึงตอบกลับพลางยิ้มกว้างราวกับไม่ใช่เรื่องเครียดอะไร "พ่อขอโทษด้วยนะ ช่วงนี้บริษัทยุ่ง
มาก แต่อีกไม่กี่เดือนก็จะเสร็จแล้วละ อดทนหน่อยนะลูก"
"พวกเรา...ไม่ชอบท่าทางแบบนี้ของพ่อที่สุดเลย ที่พวกเราพูดกันเป็นเรื่องจริงจังนะ แต่พ่อ
กลับพูดแค่ "อรู้แล้ว พ่อขอโทษ พ่อจะไม่ทำแล้ว และทำท่าทางไม่ใส่ใจทุกครั้ง...ไหนพ่อ
สัญญาว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ให้ด้วยไงล่ะ พ่อไม่เคยรักษาสัญญาเลย"
ยูชิกหั่นเนื้อย่างพลางบ่นพ่อ
"อ้อ จริงสินะ ไว้อาทิตย์หน้าพ่อจะซื้อให้ ช่วงนี้พ่อยุ่งจนลืมไปเลย ขอโทษจริงๆ..."
"ขอโทษอีกแล้ว"
"ฮ่าๆ เอาเถอะน่า"
การพูดคุยในครอบครัวคืนนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงคำพูดตำหนิคุณพ่อเท่านั้น
แม้การเรียกร้องอันน่าอึดอัดใจของทุกคนในครอบครัว จะสร้างความลำบากให้คุณพ่อเป็น
อย่างมาก แต่คุณพ่อก็ยังคงหัวเราะ ฮ่าๆ พยักหน้ารับผิด และพูดซ้ำไปมาว่า เข้าใจแล้ว ต่อไป
จะไม่ทำแบบนี้อีกเท่านั้น
"หึ สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ประจำ" ยูนาพึมพำอย่างน่าเบื่อหน่าย ก่อนการพูดคุยครอบครัวจะ
จบลงแบบเดิมในที่สุด"
วันต่อมา คุณพ่อต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด จึงออกจากบ้านไปแต่เช้ามืดเช่นเคย มีเพียงแม่
เท่านั้น ที่ตื่นขึ้นมาเตรียมข้าวของให้คุณพ่อไว้ใช้ระหว่างเดินทาง ส่วนยูนา ยูกิ ยูชิก ยังคงนอน
หลับไม่รู้เรื่องราวใดๆ
"พ่อต้องขึ้นเครื่องนินทั้งงาไปและขากลับ พรุ่งนี้เย็นถึงจะได้กลับบ้านนะ"
คุณพ่อบอกคุณแม่ก่อนขับรถออกจากบ้าน มุ่งสู่สนามบิน
ไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่า การที่คุณพ่อจากไปครั้งนี้จะเป็นการจากกันชั่วนิจนิรันดร์
เครื่องบินที่คุณพ่อโดยสารไป เกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง ทำให้เครื่องร่อนลงทันทีก่อนจะ
ตกที่เนินดิน
กันที่ที่กราบข่าวอุบัติเหตุเครื่องบินตก บรรดาญาติมิตรต่างมาที่บ้าน บ้างก็โทรศัพท์มา
ถามไถ่ข่าวคราว บ้านจึงวุ่นวายในกันที่ ทุกคนต่างหวังว่าพ่อจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ตามข่าวที่
รายงานออกมา ยืนยันว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว
ยูนา ยูกิ และยูชิกไปโรงเรียนไม่ได้หลายวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เสียใจ ขณะถือรูปพ่อในมือ ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด...พวกเขาปล่อยให้วันเวลาผ่าน
ไปกับการนั่งร้องไห้จะขาดใจเพียงเท่านั้น
หลายวันต่อมา ตำรวจถือซองน้ำตาลมาที่ให้ที่บ้าน
"นี่เป็นสิ่งของของผู้ตายที่เราค้นพบในที่เกิดเหตุครับ"
ในซองนั้นมีถุงพลาสติกที่ใส่สมุดบันทึกของคุณพ่อไว้อยู่ กันทีที่คุณแม่เห็น ก็ร้องไห้โฮ ใน
สมุดบันทึก คุณพ่อเขียนถึงครอบครัวดังนี้
ยูนา ยูกิ ยูชิก ลูกรักอย่าทะเลาะกันเลยนะ พ่อขอให้ลูกทุกคนขยันเรียน...และคอยช่วยแม่
ทำงานด้วย อขอโทษที่ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลย ตอนนี้ผ่านไปห้านาทีแล้ว ดูเหมือนจะเกิด
เหตุระเบิดในตัวเครื่อง เครื่องบินร่อนต่ำลงเรื่อยๆ ถ้าเครื่องตก ทุกอย่างคงจบสิ้น
ข้อความในบันทึก เป็นข้อความที่คุณอเขียนอย่างรีบร้อน ก่อนเครื่องบินตก
การกินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันเมื่อคืนคงเป็นมื้อสุดท้ายสินะ พ่ออยากดูแลทุกคน
อย่างดีมาตลอด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นแบบนี้...จำไว้นะลูก แม้พ่อจะไม่อยู่บนโลกนี้ แต่พ่อยัง
คงอยู่เคียงข้างทุกคนเสมอ ยูชิกลูกเป็นพี่คนโต ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องๆนะ ทำหน้าที่ดูแล
แม่และน้องแทนพ่อด้วย
ที่รัก ผมอาจไม่ค่อยได้บอกคุณ แต่ผมรักคุณเสมอ ปีหน้าผมตั้งใจจะย้ายบ้านไปอยู่ใน
หมู่บ้านที่เราเคยดูกันไว้ผมอยากทำดีกับคุณมากกว่านี้ รักษาตัวให้ดีด้วย ดูแลลูกๆแทนผม
ด้วยนะ ไม่ว่าอย่างไร ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมมีความสุขเหลือเกินแม้กระทั่งตอนนี้...
คุณแม่ซบหน้าลงสมุดพลางสะอื้นจะขาดใจ ลูกทั้งสามคนทรุดลงและนั่งร้องไห้ข้างคุณแม่
ความคิดถึงและความเศร้าโศรกนี้แทบไม่อาจทาได้ ราวกับสึนามิพัดมากวาดล้างครอบครัวไป
หมดในพริบตาเดียว เวลานี้คนในครอบครัวตระหนักชัดแล้วว่า คุณพ่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และ
สำคัญเพียงใด คุณพ่อรักและห่วงใยทุกคนมากแค่ไหน ทุกคน...รับรู้มันได้แล้ว
ข้อคิด : ทุกช่วงเวลานั้นมีค่า เราไม่รู้ว่าจะสูญเสียอะไรไปเมื่อไร ควรใช้ทุกเวลากับคนที่เรารัก
อย่างคุ้มค่า
สมุดบันทึกของคุณพ่อ
"ฉันรู้ว่างานบริษัทสำคัญ แต่คุณอย่าทำให้มันเป็นปัญหาในครอบครัวสิคะ หลายวันก่อน
ทั้งๆที่เป็นวันเกิดของยูนา กว่าคุณจะกลับมาก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว"
คุณแม่บ่นขึ้น แล้วยูนาที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก็ตะโกนแทรกขึ้นทันที
"ใช่ วันนั้นหนูคอยพ่อนานขนาดไหนรู้มั้ยคะ"
"รู้แล้วน่า รู้แล้ว พ่อขอโกษนะ คราวหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนี้อีก" พ่อตอบอย่างไม่สนใจ
แล้วกินอาหารต่ออย่างรีบร้อน
คราวนี้ยูกิ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ห้าตะโกนขึ้นบ้าง "วันนี้เป็นวันแรกในรอบเดือนเลย
นะ ที่เห็นหน้าพ่อ พ่อชอบออกจากบ้านไปแต่เช้ามืด กลับเข้ามาอีกทีก็ดึกแล้วเป็นแบบนี้ทุกวัน
จนผมเกือบลืมหน้าพ่อไปแล้วด้วยซ้ำ"
แม้แต่ยูชิก นักเรียนชั้นมัรยมต้นก็ร่วมตัดพ้อพ่อเช่นกัน "ยูกิพูดถูก พ่อละเลยครอบครัวเรา
มากเกินไปแล้วนะ แม้แต่วันอาทิตย์พ่อก็ยังทำงานอีก พ่อจะบ้างานมากเกินไปแล้ว"
พ่อจึงตอบกลับพลางยิ้มกว้างราวกับไม่ใช่เรื่องเครียดอะไร "พ่อขอโทษด้วยนะ ช่วงนี้บริษัทยุ่ง
มาก แต่อีกไม่กี่เดือนก็จะเสร็จแล้วละ อดทนหน่อยนะลูก"
"พวกเรา...ไม่ชอบท่าทางแบบนี้ของพ่อที่สุดเลย ที่พวกเราพูดกันเป็นเรื่องจริงจังนะ แต่พ่อ
กลับพูดแค่ "อรู้แล้ว พ่อขอโทษ พ่อจะไม่ทำแล้ว และทำท่าทางไม่ใส่ใจทุกครั้ง...ไหนพ่อ
สัญญาว่าจะซื้อคอมพิวเตอร์ให้ด้วยไงล่ะ พ่อไม่เคยรักษาสัญญาเลย"
ยูชิกหั่นเนื้อย่างพลางบ่นพ่อ
"อ้อ จริงสินะ ไว้อาทิตย์หน้าพ่อจะซื้อให้ ช่วงนี้พ่อยุ่งจนลืมไปเลย ขอโทษจริงๆ..."
"ขอโทษอีกแล้ว"
"ฮ่าๆ เอาเถอะน่า"
การพูดคุยในครอบครัวคืนนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงคำพูดตำหนิคุณพ่อเท่านั้น
แม้การเรียกร้องอันน่าอึดอัดใจของทุกคนในครอบครัว จะสร้างความลำบากให้คุณพ่อเป็น
อย่างมาก แต่คุณพ่อก็ยังคงหัวเราะ ฮ่าๆ พยักหน้ารับผิด และพูดซ้ำไปมาว่า เข้าใจแล้ว ต่อไป
จะไม่ทำแบบนี้อีกเท่านั้น
"หึ สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ประจำ" ยูนาพึมพำอย่างน่าเบื่อหน่าย ก่อนการพูดคุยครอบครัวจะ
จบลงแบบเดิมในที่สุด"
วันต่อมา คุณพ่อต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด จึงออกจากบ้านไปแต่เช้ามืดเช่นเคย มีเพียงแม่
เท่านั้น ที่ตื่นขึ้นมาเตรียมข้าวของให้คุณพ่อไว้ใช้ระหว่างเดินทาง ส่วนยูนา ยูกิ ยูชิก ยังคงนอน
หลับไม่รู้เรื่องราวใดๆ
"พ่อต้องขึ้นเครื่องนินทั้งงาไปและขากลับ พรุ่งนี้เย็นถึงจะได้กลับบ้านนะ"
คุณพ่อบอกคุณแม่ก่อนขับรถออกจากบ้าน มุ่งสู่สนามบิน
ไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่า การที่คุณพ่อจากไปครั้งนี้จะเป็นการจากกันชั่วนิจนิรันดร์
เครื่องบินที่คุณพ่อโดยสารไป เกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้อง ทำให้เครื่องร่อนลงทันทีก่อนจะ
ตกที่เนินดิน
กันที่ที่กราบข่าวอุบัติเหตุเครื่องบินตก บรรดาญาติมิตรต่างมาที่บ้าน บ้างก็โทรศัพท์มา
ถามไถ่ข่าวคราว บ้านจึงวุ่นวายในกันที่ ทุกคนต่างหวังว่าพ่อจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ตามข่าวที่
รายงานออกมา ยืนยันว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว
ยูนา ยูกิ และยูชิกไปโรงเรียนไม่ได้หลายวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น
เสียใจ ขณะถือรูปพ่อในมือ ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด...พวกเขาปล่อยให้วันเวลาผ่าน
ไปกับการนั่งร้องไห้จะขาดใจเพียงเท่านั้น
หลายวันต่อมา ตำรวจถือซองน้ำตาลมาที่ให้ที่บ้าน
"นี่เป็นสิ่งของของผู้ตายที่เราค้นพบในที่เกิดเหตุครับ"
ในซองนั้นมีถุงพลาสติกที่ใส่สมุดบันทึกของคุณพ่อไว้อยู่ กันทีที่คุณแม่เห็น ก็ร้องไห้โฮ ใน
สมุดบันทึก คุณพ่อเขียนถึงครอบครัวดังนี้
ยูนา ยูกิ ยูชิก ลูกรักอย่าทะเลาะกันเลยนะ พ่อขอให้ลูกทุกคนขยันเรียน...และคอยช่วยแม่
ทำงานด้วย อขอโทษที่ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลย ตอนนี้ผ่านไปห้านาทีแล้ว ดูเหมือนจะเกิด
เหตุระเบิดในตัวเครื่อง เครื่องบินร่อนต่ำลงเรื่อยๆ ถ้าเครื่องตก ทุกอย่างคงจบสิ้น
ข้อความในบันทึก เป็นข้อความที่คุณอเขียนอย่างรีบร้อน ก่อนเครื่องบินตก
การกินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันเมื่อคืนคงเป็นมื้อสุดท้ายสินะ พ่ออยากดูแลทุกคน
อย่างดีมาตลอด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นแบบนี้...จำไว้นะลูก แม้พ่อจะไม่อยู่บนโลกนี้ แต่พ่อยัง
คงอยู่เคียงข้างทุกคนเสมอ ยูชิกลูกเป็นพี่คนโต ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องๆนะ ทำหน้าที่ดูแล
แม่และน้องแทนพ่อด้วย
ที่รัก ผมอาจไม่ค่อยได้บอกคุณ แต่ผมรักคุณเสมอ ปีหน้าผมตั้งใจจะย้ายบ้านไปอยู่ใน
หมู่บ้านที่เราเคยดูกันไว้ผมอยากทำดีกับคุณมากกว่านี้ รักษาตัวให้ดีด้วย ดูแลลูกๆแทนผม
ด้วยนะ ไม่ว่าอย่างไร ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมมีความสุขเหลือเกินแม้กระทั่งตอนนี้...
คุณแม่ซบหน้าลงสมุดพลางสะอื้นจะขาดใจ ลูกทั้งสามคนทรุดลงและนั่งร้องไห้ข้างคุณแม่
ความคิดถึงและความเศร้าโศรกนี้แทบไม่อาจทาได้ ราวกับสึนามิพัดมากวาดล้างครอบครัวไป
หมดในพริบตาเดียว เวลานี้คนในครอบครัวตระหนักชัดแล้วว่า คุณพ่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่และ
สำคัญเพียงใด คุณพ่อรักและห่วงใยทุกคนมากแค่ไหน ทุกคน...รับรู้มันได้แล้ว
ข้อคิด : ทุกช่วงเวลานั้นมีค่า เราไม่รู้ว่าจะสูญเสียอะไรไปเมื่อไร ควรใช้ทุกเวลากับคนที่เรารัก
อย่างคุ้มค่า