JJNY : อ.พรสันต์ อธิบายข้อกม.│พิชาย ไม่ชัวร์ วิษณุสับสนหรือจงใจ│สมชัย เปิดหลักฐาน‘เรืองไกร’│ทุเรียนอ่อนพ่นพิษราคาตก

อ.พรสันต์ อธิบายข้อกม.เสนอชื่อ ‘พิธา’เป็น’นายกฯ’ได้ ตามรธน.แม้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
https://www.matichon.co.th/election66/news_4027837

อ.พรสันต์ อธิบายข้อกม.เสนอชื่อ ‘พิธา’เป็น’นายกฯ’ได้ ตามรธน.แม้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ยกเคส ‘ธนาธร’

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับข้อกฎหมายการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า

หลายท่านสอบถามมากรณีของคุณพิธากับกลไกการตรวจสอบสมาชิกภาพ ส.ส. และการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดตนายกฯ) ว่าเป็นเช่นไร เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจข้อกฎหมาย (รัฐธรรมนูญ) และข้อเท็จจริงที่ถูกต้องไม่คลาดเคลื่อน ผมจึงขออธิบายโดยสรุปเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ
.
1. ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (2560) ไม่ได้มีการกำหนดคุณสมบัติว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (แตกต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับก่อนอย่างฉบับปี 2540 และ 2550)
.
2. จากข้อ 1. หากปรากฏว่ามีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของคุณพิธาว่าสิ้นสมาชิกภาพไปแล้วหรือไม่ (เพราะถือหุ้น itv)และศาลเห็นควรให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย (ม.82) จึงย่อมไม่ส่งผลทางกฎหมายกับการเสนอชื่อคุณพิธาต่อรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกฯ (ม.159)
.
3. กรณีตามข้อ 2. เคยเกิดขึ้นแล้วกับกรณีคุณธนาธร ขณะนั้นศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยมีการอ่านคำสั่งในวันแรกของการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อลงมติเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (25 พ.ค.2562) ต่อมามีการนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 5 มิ.ย. 2562 เพื่อลงมติเลือกนายกฯ
 
ขณะนั้นมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์และคุณธนาธรในฐานะแคนดิเดตนายกฯ หาได้มีปัญหาทางกฎหมายใดๆ โดยผลการลงมติของรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ ชนะจนได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ
.
ดังนั้น ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงกรณีคุณพิธาหากเกิดขึ้นจึงพึงต้องเป็นเช่นนี้ครับ

https://www.facebook.com/pornson.liengboonlertchai/posts/pfbid02Erjckwhcfo5sG2dxo3eF1NrQmrNDxEy46YJ7mwA43Sm2KDrytG9veRP1ts1c2MUpl
  


พิชาย ไม่ชัวร์ วิษณุสับสนหรือจงใจ เหตุตอบปมเสนอชื่อโหวตนายกฯก่อนถูกยกเคสธนาธรเทียบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4027948

พิชาย ไม่ชัวร์ วิษณุสับสนหรือจงใจ เหตุตอบปมเสนอชื่อโหวตนายกฯก่อนถูกยกเคสธนาธรเทียบ
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์  (NIDA) ให้สัมภาษณ์ “มติชนทีวี” ในประเด็นที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งแคนดิเดตนายกฯคนใดหยุดปฏิบัติหน้าที่จะไม่สามารถเสนอชื่อเพื่อโหวตนายกฯได้นั้น
 
รศ.ดร.พิชายกล่าวว่า นายวิษณุคือจักรกลทางกฎหมายที่สำคัญอันหนึ่งในโครงสร้างอำนาจเดิม เพราะฉะนั้นการชี้นำทางกฎหมายต้องพยายามชี้นำในลักษณะที่กลุ่มอำนาจเดิมได้ประโยชน์อยู่ในระดับหนึ่ง เพราะกฎหมายต่างๆ ที่แสดงความเห็นมามีทิศทางไปในลักษณะนั้น

แต่ครั้งนี้เมื่อกล่าวออกมา ถูกคนโต้ เพราะปี 2562 เคยมีตัวอย่างมาแล้ว ชื่อของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้นยังถูกเสนอได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกันระหว่างหน้าที่ ส.ส.กับแคนดิเดตนายกฯ
 
สมมุติว่าคุณพิธาถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แล้วได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องมาพิจารณาว่าจะสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะการที่ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไม่ได้บอกว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เพราะฉะนั้นสามารถเป็นได้ ถ้าดูตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต
 
นี่คือกระบวนการทั้งหมดที่ร้อยเรียงกันในความพยายามไม่ให้พรรคก้าวไกลขึ้นมาเป็นรัฐบาลและไม่ให้นายพิธาขึ้นมาเป็นนายกฯ เพราะจะกระทบอำนาจผลประโยชน์มหาศาลของคนจำนวนมาก” รศ.ดร.พิชายกล่าว
 
เมื่อพิธีกรถามว่าเป็นความจงใจของนายวิษณุ หรือเป็นความสับสน
 
รศ.ดร.พิชายตอบว่า ไม่แน่ใจ อาจเป็นเพราะท่านอายุมากหรือไม่ แต่ถ้าท่านยังโอเคอยู่ คงไม่ใช่สับสน
 
ในตอนหลังเห็นท่านสับสนหลายเรื่อง เท่าที่ดู อาจเป็นปัจจัยเรื่องอายุหรือเปล่า ไม่แน่ใจ อาจจะลืมๆ ก็เป็นไปได้ แต่ถ้ายังโอเคอยู่ก็แปลว่าตั้งใจ” รศ.ดร.พิชายกล่าว



สมชัย เปิดหลักฐาน ‘เรืองไกร’ ใช้ยื่น กกต. ระบุชัด ‘พิธา’ โอนหุ้น ไม่ใช่สละมรดก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4028052

สมชัย เปิดหลักฐาน ‘เรืองไกร’ ใช้ยื่น กกต. ระบุชัด ‘พิธา’ โอน 42,000 หุ้น ไม่ใช่สละมรดก
 
จากกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ กกต. กรณีการถือครองหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด  (มหาชน) ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) โดยเป็นคำชี้แจงของนายพิธาที่โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว และรายงานการโอนหุ้นไอทีวีของนายพิธาไปยัง นายพาสิน ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 สำเนาหมายเหตุประกอบงบการเงินของบริษัทไอทีวี เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมเอกสารที่อ้างว่าเป็นหลักฐานการโอนหุ้นของนายพิธาที่นายเรืองไกรยื่น กกต.วานนี้ (13 มิถุนายน)
 
นายสมชัยระบุว่า หลักฐานการโอนหุ้นที่เรืองไกรยื่นต่อ กกต.เพิ่มเมื่อวาน (วันที่ 13 มิถุนายน 2566) เป็น “การโอน” ไม่ใช่ “การสละมรดก
 
อย่างไรก็ดี นายพิธาเคยยืนยันชัดเจนว่า ไม่ใช่การขายหุ้น แต่โอนให้ทายาทไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม
 
สอดคล้องกับวานนี้ (13 มิถุนายน) ที่นายพิธาระบุ ณ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กรณีการฟื้นคืนชีพไอทีวี รวมถึงคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีว่า ตามที่เคยได้โพสต์ในโซเชียลมีเดีย มีกระบวนการในการที่จะฟื้นไอทีวี รวมถึงรายการข่าวสามมิติที่ได้มีการเสนอข่าวว่า รู้อยู่แล้ว เพราะมีคนส่งข้อมูลมาให้เรื่อยๆ เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ทำเอกสารการประชุม และคลิปก่อนที่จะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน

นายพิธากล่าวว่า ตอนนี้คณะทำงานกฎหมายของพรรค ก.ก.ได้ข้อมูลมาเพิ่มเรื่อยๆ ผู้ที่เกี่ยวข้องจากกระบวนการเหล่านี้ที่คอยส่งข้อมูลเข้ามา จากที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว เราคำนึงถึงฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่