JJNY : ปมหุ้นไอทีวี ใช้ ม.143มากกว่า151│บก.ลายจุดวิเคราะห์ ‘หุ้นไอทีวี’│‘ชาวนาอุทัยธานี’ทุกข์ระทม│ยูเครนโวโต้กลับคืบหน้า

อดีตคณบดี นิติฯมธ. โพสต์ ถ้าจะมีใครติดคุก ปมหุ้นไอทีวี คงต้องใช้ ม.143 มากกว่า 151
https://www.matichon.co.th/election66/news_4026131
 
 
อดีตคณบดีนิติฯ มธ. โพสต์ ถ้าจะมีใครติดคุกปมหุ้นไอทีวี คงต้องใช้ ม.143 มากกว่า 151
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องหุ้นไอทีวีว่า 
 
“เรื่องหุ้นไอทีวี ถ้าจะมีใครต้องติดคุก คงต้องอาศัยมาตรา 143 มากกว่า 151”
 
ทั้งนี้สำหรับมาตรา 143 มีการระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
 
ถ้าหากการกระทำผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้น ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนด 20 ปี เป็นต้น
 
https://www.facebook.com/t.panat/posts/pfbid02W95oJ6DBoGq4mrgPgLDGco2SRdSksKrYY6zxnXCVEt3YSJhdGPqtFfDGtiQSjmdZl



บก.ลายจุด วิเคราะห์หนังใหญ่ ‘หุ้นไอทีวี’ ชี้งบเยอะ แต่ไม่เนียน คนดูต่อจิ๊กซอว์ได้หมด

บก.ลายจุด วิเคราะห์หนังใหญ่ ‘หุ้นไอทีวี’ ชี้งบเยอะ แต่ไม่เนียน คนดูต่อจิ๊กซอว์ได้หมด
 
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์ “มติชนทีวี” ถึงกรณีการเปิดเผยคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นและบันทึกการประชุมที่ไม่สอดคล้องกัน 

นายสมบัติกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนภาพยนตร์ที่มีผู้อำนวยการสร้าง
 
นี่มันงานระดับบีโธเฟน เขียนโน้ต มีคอนดักเตอร์ มีผู้เล่นออกมาเป็นฉากๆ จังหวะมา คิวเป๊ะ (หัวเราะ) อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น ผมว่างานนี้เป็นงานที่มีผู้อำนวยการสร้างว่างั้นเถอะ ตัวละครที่เราเห็นๆ กันอยู่อาจเป็นแค่ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไทม์มิ่ง การเขียนบทละครให้เดิน ตั้งคำถาม เปลี่ยนแปลงสาร” นายสมบัติกล่าว
 
นายสมบัติกล่าวต่อไปว่า การไม่ปล่อยคลิปฉบับเต็มการประชุมผู้ถือหุ้นออกมามันไม่มีเหตุผล ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องความซับซ้อนของคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าจะบริหารอย่างไร อาจไม่ใช่การแสวงหาความจริงซึ่งเป็นเรื่องรอง เพราะความจริงส่วนหนึ่งปรากฏแล้ว ทั้งคลิปนั้นอยู่ในมือสื่อแล้ว แต่เขาให้เกียรติทางบริษัทในการนำข้อมูลนั้นออกมาด้วยตัวเอง
 
“ผู้อำนวยการสร้าง ดูทรงแล้วน่าจะระดับผู้สร้างสตาร์วอร์ส เพราะตัวละครและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันพันกันหนัก ไปดูตลาดหุ้น จะเห็นมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
 
“คนที่ไม่ใช่มือโปร แต่เงินเยอะ จะมีความไม่เนียน เคยดูหนังที่มีช่องว่าง มีตัวละครหลุดมาไหม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ประมาณนั้น พอมีความไม่เนียน ผู้ชมจำนวนมากจะสังเกตได้ และตอนนี้เป็นสถานการณ์โต้กลับแล้ว คนไม่ได้ดูหนังแล้ว เขาวิจารณ์การผลิตภาพยนตร์แล้ว
 
“วันนี้ท่าที คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ชัดเจน ส่งข้อความ 2 อย่าง อย่างแรกคือรายงานที่ออกมาเป็นความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งมีคนตั้งข้อสังเกตว่าการเปลี่ยนขาวเป็นดำ เรียกว่าคลาดเคลื่อนเล็กน้อยได้หรือไม่
 
“อย่างที่สองคือคุณเรืองไกรยังรุกต่อ โดยหยิบกรณี คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นมา พยายามชี้ให้ได้ว่าต่อให้หลักฐานไม่ตรงข้อเท็จจริง ก็ยังยืนยันกระด่ายขาเดียวว่ากรณี คุณพิธา เข้าข่ายความผิด สะท้อนการดำรงความมุ่งหมาย ซึ่งตอนแรกคิดว่ามีความเป็นต่ออยู่ระดับหนึ่ง แต่ขณะรุกก็ถูกล่า มีการยิงสวนกัน เป็นทั้งผู้ล่าและถูกล่า ขบวนการนี้ทั้งขบวนการก็จะถูกไล่ล่า โซเชียลและพื้นที่ข่าวอยู่แต่เรื่องนี้ทั้งวัน” นายสมบัติกล่าว
 
นายสมบัติกล่าวว่า แผลที่เปิดมาขนาดนี้ ตนคิดว่าคณะผู้อำนวยการสร้างกำลังงงอยู่ เพราะไม่ได้พิจารณาเรื่องบทว่าหลังสร้างเสร็จแล้ว ทางหนีทีไล่จะเป็นอย่างไร เขาอยู่ในช่วงประเมินความเสี่ยง และคัดว่าอะไรที่จะยอมทิ้ง ยอมเสียได้บ้าง เพื่อไม่ให้เรื่องนี้ลามไปถึงรังและทลายรังได้ จะไปถึงแค่ตัวละครที่กลายเป็นอุบัติการลงข้อมูลคลาดเคลื่อนเท่านั้น ไม่มีใครผิด ถ้าผิดก็ไม่มีเจตนา แต่บทที่เราเห็น องคาพยพที่ขยับเป็นลูกระนาด มันอยู่ในสายตาประชาชนซึ่งสามารถต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมดได้แล้ว

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


 
‘ชาวนาอุทัยธานี’ ทุกข์ระทมฝนทิ้งช่วงยาว ข้าวเสี่ยงยืนต้นตายกว่า 3 พันไร่
 
ชาวบ้าน 3 ตำบลในอำเภอสว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี กำลังทุกข์ระทมกับปัญหาน้ำไม่พอทำนา เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้ข้าวเริ่มขาดน้ำ เสี่ยงยืนต้นตายกว่า 3 พันไร่.

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันหลายพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี ยังคงเกิดฝนทิ้งช่วงยาวนาน แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม แต่แทบทุกพื้นที่ยังคงไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำการเกษตร โดยเฉพาะฤดูกาลทำนาปี ที่ตอนนี้เกษตรกรชาวนาหลายอำเภอยังคงไม่สามารถทำนากันได้ ส่วนเกษตรกรบางพื้นที่ที่ตัดสินใจลงทุนทำนา ก็พบว่าขณะนี้ต้องเร่งหาแหล่งน้ำเข้ามากักเก็บไส้ในพื้นที่นาข้าวและแหล่งน้ำของตัวเอง เพื่อช่วยพยุงนาข้าวที่ปลูกไว้ให้รอดไปจนถึงเก็บเกี่ยว

อย่างเช่นอำเภอสว่างอารมณ์ ตำบลบ่อยาง และตำบลไผ่เขียวบ่างส่วน พบว่าในช่วงนี้ เกษตรกรชาวนาพากันเร่งสูบน้ำที่ไหลมาตามลำคลองเพื่อเอาไปช่วยหล่อเลี้ยงนาข้าวที่ลงมือเพาะปลูกกันไว้รวมแล้วประมาณกว่า 3,000 ไร่ ต้องเร่งหาแหล่งน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงต้นข้าวของตัวเอง หลังในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมามากพอที่จะหล่อเลี้ยงนาข้าวได้ จนทำให้ข้าวนั้นเสี่ยงยืนต้นตาย ทำให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อยาง ต้องขอสนับสนุนจากโครงการชลประจังหวัดนครสวรรค์ ให้ช่วยปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อำเภอแม่เปิน โดยได้มีการสนับสนุนปริมาณน้ำมา จำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงมาช่วยแต่ยังคงไม่มากพอที่จะช่วยพื้นที่การเกษตรได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับที่อ่างคลองโพธิ์นั้น ตอนนี้ก็เหลือน้ำใช้การได้เพียง 1.06 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 1.49 เท่านั้น จึงไม่สามารถปล่อยลงมาช่วยเพิ่มได้อีกแล้ว เพราะจะต้องสงวนไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภคเท่านั้น

โดย นายมานพ นฤคนธ์ เล่าว่า ตอนนี้ชาวนาในพื้นที่ต่างคนต่างระดมเร่งตั้งเครื่องสูบน้ำจากลำเหมืองที่ชลประทาน ปล่อยลงมาช่วยเพื่อนำไปเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกกันไว้ เพราะไม่คาดคิดว่าฝนจะทิ้งช่วงยาวนานขนาดนี้ อย่างของตนเองนั้นปลูกข้าวพันธุ์ 49 ระยะเวลา 120 วัน หรือ 4 เดือน ซึ่งตอนนี้ข้าวได้อายุ 1 เดือนกว่าแล้ว ส่วนพื้นที่นาข้าวที่อยู่ท้ายน้ำนั้นก็แทบจะไม่เหลือน้ำให้สูบแล้ว ทำให้ตอนนี้ คนที่ทำนากันไว้ต้องทำใจยอมรับ เสี่ยงดวงกันว่าจะมีฝนตกลงมาช่วยให้นาข้าวรอดไปจนถึงเก็บเกี่ยวกันได้หรือไม่ ซึ่งครั้งนี้แต่ละรายก็ลงทุนทำนากันไปเยอะมาก อย่างตนเองนั้นทำนา 19 ไร่ ก็จ่ายเงินลงทุนไป 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว

นายนนท์ เขตกรณ์ เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ตำบลบ่อยาง เล่าว่า ตอนนี้เกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวต่างประสบกับปัญฟาภัยแล้ง นาข้าวที่ปลูกกันไว้ได้ประมาณ 1 เดือนนั้นเริ่มทยอยแห้งลง และมียืนต้นตายกันแล้วบ้างในบางที่ ซึ่งตอนนี้เราได้ไปขอให้มีการปล่อยน้ำจากคลองโพธิ์ ลงมาช่วย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มีการปล่อยน้ำลงมา รอบแรก 30 ล้านลูกบาศก์เมตร และรอบที่สองนี้อีกจำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ด้วยพื้นที่นาข้าวของตนเองนั้นอยู่ท้ายน้ำของเขื่อน จึงทำให้ได้น้ำช้ากว่าราว 2 อาทิตย์ ตั้งแต่ปล่อยลงมา ทำให้ต้องคอยพากันไปเปิดช่วงประตูระบายน้ำระหว่าง 2 ตำบล เพราะจะมีการปิดเปิดกันระหว่างชาวนา 2 ตำบล เพราะต่างคนต่างก็ต้องแย่งกันสูบเข้าพื้นที่นาของตัวเอง ทำให้พื้นที่ท้ายน้ำก็แทบจะไม่เหลือน้ำให้สูบกัน ซึ่งหากปีนี้น้ำไม่เพียงพอ นาข้าวที่ปลูกกันไว้ก็คงจะเสียหายกันเยอะมาก.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่