อดีตคณบดี นิติฯมธ. โพสต์ ถ้าจะมีใครติดคุก ปมหุ้นไอทีวี คงต้องใช้ ม.143 มากกว่า 151
https://www.matichon.co.th/election66/news_4026131
อดีตคณบดีนิติฯ มธ. โพสต์ ถ้าจะมีใครติดคุกปมหุ้นไอทีวี คงต้องใช้ ม.143 มากกว่า 151
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นาย
พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องหุ้นไอทีวีว่า
“เรื่องหุ้นไอทีวี ถ้าจะมีใครต้องติดคุก คงต้องอาศัยมาตรา 143 มากกว่า 151”
ทั้งนี้สำหรับมาตรา 143 มีการระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ถ้าหากการกระทำผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้น ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนด 20 ปี เป็นต้น
https://www.facebook.com/t.panat/posts/pfbid02W95oJ6DBoGq4mrgPgLDGco2SRdSksKrYY6zxnXCVEt3YSJhdGPqtFfDGtiQSjmdZl
บก.ลายจุด วิเคราะห์หนังใหญ่ ‘หุ้นไอทีวี’ ชี้งบเยอะ แต่ไม่เนียน คนดูต่อจิ๊กซอว์ได้หมด
บก.ลายจุด วิเคราะห์หนังใหญ่ ‘หุ้นไอทีวี’ ชี้งบเยอะ แต่ไม่เนียน คนดูต่อจิ๊กซอว์ได้หมด
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์ “
มติชนทีวี” ถึงกรณีการเปิดเผยคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นและบันทึกการประชุมที่ไม่สอดคล้องกัน
นาย
สมบัติกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนภาพยนตร์ที่มีผู้อำนวยการสร้าง
“
นี่มันงานระดับบีโธเฟน เขียนโน้ต มีคอนดักเตอร์ มีผู้เล่นออกมาเป็นฉากๆ จังหวะมา คิวเป๊ะ (หัวเราะ) อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น ผมว่างานนี้เป็นงานที่มีผู้อำนวยการสร้างว่างั้นเถอะ ตัวละครที่เราเห็นๆ กันอยู่อาจเป็นแค่ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไทม์มิ่ง การเขียนบทละครให้เดิน ตั้งคำถาม เปลี่ยนแปลงสาร” นาย
สมบัติกล่าว
นาย
สมบัติกล่าวต่อไปว่า การไม่ปล่อยคลิปฉบับเต็มการประชุมผู้ถือหุ้นออกมามันไม่มีเหตุผล ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องความซับซ้อนของคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าจะบริหารอย่างไร อาจไม่ใช่การแสวงหาความจริงซึ่งเป็นเรื่องรอง เพราะความจริงส่วนหนึ่งปรากฏแล้ว ทั้งคลิปนั้นอยู่ในมือสื่อแล้ว แต่เขาให้เกียรติทางบริษัทในการนำข้อมูลนั้นออกมาด้วยตัวเอง
“ผู้อำนวยการสร้าง ดูทรงแล้วน่าจะระดับผู้สร้างสตาร์วอร์ส เพราะตัวละครและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันพันกันหนัก ไปดูตลาดหุ้น จะเห็นมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“คนที่ไม่ใช่มือโปร แต่เงินเยอะ จะมีความไม่เนียน เคยดูหนังที่มีช่องว่าง มีตัวละครหลุดมาไหม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ประมาณนั้น พอมีความไม่เนียน ผู้ชมจำนวนมากจะสังเกตได้ และตอนนี้เป็นสถานการณ์โต้กลับแล้ว คนไม่ได้ดูหนังแล้ว เขาวิจารณ์การผลิตภาพยนตร์แล้ว
“วันนี้ท่าที คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ชัดเจน ส่งข้อความ 2 อย่าง อย่างแรกคือรายงานที่ออกมาเป็นความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งมีคนตั้งข้อสังเกตว่าการเปลี่ยนขาวเป็นดำ เรียกว่าคลาดเคลื่อนเล็กน้อยได้หรือไม่
“อย่างที่สองคือคุณเรืองไกรยังรุกต่อ โดยหยิบกรณี คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นมา พยายามชี้ให้ได้ว่าต่อให้หลักฐานไม่ตรงข้อเท็จจริง ก็ยังยืนยันกระด่ายขาเดียวว่ากรณี คุณพิธา เข้าข่ายความผิด สะท้อนการดำรงความมุ่งหมาย ซึ่งตอนแรกคิดว่ามีความเป็นต่ออยู่ระดับหนึ่ง แต่ขณะรุกก็ถูกล่า มีการยิงสวนกัน เป็นทั้งผู้ล่าและถูกล่า ขบวนการนี้ทั้งขบวนการก็จะถูกไล่ล่า โซเชียลและพื้นที่ข่าวอยู่แต่เรื่องนี้ทั้งวัน” นายสมบัติกล่าว
นาย
สมบัติกล่าวว่า แผลที่เปิดมาขนาดนี้ ตนคิดว่าคณะผู้อำนวยการสร้างกำลังงงอยู่ เพราะไม่ได้พิจารณาเรื่องบทว่าหลังสร้างเสร็จแล้ว ทางหนีทีไล่จะเป็นอย่างไร เขาอยู่ในช่วงประเมินความเสี่ยง และคัดว่าอะไรที่จะยอมทิ้ง ยอมเสียได้บ้าง เพื่อไม่ให้เรื่องนี้ลามไปถึงรังและทลายรังได้ จะไปถึงแค่ตัวละครที่กลายเป็นอุบัติการลงข้อมูลคลาดเคลื่อนเท่านั้น ไม่มีใครผิด ถ้าผิดก็ไม่มีเจตนา แต่บทที่เราเห็น องคาพยพที่ขยับเป็นลูกระนาด มันอยู่ในสายตาประชาชนซึ่งสามารถต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมดได้แล้ว
‘ชาวนาอุทัยธานี’ ทุกข์ระทมฝนทิ้งช่วงยาว ข้าวเสี่ยงยืนต้นตายกว่า 3 พันไร่
ชาวบ้าน 3 ตำบลในอำเภอสว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี กำลังทุกข์ระทมกับปัญหาน้ำไม่พอทำนา เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้ข้าวเริ่มขาดน้ำ เสี่ยงยืนต้นตายกว่า 3 พันไร่.
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันหลายพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี ยังคงเกิดฝนทิ้งช่วงยาวนาน แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม แต่แทบทุกพื้นที่ยังคงไม่มีน้ำเพียงพอที่จะทำการเกษตร โดยเฉพาะฤดูกาลทำนาปี ที่ตอนนี้เกษตรกรชาวนาหลายอำเภอยังคงไม่สามารถทำนากันได้ ส่วนเกษตรกรบางพื้นที่ที่ตัดสินใจลงทุนทำนา ก็พบว่าขณะนี้ต้องเร่งหาแหล่งน้ำเข้ามากักเก็บไส้ในพื้นที่นาข้าวและแหล่งน้ำของตัวเอง เพื่อช่วยพยุงนาข้าวที่ปลูกไว้ให้รอดไปจนถึงเก็บเกี่ยว
อย่างเช่นอำเภอสว่างอารมณ์ ตำบลบ่อยาง และตำบลไผ่เขียวบ่างส่วน พบว่าในช่วงนี้ เกษตรกรชาวนาพากันเร่งสูบน้ำที่ไหลมาตามลำคลองเพื่อเอาไปช่วยหล่อเลี้ยงนาข้าวที่ลงมือเพาะปลูกกันไว้รวมแล้วประมาณกว่า 3,000 ไร่ ต้องเร่งหาแหล่งน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงต้นข้าวของตัวเอง หลังในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมามากพอที่จะหล่อเลี้ยงนาข้าวได้ จนทำให้ข้าวนั้นเสี่ยงยืนต้นตาย ทำให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อยาง ต้องขอสนับสนุนจากโครงการชลประจังหวัดนครสวรรค์ ให้ช่วยปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อำเภอแม่เปิน โดยได้มีการสนับสนุนปริมาณน้ำมา จำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงมาช่วยแต่ยังคงไม่มากพอที่จะช่วยพื้นที่การเกษตรได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับที่อ่างคลองโพธิ์นั้น ตอนนี้ก็เหลือน้ำใช้การได้เพียง 1.06 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 1.49 เท่านั้น จึงไม่สามารถปล่อยลงมาช่วยเพิ่มได้อีกแล้ว เพราะจะต้องสงวนไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภคเท่านั้น
โดย นาย
มานพ นฤคนธ์ เล่าว่า ตอนนี้ชาวนาในพื้นที่ต่างคนต่างระดมเร่งตั้งเครื่องสูบน้ำจากลำเหมืองที่ชลประทาน ปล่อยลงมาช่วยเพื่อนำไปเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกกันไว้ เพราะไม่คาดคิดว่าฝนจะทิ้งช่วงยาวนานขนาดนี้ อย่างของตนเองนั้นปลูกข้าวพันธุ์ 49 ระยะเวลา 120 วัน หรือ 4 เดือน ซึ่งตอนนี้ข้าวได้อายุ 1 เดือนกว่าแล้ว ส่วนพื้นที่นาข้าวที่อยู่ท้ายน้ำนั้นก็แทบจะไม่เหลือน้ำให้สูบแล้ว ทำให้ตอนนี้ คนที่ทำนากันไว้ต้องทำใจยอมรับ เสี่ยงดวงกันว่าจะมีฝนตกลงมาช่วยให้นาข้าวรอดไปจนถึงเก็บเกี่ยวกันได้หรือไม่ ซึ่งครั้งนี้แต่ละรายก็ลงทุนทำนากันไปเยอะมาก อย่างตนเองนั้นทำนา 19 ไร่ ก็จ่ายเงินลงทุนไป 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว
นาย
นนท์ เขตกรณ์ เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ตำบลบ่อยาง เล่าว่า ตอนนี้เกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวต่างประสบกับปัญฟาภัยแล้ง นาข้าวที่ปลูกกันไว้ได้ประมาณ 1 เดือนนั้นเริ่มทยอยแห้งลง และมียืนต้นตายกันแล้วบ้างในบางที่ ซึ่งตอนนี้เราได้ไปขอให้มีการปล่อยน้ำจากคลองโพธิ์ ลงมาช่วย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มีการปล่อยน้ำลงมา รอบแรก 30 ล้านลูกบาศก์เมตร และรอบที่สองนี้อีกจำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ด้วยพื้นที่นาข้าวของตนเองนั้นอยู่ท้ายน้ำของเขื่อน จึงทำให้ได้น้ำช้ากว่าราว 2 อาทิตย์ ตั้งแต่ปล่อยลงมา ทำให้ต้องคอยพากันไปเปิดช่วงประตูระบายน้ำระหว่าง 2 ตำบล เพราะจะมีการปิดเปิดกันระหว่างชาวนา 2 ตำบล เพราะต่างคนต่างก็ต้องแย่งกันสูบเข้าพื้นที่นาของตัวเอง ทำให้พื้นที่ท้ายน้ำก็แทบจะไม่เหลือน้ำให้สูบกัน ซึ่งหากปีนี้น้ำไม่เพียงพอ นาข้าวที่ปลูกกันไว้ก็คงจะเสียหายกันเยอะมาก.
JJNY : ปมหุ้นไอทีวี ใช้ ม.143มากกว่า151│บก.ลายจุดวิเคราะห์ ‘หุ้นไอทีวี’│‘ชาวนาอุทัยธานี’ทุกข์ระทม│ยูเครนโวโต้กลับคืบหน้า
https://www.matichon.co.th/election66/news_4026131
อดีตคณบดีนิติฯ มธ. โพสต์ ถ้าจะมีใครติดคุกปมหุ้นไอทีวี คงต้องใช้ ม.143 มากกว่า 151
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องหุ้นไอทีวีว่า
“เรื่องหุ้นไอทีวี ถ้าจะมีใครต้องติดคุก คงต้องอาศัยมาตรา 143 มากกว่า 151”
ทั้งนี้สำหรับมาตรา 143 มีการระบุไว้ว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ถ้าหากการกระทำผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้น ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นกำหนด 20 ปี เป็นต้น
https://www.facebook.com/t.panat/posts/pfbid02W95oJ6DBoGq4mrgPgLDGco2SRdSksKrYY6zxnXCVEt3YSJhdGPqtFfDGtiQSjmdZl
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์ “มติชนทีวี” ถึงกรณีการเปิดเผยคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นและบันทึกการประชุมที่ไม่สอดคล้องกัน
นายสมบัติกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเปรียบเหมือนภาพยนตร์ที่มีผู้อำนวยการสร้าง
“นี่มันงานระดับบีโธเฟน เขียนโน้ต มีคอนดักเตอร์ มีผู้เล่นออกมาเป็นฉากๆ จังหวะมา คิวเป๊ะ (หัวเราะ) อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น ผมว่างานนี้เป็นงานที่มีผู้อำนวยการสร้างว่างั้นเถอะ ตัวละครที่เราเห็นๆ กันอยู่อาจเป็นแค่ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไทม์มิ่ง การเขียนบทละครให้เดิน ตั้งคำถาม เปลี่ยนแปลงสาร” นายสมบัติกล่าว
นายสมบัติกล่าวต่อไปว่า การไม่ปล่อยคลิปฉบับเต็มการประชุมผู้ถือหุ้นออกมามันไม่มีเหตุผล ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องความซับซ้อนของคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่าจะบริหารอย่างไร อาจไม่ใช่การแสวงหาความจริงซึ่งเป็นเรื่องรอง เพราะความจริงส่วนหนึ่งปรากฏแล้ว ทั้งคลิปนั้นอยู่ในมือสื่อแล้ว แต่เขาให้เกียรติทางบริษัทในการนำข้อมูลนั้นออกมาด้วยตัวเอง
“ผู้อำนวยการสร้าง ดูทรงแล้วน่าจะระดับผู้สร้างสตาร์วอร์ส เพราะตัวละครและเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันพันกันหนัก ไปดูตลาดหุ้น จะเห็นมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“คนที่ไม่ใช่มือโปร แต่เงินเยอะ จะมีความไม่เนียน เคยดูหนังที่มีช่องว่าง มีตัวละครหลุดมาไหม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ประมาณนั้น พอมีความไม่เนียน ผู้ชมจำนวนมากจะสังเกตได้ และตอนนี้เป็นสถานการณ์โต้กลับแล้ว คนไม่ได้ดูหนังแล้ว เขาวิจารณ์การผลิตภาพยนตร์แล้ว
“วันนี้ท่าที คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ชัดเจน ส่งข้อความ 2 อย่าง อย่างแรกคือรายงานที่ออกมาเป็นความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งมีคนตั้งข้อสังเกตว่าการเปลี่ยนขาวเป็นดำ เรียกว่าคลาดเคลื่อนเล็กน้อยได้หรือไม่
“อย่างที่สองคือคุณเรืองไกรยังรุกต่อ โดยหยิบกรณี คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นมา พยายามชี้ให้ได้ว่าต่อให้หลักฐานไม่ตรงข้อเท็จจริง ก็ยังยืนยันกระด่ายขาเดียวว่ากรณี คุณพิธา เข้าข่ายความผิด สะท้อนการดำรงความมุ่งหมาย ซึ่งตอนแรกคิดว่ามีความเป็นต่ออยู่ระดับหนึ่ง แต่ขณะรุกก็ถูกล่า มีการยิงสวนกัน เป็นทั้งผู้ล่าและถูกล่า ขบวนการนี้ทั้งขบวนการก็จะถูกไล่ล่า โซเชียลและพื้นที่ข่าวอยู่แต่เรื่องนี้ทั้งวัน” นายสมบัติกล่าว
นายสมบัติกล่าวว่า แผลที่เปิดมาขนาดนี้ ตนคิดว่าคณะผู้อำนวยการสร้างกำลังงงอยู่ เพราะไม่ได้พิจารณาเรื่องบทว่าหลังสร้างเสร็จแล้ว ทางหนีทีไล่จะเป็นอย่างไร เขาอยู่ในช่วงประเมินความเสี่ยง และคัดว่าอะไรที่จะยอมทิ้ง ยอมเสียได้บ้าง เพื่อไม่ให้เรื่องนี้ลามไปถึงรังและทลายรังได้ จะไปถึงแค่ตัวละครที่กลายเป็นอุบัติการลงข้อมูลคลาดเคลื่อนเท่านั้น ไม่มีใครผิด ถ้าผิดก็ไม่มีเจตนา แต่บทที่เราเห็น องคาพยพที่ขยับเป็นลูกระนาด มันอยู่ในสายตาประชาชนซึ่งสามารถต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมดได้แล้ว
ชาวบ้าน 3 ตำบลในอำเภอสว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี กำลังทุกข์ระทมกับปัญหาน้ำไม่พอทำนา เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน ทำให้ข้าวเริ่มขาดน้ำ เสี่ยงยืนต้นตายกว่า 3 พันไร่.
อย่างเช่นอำเภอสว่างอารมณ์ ตำบลบ่อยาง และตำบลไผ่เขียวบ่างส่วน พบว่าในช่วงนี้ เกษตรกรชาวนาพากันเร่งสูบน้ำที่ไหลมาตามลำคลองเพื่อเอาไปช่วยหล่อเลี้ยงนาข้าวที่ลงมือเพาะปลูกกันไว้รวมแล้วประมาณกว่า 3,000 ไร่ ต้องเร่งหาแหล่งน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงต้นข้าวของตัวเอง หลังในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมามากพอที่จะหล่อเลี้ยงนาข้าวได้ จนทำให้ข้าวนั้นเสี่ยงยืนต้นตาย ทำให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อยาง ต้องขอสนับสนุนจากโครงการชลประจังหวัดนครสวรรค์ ให้ช่วยปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อำเภอแม่เปิน โดยได้มีการสนับสนุนปริมาณน้ำมา จำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงมาช่วยแต่ยังคงไม่มากพอที่จะช่วยพื้นที่การเกษตรได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับที่อ่างคลองโพธิ์นั้น ตอนนี้ก็เหลือน้ำใช้การได้เพียง 1.06 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 1.49 เท่านั้น จึงไม่สามารถปล่อยลงมาช่วยเพิ่มได้อีกแล้ว เพราะจะต้องสงวนไว้ใช้ในการอุปโภค บริโภคเท่านั้น
โดย นายมานพ นฤคนธ์ เล่าว่า ตอนนี้ชาวนาในพื้นที่ต่างคนต่างระดมเร่งตั้งเครื่องสูบน้ำจากลำเหมืองที่ชลประทาน ปล่อยลงมาช่วยเพื่อนำไปเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกกันไว้ เพราะไม่คาดคิดว่าฝนจะทิ้งช่วงยาวนานขนาดนี้ อย่างของตนเองนั้นปลูกข้าวพันธุ์ 49 ระยะเวลา 120 วัน หรือ 4 เดือน ซึ่งตอนนี้ข้าวได้อายุ 1 เดือนกว่าแล้ว ส่วนพื้นที่นาข้าวที่อยู่ท้ายน้ำนั้นก็แทบจะไม่เหลือน้ำให้สูบแล้ว ทำให้ตอนนี้ คนที่ทำนากันไว้ต้องทำใจยอมรับ เสี่ยงดวงกันว่าจะมีฝนตกลงมาช่วยให้นาข้าวรอดไปจนถึงเก็บเกี่ยวกันได้หรือไม่ ซึ่งครั้งนี้แต่ละรายก็ลงทุนทำนากันไปเยอะมาก อย่างตนเองนั้นทำนา 19 ไร่ ก็จ่ายเงินลงทุนไป 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว
นายนนท์ เขตกรณ์ เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ตำบลบ่อยาง เล่าว่า ตอนนี้เกษตรกรที่ทำนาปลูกข้าวต่างประสบกับปัญฟาภัยแล้ง นาข้าวที่ปลูกกันไว้ได้ประมาณ 1 เดือนนั้นเริ่มทยอยแห้งลง และมียืนต้นตายกันแล้วบ้างในบางที่ ซึ่งตอนนี้เราได้ไปขอให้มีการปล่อยน้ำจากคลองโพธิ์ ลงมาช่วย ซึ่งตอนนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่มีการปล่อยน้ำลงมา รอบแรก 30 ล้านลูกบาศก์เมตร และรอบที่สองนี้อีกจำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ด้วยพื้นที่นาข้าวของตนเองนั้นอยู่ท้ายน้ำของเขื่อน จึงทำให้ได้น้ำช้ากว่าราว 2 อาทิตย์ ตั้งแต่ปล่อยลงมา ทำให้ต้องคอยพากันไปเปิดช่วงประตูระบายน้ำระหว่าง 2 ตำบล เพราะจะมีการปิดเปิดกันระหว่างชาวนา 2 ตำบล เพราะต่างคนต่างก็ต้องแย่งกันสูบเข้าพื้นที่นาของตัวเอง ทำให้พื้นที่ท้ายน้ำก็แทบจะไม่เหลือน้ำให้สูบกัน ซึ่งหากปีนี้น้ำไม่เพียงพอ นาข้าวที่ปลูกกันไว้ก็คงจะเสียหายกันเยอะมาก.