ชลัน
"คุณสิทธิ์ คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง" เอมอรตวาดเสียงและเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นทิ้งรูปถ่ายของอภิสิทธิ์กับผู้หญิงอีกคนลงบนตัวของเขาที่นอนอยู่บนโซฟา หล่อนจ้างนักสืบให้แอบติดตามสามี ไม่สนใจว่าภายในห้องข้าง ๆ จะมีใครอยู่ในนั้น
อภิสิทธิ์ที่นอนอยู่ลุกพรวดพร้อมหยิบรูปที่เอมอรทิ้งใส่ตัวขึ้นมาดู สายตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธขย้ำรูปถ่ายให้แหลกคามือพร้อมมองหน้าภรรยาราวกับจะฉีกเป็นชิ้น ๆ ถ้าหากทำได้
"เอมคุณจ้างนักสืบติดตามผมเหรอ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง" อภิสิทธิ์ตวาด สายตาดุจ้องไปที่คนตรงหน้าไม่วางตาโดยไม่สนใจคนอยู่อีกห้องเช่นกัน
"ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้ แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณมีเมียน้อย และทุก ๆ ครั้งที่คุณหายไปไม่ยอมกลับบ้านเพราะคุณไปค้างกับนังนั่น" เอมอรตวาดกลับด้วยความโกรธและน้ำตาคลอ "คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงคุณอภิสิทธิ์ คุณทำได้ยังไง" เอมอรไม่พูดเฉยสองมือตบตีอภิสิทธิ์พัลวัน
"เอมหยุด! ผมบอกให้หยุดไง" อภิสิทธิ์ยกมือป้องปัดฝ่ามือของภรรยา เขาไม่อยากใช้อารมณ์กับหล่อน
ประมุขของบ้านทนดูเหตุการณ์ไม่ได้อีกต่อไปแล้วที่ลูกชายกับลูกสะใภ้ทะเลาะกัน แถมยังทะเลาะต่อหน้าลูกชายอีก คุณแพรทองรบเร้าให้เลอดาวพาเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ทั้งคู่กำลังทะเลาะกันอยู่
"หยุดได้แล้วทั้งสองคน! เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอไปแล้วหรือไง ถ้าพวกแกไม่เห็นแก่หน้าฉันก็หัดอายแขกบ้าง พวกแกอายคุณครูกับคุณพยาบาลบ้างไหม อายลูกแกบ้างมั้ย เขาไม่สมประกอบอยู่แล้วยังต้องมารับรู้เรื่องบ้า ๆ ของพ่อกับแม่อีก" คุณแพรทองตวาดลูกชายกับลูกสะใภ้ ทั้งสองคนเงียบกริบ
"เอมขอโทษค่ะคุณแม่ ก็ลูกชายคุณแม่นอกใจเอมไปมีเมียน้อย คุณแม่จะให้เอมใจเย็นอยู่เฉยได้ยังไงคะ" เอมอรร้องไห้คุกเข่าเข้าหาแม่สามี ฟ้องทุกอย่างที่อภิสิทธิ์ทำและนำรูปถ่ายที่หล่อนจ้างนักสืบถ่ายมาได้ให้แก่คุณแพรทองดู
"สิทธิ์ แกทำแบบนี้ทำไม" ถึงลูกชายจะทำผิดแค่ไหน แต่ก็นั่นแหละอภิสิทธิ์ก็คือลูกชายของหล่อน ทว่าจะไม่ว่าเลยก็ดูจะใจดำกับลูกสะใภ้เกินไป อย่างไรเอมอรก็มาจากครอบครัวผู้รากมากดี แถมพ่อแม่ของลูกสะใภ้เล็กก็คอยช่วยเหลือทางธุรกิจกัน "มีลูกมีเมียอยู่แล้วทำไมยังต้องไปหาเศษหาเลยข้างนอก ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วใช่มั้ย"
"คุณแม่ครับ! ผมเองก็เคยบอกคุณแม่หลายหนแล้วเหมือนกันนะครับว่า... ผมไม่ได้รักเอม ผมผู้หญิงคนนี้" อภิสิทธิ์ค้านด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและใช้หางตามองภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ไม่ถูกใจ
"คุณพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง ถึงผู้หญิงคนนั้นเขาจะมาก่อนฉัน แต่ฉันมีลูกกับคุณ แต่งงานกับคุณ จดทะเบียนสมรสกับคุณ เพราะฉะนั้นฉันต่างหากที่เป็นเมียของคุณไม่ใช่นังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น" เอมอรพูดทั้งน้ำตาไหลอาบสองแก้ม หล่อนเจ็บปวดเหลือเกินกับคำพูดที่ออกมาจากปากของคนที่หล่อนรักหมดใจ
อภิสิทธิ์จ้องมองคนที่ได้ชื่อว่าแม่ของลูกอย่างเหลืออด เหลืออดที่หล่อนต่อว่าคนที่เขารักว่าหน้าด้าน ถ้าจะพูดกันตรง ๆ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าแม่ของลูกต่างหากที่หน้าด้าน ความผิดส่วนหนึ่งก็มาจากตนเองที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ผิดที่ใจง่ายมักมากเรื่องมันถึงกลายเป็นอย่างนี้ และเขาก็ได้รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการแต่งงานกับเอมอรเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่ได้ทำไว้
"ใช่คุณมีลูกกับผม แต่เพราะคุณวางแผนจับผมต่างหากเอมอร คุณปล่อยให้ตัวเองท้องเพราะอยากจับผม จริง ๆ แล้วผมไม่ได้รักคุณเลย ผมรักชม เรารักกัน" อภิสิทธิ์พูดอย่างเหลืออดเต็มทน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาสองคนทะเลาะกัน ดีที่ครั้งนี้เขาไม่เผลอลงไม้ลงมือกับเอมอรเพราะเกรงใจผู้เป็นแม่และแขกของบ้าน บางทีหากอยู่กันตามลำพังสองคนเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะระงับอารมณ์ได้ไหม
"ได้... ในเมื่อแกพูดอย่างนี้ ฉันจะทนอยู่กับแกไปทำไม ฉันจะไม่ยอมอยู่เป็นของตายของแกแน่ไอ้อภิสิทธิ์ ฉันจะหย่ากับแก" เอมอรเจ็บปวดจนไม่เหลือความเกรงใจประมุขของบ้านอีกต่อไป นาทีนี้หล่อนเองก็เหลืออดแล้วเหมือนกัน
แขกของบ้านทั้งสองคนเอาแต่นิ่งงันไม่กล้ากระดุกกระดิกใด ๆ เลย
"อยากหย่าก็เชิญ! ดีซะอีกฉันจะได้เป็นอิสระเสียที แต่อย่าหวังว่าจะเอาลูกไปจากฉันได้นะ น้องพ็อตเตอร์ต้องอยู่กับฉันเท่านั้น อ๋อ... หรือถ้าจะเปลี่ยนใจไม่อยากหย่าแล้วก็ได้ จะอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อก็ได้ แต่ในฐานะแม่ของลูกเท่านั้น" ชายหนุ่มพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องนี้โดยไม่หันกลับมามองเลยว่าใครจะกรี๊ดคลั่งเป็นเจ้าเข้าก็ตาม
เอมอรกรี๊ดลั่นห้องร้องไห้จนทำให้น้องพ็อตเตอร์ผู้เป็นลูกชายตกใจร้องไห้ตาม เมื่อได้ยินเสียงลูกชายร้องไห้หล่อนถึงมีสติกลับมาและถลาเข้ากอดปลอบลูกชาย
"พ็อตเตอร์แม่ขอโทษ แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลูกตกใจ" คนเป็นแม่กอดตัวลูกชายไว้แน่นท่ามกลางเสียงสะอื้นที่ไม่อายใคร ทั้งเลอดาวและแทนคุณหน้าเหวอกันทั้งคู่
คนที่น้ำตาคลอไปกับเอมอรคือพยาบาลสาว ชีวิตของหญิงสาวไม่ได้ต่างไปจากน้องพ็อตเตอร์นักที่พ่อมีเมียใหม่ ส่วนแทนคุณกับมีความรู้สึกโกรธอภิสิทธิ์ แม้เข้าใจในความรักร้าวที่เกิดขึ้นของทั้งคู่อย่างถ่องแท้แล้ว แต่นั่นอภิสิทธิ์ก็ไม่ควรจะมาทะเลาะกันต่อหน้าลูกชายอย่างนี้
"แม่เอมใจเย็น ๆ ก่อนนะ" คุณแพรทองที่นั่งอยู่บนรถเข็นพยายามปลอบใจลูกสะใภ้เล็ก "ฉันเข้าใจหัวอกของคนเป็นเมียด้วยกัน ชีวิตฉันที่ผ่านมาก็เจ็บปวดไม่ต่างไปจากแม่เอมหรอก ใจเย็น ๆ"
"คุณแม่ก็เห็นนี่คะ ว่าลูกชายคุณแม่ไม่ได้รักเอมสักนิด เอมผิดเองที่พลาดไปท้องกับคนเห็นแก่ตัวแบบนี้" เอมอรเถียงและมันก็เป็นความจริงทุกถ้อยคำ "ทั้งที่เอมรักเขา เป็นแม่ของลูกเขา แต่เขาไม่เคยรักเอมเลย ถึงผู้หญิงคนนั้นจะมาก่อนเอม แต่ในเมื่อคุณสิทธิ์มีลูกกับเอมแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเขาต้องตัดใจไม่ใช่หรือคะ ทำไมยังต้องกลับมาทำร้ายเอมอีก"
แต่เธอก็แย่งเขามานี่... ความจริงเธอต่างหากที่แย่งแฟนคนอื่นเขามาครอง
คุณแพรทองนึกในใจไม่ได้พูดออกมา "ใจเย็น ๆ ก่อน อย่าเพิ่งหย่ากับเจ้าสิทธิ์มันเลย ถึงเจ้าสิทธิ์มันจะรักผู้หญิงคนนั้น แต่มันก็ขึ้นชื่อว่าเมียน้อยอยู่วันยังค่ำ แม้มันจะพยายามยกยอเชิดหน้าชูตาก็ตาม แต่สังคมไม่ยอมรับหรอก ถ้าเมื่อไหร่แม่เอมหย่า นั่นแหละนังผู้หญิงคนนั้นจะได้ขึ้นมาเชิดหน้าชูตาแทนแม่เอมทันที"
"คุณแม่จะให้เอมนอนกอดทะเบียนสมรสเหรอคะ ทั้งที่สิทธิ์ไม่ได้รักเอมสักนิด"
"ถ้างั้นแม่เอมก็ไปตัดสินใจดี ๆ แล้วกัน" คุณแพรทองแสร้งพูด ทั้งที่ในใจไม่อยากให้ลูกสะใภ้เล็กหย่า เพราะต้องการให้ทางครอบครัวของเอมอรช่วยเหลือทางหน้าที่การงานของอภิเชษฐ์ลูกชายคนโต ทว่าก็ต้องลุ้นว่าสาวเจ้าจะใจกล้าหรือไม่ "เลอดาวพาฉันกลับเถอะ วันหลังค่อยพาฉันมาหาหลานฉันอีกแล้วกัน"
"ค่ะ คุณท่าน" เลอดาวรับคำสั่ง ก่อนจะพาประมุขกลับ เลอดาวหันมองครูหนุ่มแวบหนึ่งได้รับรอยยิ้มที่ละมุนจากเขา ทำให้หล่อนวาบหวามอยู่ไม่น้อยจากนั้นก็พาคุณแพรทองกลับห้อง
"คุณครูคะ ไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวน้องพ็อตเตอร์ฉันดูแลต่อเอง" เอมอรสั่ง ยกมือปราดน้ำตาออกจากใบหน้า
"จะดีเหรอครับ ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานของผมเลย" แทนคุณถามจากใจ นับว่าเอมอรเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งคนหนึ่ง ถ้าไม่นับว่าเส้นทางของการได้แต่งงานกับสามีเป็นมาอย่างไร อย่างน้อยเอมอรก็มีความห่วงใยและรักลูกมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างอภิสิทธิ์
"ไม่เป็นไรค่ะ ไปพักเถอะ อ่อ... เมื่อกี้อย่าถือสาฉันกับสามีเลยนะคะ หวังว่าคุณครูจะเข้าใจ"
"ครับ... ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจคุณเอมอรที่สุด" เมื่อส่งน้องพ็อตเตอร์ให้กับคนเป็นแม่แล้วเขาก็กลับห้องพัก ชายหนุ่มอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเอมอรกับอภิสิทธิ์มากกว่านี้ มีคนเดียวที่จะช่วยเขาได้คือนก เขาต้องหาทางถามนกให้ได้อีก
....
"บ้านฉันก็วุ่นวายแบบนี้แหละเลอดาว อย่าถือสาลูกชายกับลูกสะใภ้ของฉันเลยนะ น่าอายจริง ๆ" คุณแพรทองพูดขณะนั่งอยู่บนเตียงนอน "อภิสิทธิ์น่ะเขาเจ้าสำราญเหมือนพ่อ ไม่เหมือนอภิเชษฐ์ลูกชายคนโตของฉัน รายนั้นจริงจังทุกเรื่อง มีความรับผิดชอบสูง เก่งทุกอย่าง"
คุณแพรทองยิ้มเมื่อพูดถึงลูกชายคนโต หล่อนภูมิใจไม่น้อยที่อย่างน้อยก็มีลูกหนึ่งคนที่สามารถเป็นที่พักพิงได้ ส่วนลูกคนที่รักมากกลับไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย เพราะแบบนี้หล่อนกับเจ้าสัวสุทินถึงได้ห่วงอภิสิทธิ์นักหนา หยิบยื่นความช่วยเหลือตามใจลูกชายคนเล็กมาโดยตลอด แต่มันยิ่งทำให้อภิสิทธิ์ได้ใจ ไม่เคยพัฒนาตนเองเลยเพราะคิดว่ามีพ่อแม่หนุนหลัง แม้กระทั่งในยามนี้ที่ครอบครัวกำลังจะตกอับ ลูกชายคนเล็กก็ไม่คิดจะหาทางกู้วิกฤตของบ้าน มีแต่จะผลาญไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด นำเงินไปลงทุนลงหุ้นอะไรก็ไม่เคยได้คืนกลับมาสักบาทเดียว แถมในตอนนี้ยังมีเรื่องบ้านเล็กบ้านใหญ่มาให้หล่อนปวดหัวตามไปอีก
เลอดาวจัดผ้าห่มให้คุณแพรทองหลังจากพยุงออกจากรถเข็นลงมาที่เตียงนอน แม้ร่างกายของหล่อนจะผอมบางก็ไม่เป็นปัญหาในการพยุงคนไข้ คุณแพรทองเองก็มีร่างกายผอมบางเช่นกัน และเตียงนอนของเจ้าของก็ไม่ได้สูงอะไรนักหนา หล่อนสามารถยกพยุงได้อย่างคล่องแคล่ว
'ไม่ได้ก็ต้องได้' เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับหล่อน
"ดาวไม่ถือสาคุณ ๆ ทั้งสองคนหรอกค่ะ ดาวเข้าใจทั้งสองคน" พยาบาลสาวพูดทั้งรอยยิ้ม นั่งนวดขาและทำกายภาพให้กับคนสูงอายุตรงหน้าพลันทำให้นึกถึงคุณย่าที่อยู่ที่บ้าน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้เพราะตนเองก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่บ้านหลังนี้ จะกลับก็ตอนเย็นของวันเสาร์ และกลับเพียงแค่วันเดียวก็ต้องกลับมาทำงานอีก ถึงอย่างไรก็คงอีกไม่นานที่ต้องทำอย่างนี้ หล่อนต้องปิดงานให้ได้โดยเร็วที่สุด
"ไอ้เจ้าสิทธิ์น่ะมันเหมือนพ่อ เจ้าชู้ ฉันถึงบอกว่าฉันเข้าใจหัวอกแม่เอมอรยังไงล่ะ" คุณแพรทองราวกับอัดอั้นมานาน คนสูงอายุถอนหายใจ "แต่ฉันต่างกับแม่เอมอรตรงที่ฉันไม่ได้ไปแย่งคุณสุทินมาจากใคร"
"เจ้าสัวสุทินเจ้าชู้ด้วยเหรอคะ ดาวขออนุญาตถาม" ปากชวนคุย มือก็นวดขาของเจ้านายไม่หยุด "เหมือนคุณปู่ของดาวเลยค่ะ คุณปู่เจ้าชู้มาก ทิ้งลูก ๆ ให้คุณย่าเลี้ยง สุดท้ายพอแก่ตัวมาก็กลับมาตายรังกับเมียหลวง" เลอดาวแต่งเรื่อง ชวนคุณแพรทองคุยไปเรื่อย มันเป็นหนึ่งในแผนของตนเองเพราะบางทีคุณแพรทองอาจรู้อะไรดี ๆ และมันจะทำให้งานของหล่อนง่ายขึ้น
คนสูงอายุกระตุกยิ้ม "คุณย่าของเธอเหมือนฉันไม่มีผิด"
"เหมือนยังไงเหรอคะ" คนนัยน์นาซื่อใสถาม
"ก็... คุณสุทินก็ทำกับฉันอย่างนั้นแหละ เจ้าชู้ ชอบเที่ยวนอนกับผู้หญิงไปเรื่อย ฉันไม่เคยสนใจผู้หญิงพวกนั้นหรอกนะ เพราะฉันรู้ว่าพวกเขาหาเงิน สามีของฉันโง่เอง แต่ฉันเจ็บใจและไม่ยอมอยู่เรื่องเดียว เพราะว่าหนึ่งในผู้หญิงกลางคืนพวกนั้นมันคิดอยากจะเป็นเมียของคุณสุทินจริง ๆ ยังไงล่ะ" คุณแพรทองเล่า แม้การเล่ามันจะเหมือนกับการแกะสะเก็ดแผลแล้วเอาเกลือมาโรยซ้ำ แต่นั่นแหละ มันเหมือนแผลที่ตกสะเก็ดและกำลังจะหาย ถึงจะแกะสะเก็ดแล้วเอาเกลือโรย มันเจ็บปวดทว่าก็ไม่เจ็บเท่าแผลสด
"นังนั่นมันอยากจะเป็นเมียอีกคนของคุณสุทิน มันปล่อยให้ตัวเองท้อง พอมันท้องคุณสุทินยิ่งหลงมันหัวปักหัวปำ ทั้งสาวทั้งสวยขนาดนั้นผู้ชายแก่ ๆ คนไหนจะไม่หลง คุณสุทินประเคนข้าวของเงินทองให้มันทุกอย่าง แม้กระทั่งอพาร์ทเม้นต์แถวดินแดงของฉันที่ฉันหามาด้วยหยาดเหงื่อตัวเอง มันเป็นสมบัติชิ้นแรกของฉันก่อนที่จะอู้ฟู่และมีทุกอย่างในวันนี้" น้ำตาแห่งความช้ำใจไหลอาบสองข้างแก้ม ยิ่งคิดยิ่งเจ็บช้ำใจ
เลอดาวเห็นเช่นนั้นก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับให้ "คุณท่านอย่าเล่าต่อเลยดีกว่าค่ะ ดาวเข้าใจ ปล่อยวางนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกเลอดาว ฉันเล่าได้" คนป่วยติดเตียงยิ้มมุมปาก เพราะไม่เห็นว่าจะเป็นการสาวไส้ความลับอะไร ก็แค่เปิดเผยความชั่วของผู้ชายคนหนึ่งแม้จะตายไปแล้วก็ตาม "คุณสุทินยกอพาร์ทเม้นต์ให้กับเมียน้อยโอนเป็นชื่อมันเสร็จสรรพ พอฉันรู้เข้าก็เลยทะเลาะกันบ้านแตก มันคงเป็นกรรมของฉันที่เราสองคนดันไปทะเลาะกันตรงบันได"
พอเลอดาวได้ฟังถึงกับอ้าปากค้าง หล่อนเข้าใจที่มาของคุณแพรทองที่นอนเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงมาไม่มีความรู้สึกเช่นนี้
สืบลับฉบับเลิฟ (3)
ชลัน
"คุณสิทธิ์ คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง" เอมอรตวาดเสียงและเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นทิ้งรูปถ่ายของอภิสิทธิ์กับผู้หญิงอีกคนลงบนตัวของเขาที่นอนอยู่บนโซฟา หล่อนจ้างนักสืบให้แอบติดตามสามี ไม่สนใจว่าภายในห้องข้าง ๆ จะมีใครอยู่ในนั้น
อภิสิทธิ์ที่นอนอยู่ลุกพรวดพร้อมหยิบรูปที่เอมอรทิ้งใส่ตัวขึ้นมาดู สายตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธขย้ำรูปถ่ายให้แหลกคามือพร้อมมองหน้าภรรยาราวกับจะฉีกเป็นชิ้น ๆ ถ้าหากทำได้
"เอมคุณจ้างนักสืบติดตามผมเหรอ คุณทำแบบนี้ได้ยังไง" อภิสิทธิ์ตวาด สายตาดุจ้องไปที่คนตรงหน้าไม่วางตาโดยไม่สนใจคนอยู่อีกห้องเช่นกัน
"ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้ แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณมีเมียน้อย และทุก ๆ ครั้งที่คุณหายไปไม่ยอมกลับบ้านเพราะคุณไปค้างกับนังนั่น" เอมอรตวาดกลับด้วยความโกรธและน้ำตาคลอ "คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงคุณอภิสิทธิ์ คุณทำได้ยังไง" เอมอรไม่พูดเฉยสองมือตบตีอภิสิทธิ์พัลวัน
"เอมหยุด! ผมบอกให้หยุดไง" อภิสิทธิ์ยกมือป้องปัดฝ่ามือของภรรยา เขาไม่อยากใช้อารมณ์กับหล่อน
ประมุขของบ้านทนดูเหตุการณ์ไม่ได้อีกต่อไปแล้วที่ลูกชายกับลูกสะใภ้ทะเลาะกัน แถมยังทะเลาะต่อหน้าลูกชายอีก คุณแพรทองรบเร้าให้เลอดาวพาเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่ทั้งคู่กำลังทะเลาะกันอยู่
"หยุดได้แล้วทั้งสองคน! เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอไปแล้วหรือไง ถ้าพวกแกไม่เห็นแก่หน้าฉันก็หัดอายแขกบ้าง พวกแกอายคุณครูกับคุณพยาบาลบ้างไหม อายลูกแกบ้างมั้ย เขาไม่สมประกอบอยู่แล้วยังต้องมารับรู้เรื่องบ้า ๆ ของพ่อกับแม่อีก" คุณแพรทองตวาดลูกชายกับลูกสะใภ้ ทั้งสองคนเงียบกริบ
"เอมขอโทษค่ะคุณแม่ ก็ลูกชายคุณแม่นอกใจเอมไปมีเมียน้อย คุณแม่จะให้เอมใจเย็นอยู่เฉยได้ยังไงคะ" เอมอรร้องไห้คุกเข่าเข้าหาแม่สามี ฟ้องทุกอย่างที่อภิสิทธิ์ทำและนำรูปถ่ายที่หล่อนจ้างนักสืบถ่ายมาได้ให้แก่คุณแพรทองดู
"สิทธิ์ แกทำแบบนี้ทำไม" ถึงลูกชายจะทำผิดแค่ไหน แต่ก็นั่นแหละอภิสิทธิ์ก็คือลูกชายของหล่อน ทว่าจะไม่ว่าเลยก็ดูจะใจดำกับลูกสะใภ้เกินไป อย่างไรเอมอรก็มาจากครอบครัวผู้รากมากดี แถมพ่อแม่ของลูกสะใภ้เล็กก็คอยช่วยเหลือทางธุรกิจกัน "มีลูกมีเมียอยู่แล้วทำไมยังต้องไปหาเศษหาเลยข้างนอก ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วใช่มั้ย"
"คุณแม่ครับ! ผมเองก็เคยบอกคุณแม่หลายหนแล้วเหมือนกันนะครับว่า... ผมไม่ได้รักเอม ผมผู้หญิงคนนี้" อภิสิทธิ์ค้านด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและใช้หางตามองภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ไม่ถูกใจ
"คุณพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง ถึงผู้หญิงคนนั้นเขาจะมาก่อนฉัน แต่ฉันมีลูกกับคุณ แต่งงานกับคุณ จดทะเบียนสมรสกับคุณ เพราะฉะนั้นฉันต่างหากที่เป็นเมียของคุณไม่ใช่นังผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น" เอมอรพูดทั้งน้ำตาไหลอาบสองแก้ม หล่อนเจ็บปวดเหลือเกินกับคำพูดที่ออกมาจากปากของคนที่หล่อนรักหมดใจ
อภิสิทธิ์จ้องมองคนที่ได้ชื่อว่าแม่ของลูกอย่างเหลืออด เหลืออดที่หล่อนต่อว่าคนที่เขารักว่าหน้าด้าน ถ้าจะพูดกันตรง ๆ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าแม่ของลูกต่างหากที่หน้าด้าน ความผิดส่วนหนึ่งก็มาจากตนเองที่เรื่องมันเป็นอย่างนี้ ผิดที่ใจง่ายมักมากเรื่องมันถึงกลายเป็นอย่างนี้ และเขาก็ได้รับผลกรรมที่ก่อเอาไว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการแต่งงานกับเอมอรเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่ได้ทำไว้
"ใช่คุณมีลูกกับผม แต่เพราะคุณวางแผนจับผมต่างหากเอมอร คุณปล่อยให้ตัวเองท้องเพราะอยากจับผม จริง ๆ แล้วผมไม่ได้รักคุณเลย ผมรักชม เรารักกัน" อภิสิทธิ์พูดอย่างเหลืออดเต็มทน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาสองคนทะเลาะกัน ดีที่ครั้งนี้เขาไม่เผลอลงไม้ลงมือกับเอมอรเพราะเกรงใจผู้เป็นแม่และแขกของบ้าน บางทีหากอยู่กันตามลำพังสองคนเขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะระงับอารมณ์ได้ไหม
"ได้... ในเมื่อแกพูดอย่างนี้ ฉันจะทนอยู่กับแกไปทำไม ฉันจะไม่ยอมอยู่เป็นของตายของแกแน่ไอ้อภิสิทธิ์ ฉันจะหย่ากับแก" เอมอรเจ็บปวดจนไม่เหลือความเกรงใจประมุขของบ้านอีกต่อไป นาทีนี้หล่อนเองก็เหลืออดแล้วเหมือนกัน
แขกของบ้านทั้งสองคนเอาแต่นิ่งงันไม่กล้ากระดุกกระดิกใด ๆ เลย
"อยากหย่าก็เชิญ! ดีซะอีกฉันจะได้เป็นอิสระเสียที แต่อย่าหวังว่าจะเอาลูกไปจากฉันได้นะ น้องพ็อตเตอร์ต้องอยู่กับฉันเท่านั้น อ๋อ... หรือถ้าจะเปลี่ยนใจไม่อยากหย่าแล้วก็ได้ จะอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อก็ได้ แต่ในฐานะแม่ของลูกเท่านั้น" ชายหนุ่มพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องนี้โดยไม่หันกลับมามองเลยว่าใครจะกรี๊ดคลั่งเป็นเจ้าเข้าก็ตาม
เอมอรกรี๊ดลั่นห้องร้องไห้จนทำให้น้องพ็อตเตอร์ผู้เป็นลูกชายตกใจร้องไห้ตาม เมื่อได้ยินเสียงลูกชายร้องไห้หล่อนถึงมีสติกลับมาและถลาเข้ากอดปลอบลูกชาย
"พ็อตเตอร์แม่ขอโทษ แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ลูกตกใจ" คนเป็นแม่กอดตัวลูกชายไว้แน่นท่ามกลางเสียงสะอื้นที่ไม่อายใคร ทั้งเลอดาวและแทนคุณหน้าเหวอกันทั้งคู่
คนที่น้ำตาคลอไปกับเอมอรคือพยาบาลสาว ชีวิตของหญิงสาวไม่ได้ต่างไปจากน้องพ็อตเตอร์นักที่พ่อมีเมียใหม่ ส่วนแทนคุณกับมีความรู้สึกโกรธอภิสิทธิ์ แม้เข้าใจในความรักร้าวที่เกิดขึ้นของทั้งคู่อย่างถ่องแท้แล้ว แต่นั่นอภิสิทธิ์ก็ไม่ควรจะมาทะเลาะกันต่อหน้าลูกชายอย่างนี้
"แม่เอมใจเย็น ๆ ก่อนนะ" คุณแพรทองที่นั่งอยู่บนรถเข็นพยายามปลอบใจลูกสะใภ้เล็ก "ฉันเข้าใจหัวอกของคนเป็นเมียด้วยกัน ชีวิตฉันที่ผ่านมาก็เจ็บปวดไม่ต่างไปจากแม่เอมหรอก ใจเย็น ๆ"
"คุณแม่ก็เห็นนี่คะ ว่าลูกชายคุณแม่ไม่ได้รักเอมสักนิด เอมผิดเองที่พลาดไปท้องกับคนเห็นแก่ตัวแบบนี้" เอมอรเถียงและมันก็เป็นความจริงทุกถ้อยคำ "ทั้งที่เอมรักเขา เป็นแม่ของลูกเขา แต่เขาไม่เคยรักเอมเลย ถึงผู้หญิงคนนั้นจะมาก่อนเอม แต่ในเมื่อคุณสิทธิ์มีลูกกับเอมแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเขาต้องตัดใจไม่ใช่หรือคะ ทำไมยังต้องกลับมาทำร้ายเอมอีก"
แต่เธอก็แย่งเขามานี่... ความจริงเธอต่างหากที่แย่งแฟนคนอื่นเขามาครอง
คุณแพรทองนึกในใจไม่ได้พูดออกมา "ใจเย็น ๆ ก่อน อย่าเพิ่งหย่ากับเจ้าสิทธิ์มันเลย ถึงเจ้าสิทธิ์มันจะรักผู้หญิงคนนั้น แต่มันก็ขึ้นชื่อว่าเมียน้อยอยู่วันยังค่ำ แม้มันจะพยายามยกยอเชิดหน้าชูตาก็ตาม แต่สังคมไม่ยอมรับหรอก ถ้าเมื่อไหร่แม่เอมหย่า นั่นแหละนังผู้หญิงคนนั้นจะได้ขึ้นมาเชิดหน้าชูตาแทนแม่เอมทันที"
"คุณแม่จะให้เอมนอนกอดทะเบียนสมรสเหรอคะ ทั้งที่สิทธิ์ไม่ได้รักเอมสักนิด"
"ถ้างั้นแม่เอมก็ไปตัดสินใจดี ๆ แล้วกัน" คุณแพรทองแสร้งพูด ทั้งที่ในใจไม่อยากให้ลูกสะใภ้เล็กหย่า เพราะต้องการให้ทางครอบครัวของเอมอรช่วยเหลือทางหน้าที่การงานของอภิเชษฐ์ลูกชายคนโต ทว่าก็ต้องลุ้นว่าสาวเจ้าจะใจกล้าหรือไม่ "เลอดาวพาฉันกลับเถอะ วันหลังค่อยพาฉันมาหาหลานฉันอีกแล้วกัน"
"ค่ะ คุณท่าน" เลอดาวรับคำสั่ง ก่อนจะพาประมุขกลับ เลอดาวหันมองครูหนุ่มแวบหนึ่งได้รับรอยยิ้มที่ละมุนจากเขา ทำให้หล่อนวาบหวามอยู่ไม่น้อยจากนั้นก็พาคุณแพรทองกลับห้อง
"คุณครูคะ ไปพักเถอะค่ะ เดี๋ยวน้องพ็อตเตอร์ฉันดูแลต่อเอง" เอมอรสั่ง ยกมือปราดน้ำตาออกจากใบหน้า
"จะดีเหรอครับ ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานของผมเลย" แทนคุณถามจากใจ นับว่าเอมอรเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งคนหนึ่ง ถ้าไม่นับว่าเส้นทางของการได้แต่งงานกับสามีเป็นมาอย่างไร อย่างน้อยเอมอรก็มีความห่วงใยและรักลูกมากกว่าคนเป็นพ่ออย่างอภิสิทธิ์
"ไม่เป็นไรค่ะ ไปพักเถอะ อ่อ... เมื่อกี้อย่าถือสาฉันกับสามีเลยนะคะ หวังว่าคุณครูจะเข้าใจ"
"ครับ... ผมเข้าใจครับ ผมเข้าใจคุณเอมอรที่สุด" เมื่อส่งน้องพ็อตเตอร์ให้กับคนเป็นแม่แล้วเขาก็กลับห้องพัก ชายหนุ่มอยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเอมอรกับอภิสิทธิ์มากกว่านี้ มีคนเดียวที่จะช่วยเขาได้คือนก เขาต้องหาทางถามนกให้ได้อีก
....
"บ้านฉันก็วุ่นวายแบบนี้แหละเลอดาว อย่าถือสาลูกชายกับลูกสะใภ้ของฉันเลยนะ น่าอายจริง ๆ" คุณแพรทองพูดขณะนั่งอยู่บนเตียงนอน "อภิสิทธิ์น่ะเขาเจ้าสำราญเหมือนพ่อ ไม่เหมือนอภิเชษฐ์ลูกชายคนโตของฉัน รายนั้นจริงจังทุกเรื่อง มีความรับผิดชอบสูง เก่งทุกอย่าง"
คุณแพรทองยิ้มเมื่อพูดถึงลูกชายคนโต หล่อนภูมิใจไม่น้อยที่อย่างน้อยก็มีลูกหนึ่งคนที่สามารถเป็นที่พักพิงได้ ส่วนลูกคนที่รักมากกลับไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย เพราะแบบนี้หล่อนกับเจ้าสัวสุทินถึงได้ห่วงอภิสิทธิ์นักหนา หยิบยื่นความช่วยเหลือตามใจลูกชายคนเล็กมาโดยตลอด แต่มันยิ่งทำให้อภิสิทธิ์ได้ใจ ไม่เคยพัฒนาตนเองเลยเพราะคิดว่ามีพ่อแม่หนุนหลัง แม้กระทั่งในยามนี้ที่ครอบครัวกำลังจะตกอับ ลูกชายคนเล็กก็ไม่คิดจะหาทางกู้วิกฤตของบ้าน มีแต่จะผลาญไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมหยุด นำเงินไปลงทุนลงหุ้นอะไรก็ไม่เคยได้คืนกลับมาสักบาทเดียว แถมในตอนนี้ยังมีเรื่องบ้านเล็กบ้านใหญ่มาให้หล่อนปวดหัวตามไปอีก
เลอดาวจัดผ้าห่มให้คุณแพรทองหลังจากพยุงออกจากรถเข็นลงมาที่เตียงนอน แม้ร่างกายของหล่อนจะผอมบางก็ไม่เป็นปัญหาในการพยุงคนไข้ คุณแพรทองเองก็มีร่างกายผอมบางเช่นกัน และเตียงนอนของเจ้าของก็ไม่ได้สูงอะไรนักหนา หล่อนสามารถยกพยุงได้อย่างคล่องแคล่ว
'ไม่ได้ก็ต้องได้' เรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับหล่อน
"ดาวไม่ถือสาคุณ ๆ ทั้งสองคนหรอกค่ะ ดาวเข้าใจทั้งสองคน" พยาบาลสาวพูดทั้งรอยยิ้ม นั่งนวดขาและทำกายภาพให้กับคนสูงอายุตรงหน้าพลันทำให้นึกถึงคุณย่าที่อยู่ที่บ้าน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้เพราะตนเองก็ใช้เวลาส่วนมากอยู่ที่บ้านหลังนี้ จะกลับก็ตอนเย็นของวันเสาร์ และกลับเพียงแค่วันเดียวก็ต้องกลับมาทำงานอีก ถึงอย่างไรก็คงอีกไม่นานที่ต้องทำอย่างนี้ หล่อนต้องปิดงานให้ได้โดยเร็วที่สุด
"ไอ้เจ้าสิทธิ์น่ะมันเหมือนพ่อ เจ้าชู้ ฉันถึงบอกว่าฉันเข้าใจหัวอกแม่เอมอรยังไงล่ะ" คุณแพรทองราวกับอัดอั้นมานาน คนสูงอายุถอนหายใจ "แต่ฉันต่างกับแม่เอมอรตรงที่ฉันไม่ได้ไปแย่งคุณสุทินมาจากใคร"
"เจ้าสัวสุทินเจ้าชู้ด้วยเหรอคะ ดาวขออนุญาตถาม" ปากชวนคุย มือก็นวดขาของเจ้านายไม่หยุด "เหมือนคุณปู่ของดาวเลยค่ะ คุณปู่เจ้าชู้มาก ทิ้งลูก ๆ ให้คุณย่าเลี้ยง สุดท้ายพอแก่ตัวมาก็กลับมาตายรังกับเมียหลวง" เลอดาวแต่งเรื่อง ชวนคุณแพรทองคุยไปเรื่อย มันเป็นหนึ่งในแผนของตนเองเพราะบางทีคุณแพรทองอาจรู้อะไรดี ๆ และมันจะทำให้งานของหล่อนง่ายขึ้น
คนสูงอายุกระตุกยิ้ม "คุณย่าของเธอเหมือนฉันไม่มีผิด"
"เหมือนยังไงเหรอคะ" คนนัยน์นาซื่อใสถาม
"ก็... คุณสุทินก็ทำกับฉันอย่างนั้นแหละ เจ้าชู้ ชอบเที่ยวนอนกับผู้หญิงไปเรื่อย ฉันไม่เคยสนใจผู้หญิงพวกนั้นหรอกนะ เพราะฉันรู้ว่าพวกเขาหาเงิน สามีของฉันโง่เอง แต่ฉันเจ็บใจและไม่ยอมอยู่เรื่องเดียว เพราะว่าหนึ่งในผู้หญิงกลางคืนพวกนั้นมันคิดอยากจะเป็นเมียของคุณสุทินจริง ๆ ยังไงล่ะ" คุณแพรทองเล่า แม้การเล่ามันจะเหมือนกับการแกะสะเก็ดแผลแล้วเอาเกลือมาโรยซ้ำ แต่นั่นแหละ มันเหมือนแผลที่ตกสะเก็ดและกำลังจะหาย ถึงจะแกะสะเก็ดแล้วเอาเกลือโรย มันเจ็บปวดทว่าก็ไม่เจ็บเท่าแผลสด
"นังนั่นมันอยากจะเป็นเมียอีกคนของคุณสุทิน มันปล่อยให้ตัวเองท้อง พอมันท้องคุณสุทินยิ่งหลงมันหัวปักหัวปำ ทั้งสาวทั้งสวยขนาดนั้นผู้ชายแก่ ๆ คนไหนจะไม่หลง คุณสุทินประเคนข้าวของเงินทองให้มันทุกอย่าง แม้กระทั่งอพาร์ทเม้นต์แถวดินแดงของฉันที่ฉันหามาด้วยหยาดเหงื่อตัวเอง มันเป็นสมบัติชิ้นแรกของฉันก่อนที่จะอู้ฟู่และมีทุกอย่างในวันนี้" น้ำตาแห่งความช้ำใจไหลอาบสองข้างแก้ม ยิ่งคิดยิ่งเจ็บช้ำใจ
เลอดาวเห็นเช่นนั้นก็รีบหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับให้ "คุณท่านอย่าเล่าต่อเลยดีกว่าค่ะ ดาวเข้าใจ ปล่อยวางนะคะ"
"ไม่เป็นไรหรอกเลอดาว ฉันเล่าได้" คนป่วยติดเตียงยิ้มมุมปาก เพราะไม่เห็นว่าจะเป็นการสาวไส้ความลับอะไร ก็แค่เปิดเผยความชั่วของผู้ชายคนหนึ่งแม้จะตายไปแล้วก็ตาม "คุณสุทินยกอพาร์ทเม้นต์ให้กับเมียน้อยโอนเป็นชื่อมันเสร็จสรรพ พอฉันรู้เข้าก็เลยทะเลาะกันบ้านแตก มันคงเป็นกรรมของฉันที่เราสองคนดันไปทะเลาะกันตรงบันได"
พอเลอดาวได้ฟังถึงกับอ้าปากค้าง หล่อนเข้าใจที่มาของคุณแพรทองที่นอนเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงมาไม่มีความรู้สึกเช่นนี้