JJNY : ‘พิธา’ไม่เขิน ดีเลิฟ ‘ชลน่าน’│ลูกเกดยื่น ก.ต.สอบผู้พิพากษา│จเด็จแก้เกี้ยว│กลุ่มต่อต้านปูตินบุกโจมตีเมืองรัสเซีย

กระทู้ข่าว

พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล วุฒิสภา สงครามรัสเซีย-ยูเครน รัฐบาล

‘พิธา’ ไม่เขิน ดีเลิฟ ‘ชลน่าน’ ยันไม่เคยระแวง ‘เพื่อไทย’ เผยส่งคลิป TikTok ให้ ‘อิ๊ง’ บ่อย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4009530

‘พิธา’ ไม่เขิน ดีเลิฟ ‘ชลน่าน’ ยันไม่เคยระแวง ‘เพื่อไทย’ เผยส่งคลิป TikTok ให้ ‘อิ๊ง’ บ่อย

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ คุยนอกจอ ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงเบื้องหลังการจับมือ และประกบทำมือรูปหัวใจ กับ นพ.ชลน่าน ว่า ช่วงที่นั่งนั้น มีช่วงหนึ่งที่เอามือไว้ข้างหลัง ผมก็คิดในใจว่าเดี๋ยวจะมีคนมาบอกว่าเอามีดมาแทงข้างหลังหรือเปล่า จึงบอก นพ.ชลน่านว่า เอามือมาไว้ข้าวหน้า เพื่อแสดงความจริงใจดีก่าว ไม่งั้นเดี๋ยวจะมีการตีความไปนู่นนี่อีก

ส่วนที่หน้าแดง เพราะวันนั้นอากาศร้อนมาก ยืนยันว่าไม่ได้เขินเลย ให้ทำใหม่ก็ทำได้

และในห้องประชุมในวันนี้ ก็พูดเรื่องนี้เช่นกัน ว่าเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง และทำงานร่วมกันดีกว่า เปลี่ยนข้อครหาจากดีลรักเป็นดีลลับเลยดีกว่า

ทั้งนี้ พิธา ยืนยันว่า ไม่เคยมีความระแวงพรรคเพื่อไทยเลย เพราะเราต้องทำงานเป็นทีม และการที่จะทำงานเป็นทีมได้ เราต้องเริ่มต้นเชื่อใจซึ่งกันและกัน แน่นอนว่า มันมีเรื่องต่างๆเข้ามา เราก็ยึดหลักฟังแต่ยังไม่เชื่อ จะหูเบาไปทุกเรื่อง เราจะทำการใหญ่ไม่ได้

ส่วนที่มีคนพยายามปั่นหรือไม่ พิธากล่าวว่า ตนไม่รู้สึกหวั่นไหว เชื่อว่าทุกคนต้องการทำงานเพื่อประชาชน และอะไรที่ทำให้คิดว่า พท.ไม่เบี้ยวหรอก พิธา คิดว่า เพราะความเชื่อใจที่มีด้วยกัน และขึ้นอยู่กับตัวเราว่าเราแสดงให้เห็นว่าตั้งใจทำงานจริง ทำให้เขามั่นใจเรา ก็สามารถทำงานร่วมกันได้

นอกจากวันที่โทรหาอิ๊ง หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในวันชนะเลือกตั้งและชวยร่วมรัฐบาล ได้คุยอะไรเพิ่มเติมไหม พิธา ตอบว่า

“ได้คุยครับ วันนี้ โทรไปแสดงความยินดีกับคุณอุ๊งอิ๊ง ว่าได้ช่วยเพื่อไทยหาเสียงได้อย่างไร้ที่ติจริงๆ และก็คุยกันเรื่องธรรมดา ซึ่งผมกับคุณอุ๊งอิ๊ง ก็รู้จักกันมานาน โอกาสคุยกัน และเวลามีอะไรที่ตลกๆ เช่น คลิป TikTok ก็ส่งให้กันดูตลอด และวันอาทิตยนี้ ที่มีการฉลอง Pride Month ก็อาจจะเจอกันเช่นกัน”

ส่วนที่วันที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่พรรคประชาชาติ คุยอะไรบ้างนั้น พิธา ตอบว่า วันนี้คุยกันเรื่องวาระงานอย่างเดียว เพราะที่ผ่านมา ตนได้ไปหารือกับสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ส่วนพรรคเพื่อไทย ไปหาดูเรื่องราคายาง ส่วนพรรคไทยสร้างไทย ก็ไปดูเรื่องการท่องเที่ยว ดังนั้น ต่อไป ทุกวันอังคาร ทีมงานแต่ละพรรคประชุมร่วมกัน และทุกวันพุธ หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคจะประชุมร่วมกัน เพื่อวางแผนการทำงานช่วงรอยต่อ จนกว่าจะก่อเกิดการตั้งรัฐบาล

ส่วนที่มาของการพลิกเกม “มีเราไม่มีลุง” พิธา ตอบว่า ต้องให้เครดิตหนังสือพิมพ์ที่ตนอ่านตอนเช้า และเจอคำว่า “มีเราไม่มีลุง” ซึ่งคิดว่า คำนี้ชัด และตอบจุดยืนทางการเมืองให้ประชาชนเข้าใจว่า เรามีจุดยืนอย่างไร

ส่วนที่ใครบอกว่าประโยคนี้ แซะ พรรคเพื่อไทยนั้น ตนไม่คิดอย่างนั้น

ลูกเกด ยื่น ก.ต.สอบผู้พิพากษา เลื่อนนัดคดี ทั้งที่ทนายไม่ว่าง โรม กังวล กระทบทำหน้าที่ส.ส.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4009357

‘ชลธิชา’ ควง ‘โรม-เจี๊ยบ’ ยื่น ก.ต.สอบผู้พิพากษาเลื่อนนัดคดีเร็วขึ้น ตรงกับวันทนายไม่ว่าง เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ส.ส. ปทุมธานี ก้าวไกล , นาย รังสิมันต์ โรม ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล และ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ร่วมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เพื่อให้ตรวจสอบวินัยผู้พิพากษาศาลอาญาที่เร่งรัดคดีอาญา มาตรา 112 ที่ นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว ตกเป็นจำเลยโดยมีการเลื่อนนัดสืบพยานให้เร็วขึ้นจนไม่มีทนายความจำเลยร่วมว่าความอยู่ในการพิจารณาคดีด้วย

นางสาวชลธิชา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นการถูกแจ้งข้อหา ม.112 จากการเขียนจดหมายถึงสถาบันฯ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าสู่กระบวนการ ในวันนัดพร้อมคดีได้มีการตกลงนัดวันสืบพยานโจทก์-จำเลย โดยกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งเเรก เดือน มีนาคม 2567 โดยเหตุผลที่ขอเป็นช่วงเวลาดังกล่าวเนื่องจากทนายความของตนที่ทำคดีความ ม.112 ต้องว่าความหลายคดี เเละมีวันว่างนัดนั้น

ต่อมาประมาณเดือน กรกฎาคม 2565 มีเจ้าหน้าที่ศาลโทรศัพท์มาสอบถามทนายความของตน ว่าในเดือน มิถุนายน และ สิงหาคม มีวันว่างหรือไม่ ศาลต้องการนัดสืบพยาน โดยเลื่อนนัดมาให้เร็วขึ้นทนายความของตนจึงชี้แจงว่าไม่ว่าง เนื่องจากติดภารกิจของการสืบพยานที่ศาลอื่น ซึ่งในเมื่อทางเราแจ้งกับศาลไปเรียบร้อยแล้วถึง 2 รอบว่า ตัวทนายความของจำเลยไม่สะดวกนัดสืบพยานในคดีนี้ช่วงเดือนมิถุนายน เเละ สิงหาคม ปี 2566 เพราะติดนัดคดีอื่น สิ่งที่ตนและทนายความสงสัยและตั้งคำถามคือ ในเมื่อศาลรู้อยู่แล้วว่าทนายความไม่สะดวกเนื่องจากภารกิจ

ซึ่งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายาที่ผ่านมา ตนจึงเดินทางมาที่ศาลคนเดียว เพื่อขอยื่นการเลื่อนนัดสืบพยานเนื่องจากไม่สะดวก แต่ นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และผู้พิพากษาในคดีไม่อนุญาตให้เลื่อนนัดสืบพยาน ตนจึงใช้สิทธิ์ในการขอพบผู้บริหารศาลซึ่งเป็นสิทธิของบุคคลทั่วไป แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ จึงขอใช้สิทธิเปลี่ยนองค์คณะผู้พิพากษา เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเหตุการณ์เมื่อวานนี้มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์โดยที่ตนไม่มีทนาย ซึ่งตามปกติคดีอาญาที่มีโทษสูงอย่างมาตรา 112 โทษจำคุก 3-15 ปีการสืบพยาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้มีความรู้ด้านกฎหมาย ทำให้ตนรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ศาลเลื่อนนัดสืบพยานเร็วขึ้น นางสาวชลธิชา กล่าวว่า ศาลให้เหตุผลว่าเป็นดุลยพินิจของท่าน หากไม่พอใจให้ไปดำเนินการตามขั้นตอน ทำให้ตนมายื่นหนังสือถึง กต. ในวันนี้ รวมถึงไม่ใช่แค่คดีม.112 ของตนที่ถูกให้เลื่อนเร็วขึ้น แต่ยังมีของคนอื่นอีก 4-5 คน และไม่มีทนายฝ่ายโจทก์เช่นกัน อย่างคดีของนายปิยรัตน์ จงเทพ ว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกลก็พบว่าถูกเลื่อนคดีให้เร็วขึ้น แต่กรณีนั้นต่อมาศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีออกไปให้ช้าลงได้ มีเพียงคดีของตนเท่านั้นที่ศาลยืนยันว่าไม่สามารถให้เลื่อนนัดสืบพยาน

เมื่อถามว่าการเลื่อนนัดสืบพยาน เลื่อนการทำคดีให้เร็วขึ้นจะเป็นการขัดขวางการทำหน้าที่ ส.ส.ในอนาคตหรือไม่ นางสาวชลธิชา กล่าวว่า มีหลายคนที่แสดงความกังวลว่าเหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายอรรถการเป็นหนึ่งในผู้ที่ถอนหมายจับกรณีของสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นข่าว แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราตั้งคำถาม ว่าตกลงแล้วกระบวนการยุติธรรมเป็นอย่างไร มีความเป็นธรรมเสมอภาคเท่าเทียมกันกับทุกคนหรือไม่ เพราะอย่างกรณีของส.ว. รายหนึ่งกระบวนการล่าช้า ตนเคยยื่นก.ต ให้พิจารณาการทำหน้าที่ว่า นายอรรถการ และ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่กรณีของ นางสาวชลธิชา คำถามที่สำคัญคือกระบวนการเหล่านี้เป็นกระบวนการที่ได้มาตรฐานและมีความยุติธรรมหรือไม่ การพิจารณาของเมื่อวานนี้หมายความว่าเขาจะไม่มีทนายความในการต่อสู้คดีด้วยหรือไม่ ตนไม่อยากให้รู้สึกว่าองค์กรสุดท้ายนี้ จะเป็นเครื่องมือของกระบวนการอะไรก็แล้วแต่ เป็นการเตะตัดขานางสาวชลธิชาให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในสภาฯหรือเป็นผู้แทนของประชาชนได้ ตนเชื่อว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับศาลของเรา ตนมีความหวังที่จะเห็นการปรับปรุงแก้ไขสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย

นางอมรรัตน์ กล่าวว่าวันนี้มาในนามของกรรมการพรรคก้าวไกลขอมายืนเคียงข้างกับ นางสาวชลธิชาด้วยความเป็นห่วงต่อวิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้นต่อกระบวนการยุติธรรม กระบวนการยุติธรรมถูกตั้งคำถามมาก การดำรงตนเป็นอิสระโยงไปถึงนโยบายของพรรคก้าวไกลเกี่ยวกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมปฏิรูปแทนที่จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย

จเด็จ แก้เกี้ยว บอกดีแล้ว ไม่มีใครตอบรับ ‘รัฐบาลแห่งชาติ’ แย้มส.ว.บางคนเห็นด้วย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7695738

ส.ว.จเด็จ บอกดีแล้ว ไม่มีใครตอบรับรัฐบาลแห่งชาติ เดินหน้าชง กมธ.พัฒนาการเมือง พิจารณา แย้ม ส.ว.บางคนเห็นดีด้วย แต่ต้องหาทางออก

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2566 นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิกร (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และผู้เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ กล่าวถึงฝ่ายการเมืองคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุทำไม่ได้ว่า ดีแล้วที่ไม่มีใครตอบรับ แต่ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมไม่ตอบรับ

เมื่อถามว่าในการประชุมกมธ.การพัฒนาฯ จะเสนอประเด็นรัฐบาลแห่งชาติให้หารือหรือไม่ นายจเด็จ กล่าวว่า ต้องถามนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ในฐานะประธานกมธ. ว่าจะคุยกันหรือไม่ แต่เท่าที่ตนพูดคุยกับส.ว.บางคน ยังมองว่าเป็นไปได้ แต่ต้องหาทางออกว่าจะดำเนินการอย่างไร