Pico แต่ละเครื่องต่างกันอย่างไร ไปคลีนิคไหนก็บอกของตัวเองดีกว่า

พอดีผมทำ2ที่ครับ เพราะโปรส่วนไหนดีก้ทำที่นั่น ที่แรกpicoplus ทำครั้งแรกที่เป็นหัวfractional ก้เห็นผลเลยชัดดี 
ที่2 ก็ทำอีกส่วนก็เห็นผลเช่นกัน ก้คือpico way ซึ่งถามเจ้าหน้าที่ก็บอกของตัวเองดีกว่า
สำหรับผม pico แบรนด์ที่กล่าวมาก็ดังทั้งคู่ ก็ดีควดีเหมือนกัน ต่างกันคงนิดนึง1-2%เท่านั้น
แต่อยากรู้จริงๆที่ว่ามันดีกว่ากัน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ ไปทำที่ไหนคนที่นั่นก้ต้องบอกของตัวเองดีกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เอาแบบตามยี่ห้อก่อนเลยนะครับ

Picoplus ของเกาหลีครับ แบรนด์นี้ถือว่าเกรด B

ถ้าอยากทำ Pico laser แบรนด์ดีๆ ก็จะต้องของอเมนิกาหรือยุโรปครับ : Picoway Picosure Englighten Discovery ครับ พวกนี้คือ เกรด A แต่ก็ต้องเข้าใจนะครับว่า กะทะกับเตาแก๊สรุ่นเดียวกัน กุ๊กคนละคน อาหารที่ทำออกมาอร่อยไม่เท่ากันฉันใด เครื่อง Pico ไฮโซแบรนด์เดียวกัน แพทย์ที่ทำสำคัญไม่น้อยไปกว่าเครื่องเลยนะครับ สำคัญมากกว่าด้วยซ้ำ บางทีผมก็งงว่าคนเราทำไมชอบถามหาแต่แบรนด์ แต่ลืมคนยิงว่าเก่งมั้ย น่ากลัวมากครับ

และก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนครับว่า Pico laser หรือ Picosecond laser แบ่งเป็นความยาวคลื่น 2 ประเภทครับ คือ 755nm และ 1064nm ซึ่ง Pico ทั้งสองประเภทนี้ก็จะมีความเก่งไม่เหมือนกัน (ขออนุญาต copy and paste เม้นที่ผมเพิ่งไปตอบอีกกระทู้นึงมานะครับ เพราะมันคือคำตอบเดียวกัน ขี้เกียจพิมพ์หลายรอบ)

- 755nm เหมาะกับการจัดการปัญหาสีผิวที่เกิดจากเมลานิน เช่น รอยดำสิว ปาน ฝ้า กระ ไฝ เพราะเลเซอร์ใน wavelength (ความยาวคลื่น) 755nm มันจะจับเฉพาะสีดำ และแทบไม่จับสีแดง เพราะงั้นยิงเข้าไปในผิวแล้ว พวกฝ้า กระ ก็จะถูกให้ระเบิดหรือระเหิดไปโดยที่ไม่ไปจับพวกเส้นเลือด (สีแดง) ซึ่งการใช้ 1064nm ในการกำจัดเม็ดสีนั้น ความสามารถในการจับสีดำของ 1064nm นั้นต่ำกว่า 755nm ประมาณ 3 เท่า (ดูตารางด้านล่าง) ซึ่งหมายความว่า พลังงานที่ใช้ยิงเพื่อให้ได้ผลเท่ากับ 755nm ก็ต้องสูงขึ้นอย่างน้อย 3 เท่า ซึ่งก็จะทำให้ระดับการจับเส้นเลือดมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมหลังทำ Pico แบบ 1064nm แล้วหน้าจะต้องเลือดสาด เพราะเมื่อหมอจะต้องใส่พลังงานระดับนั้นเข้าไปทั่วหน้า เส้นเลือดจะถูกทำให้เกิดบาดแผลเป็นจุดเลือดออกจำนวนมากนั่นเอง

- 1064nm เหมาะกับการจัดการเรื่องประเภทหลุมสิว ผิวหน้าขรุขระมากกว่า 755nm ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ อำนาจการทะลุทลวงของ 1064nm ที่จะไปจัดการกับมีมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในการรักษาปัญหาพวกหลุมบนหน้า และการที่เลือดจะสาดเพื่อการรักษาหลุมนั้นก็เป็นเรื่องปกติ แต่แน่นอน เมื่อไหร่ก็ตามที่ผิวหนังมีบาดแผล โอกาสของการเกิดแผลเป็นหรือรอยดำก็มีมากขึ้น แต่ด้วยความที่ Pico laser เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานโดยไม่เกิดความร้อนในผิว ก็เป็นการลดโอกาสในการเกิดรอยดำ
** จริงๆ แล้ว เครื่องที่ดีกว่า Pico laser ในการจัดการหลุมสิวคือพวกเครื่อง Erbium YAG เพราะการเจียผิวโดยรอบหลุมนั้นทำได้สวยกว่ามาก คมกว่า เป็นเทคโนโลยีที่มีตามโรงเรียนแพทย์ชั้นนำ เป็นเครื่องที่เน้นการรักษาโรค เช่น รักษาหลุมสิว ตัดติ่งเนื้อ ฯลฯ (เป็นเทคโนโลยีที่มาทดแทน CO2) แต่เนื่องจาก Erbium YAG เป็นเครื่องที่ทำให้ผิวเกิดความร้อน จึงทำให้มีโอกาสเกิดรอยดำหลังทำได้**



สรุปแล้ว คนที่ต้องการจัดการเรื่องเม็ดสี ควรมองหาคลินิกที่ใช้ Pico laser แบบ 755nm ใครที่อยากจัดการเรื่องความเรียบของผิว โดยเฉพาะเรื่องหลุมสิว ผิวส้ม ก็ใช้ 1064nm แค่ขอให้เข้าใจว่า Pico มันแยกเป็น 2 ประเภท ไม่ใช่เอะอะทำไปโดยไม่รู้อะไรเลย จะโดนคลินิกหลอกเอาครับ

ในตลาดปัจจุบัน เท่าที่ศึกษามา Pico ทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะอิตาลี อเมริกา เกาหลี จะเป็น 1064nm ทั้งหมด (Discovery / Enlighten / PicoPlus / Pico Care ฯลฯ) จะมีแค่ PicoSure ที่เป็นของอเมริกา ที่เป็น Pico 755nm ครับ (ผมขอไม่พูดถึง Pico ปลอมนะครับ พวกนั้นน่าจะไม่ใช่ Pico ใดๆ เลย เป็นแค่เครื่องอะไรก็ไม่รู้แล้วอ้างว่าตัวเองเป็น Picosecond laser)

สำคัญที่สุดนอกจากการเลือกระหว่าง 755 กับ 1064 นั้น ก็คือความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ทำการรักษาให้กับเรานะครับ ของพวกนี้มันต้องมีชั่วโมงบินสูงพอสมควรเพื่อให้ทำการรักษาได้ออกมาอย่างที่ควรเป็น คือ ปลอดภัย และ เห็นผล เครื่องแท้ๆ ของเมกากับยุโรปส่วนใหญ่ราคา 4-5 ล้านอัพทั้งนั้น ไม่มีคลินิกไหนที่ใช้ของระดับนั้นแล้วมาคิดราคา 999.-/ครั้งหรอก อย่าหลอกตัวเองเลยครับ ถ้าจ่ายไม่ไหวก็อย่าทำซะจะดีกว่า เพราะผลลัพธ์ที่จะได้มาจากการทำ Pico ปลอมนั้น ตอนแก้มันจะแพงกว่าเยอะมากครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่