นั่งเทียนวิจารณ์ บทบท ส.ว.

ในการเลือกตั้งที่พึ่งจะเสร็จสิ้นไป หลายคนก็คงเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า "ส.ว. จะกลับมามีบทบาทอีกครั้ง!" 
         ประเด็นที่สำคัญก็คือตัวของท่าน ส.ว. ทั้งหลาย แน่นอนว่าก็ย่อมเอนเอียงไปทางฝั่งสองลุง (ก็แน่นอนล่ะเลือกมาเองกับมือ มีบุญคุณก็ต้องทดแทนกันหน่อย) แต่ในขณะนี้ผลการเลือกตั้งก็น่าจะชัดเจนแล้วล่ะว่า “ก้าวไกลจะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล!” 
         ทีนี้ทางฝั่งของบรรดา ส.ว. ทั้งหลาย ที่กำลังช็อกอยู่กับเหตุการณ์ครั้งใหญ่ ที่เล่นพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน นี่ยังรวมไปถึงพรรคเพื่อไทยที่เล่นเกมการเมืองในสภามากจนเกินไป หลาย ๆ เรื่องก็ไม่ยอมมาเข้าร่วมยกมือโหวต รวมถึงตอนหาเสียงก็แทงกั๊ก 
         แต่ในมุมมองของผมมันกลับกลายเป็นว่า เพื่อไทยที่แทงกั๊ก ‘มันกลับดูประนีประนอม’ มากกว่าทางก้าวไกล ที่นโยบายอีกฝ่ายพร้อมปะทะกับทุก ๆ เรื่อง 
         จนธนาธรถึงขั้นบอกว่าเลิกกินข้าวทีละคำได้แล้ว (ตามที่หมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้เคยเตือนไว้) พร้อมจะสวาปามกินพร้อมกันหมดทุกทิศทาง เรียกได้ว่าเปิดศึกหมด…
         ปัญหาของท่านพวก ‘สูงวัย’ ทั้งหลายก็คือ ออกหน้าเปิดประเด็นดักทางไว้ว่าจะไม่เอาพวก “ตระกูลชินวัตร!”
         จึงได้มาเจอกับ ‘นายพิธาของแข็งแทน’ ซึ่งคราวนี้บรรดาท่านสูงวัยทั้งหลาย ทั้งยังรวมไปถึงพวกอนุรักษ์นิยม อำนาจนิยม (สุดแต่ท่านจะเรียก) ต่างก็เริ่มพากันเสียววูบวาบขึ้นมาแล้ว เนื่องจากก็รู้ ๆ กันอยู่ว่านโยบายอะไรที่อีกฝ่ายเรียกแขกได้มากที่สุด…

         ถึงขนาดพลพรรคคนรักลุงตู่อย่าง อุ๊ หฤทัย ยังออกปากบอกว่า “ถ้าเป็นอุ๊งอิ๊งจะมีความซอร์ฟมากกว่า” 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
         ถึงแม้นท่านจะฟังความคิดเห็นแล้ว มันดูละคายหู แต่ก็จำเป็นที่ต้องยอมรับว่า “คนส่วนหนึ่ง ซึ่งไม่น้อยในสังคมมีความคิดเช่นนี้”

         คราวนี้สมการของท่าน ส.ว. เจอกับโจทย์ยาก ๆ อย่าง “ไม่เลือกเราเขามาแน่ อาจจะโหวตเลือกสนับสนุนอุ๊งอิ๊งแทน เพื่อให้ได้เป็นนายกฯ เรียกได้ว่าเสี้ยมเขาควายให้ชนกัน”
         และดูท่าพวกคนรักลุงตู่จะหันมามองเพื่อไทย “เป็นความหวัง” เพราะว่าดูเบากว่า(มาก) แถมยังเคยทำงานบริหารมาก่อน 
         สมการการเมืองไทย มันไม่เหมือนที่ไหนทางผู้เขียนคิดว่า “ทั่วโลกคงต้องบินมาดูงานที่ไทย” อย่างในช่วงโค้งสุดท้าย คดี ITV อาจถูกใช้กำจัดพิธา เพื่อดันให้คนจากเพื่อไทยขึ้นมาแทน
         อย่างน้อยที่สุดผู้มีบารมีเบื้องหลัง มือมืดที่มองไม่เห็นก็รู้ไส้รู้พุง รู้แนวทางของเพื่อไทย ที่เคยทำงานมาก่อน ไม่เหมือนกับก้าวไกลที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งจากนโยบายต่างประเทศ และในประเทศ
         สุดท้ายนี้ก็หวังว่าท่านสูงวัยทั้งหลาย จะโหวตไปในทิศทางด้านของ ‘พิธา’ ลุงป้าน้าอาทั้งหลายก็ลองเข้าไปพูดคุย และเจรจากันดี ๆ เสียหน่อยเถอะ
         ส่วนทางด้าน ‘พิธา’ ก็ควรจะลดดีกรีความรุนแรงของนโยบาย ท่าทีต่อเรื่องต่าง ๆ ให้มันดูเบากว่านี้สักนิดหนึ่งจะเป็นการดี
         ไม่เช่นนั้นบริหารงานไปยังไม่ทันพ้นปี คงมีหวังได้เห็นความพินาศย่อยยับของประเทศ ผ่านการชุมนุมประท้วง ซึ่งทุกคนก็ต้องไม่ลืมว่าตอนที่ ‘สามลุงบริหารประเทศ’ มันก็เกิดม็อบรายวัน ทำเอาคนเบื่อหน่าย 
         หลายคนที่เคยผ่านไปผ่านมา ทั้งม็อบสามนิ้ว ม็อบเสื้อแดง-เหลือง รวมไปถึงม็อบมวล(หมา)ประชาชน ที่ทำเอาคนอั้นขี้อั้นเยี่ยวบนท้องถนนมาเยอะแล้ว “เวลาคนปวดขี้มันทรมานนะรู้กันบ้างไหม!?”
         และไอ้คำว่าประชาธิปไตยที่อ้าง ๆ กันมา มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะถ้าฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเจอเงื่อนไขที่นำไปสู่การลงถนน ก็จะพากันหาข้ออ้างเหมือนอย่างกับพวกม็อบสามนิ้วที่อ้าง “เรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องแก้… ไล่รัฐบาลเผด็จการ ฯลฯ”
         ส่วนใครอยู่ใกล้ ๆ พวกพรรคก้าวไกลก็ช่วยไปสะกิดบอกเขาหน่อยว่า “เบาได้เบานะพี่…”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่