#สอนภาวนา
"ในการนั่งสมาธิ ให้คอยสังเกตดูว่า จิตใจของเราได้ตั้งอยู่ครบในองค์ภาวนาหรือไม่
การเจริญสมาธินั้น จะต้องประกอบพร้อมไปด้วยองค์ทั้ง ๓ ประการ จึงจะนับว่าเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักของการภาวนา
ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดผลสมบูรณ์ขึ้นได้ตามความปรารถนา
องค์ของภาวนาที่กล่าวนี้ก็คือ
๑.วัตถุสมบัติ หมายถึงที่ตั้งของดวงจิต กล่าวคือลมหายใจเข้าออก ซึ่งเราจะต้องคอยกำหนดรู้อยู่เสมอ ไม่ให้ใจวอกแวกไปทางอื่น
หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ฐาน ซึ่งแปลว่า หลัก หรือ ที่ตั่งแต่การทำจิต
๒.เจตนาสมบัติ ได้แก่ ความตั้งใจ คือเมื่อเรากำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกแล้ว เราจะต้องมีสติจดจ่ออยู่เฉพาะแต่ลมหายใจอย่างเดียว
โดยการระลึกคำว่า พุท ตามเข้าไปพร้อมกับลมหายใจเข้า และคำว่า โธ ตามออกมาพร้อมกันลมหายใจออก
ทำอย่างนี้จนกว่าใจของเราจะนิ่งอยู่กับที่แล้วเราก็ทิ้งคำภาวนาเสียได้ เมื่อใจนิ่งแล้ว สติก็จะแนบสนิทอยู่กับลมหายใจอย่างเดียว ไม่มีการพลาดการลืม การเผลอ นี่เป็นตัว เจตนา หรือที่เรียกว่า กรรม
๓.คุณสมบัติ ได้แก่ความฉลาดที่จะต้องรู้จักปรับปรุง แก้ไข และขยับขยายลมหายใจของตนให้เป็นที่สบาย
เช่นถ้าหายใจสั้นไม่สบาย ก็เปลี่ยนเป็นหายใจยาวสักหน่อย สังเกตุดูว่าอย่างไหนสบาย แต่อย่าไปเก็ง ไปกัก ต้องปล่อยให้หายใจไปตามสบาย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วความสุขก็จะบังเกิดขึ้นในดวงใจของเรา ส่วนร่างกายก็จะพลอยได้รับความสุขไปด้วย นี้แหละคือตัว บุญกุศล
ที่ท่านเรียกว่า กุสลาธมฺมา อันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการปรารถนา
เมื่อบุคคลใดได้มาฝึกหัดอบรมดวงจิตของตนให้ตั้งมั่นอยู่ในหลักขององค์ภาวนาทั้ง ๓ ประการนี้แล้ว
ดวงจิตของบุคคลผู้นั้นก็จะมีความเชื่อว่าง่ายสอนง่ายไม่ดื้อดึง
เพราะจิตเกิดความฉลาดขึ้นก็จะรู้จักว่าอะไรเป็นความดีของเรา อะไรเป็นความไม่ดีของเรา ความเดือดร้อนวุ่นวายก็จะไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลผู้นั้น"
..... ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
ที่มา เพจ : วัดวังทองธัมมธโร จ.สุโขทัย
#สอนภาวนา ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
"ในการนั่งสมาธิ ให้คอยสังเกตดูว่า จิตใจของเราได้ตั้งอยู่ครบในองค์ภาวนาหรือไม่
การเจริญสมาธินั้น จะต้องประกอบพร้อมไปด้วยองค์ทั้ง ๓ ประการ จึงจะนับว่าเป็นไปโดยถูกต้องตามหลักของการภาวนา
ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดผลสมบูรณ์ขึ้นได้ตามความปรารถนา
องค์ของภาวนาที่กล่าวนี้ก็คือ
๑.วัตถุสมบัติ หมายถึงที่ตั้งของดวงจิต กล่าวคือลมหายใจเข้าออก ซึ่งเราจะต้องคอยกำหนดรู้อยู่เสมอ ไม่ให้ใจวอกแวกไปทางอื่น
หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ ฐาน ซึ่งแปลว่า หลัก หรือ ที่ตั่งแต่การทำจิต
๒.เจตนาสมบัติ ได้แก่ ความตั้งใจ คือเมื่อเรากำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกแล้ว เราจะต้องมีสติจดจ่ออยู่เฉพาะแต่ลมหายใจอย่างเดียว
โดยการระลึกคำว่า พุท ตามเข้าไปพร้อมกับลมหายใจเข้า และคำว่า โธ ตามออกมาพร้อมกันลมหายใจออก
ทำอย่างนี้จนกว่าใจของเราจะนิ่งอยู่กับที่แล้วเราก็ทิ้งคำภาวนาเสียได้ เมื่อใจนิ่งแล้ว สติก็จะแนบสนิทอยู่กับลมหายใจอย่างเดียว ไม่มีการพลาดการลืม การเผลอ นี่เป็นตัว เจตนา หรือที่เรียกว่า กรรม
๓.คุณสมบัติ ได้แก่ความฉลาดที่จะต้องรู้จักปรับปรุง แก้ไข และขยับขยายลมหายใจของตนให้เป็นที่สบาย
เช่นถ้าหายใจสั้นไม่สบาย ก็เปลี่ยนเป็นหายใจยาวสักหน่อย สังเกตุดูว่าอย่างไหนสบาย แต่อย่าไปเก็ง ไปกัก ต้องปล่อยให้หายใจไปตามสบาย
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วความสุขก็จะบังเกิดขึ้นในดวงใจของเรา ส่วนร่างกายก็จะพลอยได้รับความสุขไปด้วย นี้แหละคือตัว บุญกุศล
ที่ท่านเรียกว่า กุสลาธมฺมา อันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการปรารถนา
เมื่อบุคคลใดได้มาฝึกหัดอบรมดวงจิตของตนให้ตั้งมั่นอยู่ในหลักขององค์ภาวนาทั้ง ๓ ประการนี้แล้ว
ดวงจิตของบุคคลผู้นั้นก็จะมีความเชื่อว่าง่ายสอนง่ายไม่ดื้อดึง
เพราะจิตเกิดความฉลาดขึ้นก็จะรู้จักว่าอะไรเป็นความดีของเรา อะไรเป็นความไม่ดีของเรา ความเดือดร้อนวุ่นวายก็จะไม่เกิดขึ้นแก่บุคคลผู้นั้น"
..... ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
ที่มา เพจ : วัดวังทองธัมมธโร จ.สุโขทัย