ตามหัวข้อเลยค่ะ เราแต่งงานมาเข้าปีที่ 11 ไม่มีลูก แต่งงานแล้วย้ายเข้าบ้านเรา
ช่วงแรกสามีก็ให้เงินบ้าง ตามแต่จะมีรายได้ การที่จะมีรายได้ก็ยืมเงินเราไปลงทุน แต่ก็คืนทุกครั้ง ซึ่งในการคืนก็ให้เงินเรามาด้วยส่วนหนึ่ง ตีซะประมาณ 10% ของกำไรที่หาได้ และสามีไม่ได้ทำงานประจำ มีงานเป็นจ๊อบๆไป และให้เงินเรานับครั้งได้ ส่วนเราทำงานบริษัทรายได้ถือไม่ลำบาก สามารถดูแลครอบครัวได้ หลังจากแต่งงานไปได้ 5-6 ปี สามีแทบจะไม่มีงานเลย และหันมานั่งเทรดหุ้น full time ประกอบกับต่อมาเป็นช่วงโควิด ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่ให้เราเป็น 0 แต่อย่างที่บอกเราก็ไม่ได้เดือนร้อน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านได้ทั้งหมดและคิดว่าเมื่อไหร่ที่เค้ามีรายได้เค้าคงให้เราบ้าง เพราะคิดว่ามันเป็นบ้านเรา เวลาออกไปกินข้าวนอกบ้านเราก็จ่าย นานๆเค้าจะออกบ้าง
แต่ปัญหาหนึ่งของการใช้ชีวิตด้วยกัน เรามีเรื่องระหองระแหงกันตลอดเวลา เกี่ยวกับนิสัยเราและเค้า เราเป็นคนอารมณ์ร้อน ประกอบกับงานเครียด และแถมต้องรับผิดชอบทุกอย่าง และในลึกๆคิดว่า เป็นเสาหลักแล้ว สามีน่าจะช่วยดูแลหรือรับผิดชอบอย่างอื่นที่ไม่ใช่เรื่องเงินให้เราได้บ้าง และยอมรับว่ามีการพูดจาไม่ดึใส่สามีเวลาหงุดหงิด สามีวันๆนั่งอยู่หน้าจอ หมุกหมุนอยู่หน้ากราฟหุ้นตลอดเวลา แม้เวลาจะออกไปกินข้าวหรือทำกิจกรรมนอกบ้านด้วยกัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราหงุดหงิด และเวลาเถียงกันเค้าก็เถียงกลับซึ่งทำให้เรายิ่งโมโห เวลาทะเลาะกันสามีจะพูดคำว่าขอเลิกทุกครั้ง และมีหลายครั้งที่ขนของออกจากบ้านไป ซึ่งเราก็โทรตามกลับมา
ครั้งล่าสุด อาการเค้าดูชัดเจนกว่าเดิม ทำหน้าเบื่อหน่าย พูดคุยน้อยลง ชวนไปไหนก็บอกไม่อยากไปเพราะกลัวทะเลาะด้วย และพอมีเหตุถกเถียงที่สาเหตุคือเรื่องไม่เป็นเรื่อง เค้าก็บอกทนต่อไปไหว ขอเลิก และขนของออกไป เหมือนที่ผ่าน แต่ครั้งนี้เราไม่รั้ง และเราได้แอบไปดูในสมุดบัญชีเงินฝาก ก็รู้ว่าเค้ามีเงินเก็บพอสมควร ซึ่งก็ไม่มากถึงหลักล้าน แต่ก็หลายแสน ซึ่งที่ผ่านมาเราคิดมาตลอดว่าเค้าไม่ยังไม่มีงินเก็บถึงไม่สามารถช่วยเราออกค่าใช้จ่ายอะไรได้
เราเลยถามเค้าว่ามีเงินทำไมไม่เห็นช่วยเราออกค่าใช้จ่าย แต่ทำไมถึงออกไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่ากินอยู่ ได้ ซึ่งเค้าก็บอกเพี่อความสบายใจ
เราเลยรู้สึกเสียใจว่า ตอนที่เราเลือกเค้ามาอยู่ด้วยกัน เราคิดว่าจะสร้างครอบครัวไปด้วย เค้ายังไม่มียังพร้อมเรารอได้ แต่สุดท้ายแล้วเหมือนเค้าเลือกจะสร้างแต่ตัวเอง และพอเค้ามีเค้ากลับเลือกที่จะบอกว่าทนเราต่อไปไม่ไหว และบอกว่าเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าทำให้เค้าไม่มีความสุข ส่วนที่เราผิดเรายอมรับ แต่เราเองก็ไม่เคยได้รับการดูแลในฐานะภรรยาที่สามีต้องดูแลเช่นกัน
ตอนนี้เราอยาก move on กับเรื่องนี้ อยากขอกำลังใจและคำแนะนำให้ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ค่ะ
แต่งงานมา 10 ปี สามีไม่ได้ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน และบ่นว่าไม่มีความสุข
ช่วงแรกสามีก็ให้เงินบ้าง ตามแต่จะมีรายได้ การที่จะมีรายได้ก็ยืมเงินเราไปลงทุน แต่ก็คืนทุกครั้ง ซึ่งในการคืนก็ให้เงินเรามาด้วยส่วนหนึ่ง ตีซะประมาณ 10% ของกำไรที่หาได้ และสามีไม่ได้ทำงานประจำ มีงานเป็นจ๊อบๆไป และให้เงินเรานับครั้งได้ ส่วนเราทำงานบริษัทรายได้ถือไม่ลำบาก สามารถดูแลครอบครัวได้ หลังจากแต่งงานไปได้ 5-6 ปี สามีแทบจะไม่มีงานเลย และหันมานั่งเทรดหุ้น full time ประกอบกับต่อมาเป็นช่วงโควิด ดังนั้น ค่าใช้จ่ายที่ให้เราเป็น 0 แต่อย่างที่บอกเราก็ไม่ได้เดือนร้อน รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านได้ทั้งหมดและคิดว่าเมื่อไหร่ที่เค้ามีรายได้เค้าคงให้เราบ้าง เพราะคิดว่ามันเป็นบ้านเรา เวลาออกไปกินข้าวนอกบ้านเราก็จ่าย นานๆเค้าจะออกบ้าง
แต่ปัญหาหนึ่งของการใช้ชีวิตด้วยกัน เรามีเรื่องระหองระแหงกันตลอดเวลา เกี่ยวกับนิสัยเราและเค้า เราเป็นคนอารมณ์ร้อน ประกอบกับงานเครียด และแถมต้องรับผิดชอบทุกอย่าง และในลึกๆคิดว่า เป็นเสาหลักแล้ว สามีน่าจะช่วยดูแลหรือรับผิดชอบอย่างอื่นที่ไม่ใช่เรื่องเงินให้เราได้บ้าง และยอมรับว่ามีการพูดจาไม่ดึใส่สามีเวลาหงุดหงิด สามีวันๆนั่งอยู่หน้าจอ หมุกหมุนอยู่หน้ากราฟหุ้นตลอดเวลา แม้เวลาจะออกไปกินข้าวหรือทำกิจกรรมนอกบ้านด้วยกัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราหงุดหงิด และเวลาเถียงกันเค้าก็เถียงกลับซึ่งทำให้เรายิ่งโมโห เวลาทะเลาะกันสามีจะพูดคำว่าขอเลิกทุกครั้ง และมีหลายครั้งที่ขนของออกจากบ้านไป ซึ่งเราก็โทรตามกลับมา
ครั้งล่าสุด อาการเค้าดูชัดเจนกว่าเดิม ทำหน้าเบื่อหน่าย พูดคุยน้อยลง ชวนไปไหนก็บอกไม่อยากไปเพราะกลัวทะเลาะด้วย และพอมีเหตุถกเถียงที่สาเหตุคือเรื่องไม่เป็นเรื่อง เค้าก็บอกทนต่อไปไหว ขอเลิก และขนของออกไป เหมือนที่ผ่าน แต่ครั้งนี้เราไม่รั้ง และเราได้แอบไปดูในสมุดบัญชีเงินฝาก ก็รู้ว่าเค้ามีเงินเก็บพอสมควร ซึ่งก็ไม่มากถึงหลักล้าน แต่ก็หลายแสน ซึ่งที่ผ่านมาเราคิดมาตลอดว่าเค้าไม่ยังไม่มีงินเก็บถึงไม่สามารถช่วยเราออกค่าใช้จ่ายอะไรได้
เราเลยถามเค้าว่ามีเงินทำไมไม่เห็นช่วยเราออกค่าใช้จ่าย แต่ทำไมถึงออกไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่ากินอยู่ ได้ ซึ่งเค้าก็บอกเพี่อความสบายใจ
เราเลยรู้สึกเสียใจว่า ตอนที่เราเลือกเค้ามาอยู่ด้วยกัน เราคิดว่าจะสร้างครอบครัวไปด้วย เค้ายังไม่มียังพร้อมเรารอได้ แต่สุดท้ายแล้วเหมือนเค้าเลือกจะสร้างแต่ตัวเอง และพอเค้ามีเค้ากลับเลือกที่จะบอกว่าทนเราต่อไปไม่ไหว และบอกว่าเราเป็นสาเหตุที่ทำให้เค้าทำให้เค้าไม่มีความสุข ส่วนที่เราผิดเรายอมรับ แต่เราเองก็ไม่เคยได้รับการดูแลในฐานะภรรยาที่สามีต้องดูแลเช่นกัน
ตอนนี้เราอยาก move on กับเรื่องนี้ อยากขอกำลังใจและคำแนะนำให้ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ค่ะ