JJNY : 5in1 แดงพรึบ‘อิมแพ็ค อารีน่า’│ด้อมส้มพรึ่บไทย-ญี่ปุ่น│กกต.รับ ซองอ่านไม่ออกหมื่นกว่า│ทนายร้องกกต.│ไข่ไก่ขึ้นราคา

แดงพรึบ ‘อิมแพ็ค อารีน่า’ แห่ฟังปราศรัย ‘เพื่อไทย’ ล้นฮอลล์ อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา พร้อมขึ้นเวที
https://www.matichon.co.th/politics/news_3976288
 
 
แดงพรึบ แน่น ‘อิมแพ็ค อารีน่า’ แห่ฟังปราศรัย ‘เพื่อไทย’ 2 แคนดิเดต ลั่นพร้อม ปลุกกาเพื่อไทยปิดเกม 2 ลุง
 
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ อิมแพ็คอารีนา เมืองทองธานี พรรคเพื่อไทย จัดงาน ปราศรัยใหญ่ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากต่างเดินทางมาร่วมฟังปราศรัยของพรรคเพื่อไทย โดยต่างใส่เสื้อสีแดง มาจับจองพื้นที่กันเต็มทั้ง 3 ชั้นของฮอลล์ด้านใน ขณะที่ด้านนอก ได้มีป้าย และ สแตนดี้ ขนาดเท่าตัวจริงของแคนดิเดตให้ประชาชนได้ถ่ายภาพ

โดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และ นางสาวแพทองธาร ได้เดินทางมาถึงพื้นที่ดังกล่าวแล้ว และทักทายกับประชาชนที่มาร่วมงาน ประชาชนหลายคนต่างนำโทรศัพท์มาถ่ายภาพ ซึ่งวันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ได้เตรียมขึ้นเวทีปราศรัยครั้งนี้ด้วย ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ อีก 1 แคนดิเดตฯ นั้น ยังคงพักรักษาตัวอยู่
 
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้พร้อมมาก อาทิตย์นี้ ทุกคนต้องไม่ลืมมาใช้สิทธิ กาให้แม่นๆ พาเพื่อไทยเข้าทำเนียบไปพร้อมๆกัน
 
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่า นโยบายหลักๆ เชื่อว่าโดนใจพี่น้องประชาชน ยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง เรามีจุดประสงค์ปิดเกม 2 ลุง ต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ
  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานยังมีเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ที่เดินทางมาร่วมงานด้วย อาทิ เชน เดอะ สตาร์ , ฟ้า -พรหมศร , ซีนิว และ เจ๊แต๋ว ฮาลั่นทุ่ง นักแสดงอิสระ ที่มาร่วมฟังปราศรัยในครั้งนี้ด้วย
 
โดยฟ้า พรหมศร กล่าวว่า เราต้องการคนทำงานเป็น ทำงานมาก่อน ทำงานได้ เราวินาศสันตะโรมา 8-9 ปี จะเสี่ยงไม่ได้ เราต้องการคนทำงานจริงจัง ฟ้ามั่นใจว่า เพื่อไทย ทำงานเป็น ทำงานได้ ทำงานไว แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินอย่างแน่นอน



ด้อมส้มพรึ่บ แห่ปักหลักสนามไทย-ญี่ปุ่นแต่เช้า รอฟัง ‘พิธา-ก้าวไกล’ ปราศรัยใหญ่
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7660311

เริ่มแล้ว! ด้อมส้มพรึ่บ รอฟัง ก้าวไกล ปราศรัยเย็นนี้ แห่มาปักหลักตั้งแต่เช้า จับตา ‘พิธา’ ชี้เหตุผล ทำไมคำตอบสุดท้ายต้องก้าวไกลทั้งแผ่นดิน
 
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 พ.ค.2566 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) พรรคก้าวไกล จัดปราศรัยครั้งสุดท้าย ภายใต้ชื่อ “คำตอบสุดท้ายก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียง น.ส.พรรณิการ์ วาณิช ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง และแกนนำพรรคก้าวไกล โดยจะเริ่มปราศรัยในเวลา 18.00 น. ซึ่งไฮไลต์สำคัญของวันนี้คือ การปราศรัยของนายพิธา ในการนำเสนอพรรคก้าวไกลเป็นคำตอบสุดท้ายให้ประเทศไทย
 
สำหรับลำดับการปราศรัยในวันนี้ จะเริ่มจากนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล น.ส.พรรณิการ์ นายปิยบุตร นายธนาธร ต่อด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และผู้ปราศรัยคนสุดท้ายคือ นายพิธา
 
หลังจากการปราศรัยจบ ผู้สมัครส.ส.และแกนนำ ของพรรค นำโดยนายพิธา จะเดินไปพบกองเชียร์ ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลที่เดินทางมาในวันนี้ บริวณสนามฟุตบอลด้านข้างอาคารกีฬาเวสน์ 1 เพราะไม่สามารถเข้ามาด้านในอาคารได้เนื่องจากที่เต็ม
 
บรรยากาศก่อนเริ่มงานเป็นไปด้วยความคึกคัก มีกองเชียร์มารอตั้งแต่เวลา 07.00 น. ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง เนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีที่นั่ง จากนั้นในช่วงสายประชาชนเริ่มทยอยมามากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น บางคนยังไม่มีสิทธิเลือกตั้งแต่ต้องการมาฟังวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล
 
ต่อมาเวล 13.00น. ประชาชนมารอด้านหน้าจำนวนมาก ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้เจ้าหน้าที่พรรคปรับแผน ให้มารอในตัวอาคาร โดยจะเปิดประตูให้เข้าในจุดจัดปราศรัยในเวลา 15.30 น.
 


กกต. ยอมรับ ซองใส่บัตรเลือกตั้งที่อ่านไม่ออก มีแค่หมื่นกว่าซอง ไม่ใช่ 3 แสน
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7660797

กกต. ยอมรับ ซองใส่บัตรเลือกตั้งที่ไม่สามารถอ่านลายมือของ กปน. มีเพียง 1 หมื่นซองเศษ ไม่ใช่ 3 แสนซอง ยันคัดแยกซองส่งจุดหมายปลายทางได้ครบทั้งหมด
 
วันที่ 12 พ.ค.2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ภาพ พร้อมข้อความชี้แจงกรณีที่มีข่าว ซองใส่บัตรเลือกตั้งกว่า 3 แสนซอง อ่านไม่ออกว่า ตามที่ นายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์กับน.ส.ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส โดยมีเนื้อหาในบทสัมภาษณ์ว่า “บัตรเลือกตั้งกว่า 3 แสนซอง.. อ่านไม่ออก..!! ที่ใช้สิทธิลงคะแนนแล้ว”นั้น
 
กกต. ขอเรียนว่า ข้อมูลตามที่ปรากฎตามคลิปวิดีโอว่า มีซองใส่บัตรเลือกตั้งกว่า 3 แสนซอง ไม่สามารถอ่านข้อความตามที่ปรากฎอยู่บนซองได้ ข่าวดังกล่าวเป็นความเท็จ
 
ขอเรียนให้ทราบว่า ซองใส่บัตรเลือกตั้งที่ไม่สามารถอ่านลายมือของ กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) มีจำนวนเพียงหนึ่งหมื่นซองเศษ ไม่ใช่ 3 แสนซองเศษตามที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ เนื่องจาก กปน. ที่ปฏิบัติงานในที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง มีผู้ปฏิบัติงานจำนวนหลายคน โดยทำหน้าที่เป็นผู้เขียนรหัสจังหวัดและรหัสเขตเลือกตั้ง ทำให้ลายมือที่ปรากฎบนซองใส่บัตรเลือกตั้งมีความแตกต่างกัน ไม่สามารถอ่านรหัสจังหวัดและรหัสเขตเลือกตั้งได้โดยง่าย
 
ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ กกต. ที่ปฏิบัติงาน ณ ไปรษณีย์ไทย ได้ตรวจสอบความถูกต้องของรหัสจังหวัดและรหัสเขตเลือกตั้งแล้ว ทำให้สามารถคัดแยกซองใส่บัตรเลือกตั้งไปยังจุดหมายปลายทางได้ทุกซอง จึงไม่มีซองใส่บัตรเลือกตั้งค้างการจัดส่งและสามารถจัดส่งไปยังจุดหมายปลายทางได้เสร็จสิ้น



ทนายดังบุรีรัมย์ ร้องกกต.สั่งหยุด"เรืองไกร"กล่าวหา "พิธา" ชี้คล้ายกลั่นแกล้ง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7660809

ทนายชื่อดังเมืองบุรีรัมย์ ยื่นหนังสือร้อง กกต. ให้ตรวจสอบสั่งการ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยุติการกล่าวหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพราะเข้าข่ายโจมตีเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด คล้ายกลั่นแกล้ง
 
วันที่ 12 พ.ค.2566 ที่สำนักงานกกต. จังหวัดบุรีรัมย์ นายสาคร ปลื้มรัมย์ อายุ 65 ปี อาชีพทนายความ เข้าไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง  (กกต.) เรียกร้องให้พิจราณาและออกคำสั่งเร่งด่วน ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง
 
มีคำสั่งโดยพลันที่จะระงับยับยั้งห้ามชั่วคราวและมีผลโดยทันที ที่จะห้ามไม่ให้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หยุดการเคลื่อนไหว หลังยื่นเอกสารต่อ กกต. ร้องปมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อ ไอทีวี ว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)ตามรัฐธรรนูญ มาตร 98(3) หรือไม่
 
โดยหนังสือร้องเรียนมีทั้งหมด 4 หน้ากระดาษ เป็นข้อความที่เปรียบเทียบว่า นายเรืองไกร อาจจะจงใจกระทำละเมิดเพื่อกลั่นแกล้งป้ายสี และ/หรืออาจเป็นการใช้คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นเครื่องในการทำลายล้าง หรือสกัดกั้นพรรคการเมืองอื่นได้ โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่กำลังมาแรงเป็นอันดับที่ 1 ในช่วงโค้งสุดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ดังปรากฏจากสำนักโพลต่างๆที่ได้ทำการสำรวจมาก่อนหน้านี้ ทั้งที่นายเรืองไกร ก็เป็นนักกฎหมายน่าจะรู้ดี แต่กลับมาสร้างภาพในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก
  
นายสาคร กล่าวด้วยว่า การดำเนินการดังกล่าวของนายเรืองไกร เป็นการจงใจทำให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ได้รับความเสียหาย เพราะพรรคการเมืองเป็นสถาบันทางการเมืองที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด ประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทยย่อมมีส่วนเป็นเจ้าของและหากพบเห็นความไม่ถูกต้องในสังคม ย่อมแสดงความคิดเห็นและปกป้องพรรคการเมืองได้ทุกคน กรณีนี้ไม่ต่างจากที่มีการร้องเรียนกรณีอื่นก่อนหน้าที่ ซึ่งศาลได้ยกคำร้องไปทั้งหมด
 
ส่วนตัวคิดว่าบทบาทและพฤติการณ์ของนายเรืองไกร อาจจะส่อไปในทางที่เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้ เนื่องจากพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนนิยมมาจากประชาชนด้วยคะแนนที่บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะไม่เคยมีข่าวเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่