สิ่งที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิด และสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ตอนเด็กๆ สักสมัยที่เด็กทุกบ้าน ตื่น6โมงเช้ามานั่งดูการ์ตูนวันเสาร์-อาทิตย์
1. สมัยนั้นหลายๆคนบอกว่า ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง ห้ามร้องไห้ ห้ามอ่อนแอ ผมก็สงสัยว่ามันใช่หรอ คือผู้ชายก็คนไหมวะ แต่ตอนนั้นผมพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ แถมยังถูกหัวเราะเยาะอีก แล้วยังหาว่าผมเป็นLGBTQ(ในสมัยนั้นอ่ะนะ) ทุกวันนี้สิ่งที่ผมคิดก็ถูกพูดถึงมากขึ้น แม้แต่ดารา หรือคนมีชื่อเสียงก็ยังเคยออกมาพูดว่าผู้ชายก็เสียใจร้องไห้เป็น
2. เมื่อก่อนเวลาผมไปนั่งตามร้านชากาแฟตอนเช้า ผมเคยพูดเรื่องขึ้นค่าแรง ผมจำได้เลยว่าผมพูดว่าอะไร "วันนี้ค่าแรงเท่านี้ จ้างคนได้2คน ถ้าขึ้นแล้วคนก็ตกงานอ่ะดิ เพราะกลายเป็นจ่าย1คนด้วยค่าแรงที่เคยจ้างได้2คน" พวกลุงๆในร้านก็ขำแล้วก็บอกว่างานมีเยอะแยะไม่ต้องกลัวตกงาน แล้วด้วยความที่ผมเป็นเด็กเลยเถียงไม่ได้ ตัดภาพมาทุกวันนี้ ลุงๆแปะๆทั้งหลายก็ขิตไปเกือบหมดละ และตอนนี้สิ่งที่ผมคิดไว้ก็มีหลายคนเห็นด้วย
2.1 ผมโตมากับคำว่า "เรียนสูงๆจะได้มีงานดีๆทำ ทำงานไม่เป็นเดี๋ยวเขาก็สอน" ผมก็คิดในใจ มันจะง่ายขนาดนั้นเลยหรอ แล้วจะเรียนสูงไปทำไมในเมื่อเรียนแล้วก็ไปในบริษัทสอนงานอยู่ดี แล้วก็เป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ รับจบใหม่แต่มีประสบการณ์ สมัยผมจบป.ตรี(บริหารธุรกิจ) ผมตกงานและไม่มีงานประจำอยู่2-3ปี ถ้าผมไม่ศึกษาการเขียนโปรแกรมไว้สมัยเรียน ผมอดตายไปละ แต่ก็อย่างว่า บ้านนอกมันหางานยากด้วย
3. เมื่อก่อนเวลาผมดูรายการตลก ตั้งแต่สมัยดาราตลกดังๆยังผอมอยู่ มุขที่เล่นก็จะประมาณบูลลี่หน้าตา ผมก็สงสัยว่ามันฮาตรงไหน คนในบ้านผมก็ขำกัน ไปถามเพื่อนๆก็ขำกัน ทั้งๆที่มันไม่ควรเป็นเรื่องที่เอามาเล่นแท้ๆ พอผมพูด ผมก็โดนสวนว่า"แหม่พ่อพระเอก ใจหล่อมากพ่อคุณ" ทุกวันนี้ทุกคนก็รู้อยู่ว่าเรื่องบูลลี่กันมันยังไง

สรุป ผมไม่ได้จะบอกว่าผมมาก่อนกาล หรืออะไร ผมแค่คิดทุกอย่างตามหลักเหตุและผล ผู้ชาย/ผู้หญิงก็คนที่มีความรู้สึก,เรียนสูง/ต่ำก็ตกงานได้เหมือนกัน,ไม่ควรเอาปมด้อยคนอื่นมาเล่น ฯลฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่