คือบอกไว้ก่อนนะว่าเราไม่ได้เบียว ไม่ได้อยากดูเท่นะ อยากบอกว่า มันคือความแตกต่างที่เหมือนกัน
คือจะโพสต์แบบนี้เพราะชอบทั้งคู่ ไม่ ก็ชอบ2อย่างแหละแต่นั่นไม่ใช่เหตุผลครับ
คืออยากบอกว่าในมุมมองของคนไทย วิทยาศาสตร์กับศิลปะคือขั้วตรงข้าม ก็ ประมาณมายเซ็ทคนแบบผม "เขียนนิยายไซไฟแฟนตาซีสืบสวนสอบสวนจิกกัดสังคมจิตวิทยามาแต่เด็ก จะเลือกอะไรดี???"
คุณคิดผิดแล้วครับ ที่นี่ เราปฏิเสธแนวคิดนี้ หลายคนคงคิดแบบ "โอ้ยเช้ดใครๆก็พูดกันวะไอสัสเรื่องโมเลกุลสะท้อนแสงของสีแล้วโยงชนิดกระดาษโหโครตโง่เลยว่ะโหเบียว" คือไอเรื่องสารประกอบกับการแยกตัวของสีมันเกี่ยวกัน แต่ว่ามีอะไรที่ซับซ้อนและเรียบง่ายกว่านั้น คุณนึกถึงเก้าอี้งานวัด vergil. นะครับ
อ่ะ ผมถาม เก้าอี้งานวัดทำจากไร ถูกครับ "พลาสติก" พลาสติกกว่าจะได้ก้อนโง่ไต้องมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สูงมาก คนจะถาม "เอ้าพลาสติกแล้วไงวะสัส ไหนวะศิลปะ" ใจเย็นครับ ดื่มน้ำโกโก้เย็นแปปนะพี่น้อง ใช่ครับ ดีเทลเล็กๆ "รู" การตัดกระดาทำงานศิลป์สมัยเรียนคือศิลปะ เหมือน ศิลปะ แถมต้องประณีตให้มันสมมาตร ก็คณิต คณิตคือวิทยาศาสตร์อีกแขนง แล้วมันจะมีคนพูด "เรียนวิทยาศาสตร์จำหลักการ เรียนศิลปะคือต้องสร้างสรรค์"
ผิด 
ผิดครับลบล
วิทยาศาสตร์ในการศึกษาไทยอ่ะใช่ แต่นักวิทยาศาสตร์ต่างกัน คุณต้องเป็นนักสำรวจ สืบสวน สังเกต วิเคราะห์ ใช่ตรรกะ สร้างสรรค์สิ่งดีๆให้มนุษย์ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ กล้าจะประหลาด กล้าจะพิสูจน์ เพื่อโลก พิสูจน์เพื่อช่วนเพื่อนมนุษย์ พิสูจน์ตัวเองให้โลก คุณต้องเป็นคนวิเคราะห์ ต้องขบถ ต้องเป็นกลาง นักวิทยาศาสตร์หลายคนก็ต้องผ่านจุดที่ไม่ได้รับการยอมรับ
ศิลปะต้องกล้าเป็นตัวเอง กล้าสื่อความหมาย เหมือนนักวิทยาศาสตร์ ต้องโดนสังคมไม่ยอมรับ ชะตาของศิลปะ ปรัชญา influencer คล้ายๆกับนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักสืบ ที่ต้องโดนไม่ยอมรับ ต้องหาหลักฐานรองรับ เหมือนกับความถูกต้องของการสื่อความหมายของศิลปิน คุณต้องโดนรัฐบาลไม่ยอมรับในการปล่อยงานเขียน งานคนละสไตล์ แต่อะไรที่เหมือนกันคือการที่ตารางเวลาไม่แน่นอน ทำตามความสนใจ