พท.จ่อส่งเรื่องจี้ กกต. ปมเลือกตั้งล่วงหน้า ส่อทุจริต ทั้งเขียนผิด ข่มขู่ผู้สมัคร
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7651931
เพื่อไทย จ่อส่งเรื่องจี้ กกต. ปมเลือกตั้งล่วงหน้า ส่อทุจริต ทั้งเขียนรหัสจ่าหน้าซองผิด ลงทะเบียนล่วงหน้าล่ม ข่มขู่ผู้สมัครพรรคอื่น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 พ.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย นาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และผอ.ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรค พท. และพล.ต.ต.
สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ หัวหน้าศูนย์ป้องกันการทุจริตเลือกตั้งพรรค พท. แถลงกรณีพบเหตุผิดปกติในการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง
นาย
ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้พบสิ่งผิดปกติให้เห็นหลายเรื่อง พรรค พท.มีข้อสังเกตดังนี้
1. การจ่าหน้าซองส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าผิดพลาด เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในหลายหน่วยเลือกตั้ง เช่น จ.นนทบุรี ที่ใส่รหัสจ่าหน้าซองผิด จ.กาฬสินธุ์ ที่ไปลงคะแนนในเขตหนึ่งแต่คะแนนถูกส่งไปอีกเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจจะทำให้คะแนนมีการคลาดเคลื่อน เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ควรเกิดขึ้น
2. การลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าผิดพลาด ซึ่งในการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งวันสุดท้ายระบบล่ม ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ และทางเลขาธิการ กกต. ได้ออกมาแถลงยอมรับว่าระบบล่มจริงๆ แต่สามารถยังเข้าไปดึงข้อมูลของผู้ที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิและลงทะเบียนย้อนหลังให้ได้ แต่เหตุการณ์การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ ม.รามคำแหง เขตบางกะปิ มีผู้มาใช้สิทธิ 2 คนได้รับแจ้งจากประธาน กกต.เขตว่าการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ต้องกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จังหวัดภูมิลำเนาในวันเลือกตั้ง ทั้งที่ได้ลงทะเบียนแล้ว แต่ไม่สามารถใช้สิทธิได้
นาย
ประเสริฐ กล่าวต่อว่า พรรค พท.เห็นว่าการแถลงการของเลขาธิการ กกต. ที่บอกว่าจะลงทะเบียนย้อนหลังให้ แต่กลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ ให้ ทำให้ประชาชนอาจเสียสิทธิ์และเป็นภาระในการเดินทางกลับไปภูมิลำเนา เชื่อว่ามีประชาชนอีกจำนวนมากอาจจะไม่ได้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเพราะเหตุนี้ กกต.ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหานี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่รับปากแต่ไม่ดำเนินการ
นาย
ประเสริฐ กล่าวอีกว่า
3. ความไม่สะดวกในการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าในหลายเขต เกิดความแออัดในการลงคะแนน ผู้มาใช้สิทธิบางคนต้องรอนานกว่า 3 ชั่วโมง หลายคนไม่สามารถใช้สิทธิได้ทันเวลา เนื่องจากมีปัญหาการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น อยากได้คำตอบจาก กกต.เรื่องนี้ เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมขึ้น โดยเราจะส่งเรื่องทั้งหมดถึง กกต.ภายในสัปดาห์นี้ หวังว่าในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.จะไม่เกิดข้อผิดพลาดเหมือนกับการเลือกตั้งล่วงหน้า
นาย
ชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการที่จ่าหน้าซองผิด กกต.จะแก้ไขอย่างไร ความผิดพลาดที่เห็นชัดเช่นนี้อาจนำไปสู่การฟ้องร้องกันว่าการเลือกตั้งมีปัญหาในเชิงกฎหมาย เป็นเรื่องที่พรรค พท.ห่วงมาก เท่าที่ตรวจสอบดูเข้าใจว่าอาจจะไม่มีความพร้อมในเรื่องของการจัดการ อบรมกรรมการประจำหน่วยและการให้ความรู้
นาย
ชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า มีเรื่องที่อยากจะฝากถึง กกต.ถึงการตั้งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่ต้องมีการคิดค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมา กกต.มีแนวปฏิบัติว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้คิดจากเขตเลือกตั้ง เนื่องจากประจำอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้กลับมาเปลี่ยนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้คิดจากพรรคการเมืองในช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งแล้ว คิดเป็นค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ขั้นต่ำตกอยู่ที่ประมาณ 33 ล้านบาท แต่พรรคการเมืองได้รับอนุมัติให้ทำกิจกรรมใช้ไม่เกิน 44 ล้านบาท
นาย
ชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองปฏิบัติตามนี้ไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้งบเกือบครบตามจำนวนที่ กกต.กำหนดแล้ว หมายความว่าพรรคการเมืองต้องไม่ส่งผู้สังเกตการณ์ หรือส่งไปแล้วก็ต้องถอนตัว ซึ่ง กกต.ดูเหมือนว่าจะทำเรื่องนี้ให้หมิ่นเหม่ผิดกับธรรมเนียมประเพณีที่เคยทำมา และคงไม่มีพรรคการเมืองใดที่ส่งผู้สังเกตการณ์ครบ 400 เขต
ด้าน พล.ต.ต.
สุรสิทธิ์ กล่าวว่า ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลการร้องเรียนจากประชาชนในบางพื้นที่แจ้งมาว่า พบเหตุผิดปกติส่อทุจริตหลายประการ เช่น 1.นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจังหวัดอำนาจเจริญ คนสนิทเจ้าแม่เงินกู้ มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง ข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคอื่น
พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า 2.ข้าราชการระดับสูงฝ่ายปกครอง อำเภอหนึ่งในจ.นราธิวาส และอ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง จึงขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง ต้องวางตัวเป็นกลาง ที่ผ่านมาทำอะไรไปขอให้หยุดการกระทำที่ไม่ชอบนั้นเสียพี่น้องประชาชนทั้งประเทศจับตาดูท่านอยู่
เมื่อถามว่าพรรคมองกระแสในโซเชียลกรณีการติดแฮชแท็ก กกต.มีไว้ทำไม อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องประชาชน ไม่ได้มีประโยชน์กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นความรู้สึกว่าสิทธิในการเลือกพรรคการเมืองหรือผู้สมัครเขตที่เขามีความปรารถนานั้นถูกกระทบ เนื้อหาส่วนใหญ่ที่เขาสะท้อนคือต้องการความยุติธรรม เป็นสิ่งที่ กกต.ควรรับฟัง และดูว่ายังมีข้อบกพร่องตรงไหนที่ต้องปรับ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกตั้งอาจมีข้อผิดพลาดได้แต่ต้องน้อยที่สุด และเราจัดการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ความผิดพลาดในการเลือกตั้งล่วงหน้านั้นอาจมีมากที่สุด เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องพิจารณาและมีคำตอบให้ประชาชน ทำให้ประชาชนวางใจกกต.ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.เปิดเผยข้อมูลเรื่องร้องเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสัญญาว่าจะให้ มองว่าในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีความรุนแรงขึ้นจนเป็นตัวแปรในการเลือกตั้งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นมากในเกือบทุกเทศกาลการเลือกตั้งอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือกกต.ต้องรวบรวมเรื่องเหล่านั้น แล้วไปหาคำตอบที่จะทำประชาชนสบายใจ เข้าใจชัดเจน ไม่ใช่รับเรื่องและปล่อยให้ผ่านไป หากจัดการเรื่องนี้ได้อย่างยุติธรรมได้ ก็จะทำให้ กกต.มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น แต่หากจัดการได้ไม่ยุติธรรม คำถามที่ว่า กกต.มีไว้ทำไมก็จะเป็นคำถามที่รุนแรงและหนักมาก
เมื่อถามถึงกรณีที่นาย
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ถึงความผิดปกติสำหรับการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าใน จ.อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรค พท.มองว่าผิดปกติหรือไม่ นาย
ภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้คำตอบไม่ได้อยู่ที่คนอื่น แต่อยู่ที่ กกต.ว่าจะทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนอย่างไร
‘ก้าวไกล’ ชี้ 4 ความผิดปกติเลือกตั้งล่วงหน้า บี้ กกต.แจงด่วน 14 พ.ค.ต้องไม่ซ้ำรอย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3967484
‘ก้าวไกล’ ชี้ 4 ความผิดปกติเลือกตั้งล่วงหน้า บี้ กกต.ชี้แจงด่วน ย้ำ 14 พ.ค.ต้องแก้ไขไม่ให้ซ้ำรอย
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวถึงความผิดปกติของการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเมื่อวานนี้ (7 พฤษภาคม) ว่าตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลได้พบความผิดปกติในการทำงานของ กกต. เช่น บางหน่วยเลือกตั้งไม่มีรูปผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล หรือการส่งเอกสารแนะนำผู้สมัครไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบางเขตเลือกตั้งไม่มีรูปและหมายเลขแนะนำผู้สมัครพรรคก้าวไกล
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราคาดหวังว่า กกต.จะปรับปรุงการทำงานให้ไม่เกิดความผิดพลาดในวันเลือกตั้ง แต่สุดท้ายจากที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามากลับพบความผิดปกติจำนวนมากที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการทุจริตหรือเป็นความผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้งกันแน่ วันนี้จึงต้องตั้งคำถามและหวังให้ กกต.ชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน
นาย
พิจารณ์กล่าวอีกว่า ความผิดปกติดังกล่าวมีหลักๆ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย (1) กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ไม่กรอกข้อมูลและตัวเลขหน้าซองใส่บัตรเลือกตั้ง บางคนกรอกเลขเขตเลือกตั้งผิด โดยซองเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ศูนย์ของไปรษณีย์ ก่อนคัดแยกส่งไปตามแต่ละเขตเลือกตั้ง คำถามคือถ้าเจ้าหน้าที่กรอกเลขเขตเลือกตั้งผิดหรือกรอกไม่ครบ เจ้าหน้าที่จะส่งซองนั้นไปที่ไหน ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นความผิดพลาดในการออกแบบระบบที่ทำให้ กปน.แค่คนเดียวเปลี่ยนเลขแค่หลักเดียว ทำให้คะแนนของประชาชนอาจหายไปทันที หรือเลวร้ายกว่านั้นคือการไปเติมคะแนนให้พรรคอื่นที่ประชาชนไม่ได้ตั้งใจเลือก
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า (2) กกต.ไม่ติดรูปภาพและข้อมูลผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลหน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยเขตที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 ของ จ.น่าน จึงต้องส่งเสียงดังๆ ไปถึง กกต.ว่าในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม บนบอร์ดต้องมีแนะนำผู้สมัครของพรรคก้าวไกล อย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอให้กำชับและสั่งการ กปน.ให้ตรวจสอบ เพราะการไม่มีชื่อและหมายเลขอาจทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งดังกล่าว
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า (3) ความผิดปกติของจำนวนประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในบางจังหวัดมีผู้ออกมาใช้สิทธิในสัดส่วนที่มากกว่าค่าเฉลี่ย ได้แก่ จ.ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ และยังพบว่าผู้ที่ออกไปใช้สิทธิส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้ทำงานอยู่ในจังหวัดอื่นที่แตกต่างจากทะเบียนบ้านของตัวเอง จึงต้องตั้งคำถามว่ามีอะไรเหตุผลทำให้ต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงการใช้รถขนพี่น้องประชาชนไปหน่วยเลือกตั้งถือเป็นการซื้อเสียงผ่านการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ กกต.ต้องลงไปตรวจสอบ ทำงานเชิงรุกเพื่อตรวจจับการซื้อเสียง และ (4) ประชาชนจำนวนไม่น้อย ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบหน้าหน่วยเลือกตั้ง กลับไม่พบชื่อของตัวเอง
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า จากความผิดปกติทั้งหมดนี้ขอให้ กกต.ออกมาชี้แจงรายละเอียดและแนวทางแก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไรให้ผลการเลือกตั้ง สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ให้การลงคะแนนเป็นไปตามที่เขาตั้งใจออกมาใช้สิทธิ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด หาก กกต.ไม่สามารถชี้แจงได้ตนและประชาชนจำนวนมากขอตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
“
วันนี้ความนิยมของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากนโยบายและจากความชัดเจนในจุดยืนของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคและของแคนดิเดตนายกฯ มาถึงวันนี้อาจกล่าวได้ว่าเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่ได้แข่งกับใคร แต่กำลังแข่งกับการทำงานของ กกต.ว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม นำคะแนนเสียงและเจตนารมณ์ของประชาชนออกมาเป็นคะแนนที่ถูกต้องได้หรือไม่” นาย
พิจารณ์กล่าว
นาย
พิจารณ์กล่าวว่า ขอฝากไปถึงผู้สนับสนุน หัวคะแนนธรรมชาติของพรรคก้าวไกลทุกคน อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง เรามีภารกิจสำคัญ 2 ประการร่วมกัน ภารกิจที่หนึ่งคือการขยายแนวคิด ช่วยบอกต่อคนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนข้างบ้านว่าเพราะอะไรจึงอยากให้พรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นรัฐบาล ให้ นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ และภารกิจที่สองคือช่วยกันปกป้องคะแนนของพวกเรา เพราะชัยชนะในวันที่ 14 พฤษภาคม จะไม่ใช่ชัยชนะของพรรคก้าวไกลหรือของนาย
พิธา แต่เป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชน โดยสามารถร่วมเป็นอาสาสมัครของหน่วยงานภาคประชาชนเข้าไปสังเกตการณ์การนับคะแนนเลือกตั้งของ กกต.ได้
JJNY : 5in1 พท.จ่อส่งเรื่องจี้กกต.│‘ก้าวไกล’บี้กกต.แจงด่วน│เพื่อชาติไม่ดีล 2 ลุง│'เสรีพิศุทธ์' อัด กกต.│เปิดเทอมกุมขมับ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7651931
เพื่อไทย จ่อส่งเรื่องจี้ กกต. ปมเลือกตั้งล่วงหน้า ส่อทุจริต ทั้งเขียนรหัสจ่าหน้าซองผิด ลงทะเบียนล่วงหน้าล่ม ข่มขู่ผู้สมัครพรรคอื่น
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 พ.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และผอ.ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรค พท. และพล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ หัวหน้าศูนย์ป้องกันการทุจริตเลือกตั้งพรรค พท. แถลงกรณีพบเหตุผิดปกติในการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้พบสิ่งผิดปกติให้เห็นหลายเรื่อง พรรค พท.มีข้อสังเกตดังนี้
1. การจ่าหน้าซองส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าผิดพลาด เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในหลายหน่วยเลือกตั้ง เช่น จ.นนทบุรี ที่ใส่รหัสจ่าหน้าซองผิด จ.กาฬสินธุ์ ที่ไปลงคะแนนในเขตหนึ่งแต่คะแนนถูกส่งไปอีกเขตเลือกตั้งหนึ่ง อาจจะทำให้คะแนนมีการคลาดเคลื่อน เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ควรเกิดขึ้น
2. การลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าผิดพลาด ซึ่งในการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งวันสุดท้ายระบบล่ม ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ และทางเลขาธิการ กกต. ได้ออกมาแถลงยอมรับว่าระบบล่มจริงๆ แต่สามารถยังเข้าไปดึงข้อมูลของผู้ที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิและลงทะเบียนย้อนหลังให้ได้ แต่เหตุการณ์การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ ม.รามคำแหง เขตบางกะปิ มีผู้มาใช้สิทธิ 2 คนได้รับแจ้งจากประธาน กกต.เขตว่าการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ต้องกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่จังหวัดภูมิลำเนาในวันเลือกตั้ง ทั้งที่ได้ลงทะเบียนแล้ว แต่ไม่สามารถใช้สิทธิได้
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า พรรค พท.เห็นว่าการแถลงการของเลขาธิการ กกต. ที่บอกว่าจะลงทะเบียนย้อนหลังให้ แต่กลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ ให้ ทำให้ประชาชนอาจเสียสิทธิ์และเป็นภาระในการเดินทางกลับไปภูมิลำเนา เชื่อว่ามีประชาชนอีกจำนวนมากอาจจะไม่ได้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าเพราะเหตุนี้ กกต.ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหานี้อย่างแท้จริง ไม่ใช่รับปากแต่ไม่ดำเนินการ
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า
3. ความไม่สะดวกในการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าในหลายเขต เกิดความแออัดในการลงคะแนน ผู้มาใช้สิทธิบางคนต้องรอนานกว่า 3 ชั่วโมง หลายคนไม่สามารถใช้สิทธิได้ทันเวลา เนื่องจากมีปัญหาการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น อยากได้คำตอบจาก กกต.เรื่องนี้ เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมขึ้น โดยเราจะส่งเรื่องทั้งหมดถึง กกต.ภายในสัปดาห์นี้ หวังว่าในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.จะไม่เกิดข้อผิดพลาดเหมือนกับการเลือกตั้งล่วงหน้า
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการที่จ่าหน้าซองผิด กกต.จะแก้ไขอย่างไร ความผิดพลาดที่เห็นชัดเช่นนี้อาจนำไปสู่การฟ้องร้องกันว่าการเลือกตั้งมีปัญหาในเชิงกฎหมาย เป็นเรื่องที่พรรค พท.ห่วงมาก เท่าที่ตรวจสอบดูเข้าใจว่าอาจจะไม่มีความพร้อมในเรื่องของการจัดการ อบรมกรรมการประจำหน่วยและการให้ความรู้
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า มีเรื่องที่อยากจะฝากถึง กกต.ถึงการตั้งผู้สังเกตการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้ง ที่ต้องมีการคิดค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมา กกต.มีแนวปฏิบัติว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้คิดจากเขตเลือกตั้ง เนื่องจากประจำอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้กลับมาเปลี่ยนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้คิดจากพรรคการเมืองในช่วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งแล้ว คิดเป็นค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ขั้นต่ำตกอยู่ที่ประมาณ 33 ล้านบาท แต่พรรคการเมืองได้รับอนุมัติให้ทำกิจกรรมใช้ไม่เกิน 44 ล้านบาท
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองปฏิบัติตามนี้ไม่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมามีการใช้งบเกือบครบตามจำนวนที่ กกต.กำหนดแล้ว หมายความว่าพรรคการเมืองต้องไม่ส่งผู้สังเกตการณ์ หรือส่งไปแล้วก็ต้องถอนตัว ซึ่ง กกต.ดูเหมือนว่าจะทำเรื่องนี้ให้หมิ่นเหม่ผิดกับธรรมเนียมประเพณีที่เคยทำมา และคงไม่มีพรรคการเมืองใดที่ส่งผู้สังเกตการณ์ครบ 400 เขต
ด้าน พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ กล่าวว่า ทางศูนย์ฯ ได้รับข้อมูลการร้องเรียนจากประชาชนในบางพื้นที่แจ้งมาว่า พบเหตุผิดปกติส่อทุจริตหลายประการ เช่น 1.นายตำรวจระดับรองผู้บังคับการจังหวัดอำนาจเจริญ คนสนิทเจ้าแม่เงินกู้ มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง ข่มขู่ผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคอื่น
พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า 2.ข้าราชการระดับสูงฝ่ายปกครอง อำเภอหนึ่งในจ.นราธิวาส และอ.โนนไทย จ.นครราชสีมา มีพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง จึงขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง ต้องวางตัวเป็นกลาง ที่ผ่านมาทำอะไรไปขอให้หยุดการกระทำที่ไม่ชอบนั้นเสียพี่น้องประชาชนทั้งประเทศจับตาดูท่านอยู่
เมื่อถามว่าพรรคมองกระแสในโซเชียลกรณีการติดแฮชแท็ก กกต.มีไว้ทำไม อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นการสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องประชาชน ไม่ได้มีประโยชน์กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นความรู้สึกว่าสิทธิในการเลือกพรรคการเมืองหรือผู้สมัครเขตที่เขามีความปรารถนานั้นถูกกระทบ เนื้อหาส่วนใหญ่ที่เขาสะท้อนคือต้องการความยุติธรรม เป็นสิ่งที่ กกต.ควรรับฟัง และดูว่ายังมีข้อบกพร่องตรงไหนที่ต้องปรับ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับการเลือกตั้งอาจมีข้อผิดพลาดได้แต่ต้องน้อยที่สุด และเราจัดการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ความผิดพลาดในการเลือกตั้งล่วงหน้านั้นอาจมีมากที่สุด เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องพิจารณาและมีคำตอบให้ประชาชน ทำให้ประชาชนวางใจกกต.ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.เปิดเผยข้อมูลเรื่องร้องเรียนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการสัญญาว่าจะให้ มองว่าในช่วงโค้งสุดท้ายจะมีความรุนแรงขึ้นจนเป็นตัวแปรในการเลือกตั้งหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นมากในเกือบทุกเทศกาลการเลือกตั้งอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือกกต.ต้องรวบรวมเรื่องเหล่านั้น แล้วไปหาคำตอบที่จะทำประชาชนสบายใจ เข้าใจชัดเจน ไม่ใช่รับเรื่องและปล่อยให้ผ่านไป หากจัดการเรื่องนี้ได้อย่างยุติธรรมได้ ก็จะทำให้ กกต.มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น แต่หากจัดการได้ไม่ยุติธรรม คำถามที่ว่า กกต.มีไว้ทำไมก็จะเป็นคำถามที่รุนแรงและหนักมาก
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ถึงความผิดปกติสำหรับการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าใน จ.อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ของพรรค พท.มองว่าผิดปกติหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้คำตอบไม่ได้อยู่ที่คนอื่น แต่อยู่ที่ กกต.ว่าจะทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนอย่างไร
‘ก้าวไกล’ ชี้ 4 ความผิดปกติเลือกตั้งล่วงหน้า บี้ กกต.แจงด่วน 14 พ.ค.ต้องไม่ซ้ำรอย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3967484
‘ก้าวไกล’ ชี้ 4 ความผิดปกติเลือกตั้งล่วงหน้า บี้ กกต.ชี้แจงด่วน ย้ำ 14 พ.ค.ต้องแก้ไขไม่ให้ซ้ำรอย
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวถึงความผิดปกติของการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเมื่อวานนี้ (7 พฤษภาคม) ว่าตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลได้พบความผิดปกติในการทำงานของ กกต. เช่น บางหน่วยเลือกตั้งไม่มีรูปผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล หรือการส่งเอกสารแนะนำผู้สมัครไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบางเขตเลือกตั้งไม่มีรูปและหมายเลขแนะนำผู้สมัครพรรคก้าวไกล
นายพิจารณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราคาดหวังว่า กกต.จะปรับปรุงการทำงานให้ไม่เกิดความผิดพลาดในวันเลือกตั้ง แต่สุดท้ายจากที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามากลับพบความผิดปกติจำนวนมากที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการทุจริตหรือเป็นความผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้งกันแน่ วันนี้จึงต้องตั้งคำถามและหวังให้ กกต.ชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน
นายพิจารณ์กล่าวอีกว่า ความผิดปกติดังกล่าวมีหลักๆ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย (1) กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ไม่กรอกข้อมูลและตัวเลขหน้าซองใส่บัตรเลือกตั้ง บางคนกรอกเลขเขตเลือกตั้งผิด โดยซองเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ศูนย์ของไปรษณีย์ ก่อนคัดแยกส่งไปตามแต่ละเขตเลือกตั้ง คำถามคือถ้าเจ้าหน้าที่กรอกเลขเขตเลือกตั้งผิดหรือกรอกไม่ครบ เจ้าหน้าที่จะส่งซองนั้นไปที่ไหน ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นความผิดพลาดในการออกแบบระบบที่ทำให้ กปน.แค่คนเดียวเปลี่ยนเลขแค่หลักเดียว ทำให้คะแนนของประชาชนอาจหายไปทันที หรือเลวร้ายกว่านั้นคือการไปเติมคะแนนให้พรรคอื่นที่ประชาชนไม่ได้ตั้งใจเลือก
นายพิจารณ์กล่าวว่า (2) กกต.ไม่ติดรูปภาพและข้อมูลผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลหน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยเขตที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 ของ จ.น่าน จึงต้องส่งเสียงดังๆ ไปถึง กกต.ว่าในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม บนบอร์ดต้องมีแนะนำผู้สมัครของพรรคก้าวไกล อย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอให้กำชับและสั่งการ กปน.ให้ตรวจสอบ เพราะการไม่มีชื่อและหมายเลขอาจทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งดังกล่าว
นายพิจารณ์กล่าวว่า (3) ความผิดปกติของจำนวนประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในบางจังหวัดมีผู้ออกมาใช้สิทธิในสัดส่วนที่มากกว่าค่าเฉลี่ย ได้แก่ จ.ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ และยังพบว่าผู้ที่ออกไปใช้สิทธิส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ได้ทำงานอยู่ในจังหวัดอื่นที่แตกต่างจากทะเบียนบ้านของตัวเอง จึงต้องตั้งคำถามว่ามีอะไรเหตุผลทำให้ต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงการใช้รถขนพี่น้องประชาชนไปหน่วยเลือกตั้งถือเป็นการซื้อเสียงผ่านการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ กกต.ต้องลงไปตรวจสอบ ทำงานเชิงรุกเพื่อตรวจจับการซื้อเสียง และ (4) ประชาชนจำนวนไม่น้อย ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบหน้าหน่วยเลือกตั้ง กลับไม่พบชื่อของตัวเอง
นายพิจารณ์กล่าวว่า จากความผิดปกติทั้งหมดนี้ขอให้ กกต.ออกมาชี้แจงรายละเอียดและแนวทางแก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไรให้ผลการเลือกตั้ง สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ให้การลงคะแนนเป็นไปตามที่เขาตั้งใจออกมาใช้สิทธิ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด หาก กกต.ไม่สามารถชี้แจงได้ตนและประชาชนจำนวนมากขอตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
“วันนี้ความนิยมของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากนโยบายและจากความชัดเจนในจุดยืนของผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคและของแคนดิเดตนายกฯ มาถึงวันนี้อาจกล่าวได้ว่าเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่ได้แข่งกับใคร แต่กำลังแข่งกับการทำงานของ กกต.ว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม นำคะแนนเสียงและเจตนารมณ์ของประชาชนออกมาเป็นคะแนนที่ถูกต้องได้หรือไม่” นายพิจารณ์กล่าว
นายพิจารณ์กล่าวว่า ขอฝากไปถึงผู้สนับสนุน หัวคะแนนธรรมชาติของพรรคก้าวไกลทุกคน อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง เรามีภารกิจสำคัญ 2 ประการร่วมกัน ภารกิจที่หนึ่งคือการขยายแนวคิด ช่วยบอกต่อคนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนข้างบ้านว่าเพราะอะไรจึงอยากให้พรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นรัฐบาล ให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ และภารกิจที่สองคือช่วยกันปกป้องคะแนนของพวกเรา เพราะชัยชนะในวันที่ 14 พฤษภาคม จะไม่ใช่ชัยชนะของพรรคก้าวไกลหรือของนายพิธา แต่เป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชน โดยสามารถร่วมเป็นอาสาสมัครของหน่วยงานภาคประชาชนเข้าไปสังเกตการณ์การนับคะแนนเลือกตั้งของ กกต.ได้