มีคำถามครับ ปนความอยากระบายเล็กน้อย ขอถามแบบมนุษย์เงินเดือนกันเองเลย ไม่เอามนุษย์นักธุรกิจนะครับ เพราะถามไปเราก็ไม่ได้เก่งพอจะทำธุรกิจได้เท่าไหร่ เราเข้าใจว่าการมีรายได้ทางเดียวมันยาก แต่ต้นทุนชีวิตเราก็ไม่ได้สูง แล้วมันก็ไม่เหมาะกับเราด้วยสำหรับตอนนี้และอีกนานจนกว่าจะ "มั่นคง" เราเป็นคนถนัดอีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่การทำธุรกิจเท่าไหร่
เราคาใจมากแล้วชอบถามคำถามนี้กับตัวเองบ่อยครั้งมากๆ เราเป็นเด็กต่างจังหวัด แล้วมาเรียนทำงานใช้ชีวิตกรุงเทพมาอายุจะ 30 แล้ว ก็พอรู้อะไรมีข้อมูลรู้จักอะไรหลายๆอย่าง ไม่ได้หลับหูหลับตาทำงานกินเที่ยวอย่างเดียว เราก็เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเพื่อตัวเอง พอ podcast มันบูมซึ่งเราก็ฟังเพื่อหาความรู้ เราจะฟังแต่พวกแนวการลงทุน หรือ การวางแผนสำหรับเกษียร เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนอนาคต ผลปรากฎว่า เราเหมือนรู้สึกว่า มันดูไร้หนทางและไม่มีทางเป็นไปได้มากเท่าไหร่กับ "การเริ่มต้นใหม่ที่กรุงเทพ"
เพราะมีข้อมูลตัวหนึ่งมันวิ่งแซงแบบเห็นชัดเลยว่า มันเฟ้อไปแล้ว นั่นคือ ราคาของอสังหาทุกอย่างในกรุงเทพมันไปเร็วมากเช่นกัน สวนทางกับดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินเฟ้อ เงินเดือนขึ้นก็ไม่ได้สูงแต่ข้าวของก็แพงขึ้น ตอนนี้เฉพาะบ้านไปไกลถึง 5-10 ล้าน แทบจะเห็นเลยว่า ราคาแบบนี้ ถ้าคอนโดในเมืองราคาเท่ากันก็ ใกล้ขึ้น เหมาะกับการอยู่สองคนมากว่า แต่สำหรับครอบครัวคงแออัดไปหน่อย เท่าที่ฟังแล้วมีหลายคนมาซื้อเพื่อ พักทำงาน หรือ ลงทุนกินกำไร กินทำเลจับจองไว้เพื่อลูกเพื่อหลานตอนโต ไม่ก็ปล่อยเช่าเจอแล้วสุดท้ายหาผู้เช่าไม่ได้ผ่อนไม่ไหวอีก
ถ้ายอดผ่อน 3-4 หมื่น คิดเป็น 50% ของเงินเดือน ก็ต้องมีเงินเดือน 6-8 หมื่นบาท การจะโปะเอาแบบดีหน่อยก็ 2 เท่า ของผ่อนต่อเดือนได้ก็ดีถ้าไหว ก็ต้องจ่ายเงินรวมโปะเดือนละ 6-8 หมื่น เงินไม่ใช่น้อย ถ้าคนเดียวก็คงต้องเงินเดือน 1 แสนอัพหละมั้ง ชิวๆเงินเดือนแค่นี้จบใหม่ใครก็ทำได้ ประชดชีวิตสุดๆ
ทำไมเราถึงตั้งเป้าสูงขนาดนั้น มันมีเหตุผลที่โคตรใหญ่แล้วมองข้ามไม่ได้เลยจริงๆ
เป็นเด็กตจว ถูกพ่อแม่ทิ้งให้ใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่ ประเทศไทยเป็นคนไทยแท้!! แต่เขาหนีไปทำงานแล้วก็อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านด้วยตำแหน่งเงินเดือนสูงหน่อย ด้วยค่าครองชีพที่ต่ำกว่ารายได้ มันจะเหมือนกับฝรั่งที่หนีมาอยู่ไทย แต่เงินเดือนเท่าอยู่ยุโรป เหมือนกันเป๊ะ!! แล้วก็คุยตกลงแล้วว่า ไม่กลับมาอยู่ไทยอีกแล้ว เขาลงทุนสร้างบ้านตั้งต้นชีวิตใหม่ที่นั่นไปแล้ว ทำขนาดนั้นไม่มีทางกลับมาไทยแน่นอน
ไม่มีอะไรไว้ให้เลย บ้านที่จะโอนให้เป็นชื่อเราก็ไม่มี ที่ดินไม่มี คือ 0 ครับ 0 แท้ๆ ให้มองว่าเรามาเกิดใหม่ "เป็นมนุษย์เงินเดือน" แต่เราได้พรจากนางฟ้ามาข้อเดียวคือ เราไม่ต้องส่งเงินให้พ่อแม่และไร้หนี้ ได้เรียนจบป.ตรี ที่เหลือหาเอาเองทุกอย่างตามแบบฉบับการ์ตูนเป๊ะ แล้วเราต้องใช้ความรู้เพื่อเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างเป๊ะๆ
เราเป็นคนชอบเรียนรู้ ชอบเตรียมแผนให้พร้อมสำหรับชีวิต ให้ชีวิตสบาย ค่อนข้างหัวไวฉลาดเก่ง เก็บเงินเก่งมาก จัดการเงินก็พอใช้ได้ เรียนจบมาทำงานแล้วมาจนถึงจุดนี้ ก็จะ 30 แล้ว เงินเดือนหลังหัก 7 หมื่นบาทกับหนี้คอนโดก้อนเดียว ที่ผ่อนตั้งแต่ตอนอายุ 25 เพื่ออยากให้จบหนี้ไวขึ้น รวมโปะทุกปีเพื่อฝึกวินัยให้พร้อม สักช่วงอายุ 34-35 ได้ก็ดี ตอนนี้เราแทบจะเหลือแผนเดียว คือ กำเงินให้หนาที่สุดและไวที่สุดแบบโง่ๆเลย แบบชนิดที่ว่าไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นเงินเกษียร หรือ เงินดาวน์กันแน่ แต่เรามี PVD ที่แบ่งหักเก็บเป็นเงินเกษียรกันเหนียวไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง
เรามองว่าถึงจะได้เริ่มต้นทำงานที่ไหนก็ได้ แต่คือเราใช้ชีวิตกรุงเทพเกือบตลอดชีวิตทำงาน และยังไงก็ต้องเจอลูกค้าและตลาดการจ้างงานที่มีแค่กรุงเทพอย่างเดียวเท่านั้น ไปไหนไม่ได้ก็ควรเริ่มสะที่นี่
อีกเหตุผลที่ทำไมเราถึงเลือกกรุงเทพ เราคิดว่า ถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา เราไม่อยากให้ลูกต้องเจอประโยคนี้ "ห่างบ้านมาเรียนตั้งไกลจ่ายเงินก็แพง เพื่อเงินเดือนที่สร้างอนาคตก็ไม่ได้ ยังต้องส่งเงินให้พ่อแม่อีก จนอยากตาย" เราเลยเปลี่ยนเงินลงทุนทุกอย่างเพื่อสร้างจุดเริ่มต้นให้รุ่นถัดไปที่กรุงเทพ เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตเพียงขาเดียว เพื่อให้ภาระที่รุ่นถัดไปต้องแบกรับมันน้อยลง ให้มันจบที่รุ่นเรา เพราะเราคือรุ่นแรก พ่อแม่มันก็เหมือนคนที่หนีหายตัดขาดไปได้เลย
เรารู้ตัวตั้งแต่ตอนผ่อนคอนโดแล้ว ข้าคือชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยง ไม่ใช่บรรทัดฐานชีวิตจากของใคร แต่คือสิ่งที่เราควรทำให้ได้ในชีวิตเราเพื่อให้มันสานต่อไป
เราไม่เอาแผนอื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพนะ เราอยากทำมันให้ได้ มันเป็นเป้าหมายสุดท้ายแล้วที่เรามองว่าชีวิตเราน่าจะทำมันไหวอยู่ แต่มันจะยังไงดี มันมีแต่ความเสี่ยงเต็มไปหมด เคยคิดไว้หลายแผนก็เริ่มจะเหลือไม่กี่ทางออก
ไม่ถนัดลงทุน ลองแล้ว ทนไม่ได้ยังไงก็ไม่ใช่แนว ได้แค่ความเสี่ยงตำ มีแค่เงินฝากกับออมทรัพย์เองมั้ง คงทำได้เต็มที่แค่ 1 หละมั้งครับ เพระาเปิดบัญชีแบบฝากประจำไปแล้ว ว่าจะเปิดเพิ่มเพื่อฝากไปเรื่อยๆ
เลยอยากได้แผนหรือคำแนะนำอื่น อาจจะมีที่ไปซ้ำกับแผนที่พังไปในใจแล้ว แต่ก็อยากพอได้ความหวังอยู่บ้างครับ
อยากเริ่มต้นกรุงเทพ แบบฉบับมนุษย์เงินเดือน มีแผนไหม
เราคาใจมากแล้วชอบถามคำถามนี้กับตัวเองบ่อยครั้งมากๆ เราเป็นเด็กต่างจังหวัด แล้วมาเรียนทำงานใช้ชีวิตกรุงเทพมาอายุจะ 30 แล้ว ก็พอรู้อะไรมีข้อมูลรู้จักอะไรหลายๆอย่าง ไม่ได้หลับหูหลับตาทำงานกินเที่ยวอย่างเดียว เราก็เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเพื่อตัวเอง พอ podcast มันบูมซึ่งเราก็ฟังเพื่อหาความรู้ เราจะฟังแต่พวกแนวการลงทุน หรือ การวางแผนสำหรับเกษียร เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนอนาคต ผลปรากฎว่า เราเหมือนรู้สึกว่า มันดูไร้หนทางและไม่มีทางเป็นไปได้มากเท่าไหร่กับ "การเริ่มต้นใหม่ที่กรุงเทพ"
เพราะมีข้อมูลตัวหนึ่งมันวิ่งแซงแบบเห็นชัดเลยว่า มันเฟ้อไปแล้ว นั่นคือ ราคาของอสังหาทุกอย่างในกรุงเทพมันไปเร็วมากเช่นกัน สวนทางกับดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินเฟ้อ เงินเดือนขึ้นก็ไม่ได้สูงแต่ข้าวของก็แพงขึ้น ตอนนี้เฉพาะบ้านไปไกลถึง 5-10 ล้าน แทบจะเห็นเลยว่า ราคาแบบนี้ ถ้าคอนโดในเมืองราคาเท่ากันก็ ใกล้ขึ้น เหมาะกับการอยู่สองคนมากว่า แต่สำหรับครอบครัวคงแออัดไปหน่อย เท่าที่ฟังแล้วมีหลายคนมาซื้อเพื่อ พักทำงาน หรือ ลงทุนกินกำไร กินทำเลจับจองไว้เพื่อลูกเพื่อหลานตอนโต ไม่ก็ปล่อยเช่าเจอแล้วสุดท้ายหาผู้เช่าไม่ได้ผ่อนไม่ไหวอีก
ถ้ายอดผ่อน 3-4 หมื่น คิดเป็น 50% ของเงินเดือน ก็ต้องมีเงินเดือน 6-8 หมื่นบาท การจะโปะเอาแบบดีหน่อยก็ 2 เท่า ของผ่อนต่อเดือนได้ก็ดีถ้าไหว ก็ต้องจ่ายเงินรวมโปะเดือนละ 6-8 หมื่น เงินไม่ใช่น้อย ถ้าคนเดียวก็คงต้องเงินเดือน 1 แสนอัพหละมั้ง ชิวๆเงินเดือนแค่นี้จบใหม่ใครก็ทำได้ ประชดชีวิตสุดๆ
ทำไมเราถึงตั้งเป้าสูงขนาดนั้น มันมีเหตุผลที่โคตรใหญ่แล้วมองข้ามไม่ได้เลยจริงๆ
เป็นเด็กตจว ถูกพ่อแม่ทิ้งให้ใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่ ประเทศไทยเป็นคนไทยแท้!! แต่เขาหนีไปทำงานแล้วก็อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านด้วยตำแหน่งเงินเดือนสูงหน่อย ด้วยค่าครองชีพที่ต่ำกว่ารายได้ มันจะเหมือนกับฝรั่งที่หนีมาอยู่ไทย แต่เงินเดือนเท่าอยู่ยุโรป เหมือนกันเป๊ะ!! แล้วก็คุยตกลงแล้วว่า ไม่กลับมาอยู่ไทยอีกแล้ว เขาลงทุนสร้างบ้านตั้งต้นชีวิตใหม่ที่นั่นไปแล้ว ทำขนาดนั้นไม่มีทางกลับมาไทยแน่นอน
ไม่มีอะไรไว้ให้เลย บ้านที่จะโอนให้เป็นชื่อเราก็ไม่มี ที่ดินไม่มี คือ 0 ครับ 0 แท้ๆ ให้มองว่าเรามาเกิดใหม่ "เป็นมนุษย์เงินเดือน" แต่เราได้พรจากนางฟ้ามาข้อเดียวคือ เราไม่ต้องส่งเงินให้พ่อแม่และไร้หนี้ ได้เรียนจบป.ตรี ที่เหลือหาเอาเองทุกอย่างตามแบบฉบับการ์ตูนเป๊ะ แล้วเราต้องใช้ความรู้เพื่อเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างเป๊ะๆ
เราเป็นคนชอบเรียนรู้ ชอบเตรียมแผนให้พร้อมสำหรับชีวิต ให้ชีวิตสบาย ค่อนข้างหัวไวฉลาดเก่ง เก็บเงินเก่งมาก จัดการเงินก็พอใช้ได้ เรียนจบมาทำงานแล้วมาจนถึงจุดนี้ ก็จะ 30 แล้ว เงินเดือนหลังหัก 7 หมื่นบาทกับหนี้คอนโดก้อนเดียว ที่ผ่อนตั้งแต่ตอนอายุ 25 เพื่ออยากให้จบหนี้ไวขึ้น รวมโปะทุกปีเพื่อฝึกวินัยให้พร้อม สักช่วงอายุ 34-35 ได้ก็ดี ตอนนี้เราแทบจะเหลือแผนเดียว คือ กำเงินให้หนาที่สุดและไวที่สุดแบบโง่ๆเลย แบบชนิดที่ว่าไม่รู้ว่ามันจะกลายเป็นเงินเกษียร หรือ เงินดาวน์กันแน่ แต่เรามี PVD ที่แบ่งหักเก็บเป็นเงินเกษียรกันเหนียวไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง
เรามองว่าถึงจะได้เริ่มต้นทำงานที่ไหนก็ได้ แต่คือเราใช้ชีวิตกรุงเทพเกือบตลอดชีวิตทำงาน และยังไงก็ต้องเจอลูกค้าและตลาดการจ้างงานที่มีแค่กรุงเทพอย่างเดียวเท่านั้น ไปไหนไม่ได้ก็ควรเริ่มสะที่นี่
อีกเหตุผลที่ทำไมเราถึงเลือกกรุงเทพ เราคิดว่า ถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา เราไม่อยากให้ลูกต้องเจอประโยคนี้ "ห่างบ้านมาเรียนตั้งไกลจ่ายเงินก็แพง เพื่อเงินเดือนที่สร้างอนาคตก็ไม่ได้ ยังต้องส่งเงินให้พ่อแม่อีก จนอยากตาย" เราเลยเปลี่ยนเงินลงทุนทุกอย่างเพื่อสร้างจุดเริ่มต้นให้รุ่นถัดไปที่กรุงเทพ เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตเพียงขาเดียว เพื่อให้ภาระที่รุ่นถัดไปต้องแบกรับมันน้อยลง ให้มันจบที่รุ่นเรา เพราะเราคือรุ่นแรก พ่อแม่มันก็เหมือนคนที่หนีหายตัดขาดไปได้เลย
เรารู้ตัวตั้งแต่ตอนผ่อนคอนโดแล้ว ข้าคือชะตาที่มิอาจหลีกเลี่ยง ไม่ใช่บรรทัดฐานชีวิตจากของใคร แต่คือสิ่งที่เราควรทำให้ได้ในชีวิตเราเพื่อให้มันสานต่อไป
เราไม่เอาแผนอื่นที่ไม่ใช่กรุงเทพนะ เราอยากทำมันให้ได้ มันเป็นเป้าหมายสุดท้ายแล้วที่เรามองว่าชีวิตเราน่าจะทำมันไหวอยู่ แต่มันจะยังไงดี มันมีแต่ความเสี่ยงเต็มไปหมด เคยคิดไว้หลายแผนก็เริ่มจะเหลือไม่กี่ทางออก
ไม่ถนัดลงทุน ลองแล้ว ทนไม่ได้ยังไงก็ไม่ใช่แนว ได้แค่ความเสี่ยงตำ มีแค่เงินฝากกับออมทรัพย์เองมั้ง คงทำได้เต็มที่แค่ 1 หละมั้งครับ เพระาเปิดบัญชีแบบฝากประจำไปแล้ว ว่าจะเปิดเพิ่มเพื่อฝากไปเรื่อยๆ
เลยอยากได้แผนหรือคำแนะนำอื่น อาจจะมีที่ไปซ้ำกับแผนที่พังไปในใจแล้ว แต่ก็อยากพอได้ความหวังอยู่บ้างครับ