เหตุทั้งหลายที่เกิด เกิดจากตัวเราหรือคนอื่น

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน ช่วงนี้เพื่อนๆคงจะได้ยินข่าวเรื่องแอ_ไซยาไนด์กันแล้วนะ เราจะมาเล่าให้ฟังเรื่องที่เราเคยเจอมาในแบบคล้ายกัน เพียงแต่ปลายทางของทุกคน ไม่ปรากฏว่ามีคนเสียชีวิตอย่างในข่าว มีแต่เสียชื่อเสียงและทุกคนแตกคอกัน แบบทะเลาะกันรุนแรงมาก
     เริ่มจากเอมาตีสนิท ทำตัวสนิทสนม เป็นห่วงเป็นใยดูแลเราอย่างดีพร้อมทั้ง ชักชวนเราเข้าวงแชร์ และเอาเงินไปปล่อยกู้ วิธีชักชวนเป็นไปในลักษณะแบบคนในข่าวเลย (สงสัยว่ามีสถาบันสอนหรือเปล่า)การชักชวนมาในรูปแบบคล้ายกัน เช่น อ้างว่าคนในครอบครัวมีเส้นสายใหญ่โต รู้จักคนมากมาย บ้านช่องใหญ่โต ตนเองมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ทั้งๆที่ไม่ได้ประกอบอาชีพที่มีเงินเดือน
     ตอนนั้นเราจิตตกเนื่องจากทะเลาะกับเมียหมอคนที่เคยมีปัญหากันเพราะเขาเป็นคนสร้างข่าวลือให้เรากับลูกเราเสียหาย เราไม่ได้เป็นคนมีเงินทองร่ำรวยมากมายเพราะเราก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรมีแต่เงินเดือนที่สามีให้แล้วก็มีเงินที่ได้จากพ่อเรานิดหน่อยใช้เป็นเดือนเดือนไป แต่ตอนนั้นที่เราให้เขาหยิบยืมเงินจริงๆแล้วเป็นการปล่อยให้เขาเอาเงินไปปล่อยกู้มากกว่าเพราะว่าเค้าเอาดอกเบี้ยมาให้เราแต่เวลาเราบอกคนอื่นเราก็จะบอกว่าเค้ายืมเงินเร เรามีบุญคุณกับเขาซึ่งจริงๆแล้วมีคนบอกเราว่าอย่างนี้มันเรียกว่าเงินกู้เพราะเราได้ดอกเบี้ยแต่เราก็ยังคิดว่าเค้ายืมเงินเราอยู่ดี
     ตอนนั้นเราคิดว่าถ้าเกิดให้เค้ายืมเงิน เค้าจะช่วยเราได้ในเรื่องเป็นแบ็คอัพให้เรา เพราะเรามีปัญหากับคนอื่นๆรอบตัวหลายคน รวมทั้งเมียหมอซึ่งค่อนข้างมีอิทธิพลในโรงเรียน แล้วก็เราเป็นคนมาจากต่างจังหวัดตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่จังหวัดนี้เลย แต่เอคนนี้คือเค้ามาแต่งงานกับคนในจังหวัดนี้ถือว่าเป็นคนมีหน้ามีตาอยู่ในจังหวัดแล้วก็ฐานะครอบครัวค่อนข้างดี แต่เรามารู้ทีหลังว่าพ่อสามีและคนในครอบครัวไม่ยอมรับในตัวเขาเลยเพราะว่าเค้ามีปัญหาเรื่องการเงิน แล้วก็ชอบหลอกยืมเงินคนอื่นแล้วก็ไม่ใช้ บุคลิกก็เป็นคนหลุกหลิกเชื่อถือไม่ได้ ไม่ได้ทำงานทำการอะไรแต่เป็นแม่บ้านให้ครอบครัวสามีแล้วก็ชอบอมเงินค่ากับข้าว แล้วนางก็มีความคับแค้นใจอยู่แล้วเป็นทุนเดิมว่าแต่งงานเข้ามาในครอบครัวที่มีเงินนางควรจะมีชีวิตที่ดี แต่ปรากฏว่านางถูกเลี้ยงดูแบบคนใช้ เมื่อมีความเครียดนางก็มาระบายกับเรา เราก็รู้ปัญหานางทุกอย่างแล้วก็เลยใช้จุดอ่อนจุดนี้ในการที่จะให้นางมาช่วยเราในเรื่องที่เรามีปัญหากับคนอื่น นางเป็นคนอ้วนร่างใหญ่ ชอบปะทะและจิกกัด นางก็จะออกนอกหน้าให้เพราะว่านางเป็นหนี้บุญคุณเรา  
     วิธีการที่นางหลอกคนอื่นคือ นางจะไปอ้างกับคนอื่นว่าเราอยู่ในวงแชร์นี้ด้วยทำให้คนมาร่วมเล่นแชร์กับนางเยอะมาก เรามารู้ทีหลังจำนวนเงินว่าเป็น 1,000,000 บาท จากการที่คนอื่นๆออกมาแจ้งความกัน แต่ตอนนี้ตัวนางหายสาบสูญไปแล้วเราไม่ทราบว่าครอบครัวสามีนางเอานางไปเก็บไว้ที่ไหน นางยังมีชีวิตอยู่หรือไม่เราก็ไม่รู้ ครอบครัวสามีนางมีอิทธิพลมาก  และไม่ยอมชดใช้เงินที่นางโกงคนอื่นไปด้วยแต่เนื่องจากว่านางมีลูกกับสามีสองคนพ่อแม่สามีรับเลี้ยงลูกของนางไว้ แต่ตัวนางหายสาบสูญไป ไม่มีการติดต่อกลับมาเลยทั้งที่เมื่อก่อนเรากับนางสนิทกันมาก นางชอบมาอาศัยอยู่ในคอนโดเราเวลาที่นี่มีปัญหากับสามีนางก็จะมาบ่นน้อยอกน้อยใจไม่ว่าจะเรื่องทุกเรื่อง เรื่องลูก เรื่องโรงเรียน เรื่องคนรอบตัวต่างๆ นางจะคุยกับเราทุกเรื่อง เราก็คุยกับนางทุกเรื่อง
     แต่ความขัดแย้งมันเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเราต้องการเงินของเราคืนเพราะเราจะไปผ่อนบ้านผ่อนรถ เราไม่ต้องการอยู่คอนโดแล้ว เรารู้สึกว่าเราอยากจะลงหลักปักฐานที่นี่ ที่จังหวัดนี้ ชีวิตเราต้องระหกระเหินจากบ้านเกิดมา แม่ก็ตายจาก พ่อก็เป็นอัมพาต ไปอยู่ที่ไหนเราก็อยู่ได้ไม่นาน มีเหตุที่เราจะต้องพลัดพรากจากอยู่เรื่อย แต่ที่นี่เรารู้สึกว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกับคนที่นี่ได้
     พอเราเริ่มทวงเงินนาง การเงินนางก็เริ่มสะดุดมีปัญหา ความสัมพันธ์ของเรากับนางก็มีปัญหามากเลยจนกระทบไปถึงคนรอบข้างทุกคนที่เกี่ยวข้องเพราะนางระแวงว่ามีคนมาพูดใส่ความนางให้เราไปทวงเงินนาง ไม่เชื่อใจนาง นางถึงขั้นตามสืบคนรอบตัวเรา สะกดรอยตามเราว่าเราไปที่ไหนทำอะไรกับใคร ขนาดเราไปกินข้าวหรือไปออกกำลังกายตอนเช้ากับเพื่อน นางก็ไปคอยเฝ้าดู
     เนื่องจากเงินที่นางเอาของเราไป ไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท นางไม่ได้ยืมแค่ครั้งเดียวแต่นางจะมาหลอกเอาของเราไปเรื่อยเรื่อยเรื่อยเรื่อยและเวลาครบรอบวงแชร์ เราจะเปียแชร์นางก็จะอ้างสารพัดกว่าจะได้เงิน แล้วพอเราไปคุยกับทุกคนที่อยู่ในวงแชร์ที่เรารู้จักคนอื่นก็ได้เงินช้าเหมือนกัน จนมาคุยกันหลายปากต่อปากก็เริ่มรู้ว่านางมีปัญหาจริงๆแล้วนางไม่ได้เป็นคนแต่งตัวและใช้ของแพงอะไรแต่ว่านางเอาเงินที่ได้มาจากวงแชร์พาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศเพราะต้องการอวดคนอื่นว่าพ่อสามีและสามีให้การสนับสนุน ทั้งที่จริงๆแล้วเงินตรงนั้นนางออกเองทุกบาททุกสตางค์ สามีหรือพ่อแม่สามีไม่ได้จ่ายให้เลย แต่นางอ้างว่าพ่อแม่สามีจ่ายให้ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่นางก็ใช้ เงินของคนในวงแชร์ไปซื้อแล้วก็มาอวดคนอื่นว่าสามีซื้อให้
     พอนางกับเราเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินมากเข้าเราไม่ยอมให้นางเอาเงินเราไปอีกแล้ว เราทวงเงินนางซึ่งนางไม่มีความสามารถในการจ่ายเพราะทุกคนในวงแชร์เริ่มรู้แล้วถอนเงินของตัวเองออกไปคนที่ไม่ได้เงินก็จะด่าลงใน Facebook และประจานทำให้นางเกิดความกลัวว่าคนอื่นจะรู้เรื่องของนาง นางก็ต้องไปหยิบยืมคนอื่นๆมาใช้หนี้ เมื่อมีปัญหาหนักขึ้นนาง ถึงขั้นไปหลอกลวงพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นเพื่อนลูกตัวเอง ให้เอาเงินมาฝากตนเองไว้โดยตนเองจะฝากเด็กเข้าโรงเรียนกับผู้อำนวยการโรงเรียนให้ นางถึงขั้นนี้เลยจนสุดท้ายนางไม่สามารถทำตามที่นางตกลงกับผู้ปกครองคนอื่นได้ ผู้ปกครองถึงไปแจ้งความบุกไปที่บ้านแก แต่พ่อสามีประกาศ ว่าไม่รับผิดชอบกับการกระทำของนางเพราะนางไม่ได้ถูกยอมรับให้แต่งเข้าในตระกูลนี้ หนำซ้ำพ่อสามีนางยังดุลูกชายตัวเองต่อหน้าคนอื่นๆ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 60 คน ที่ไปทวงหนี้ถึงในบ้าน ว่ากูบอกแล้วอย่าไปเอามัน
     ทุกคนที่นั่งกันอยู่ 60กว่าคนตรงนั้นที่ต้องสูญเสียเงินรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาทให้กับนางไปก็ไม่สามารถได้รับการชดใช้ได้แต่ไปแจ้งความเอาไว้ให้มันเป็นคดีความ ส่วนตัวนางก็หายสาบสูญไป
     แต่ปัญหาที่นางสร้างไว้มันไม่ได้หายไปกับนางมันตกอยู่ที่ตัวเรา เราต้องมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคนที่เคยเป็นเพื่อน เป็นคนที่เรานับถือเป็นคนที่สนิทเพราะนางไปพูดจาใส่ร้ายเราให้คนคนนั้นฟังหลายคนด้วย และคนเหล่านั้นก็บอกว่านางก็ว่าร้ายเราด้วย  นางทำให้เราแตกคอกับทุกคนรอบข้าง เราไม่สามารถที่จะไว้ใจใครได้เลย เราโพสต์ระบายใน Facebook เป็นการต่อว่านางและคนรอบข้างนางที่อยู่ฝั่งนาง เราไม่รู้เลยว่าเราจะไว้ใจใครได้ แต่นางกลับไปบอกคนเหล่านั้นว่าเราว่าทุกคน
     เราจิตตกมาก แล้วก็เครียดมากคิดว่าทำไมชีวิตเราถึงเจอแต่เรื่องแย่ๆแบบนี้ คนที่เราเคยเกลียดมากถึงแช่งอยากให้ตายไป ก็ตายจากความเกลียดชังของเรา จนเราคิดว่าเราสามารถจะแช่งให้เค้าตายได้ เราเคยถึงขั้นแช่งให้เค้าหายสาบสูญไป ปัจจุบันเค้าก็หายไปแล้ว แต่สิ่งที่มันติดอยู่ในใจเรายังไม่หายไปไหน เรามีความสัมพันธ์กับที่ไม่ดีกับคนรอบข้าง เราระแวง โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าเค้าไปพูดอะไรให้คนอื่นฟังอีกบ้าง เรามีความลับที่แชร์กับนางเอมาก เรากลัวว่านางเอจะไปพูดให้คนคนนั้นฟัง
     ความจิตตกของเราทำให้เราปรึกษาและไปปรับทุกกับคนรอบตัวจนได้รับรู้จากคนไม่กี่คนว่าเค้าไปว่าร้ายเรามากๆ เหตุผลจริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่เรื่องเงินเรื่องเดียวแต่มันเป็นเรื่อง เรื่องความอิจฉาลูกด้วย เพราะเรามีลูกเป็นเพื่อนกัน ลูกเราไม่ยอมเล่นกับลูกนางเพราะว่าลูกเรารับรู้ถึงปัญหาของเรากับนาง ลูกเราก็ไปบอกเพื่อนเพื่อนในห้องให้แอนตี้ลูกนาง จนไม่มีใครยอมเล่นกับลูกนาง และไม่มีใครให้ลูกนางเข้าร่วมงานกลุ่มด้วย นางก็โกรธเราที่ลูกเราไม่ยอมให้ลูกนางเล่นด้วย จริงๆแล้วเราไม่ได้บอกลูกตรงตรงว่าไม่ให้เล่นกับลูกนาง แต่ด้วยความที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลาและบ้านมันเป็นห้องเดียวคือมันเป็นคอนโดเวลาเราคุยโทรศัพท์กับใคร ลูกเราก็จะรับรู้โดยตลอด เราไม่ได้ปิดบังลูก แต่ก็พยายามระวัง แต่ลูกก็ได้ยินเองเพราะว่ามันเป็นคอนโดห้องมันเล็ก  ลูกรับรู้ถึงความทุกข์และปัญหาของเรา ว่าเรามีความทุกข์มาก เพราะตลอดชีวิตเราไม่เคยมีความสุขเลย มีแต่เรื่องที่ทำให้เสียใจและเจ็บปวด ลูกเจ็บปวดและรับรู้ความรู้สึกของเราได้
    ลูกมีปัญหากับเพื่อนทุกคนที่พ่อแม่เค้ามีปัญหากับเราด้วย แต่จะเป็นเพื่อนเล่นกับลูกๆของคนที่เราเข้าหา(พ่อแม่ของเพื่อนลูกที่เราเข้าหาด้วยหลังจากที่มีปัญหากับนางเอ) เราพยายามเกาะติดพวกเขาไว้ให้เป็นกลุ่มใหญ่เพราะเรารู้สึกว่าเราต้องการที่พึ่ง โดยที่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่รับรู้ว่าเรามีปัญหากับใครบ้างเราใช้ความอ่อนโยนอ่อนหวานเข้าหาเราทำตัวให้น่าสงสารแต่จริงๆแล้วลึกลึกเราก็อิจฉาลูกลูกของพวกเขาที่เก่งกว่าลูกเราเหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้เราต้องการที่พึ่ง ปัจจุบันเราย้ายออกจังหวัดนั้นแต่ไม่ได้ถาวร เพราะเรารู้สึกว่าทุกเรื่องทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องกันหมด ถึงกันหมด รู้จักกันหมด วันใดวันหนึ่งเรื่องที่เรากระทำไว้ มันก็ต้องวนกลับมาถึงลูกเรา เพราะตอนนี้ลูกเราก็มีปัญหากับคนรอบข้างอยู่ตลอด ตัวเราก็กลายเป็นเหมือนคนมีปัญหาทางจิต เราคงต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยเรื่อย ทำใจไม่ได้เลยชีวิตมีแต่ปัญหา เราไม่รู้ปัญหาที่เกิดมันเกิดจากการกระทำของตัวเราตั้งแต่แรกเริ่มที่เกิดจากความ เกลียดชังและความอิจฉาริษยาคนอื่น และต้องการยืมมือคนอื่นในการแก้เผ็ดศัตรู หรือเป็นเพราะคนอื่นที่มาสร้างปัญหาให้เรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่