เคยคิดไหมคะว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดรุกราน?

สวัสดีค่ะเคยคิดไหมว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกตนเองว่า(มนุษย์)เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดรุกราน
เป็นยอดนักกอบโกยทุกสรรพสิ่งทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตกับสิ่งที่เรียกว่า
(สรรพยากรณ์ธรรมชาติ)ซึ่งมีความหมายว่า=สิ่งที่เกิดขึ้นเองหรือมีอยู่ตามธรรมชาติ
ซึ่งมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตได้ แต่ตอนนี้แทนที่จะเรียกว่าใช้ในการ
ดำรงชีวิตตามพจนานุกรมความหมายมันแทบจะเปลี่ยนเป็นสิ่งที่มีอยู่และเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่มนุษย์ตักตวง กอบโกย และเสาะหามาเพื่อความมั่งคั่งมากกว่าแล้ว เราสรรหาสรรพยากรณ์ที่ว่า
มาดัดแปลงปรับเปลี่ยนเพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตที่ว่านี้ โดยการระเบิดภูเขาเพื่อทำทาง ถางป่าเพื่อสร้างเขื่อนและปรับให้เป็นพื้นที่การเกษตร แต่พอมีสัตว์ป่าเข้ามาทำลายผลิตผลของพวกเรา ปัง!!! จบหนึ่งชีวิตหรือมากกว่านั้น นั่นเป็นเพราะพื้นที่ป่าน้อยลงและไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนก่อนนี้แล้วนอกจากนี้สิ่งมีชีวิตมากมายที่สูญพันธุ์ไปบนโลกนี้จริงอยู่ว่าส่วนนึ่งมาจากภัยธรรมชาติแต่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนมากมาจากฝีมือเรา ทั้งเพื่อความบันเทิง เพราะเป็นของหายากบ้าง เพื่ออุตสาหกรรมบ้าง ขายให้นักสะสมรวยๆบ้าง เพราะความอยากรู้อยากเห็นบ้างไหมจะสาระพัดความสร้างสรรค์ที่สร้างขึ้นมาทั้งเพื่อความสบาย ความอยากรู้ และความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น แต่เรากับทำให้เกือบครึ่งแผ่นดินอยู่ไม่ได้เพราะ สารกัมมันตภาพรังสี แม่น้ำลำธารมี่แต่สารเคมีกับขยะ ทะเลที่กำลังจะตายเพราะคำว่าเพื่อความเป็นอยู่ที่ว่า สัตว์ทะเลตายกันเป็นพรวนเพราะสารเคมีและขยะ ไหนจะความมักง่ายของพวกชาวประมงที่หากินจากทะเลแท้ๆแต่กับไม่ให้ความเคารพต่อทะเลเลยแม้แต่น้อย ไหนจะชั้นบรรยากาศที่เป็นรูโหว่เพราะโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ทำให้เกิดคลืนความร้อน พอเกิดภาวะโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย เกิดน้ำทะเลหนุนสูงจนผืนแผ่นดินจมหายก็ยังไม่หยุดกันเลย นี่คือแค่โดยย่อนะคะพวกเพื่อนๆคิดเห็นอย่างไรคะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสุภาพด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ😊
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่