เคยตั้งคำถามกับแม่ว่า ถ้ารักลูกจริงทำไมถึงไใ่พยุงคำว่าครอบครัวไว้ จนกระทั่งเจอกับตัวเอง

พ่อแม่แยกทางกันตอนประมาณอายุ15 พ่อมีเมียใหม่โดยที่ยังไม่หย่ากับแม่ แล้วแม่ก็ไม่เอาเรื่องเอาความหอบน้องหอบเรากลับบ้าน ชีวิตช่วงอายุ15 หลังจากที่แม่ต้องเลี้ยงลูกเอง ทุลักทุเล แต่ผ่านจุดลำบาก จุดอดทนมาได้ช่วงเราอายุ18
จนกระทั่ง...
เราเริ่มทำงานร้านเหล้า  ผู้ช่วยพยาบาล  สนามกอล์ฟ เปิดร้านกาแฟเอง เจ๊ง!!วนกลับไปทำงานร้านเหล้าต่อ
จนกระทั่งไปเจอผู้ชาย คนที่เปินพ่อของลูก 
*ไม่ได้จดทะเบียน
*ก่อนหน้าพ่อของลูกคนนี้ ล้วนผ่านการมีแฟนมาแล้ว3-4คน ทุกคนพร้อมมีลูก แต่เป็นฮอร์โมนร่างกายของเรายังไม่มี ทำยังไงก็ไม่มี
*แฟนคนนี้ผ่านการมีครอบครัว มีลูกมาแล้ว2คน 
*เรากับลูกชายคนโตเขาห่างกันแค่6ปี
*คบกับแฟนคนนี้เป็นความสบายใจ ความพร้อม สมถะติดดิน ให้เกียรติทุกด้าน 
**ช๊อตกินใจหนียังไงก็ไปไม่พ้นคือ2ปีแรกเต็มๆที่เขาให้เราออกจากงานเป็นปม่บ้านเต็มตัว เตรียมอาหารเช้าดูแลบ้าน เสื้อผ้าเครื่องใช้ แล้วยังซัพพอร์ตที่บ้านเราทุกเดือนตลอด2ปีเต็ม ทุกครั้งที่จะเลิกหรือจะจบความสัมพันธ์ เป็นเราที่ตระหนักอยู่ในใจเสมอว่า เราเป็นหนี้บุญคุณเค้าหรือเปล่า
จนกระทั่ง เขากลับมาเล่นรถวิบาก แต่งรถ ขับรถ 
หลังโควิดมาทุกอย่างเปลี่ยนไป งานของเขาเกี่ยวกับเจาะบาดาล เหมือนจะไม่กระทบแต่ก็กระทบจนได้ ชาวบ้าน เกษตรขายผลผลิตไม่ได้ ยกเลิกงานไปรัวๆ
เราที่ไม่ได้ทำงานไม่มีสังคมมา2ปีกว่า ออกไปทำงาน เพราะลูกคนแรกทั้งตื่นเต้นทั้งอยากให้พร้อมที่สุดทำงานยันวันสุดท้ายก่อนไปคลอด บวกกับแล้วเขาเริ่มไม่มีงาน รายได้เขาเป็น0ตอนท้อง6-7เดือน ตอนนั้นคิดแค่ว่ามันปค่ช่วงนึง เราก็หาได้ที่บ้านเราก็พอซัพพอร์ตได้ไม่เครียดอะไรไม่เคยมีคำว่าเลิกในหัว
ความลุงลังยังไม่จบ การเงินในบ้านเริ่มฝืด มีลูกคนที่2... ทุกคนฝั่งเราฝั่งเขาไม่สนับสนุนให้เอาออก แต่ในใจคอดล่วงหน้าไปแล้วว่าเหนื่อยๆเพราะลูกคนแรกเลี้ยงเอง หาเงินเองจนได้ขวบกว่า มีออีกคนรายจ่ายเพิ่มอีกเท่า เราเป็นคนเลี้ยงเรารู้ดี
แต่กลับกลายเป็นว่า แฟนไม่ทำงานไม่หางานรายเดือนทำเพราะเคยหาได้หลักแสน ยิ่งรันวงการรถแข่งยิ่งไม่ต้องพูด
มองอนาคตไม่เจอ มองภาพวันข้างหน้าที่มีเขาด้วยไม่เจอ แต่ไม่ทะเลาะไม่มีปากเสียงเป็นความละอาในตัวเขา เป็นความละอายใจที่สร้างคนออกมาแต่เลี้ยงได้ไม่ดีพอ ทั้งๆที่มันดีได้กว่านี้ 
มาคิดกับตัวเองดู ท้อง6เดือนแล้วทำงานทั้งกลางวันกลางคืน กลางวันไปทำงานร้านกาแฟกลางคืนไปทำงานร้านเหล้าเลิกงานร้านเหล้ามาเลี้ยงลูกขวบเศษๆอีก วนอยู่อย่างนี้2เดือน ตอนนั้นเริ่มคิดแล้วว่าจะไปกันรอดจริงๆหรอ ลูกอีกคนกำลังจะเกิดมา เราที่กำลังท้องแก่แต่ต้องทำงานหนักแต่เขาไม่ทำอะไรเลยรายได้เป็น0 จนกระทั่งวันคลอดลูหคนที่2 เงินเติมน้ำมันรถยนต์ไปหาเราก็ไม่มีเราต้องโอนให้เค้า...
*เหมือนจะเป็นคำถามที่มีคำตอบอยู่แต่ก็ยังลังเลกับชีวิตว่าเราเลือกถูกจริงๆใช่ไหม เพราะกับแฟนเก่าไม่รักกันแล้วก็จบกันไป รับข้อเสียไม่ได้ก็จบกันไป แต่ตอนนี้เรามีลูกที่ต้องแคร์มากๆ เพราะเราผ่านช่วงที่ขาดพ่อไปตอนเด็กมันเจ็บปวด มันเจ็บไม่ลืมแม้ความเจ็บมันจะซาแต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ลืม 
-ลูกคนแรกติดต่อมากตอนนี้กำลังจำ1ขวบ8เดือน เราพาลูกกลับมาอยู่บ้านแม่ที่ฉะเชิงเทรา พ่อเขากลับไปเชียงใหม่ได้2วันลูกถามหาบ่อยครั้งนับไม่ถ้วนได้แต่ตอบว่าพ่อไปทำงาน 
-ลูกคนที่2ยังไม่ถึง2เดือน แต่ต้นเดือนหน้าแพลนว่าจะรันวงการร้านเหล้าที่ต้องไปเป็นเดือนๆ เพราะต้องให้ยายออกจากงานมาเลี้ยงหลานให้2คน
-ไม่รู้ว่าคิดถูกไหมที่จะจบความสำคัญกับพ่อของลูกจริงๆ จบแบบไม่ได้ทะเลาะ แต่ถ้าเปิดใจคุยจริงๆเขาก็จะทำเหมือนว่ายังไงเราก็ไใ่เลิกเพราะเราแคร์ลูกมากและลำบากกว่าตอนมีลูกก็ผ่านกันมาแล้ว
-ความรับผิดชอบหลังมีลูกต่ำมาก ลูกเกิดเป็นคนมาเกือบสองปีเคยล้างขวดนมลูกช่วย3ครั้ง
-ระหว่างคืนไม่เคยช่วยเปลี่ยนแพมเพิสไม่เคยช่วยลุกไปชงนม
-ลูกทั้งสองเกิดเป็นคนมาเสื้อผ้าลูกสักตัวไม่เคยซื้อให้หรือเพราะว่าเราทำทุกอย่างพร้อมเกินไป
-ช่วงกระหว่างโควิดเราเปิดร้านกาแฟของตัวเองเก็บเงินได้ก้อนนึงไม่ถึงแสนแต่แม่เค้ายืมไปซื้อที่ดิน แต่ตอนทวงก็บอกยังไม่มี แฟนก็ได้แต่บอกว่าตอนยืมกันผมไม่รู้ผมจะใช้คืนทำไม แต่ชื่อที่ดินนั้นเป็นชื่อเขากรรมสิทธิ์เขา คิดแง่บวกยังไงมันก็ถึงลูกของเราแต่จริงๆแล้วที่ดินผืนนั้นเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะไม่มีฉโหนดเป็นแค่ใบครอบครองกรรมสิทธิ์
-ฝนตกฟ้าร้องไฟดับทิ้งเรากับลูกน้อย2คนอยู่บ้านลำพัง แต่ไปขับรถกับแก๊งเพื่อนถึงต่ำมืด *ไปทุกวันอาทิตย์
-ไม่มีรายได้ขั้นที่ขอเงินเราซื้อบุหรี่ เติมน้ำมันไปขับรถ 
-รายได้ทุกบาทหลังจากสิ้นปีที่แล้วมาจากเราคนเดียวล้วนๆ เงินใช้แต่ละวัน ข้าวปลาทุกมื้อ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายจิปาถะลูก ทำไมเขาถึงเฉยชาได้ขนาดนี้ 
-ต่อให้รายได้จะเป็น0 นมลูกหใดแพมเพิสใกล้หมดเขารู้ว่าทางยายทางน้องสาวเราไม่เคยปล่อยให้ลำบากกลายเป็นเขาก็ไม่รับผิดชอบอะไรเลย ข้อนี้เลยทำให้อยากตัดความสัมพันธ์จริงๆ แบบถ้าจะมาหาลูกมาได้แต่มาเจอมานอนด้วยกันฉันเธอนี่ไม่ไหวจริง
แล้วคำพูด ที่เคยพูดโกรธแม่มากเพราะยังเด็กและความเจ็บปวดตอนนั้นยังจำได้คือ "ไม่รักกันก็ไม่ต้องรักแล้วไม่สงสารลูกหรอ ถ้ารักลูกจริงทำไมอดทนรักษาคำว่าครอบครัวไว้ไม่ได้" คำนี้อยู่ในจิตใต้สำนึกตลอดมา ยิ่งเราคิดเรื่องที่จะเลิกกับเขามันก็เป็นประโยคพวกนี้กลับมา เหมือนเป็นบาป
สรุปแล้วเราควรปล่อย หรือพยุงต่อ เพื่อให้ลูกมีทั้งพ่อและแม่คะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่