สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ตอบในฐานะที่มีครอบครัวนะคะ
สามีคุณพูดจริงค่ะ ทำมาแต่แรก (แถมทำมาหลายปีด้วย) คุณไม่เคยบ่น ไม่เคยขอให้เขาช่วยเลย เขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คุณทำ พูดง่ายคือเคยชินไปแล้ว วันดีคืนดีไม่พอใจที่เขาไม่ช่วยทำเลย เขาเลยเป็นงง
ต่อมาคุณบอกความต้องการคุณ ที่อยากให้เขาช่วยเหลือแล้ว เขาก็โอเค รับฟัง และหาทางออกด้วยการต่างคนต่างล้างในส่วนของตัวเอง คุณก็โมโหเขาอีก เพราะทางออกเขามันไม่โอเคสำหรับคุณ … ดังนั้น คุณใช้ระบบคำสั่งบอกความต้องการไปเลยค่ะ เพราะผู้ชายเขาไม่ซับซ้อน บอกตรงๆ เขาก็ทำตามนั้นแหละ เช่น ฉันทำกับข้าว ฉันล้างจาน เธอเช็ดโต๊ะ เธอเอาขยะไปทิ้งให้หน่อยนะ
ยังมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ทะเลาะกันอีกเยอะ ใจเย็นๆ ให้อภัย เห็นอกเห็นใจกัน ลดความคิดได้เปรียบเสียเปรียบ เธอฉันเราต้องเหนื่อยเท่ากันลงค่ะ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันให้ได้ …
แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็เลิกรา แยกย้าย ถ้ากลัวเขาจะว่าว่าเอาสินสอดเขามาแป๊บเดียวแล้วเลิก เราก็แค่คืนสินสอดเขาไป แล้วต่างคนก็ไปมีชีวิตตัวเองที่มีความสุข
สามีคุณพูดจริงค่ะ ทำมาแต่แรก (แถมทำมาหลายปีด้วย) คุณไม่เคยบ่น ไม่เคยขอให้เขาช่วยเลย เขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คุณทำ พูดง่ายคือเคยชินไปแล้ว วันดีคืนดีไม่พอใจที่เขาไม่ช่วยทำเลย เขาเลยเป็นงง
ต่อมาคุณบอกความต้องการคุณ ที่อยากให้เขาช่วยเหลือแล้ว เขาก็โอเค รับฟัง และหาทางออกด้วยการต่างคนต่างล้างในส่วนของตัวเอง คุณก็โมโหเขาอีก เพราะทางออกเขามันไม่โอเคสำหรับคุณ … ดังนั้น คุณใช้ระบบคำสั่งบอกความต้องการไปเลยค่ะ เพราะผู้ชายเขาไม่ซับซ้อน บอกตรงๆ เขาก็ทำตามนั้นแหละ เช่น ฉันทำกับข้าว ฉันล้างจาน เธอเช็ดโต๊ะ เธอเอาขยะไปทิ้งให้หน่อยนะ
ยังมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้ทะเลาะกันอีกเยอะ ใจเย็นๆ ให้อภัย เห็นอกเห็นใจกัน ลดความคิดได้เปรียบเสียเปรียบ เธอฉันเราต้องเหนื่อยเท่ากันลงค่ะ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันให้ได้ …
แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็เลิกรา แยกย้าย ถ้ากลัวเขาจะว่าว่าเอาสินสอดเขามาแป๊บเดียวแล้วเลิก เราก็แค่คืนสินสอดเขาไป แล้วต่างคนก็ไปมีชีวิตตัวเองที่มีความสุข
สมาชิกหมายเลข 6511773 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6530191 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6711025 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2787473 ถูกใจ, New_BlackCat ถูกใจ, ผ้าม่านสีแดง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2581886 ถูกใจ, เค้าหาว่าหนูเหมือนแมวน้ำ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5615282 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจรวมถึงอีก 80 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 4
ผช เห็นแก่ตัวตั้งแต่แรก คือไม่ควรเอามาเป็นแฟนตั้งแต่แรกแล้ว ตอนอยู่ด้วยกันก่อนแต่งก็เห็นชัดอยู่แล้ว ทำไมยังคิดจะแต่ง คิดว่าแต่งแล้วมันจะดีขึ้นเหรอ เป็นไปไม่ได้
คนไม่เห็นแก่ แต่งหรือไม่แต่ง เค้าก็จะช่วยทำ โดยไม่ต้องร้องขอ
คนไม่เห็นแก่ แต่งหรือไม่แต่ง เค้าก็จะช่วยทำ โดยไม่ต้องร้องขอ
Diao Chan ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 912787 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6782720 ถูกใจ, Yellowstone WY ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6546765 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6744808 ถูกใจ, PoonfaH ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1015670 ขำกลิ้ง, สมาชิกหมายเลข 7409897 ถูกใจ, ครูอังกฤษขอเล่า ถูกใจรวมถึงอีก 23 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 77
แบบนี้แหละ ผช ชอบผู้หญิง เพราะคาดหวังว่า ผญ จะไม่เปลี่ยนหลังแต่งงาน แต่ สุดท้ายเธอก็เปลี่ยน
ส่วน ผญ ชอบคาดหวังว่า ผช จะเปลี่ยน หลังแต่งงาน แต่ ผช ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนหลังแต่งงาน
ผมว่าจุดเริ่มต้น อาจจะเป็นเพราะคุณ fake ก่อนแต่งมากกว่า คุณ แสดงตัวชัดเจนว่า พร้อมดูแลเรื่องงานบ้านหากสร้างครอบครัว นี่ขนาดอยู่ก่อนแต่งมาแล้ว สภาพการอยู่ก่อนแต่ง ผช ส่วนใหญ่ จะเหมื่อนเดิม เช่น ถ้าออกไปสังสรรคกับเพื่อนทุกวัน, ดื่มเหล้า, เล่นเกม, เล่นพระ แต่งรถ, ความธรรมธรรมโม เว้นแต่คุณ จะตกลงก่อนเช่น ถ้าแต่งงานออกไปสังสรรคกับเพื่อนได้แค่ 2 วัน, ให้กินเหล้าที่บ้าน, งานบ้านต้องช่วยกันทำ ฯลฯ
สามีภรรยา ก็ ต้องมีได้เปรียบเสียเปรียบบ้าง ถ้าจะคิดเล็กคิดน้อยก็อย่ามี
สามีแบ่งเงินให้ ใช้ เราพอใจ => สามีดี
สามีเลี้ยงข้าว จ่ายให้ทุกอย่าง เราพอใจ => สามีดี
สามีออกค่าผ่อนบ้านมากกว่า เราพอใจ => สามีดี
สามีกินเหล้า, เล่นเกม (งานอดิเรก) ไร้สาระ => สามีไม่ดี
สามีไม่ช่วยงานบ้าน เราไม่พอใจ => สามีไม่ดี
สามีตามใจ ไม่เคยบังคับ เราพอใจ => สามีดี
สามีขาดความเป็นผู้นำ(ตามใจเรา) เราไม่พอใจ =>สามีไม่ดี
จะเห็นว่าทุกคนมีทั้งดีและเลว ป่ะปนกันไป การเป็นสามีภรรยา
แล้วจ้องจะดูแต่ข้อเสีย คงตีกันทั้งวัน การมองข้ามข้อเสียนั้น หรือการพยายามหาทางออกร่วมกันต่างหากที่จะทำให้ชิวิตครอบครัวมีความสุข ตัวคุณเองก็อาจจะไม่ได้ดีไปซะทุกอย่าง ถ้าอยากอยู่กันยาวให้เริ่มหาจากข้อดีก่อน ถ้าหาข้อดีไม่เจอตั้งแต่แรกจะ แต่งทำไม
คุณ fake ใส่เค้าก่อน ก็ต้องลองคุยดู ถ้าจุดนี้ไม่ใช่จุดสำคัญ สำหรับเค้า เค้าคงปรับให้คุณได้ แต่ถ้าจุดนี้คือ จุดสำคัญในการเลือกชิวิตคู่ในมุมมองเค้า คุณก็ต้องรับสภาพความเป็นจริง
ส่วน ผญ ชอบคาดหวังว่า ผช จะเปลี่ยน หลังแต่งงาน แต่ ผช ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนหลังแต่งงาน
ผมว่าจุดเริ่มต้น อาจจะเป็นเพราะคุณ fake ก่อนแต่งมากกว่า คุณ แสดงตัวชัดเจนว่า พร้อมดูแลเรื่องงานบ้านหากสร้างครอบครัว นี่ขนาดอยู่ก่อนแต่งมาแล้ว สภาพการอยู่ก่อนแต่ง ผช ส่วนใหญ่ จะเหมื่อนเดิม เช่น ถ้าออกไปสังสรรคกับเพื่อนทุกวัน, ดื่มเหล้า, เล่นเกม, เล่นพระ แต่งรถ, ความธรรมธรรมโม เว้นแต่คุณ จะตกลงก่อนเช่น ถ้าแต่งงานออกไปสังสรรคกับเพื่อนได้แค่ 2 วัน, ให้กินเหล้าที่บ้าน, งานบ้านต้องช่วยกันทำ ฯลฯ
สามีภรรยา ก็ ต้องมีได้เปรียบเสียเปรียบบ้าง ถ้าจะคิดเล็กคิดน้อยก็อย่ามี
สามีแบ่งเงินให้ ใช้ เราพอใจ => สามีดี
สามีเลี้ยงข้าว จ่ายให้ทุกอย่าง เราพอใจ => สามีดี
สามีออกค่าผ่อนบ้านมากกว่า เราพอใจ => สามีดี
สามีกินเหล้า, เล่นเกม (งานอดิเรก) ไร้สาระ => สามีไม่ดี
สามีไม่ช่วยงานบ้าน เราไม่พอใจ => สามีไม่ดี
สามีตามใจ ไม่เคยบังคับ เราพอใจ => สามีดี
สามีขาดความเป็นผู้นำ(ตามใจเรา) เราไม่พอใจ =>สามีไม่ดี
จะเห็นว่าทุกคนมีทั้งดีและเลว ป่ะปนกันไป การเป็นสามีภรรยา
แล้วจ้องจะดูแต่ข้อเสีย คงตีกันทั้งวัน การมองข้ามข้อเสียนั้น หรือการพยายามหาทางออกร่วมกันต่างหากที่จะทำให้ชิวิตครอบครัวมีความสุข ตัวคุณเองก็อาจจะไม่ได้ดีไปซะทุกอย่าง ถ้าอยากอยู่กันยาวให้เริ่มหาจากข้อดีก่อน ถ้าหาข้อดีไม่เจอตั้งแต่แรกจะ แต่งทำไม
คุณ fake ใส่เค้าก่อน ก็ต้องลองคุยดู ถ้าจุดนี้ไม่ใช่จุดสำคัญ สำหรับเค้า เค้าคงปรับให้คุณได้ แต่ถ้าจุดนี้คือ จุดสำคัญในการเลือกชิวิตคู่ในมุมมองเค้า คุณก็ต้องรับสภาพความเป็นจริง
สมาชิกหมายเลข 6511773 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7492324 ถูกใจ, ฮิวอี้ ถูกใจ, Devil from Venus ถูกใจ, ผ้าม่านสีแดง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7095559 ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, เสือคุง ถูกใจ, phoom4514 ถูกใจ, แง่มๆ น้องหมา 2 ปี ถูกใจรวมถึงอีก 15 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 8
ทางนี้แยกย้ายเรียบร้อยค่ะ คบ 5ปี แต่งงานได้ปีครึ่ง ความรู้สึกเหมือนคุณเลยค่ะ ทุกอย่างแบ่งแยก เค้าทำแค่ของเขา เช่น ซักผ้า ส่วนงานบ้านอื่นๆไม่แตะเลย ไม่เคยช่วยล้างจาน กวาดถูบ้าน เราทำงานนอกบ้านเหมือนกัน พอต้องกลับมาเห็นบ้านรกๆ จานไม่ล้าง ข้าวของวางทิ้งขว้าง แล้วทุกอย่างเป็นเราที่ต้องทำ มันก็สะสมค่ะ คุยกันหลายรอบแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ที่แย่ไปกว่านั้น คชจ.ทุกอย่างในบ้านเราออกคนเดียว เพียงเพราะเค้าอ้างว่าเค้าต้องผ่อนบ้าน (บ้านชื่อเค้าคนเดียว)
เรื่องน้ำใจไม่ต้องถามหา ขอความช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ขอคุยเพื่อหาทางแก้ไขปรับตัวไม่ได้ จะหงุดหงิดและอารมณ์เสียตลอด จบลงที่ทะเลาะ
เรื่องน้ำใจไม่ต้องถามหา ขอความช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย ขอคุยเพื่อหาทางแก้ไขปรับตัวไม่ได้ จะหงุดหงิดและอารมณ์เสียตลอด จบลงที่ทะเลาะ
semisaintz ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6746628 ถูกใจ, ฮิวอี้ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 912787 ทึ่ง, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6782720 ถูกใจ, Yellowstone WY ถูกใจ, Rirakkuma ถูกใจ, วัวน้อย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 7409897 ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 11
คุณทำแบบนี้มาตั้งแต่ที่อยู่กันก่อนแต่งแล้ว แล้วทำไมเพิ่งจะมาอึดอัดหลังจากที่แต่งงานได้ 2 เดือนล่ะคะ? ต้องหาสาเหตุแล้วล่ะค่ะว่าความรู้สึกคุณเปลี่ยนไปยังไงและเพราะอะไร? เราว่าจริงๆการแบ่งกันทำ แยกกันทำ มันก็ไม่ได้แย่นะคะ
ที่เค้าบอกให้คุณทำเฉพาะส่วนของคุณไปเลย เราตีความว่า "ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำให้ทั้งตัวเองและเค้า ก็ไม่ต้องทำส่วนของเค้า เดี๋ยวเค้ารับผิดชอบเอง" อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ในมุมของคนที่ไม่ได้ชอบทำงานบ้านก็ดูมีความรับผิดชอบดี ส่วนในมุมคนรักนั้นก็อาจฟังดูน่าน้อยใจ
บ้านเราก็แนวๆนี้ค่ะ ซักผ้าของใครของมัน ตั้งแต่อยู่กันมาไม่เคยซักผ้าให้แฟนเลย เราซักให้ตัวเองกับลูก ถ้าแฟนไม่เอ่ยปากบอกว่าฝากซักหน่อย (เพราะเค้าเป็นคนหวงเสื้อผ้า เรากลัวซักของเค้าแล้วเสียหาย) บางทีตากผ้าไว้ระเบียงแล้วฝนกำลังจะตก แฟนก็จะเก็บแต่เสื้อผ้าตัวเองไม่เก็บของเรานะ แล้วเดินมาบอกเราว่าฝนกำลังจะตกไปเก็บผ้าสิ ถ้าเราว่างก็จะไปเก็บเอง ถ้าไม่ว่างก็บอกแฟนว่า "ไปเก็บให้หน่อย" เค้าก็ไปเก็บให้
เรื่องแบบนี้อยู่ที่มุมมองค่ะ ถ้าความรักที่มีให้กันมากพอ เราว่าค่อยๆคุยกัน ค่อยๆปรับแล้วทุกอย่างจะลงตัวค่ะ บางทีเปลี่ยนจากคำสั่งเป็นคำขอให้ช่วยก็น่าจะดีขึ้นนะคะ
ที่เค้าบอกให้คุณทำเฉพาะส่วนของคุณไปเลย เราตีความว่า "ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำให้ทั้งตัวเองและเค้า ก็ไม่ต้องทำส่วนของเค้า เดี๋ยวเค้ารับผิดชอบเอง" อาจจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่ในมุมของคนที่ไม่ได้ชอบทำงานบ้านก็ดูมีความรับผิดชอบดี ส่วนในมุมคนรักนั้นก็อาจฟังดูน่าน้อยใจ
บ้านเราก็แนวๆนี้ค่ะ ซักผ้าของใครของมัน ตั้งแต่อยู่กันมาไม่เคยซักผ้าให้แฟนเลย เราซักให้ตัวเองกับลูก ถ้าแฟนไม่เอ่ยปากบอกว่าฝากซักหน่อย (เพราะเค้าเป็นคนหวงเสื้อผ้า เรากลัวซักของเค้าแล้วเสียหาย) บางทีตากผ้าไว้ระเบียงแล้วฝนกำลังจะตก แฟนก็จะเก็บแต่เสื้อผ้าตัวเองไม่เก็บของเรานะ แล้วเดินมาบอกเราว่าฝนกำลังจะตกไปเก็บผ้าสิ ถ้าเราว่างก็จะไปเก็บเอง ถ้าไม่ว่างก็บอกแฟนว่า "ไปเก็บให้หน่อย" เค้าก็ไปเก็บให้
เรื่องแบบนี้อยู่ที่มุมมองค่ะ ถ้าความรักที่มีให้กันมากพอ เราว่าค่อยๆคุยกัน ค่อยๆปรับแล้วทุกอย่างจะลงตัวค่ะ บางทีเปลี่ยนจากคำสั่งเป็นคำขอให้ช่วยก็น่าจะดีขึ้นนะคะ
สมาชิกหมายเลข 6746628 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6711025 ถูกใจ, tpensuda ถูกใจ, ผ้าม่านสีแดง ถูกใจ, master_zo ถูกใจ, พ่อขวัญเอย ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6782720 ถูกใจ, Autotune ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4244961 ถูกใจ, สวยประหาร ถูกใจรวมถึงอีก 11 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
หลังแต่งงานได้ 2เดือน รู้สึกอยากเลิกมากค่ะ!
ก่อนอื่นคือเราคบกับแฟนได้3ปีกว่า อยู่กินกันมาตั้งแต่ตอนคบ จนตอนนี้เกือบ4ปีแล้วค่ะ รวมแต่งงาน
เราเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยออกคำสั่ง อยู่กับแฟนคือทำงานบ้านทุกอย่างเอง (ต้องบอกก่อนว่าเราทำงานกันทั้งคู่ )
พอหลังแต่งงานทุกอย่างต้องจริงจังขึ้นอีก1สเต็บ เราเลยเริ่มสั่งนู้นนี้ และอาจจู้จี้ขึ้นกว่าเดิม ในสถานะที่แตกต่างจากเดิม เราจริงจังมากขึ้น
ตอนนี้รู้สึกอึดอัดมาก ที่เรายังคงต้องทำงานบ้านเองทุกอย่างเหมือนเดิม จนทนไม่ไหวต้องมานั่งคุยปรับความเข้าใจกับแฟน
แต่แฟนกลับบอกว่า ก็แกทำแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เค้ารู้ว่าแกเหนื่อย(ในความคิดเราคือรู้ว่าเหนื่อยก็ต้องมาช่วยสิ ไม่ใช่แค่พูด)
แล้วแฟนก็พูดทำนองว่า งั้นก็แบ่งกันทำ(นี้เลยถามแบ่งกันคือยังไง แฟนบอก เช่นแกกินข้าวเสร็จแกก็ล้างเฉพาะของแก) เราเลยคิดว่า
คำพูดแบบนี้มันดูเห็นแก่ตัวไปมั้ย อยู่ด้วยกันแต่งงานกันก็ต้องช่วยกันสิ ไม่ใช่แบ่งใครแบ่งมัน และมีอีกหลายเรื่อง บลาๆๆ ที่คำพูดดูแบ่งแยกมาก
อยากรู้ว่าผิดที่เราเริ่มต้นแบบนี้ หรือมันเป็นที่ความเห็นแก่ตัวของผู้ชายกันแน่
เคยคิดว่า ถ้าเราไม่ยอมเค้าตั้งแต่เเรก ทุกวันนี้มันจะดีขึ้นมั้ย??
ตอนนี้เราก็เหมือนอยู่ไปวันๆแหละค่ะ พยายามที่จะไม่ทำอะไรยึดติดกับแฟน ลูกและภาระก็ไม่มี ได้แต่รอเวลาที่จะออก จะทิ้งเค้าไปเลยก็กลัวหาว่าได้สินสอดแล้วชิ่ง😂😂