อายุ24ค่ะ ทำงานมาเข้าปีที่3แล้ว ไม่มีความสุขเลย เราเป็นคนเงียบๆ พูดน้อยไปจนถึงไม่พูดเลย ชวนคุยไม่เป็น จริงๆมันก็มีสาเหตุนะคะ เพราะเสียงเราเบา เวลาพูดอะไรก็ไม่มีคนได้ยิน ต้องให้เราพูดซ้ำหรือตะโกน บางครั้งก็โดนพูดแทรก เป็นตั้งแต่สมัยเรียน เวลาพรีเซนต์งานหน้าห้องจะเจ็บคอตลอด คนอื่นพูดปกติก็ได้ยิน เราตะโกนแล้วเสียงก็ยังเหมือนอยู่ในลำคอ
สังคมที่ทำงานก็แบ่งเป็นกลุ่ม พรรคพวก ไม่ต่างจากในห้องเรียน ตอนนี้เราอยู่คนเดียวค่ะ พักเที่ยงกลับไปทานข้าวที่ห้องคนเดียว เรารู้สึกปลอดภัย ได้ชาร์จแบตให้ตัวเองในพื้นที่ที่มีเราแค่คนเดียว ไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องมีใครสนใจ แต่เราแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมการที่เราเป็นแบบนี้ถึงโดนเกลียด ทั้งที่เราไม่เคยทำอะไรให้ใคร ไม่เคยเข้างานสาย ไม่เคยผลักภาระงานตัวเองให้คนอื่น ไม่นินทาใคร ใครมาคุยด้วยเราก็คุยตอบยิ้มให้ แต่ถ้าไม่คุยหน้าเราก็จะนิ่งๆปกติ
ช่วงที่ทำงานเข้าปีที่2 เราเคยพยายามเอาตัวเองเข้าสังคมแล้วนะคะ ระยะเวลาครึ่งปีที่ทดลองพบว่าเหนื่อยมากๆๆ ไปทานข้าวต้องยกกันไปทั้งกลุ่ม คนเยอะ เสียงดัง พากันไปกินที่ไกลๆก็ต้องขับรถตามกันไป แดดร้อน เลิกงานต้องมาจับกลุ่มนั่งกินนั่งนินทาคนนู้นคนนี้ กลับบ้านดึกๆตลอด นั่งที่มืดๆ ยุงกัด เวลาอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มใหญ่ เราต้องพยายามทำตัวร่าเริง ยิ้มตลอดเวลาให้เหมือนเป็นคนเฮฮา พอกลับห้องมาอยู่คนเดียวก็ไม่มีแรงเหลือจะทำอะไร เพราะมันดูดพลังงานไปหมดเลย จนเรามาค้นพบว่า เราไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้อีกต่อไป
เราเริ่มค่อยๆเอาตัวเองออกมา เริ่มกลับมาทานข้าวคนเดียว ไปไหนคนเดียว เลิกงานรีบกลับห้อง จน ณ วันนี้เราหลุดมาจากทุกคนโดยสมบูรณ์แบบ เหนื่อยน้อยลง สบายใจมากขึ้น แต่สิ่งได้แถมกลับมาด้วยคือความรู้สึกที่เป็นลบจากคนกลุ่มนั้น แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียส พยายามมองข้าม เพราะก็ยังมีคนที่พอคุยด้วยได้ ไม่ได้สนิท แต่พูดคุยธรรมดาได้
คนกลุ่มนั้นเหมือนรู้ ก็พยายามดึงทุกคนที่รู้ว่าเราคุยด้วยได้ เข้ากลุ่มเขา และไม่ให้ใครเป็นมิตรกับเรา เหตุการณ์เหมือนเดจาวูสมัยเราอยู่มัธยม ไม่คิดว่าต้องมาเจออีกในวัย 24 ปี รู้สึกว่าโลกใจร้ายกับเราจัง
มาถึงวันนี้ก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว โดนแซะ โดนนินทาสารพัด อยากปรึกษาเพื่อนสนิทก็กลัวจะเอาเรื่องแย่ๆไปใส่หัวเขา เขาทำงานมาก็คงอยากพักเหมือนกัน จะไปคุยกับพ่อแม่ ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เขาก็จะเป็นห่วง สุดท้ายเราเลยต้องเก็บทุกอย่างไว้ที่ตัวเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการปัญหานี้ต่อยังไง
ตอนนี้หางานใหม่อยู่นะคะ คิดว่าอยากจะหนีไปให้พ้นๆ ก็คงสมใจเขาคงไม่อยากให้เราอยู่เต็มทีแล้ว เคยคิดว่าอยากสู้ค่ะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่เหนื่อยมากค่ะ ลืมตาตอนเช้าพอรู้ว่าต้องไปเจอกับอะไร ท้อมากๆ ร้องไห้บ่อย ไม่มีความสุข ทุกวันนี้ไปทำงานรอเวลาพัก จะได้กลับห้อง รอเลิกงานกลับไปทำอะไรที่ฮีลใจตัวเอง
เราแค่สงสัยว่าการที่เราเป็นเรา เป็นคนนิสัยแบบนี้มันผิดขนาดนั้นเลยหรอคะ ทำไมถึงโดนกระทำแบบนี้มาทั้งชีวิต ไม่ใช่ว่าไม่ปรับตัวนะคะ เราลองแล้ว อ่านหนังสือคู่มือการเข้าสังคม ลองหัดยิ้มให้ ทักคนอื่นก่อนด้วยประโยคง่ายๆ แต่มันไม่ใช่ตัวเราเลย แล้วต้องฝืนตัวเองเพื่ออยู่รอดในสังคมที่ใจร้ายแบบนี้จนถึงเมื่อไหร่คะ
การที่คนๆนึงเงียบ ไม่ได้แปลว่าหยิ่งหรือไม่ชอบใครนะคะ เขาอาจจะมีความสุขในเวอร์ชั่นนั้น คนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น คนทุกคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แค่ไม่รังแกกันเพียงเพราะไม่เหมือนคนอื่น เราขอมากไปหรอคะ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ
ไม่ชอบเข้าสังคม แต่โดนคนรอบข้างเกลียด
สังคมที่ทำงานก็แบ่งเป็นกลุ่ม พรรคพวก ไม่ต่างจากในห้องเรียน ตอนนี้เราอยู่คนเดียวค่ะ พักเที่ยงกลับไปทานข้าวที่ห้องคนเดียว เรารู้สึกปลอดภัย ได้ชาร์จแบตให้ตัวเองในพื้นที่ที่มีเราแค่คนเดียว ไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องมีใครสนใจ แต่เราแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมการที่เราเป็นแบบนี้ถึงโดนเกลียด ทั้งที่เราไม่เคยทำอะไรให้ใคร ไม่เคยเข้างานสาย ไม่เคยผลักภาระงานตัวเองให้คนอื่น ไม่นินทาใคร ใครมาคุยด้วยเราก็คุยตอบยิ้มให้ แต่ถ้าไม่คุยหน้าเราก็จะนิ่งๆปกติ
ช่วงที่ทำงานเข้าปีที่2 เราเคยพยายามเอาตัวเองเข้าสังคมแล้วนะคะ ระยะเวลาครึ่งปีที่ทดลองพบว่าเหนื่อยมากๆๆ ไปทานข้าวต้องยกกันไปทั้งกลุ่ม คนเยอะ เสียงดัง พากันไปกินที่ไกลๆก็ต้องขับรถตามกันไป แดดร้อน เลิกงานต้องมาจับกลุ่มนั่งกินนั่งนินทาคนนู้นคนนี้ กลับบ้านดึกๆตลอด นั่งที่มืดๆ ยุงกัด เวลาอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มใหญ่ เราต้องพยายามทำตัวร่าเริง ยิ้มตลอดเวลาให้เหมือนเป็นคนเฮฮา พอกลับห้องมาอยู่คนเดียวก็ไม่มีแรงเหลือจะทำอะไร เพราะมันดูดพลังงานไปหมดเลย จนเรามาค้นพบว่า เราไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้อีกต่อไป
เราเริ่มค่อยๆเอาตัวเองออกมา เริ่มกลับมาทานข้าวคนเดียว ไปไหนคนเดียว เลิกงานรีบกลับห้อง จน ณ วันนี้เราหลุดมาจากทุกคนโดยสมบูรณ์แบบ เหนื่อยน้อยลง สบายใจมากขึ้น แต่สิ่งได้แถมกลับมาด้วยคือความรู้สึกที่เป็นลบจากคนกลุ่มนั้น แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียส พยายามมองข้าม เพราะก็ยังมีคนที่พอคุยด้วยได้ ไม่ได้สนิท แต่พูดคุยธรรมดาได้
คนกลุ่มนั้นเหมือนรู้ ก็พยายามดึงทุกคนที่รู้ว่าเราคุยด้วยได้ เข้ากลุ่มเขา และไม่ให้ใครเป็นมิตรกับเรา เหตุการณ์เหมือนเดจาวูสมัยเราอยู่มัธยม ไม่คิดว่าต้องมาเจออีกในวัย 24 ปี รู้สึกว่าโลกใจร้ายกับเราจัง
มาถึงวันนี้ก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆอีกมากมาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว โดนแซะ โดนนินทาสารพัด อยากปรึกษาเพื่อนสนิทก็กลัวจะเอาเรื่องแย่ๆไปใส่หัวเขา เขาทำงานมาก็คงอยากพักเหมือนกัน จะไปคุยกับพ่อแม่ ยิ่งไม่ได้ใหญ่ เขาก็จะเป็นห่วง สุดท้ายเราเลยต้องเก็บทุกอย่างไว้ที่ตัวเอง แล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการปัญหานี้ต่อยังไง
ตอนนี้หางานใหม่อยู่นะคะ คิดว่าอยากจะหนีไปให้พ้นๆ ก็คงสมใจเขาคงไม่อยากให้เราอยู่เต็มทีแล้ว เคยคิดว่าอยากสู้ค่ะ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แต่เหนื่อยมากค่ะ ลืมตาตอนเช้าพอรู้ว่าต้องไปเจอกับอะไร ท้อมากๆ ร้องไห้บ่อย ไม่มีความสุข ทุกวันนี้ไปทำงานรอเวลาพัก จะได้กลับห้อง รอเลิกงานกลับไปทำอะไรที่ฮีลใจตัวเอง
เราแค่สงสัยว่าการที่เราเป็นเรา เป็นคนนิสัยแบบนี้มันผิดขนาดนั้นเลยหรอคะ ทำไมถึงโดนกระทำแบบนี้มาทั้งชีวิต ไม่ใช่ว่าไม่ปรับตัวนะคะ เราลองแล้ว อ่านหนังสือคู่มือการเข้าสังคม ลองหัดยิ้มให้ ทักคนอื่นก่อนด้วยประโยคง่ายๆ แต่มันไม่ใช่ตัวเราเลย แล้วต้องฝืนตัวเองเพื่ออยู่รอดในสังคมที่ใจร้ายแบบนี้จนถึงเมื่อไหร่คะ
การที่คนๆนึงเงียบ ไม่ได้แปลว่าหยิ่งหรือไม่ชอบใครนะคะ เขาอาจจะมีความสุขในเวอร์ชั่นนั้น คนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น คนทุกคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แค่ไม่รังแกกันเพียงเพราะไม่เหมือนคนอื่น เราขอมากไปหรอคะ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ