ชีวิตติดหล่ม

สวัสดีครับ ผมนายเหนื่อยหน่าย คนเดิมนะครับ มาเรามาลองเช็คกันดูสิครับว่า ชีวิตของท่านผู้อ่านกับผม คล้ายหรือแตกต่างกันยังไง เรามาเริ่มจากเช็คลิสชีวิตของนายเหนื่อยหน่ายกันดีกว่านะครับ

- ตื่นมาตอนเช้า จัดการตัวเองให้เรียบร้อย
- เตรียมข้าวของ ออกไปทำงาน
- อัดเป็นปลากระป๋องอยู่บนรถไฟฟ้า
- ชอปปิ้งของกินยามเช้า เผื่อเที่ยงเลยด้วยบางที
- เข้าคอก เปิดคอม เริ่มทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ
- พักเที่ยง
- ปิดคอม เก็บของ
- ชอปปิ้งอาหารเย็น
- อัดเป็นปลากระป๋องบนรถไฟฟ้า
- เปิดแอร์ เปิดทีวี กินข้าว เล่นมือถือ
- ปิดไฟ
- นอน

พออรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน ก็กลับไปที่ข้อ 1 ใหม่ แล้วภาวนาจิตภาวนาใจ ให้ถึงวันศุกร์ไวๆ และจบลงด้วยพรุ่งนี้วันจันทร์แล้วหรอ

ถ้าตารางชีวิตของท่านผู้อ่านคล้ายๆกับผม ยินดีด้วยครับเราเป็นคน ชีวิตติดหล่ม เหมือนกันเลย!!

ทีนี้เราลองมาวิเคราะห์คำว่า “ชีวิตติดหล่ม” กันก่อนดีกว่าครับ ในมุมมองของผม ชีวิตติดหล่มคือการใช้ชีวิตอยู่ในรูปแบบของการทำซ้ำซาก ทำซ้ำเหมือนเดิมทุกวันไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้วตัวเองอยากทำอะไร ดังนั้นชีวิตที่ติดหล่มนั้นมักจะเป็นรูปแบบชีวิตที่ไม่มีความสุข และไม่รู้เป้าหมายของชีวิต เอาง่ายๆก็คือ “ชีวิตแม่มน่าเบื่อ!!”

ในสังคมเมืองที่อะไรก็เร็วไปเสียทุกอย่าง ต้องรีบต้องเร่งไปซะทุกเรื่อง แต่ละคนมีตารางกำหนดกิจกรรมประจำวันที่เยอะแยะเต็มไปด้วยงานต่างๆ ทำให้ชีวิตมันเหมือนเดิมจำเจ ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น ขาดแรงผลัก ขาดพลังที่จะทำอะไรไปมากกว่าที่ตารางชีวิตได้กำหนดไว้แบบกึ่งบังคับ จนลืมสิ่งสำคัญนั่นคือ “ตัวเอง” ไปซะสนิท ลืมแม้กระทั่งว่า…เราชอบทำอะไรนะ

ผมนะ…ตอนนี้แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า อะไรที่ทำให้ นายเหนื่อยหน่าย ไม่เบื่อหน่าย เช้าตื่นมาอาบน้ำ สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในห้วงแห่งความคิดคือ “เบื่อ” เบื่อไปหมด ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากไปไหน ไม่อยากตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มันหายไปไหนนะ ทั้งๆที่มันเคยอยู่เคียงข้างเรา เคยสนิทกับเรา วันนี้เหมือนเพื่อนคนนี้เลิกคบเราไปแล้วอ่ะ เคยไหมที่ อยู่ๆน้ำตามันก็ไหล แบบกรูเศร้าอะไร ทำไมชีวิตมันช่าง…ไร้…ไม่มีอะไรเลย เหมือนแค่ตื่นมาหายใจ แล้วก็ดำรงชีวิตไปวันๆนึง

ตลอดเวลามีแต่ความคิดที่ว่า อยากออกไปจากตรงนี้ แต่ก็งงมาก ที่ออกไปไม่ได้ จริงๆแล้วมันไปไม่ได้จริงๆ หรือเราเองที่ไม่กล้าก้าวออกไปกันแน่นะ ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ส่วนตัวนายเบื่อหน่ายเอง ก็ตอบตัวเองตลอดว่า เรามีคนข้างหลังต้องดูแล แล้วในความเป็นจริงถ้าเราไม่ดูแลเค้า เค้าจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้จริงๆหรอ มันจำเป็นจริงๆใช่ไหม ที่ต้องดูแลคนข้างหลัง ทั้งๆที่ตัวเองจะไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าความสุขของเราถูกฉุดรั้งด้วยคนข้างหลัง แล้วเราจะต้องทำยังไง มีทางไหนไหมที่จะทำให้คุณความสุข กับคนข้างหลัง ไปด้วยกันได้

แต่สำหรับบางท่าน หากลูปของชีวิตของคุณ เป็นลูปที่มีความสุขอยู่ในนั้น คุณคือคนที่ “โชคดี” แล้วครับ จงรักษาความสุขนั้น และจงเพิ่มพูนความสุข และถ้าเป็นไปได้อย่าลืมส่งต่อความสุข ด้วยนะครับ แต่ถ้าใครที่ลูปนั้นมันช่าง “ทนทุกข์” หากเห็นว่าชีวิตของกำลังติดหล่ม ก็ควรเริ่มหาวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อเติมเต็มความสุขและความคุ้มค่าให้กับชีวิตของเรา อาจจะเริ่มจากการทำสิ่งใหม่ๆ ที่เราชอบ หรือลองออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ดูบ้างนะครับ
นายเหนื่อยหน่ายก็อยากให้ท่านผู้อ่านลองแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ของลูปในชีวิตของท่านๆ กับนายเหนื่อยหน่ายบ้างนะครับ แนวคิด ประสบการณ์ของท่าน อาจจะเป็นแนวทางให้อีกหลายๆคน หลุดออกจากหล่มของชีวิตก็ได้นะ

สุดท้าย สำหรับใครที่กำลัง ชีวิตติดหล่ม นายเหนื่อยหน่ายขอกอดแน่นๆ เป็นกำลังใจให้ทุกคนหลุดออกจากหล่มนี้ไปด้วยกันนะครับ มีอะไรเรามาระบาย มาพูดคุย มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ นายเหนื่อยหน่ายคนนี้ จะอยู่ตรงนี้เพื่อทุกคนเสมอครับ
นายเหนื่อยหน่าย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่