กำลังเดินทางไปยังจุดหมาย "recession"?



"ดร.อนุสรณ์" จับตา ภาวะเงินตึงตัวจากวิกฤติสถาบันการเงินโลก
https://www.thansettakij.com/finance/stockmarket/560114
ดร. อนุสรณ์ กล่าวอีกต่อว่า จากข้อมูลบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติพบว่า ประชากรไทยประมาณ 37% คิดเป็น 25 ล้านคน เป็นหนี้ และคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มเป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นจากรายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายจำเป็น มูลค่าหนี้เฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 520,000 บาท มูลค่าหนี้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
หนี้ 2 ใน 3 เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือหนี้เสีย ไม่ใช่การก่อหนี้เพื่อการลงทุน แต่เป็นสภาพชักหน้าไม่ถึงหลัง กู้มาเพื่อใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
ฉะนั้น การที่มีการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำมาหลายปีต่อเนื่องไม่ใช่สาเหตุหลักในการกระตุ้นให้เกิดการก่อหนี้ สัดส่วนการเป็นหนี้ของภาคครัวเรือนไทยสูงเป็นผลจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรมและเหลื่อมล้ำสูง 20% ของไทยเป็นหนี้ในเครดิตบูโรที่มีความเสี่ยงเป็นหนี้เสีย
บัญชีหนี้เพื่อการลงทุนทางธุรกิจและสินเชื่อบ้านคิดเป็นเพียง 4% สะท้อนอนาคตปัญหากับดักหนี้ครัวเรือนจะเป็นปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจและภาคการเงินไทยหากดอกเบี้ยขึ้นไปเรื่อยๆโดยเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพและยังมีช่องว่างผลผลิต (Output Gap หรือ GDP Gap) มาก กลุ่มผู้มีรายได้น้อย มีสัดส่วนหนี้ต่อรายได้อยู่ที่ 41 บาท ฉะนั้นค่าแรงงานขั้นต่ำเพียง 300 กว่าบาทต่อวันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพแน่นอน


เตือนระวังปัญหาสภาพคล่อง-ความสามารถในการชำระหนี้ธุรกิจและครัวเรือนไทย (thansettakij.com)
https://www.thansettakij.com/finance/560110
Krungthai COMPASS มองว่า แม้ภาคธนาคารไทยจะมีฐานะการเงินแข็งแกร่งและได้รับผลกระทบจำกัดจากวิกฤตการเงินของธนาคารในต่างประเทศ แต่ยังต้องเฝ้าระวังปัญหาสภาพคล่องและ
ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไทยก็ประสบกับภาวะการเงินตึงตัวและผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อยู่เบื้องหลังของวิกฤตการเงินของธนาคารในต่างประเทศ


สตาร์ทอัพไทยสะเทือน เม็ดเงินลงทุนหาย (thansettakij.com)
https://www.thansettakij.com/technology/technology/560106
ส่วนนายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย (KBANK)กล่าวว่าไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติธนาคารในสหรัฐและยุโรปรอบนี้ เพราะไทยไม่ได้พึ่งแหล่งเงินทุนจากจากสหรัฐ แต่ต่อไปต้องระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาจะระมัดระวังมากอยู่แล้ว อย่างที่เคยบอกว่า การระดมทุนของ VC/ Start-UP ยากขึ้นเพราะต้นทุนแพง


ธนาคารสหรัฐยังวุ่น คนยังแห่ถอนเงิน แบงก์ขอรัฐคุ้มครองเงินฝากทั้งหมด แต่สภาคงไม่อนุมัติ
https://www.prachachat.net/world-news/news-1244108
หลังจากเกิดปัญหา bank run กับธนาคาร Silicon Valley Bank และ Signature Bank ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐได้เข้าแก้ไขสถานการณ์โดยให้ บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corporation: FDIC) คุ้มครองเงินฝากทั้งหมดที่ฝากในธนาคารทั้งสองแห่ง เพื่อไม่ให้วิกฤตความเชื่อมั่นในธนาคารลุกลาม  
แต่นั่นก็ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นของผู้ฝากเงินได้มากนัก ธนาคารในสหรัฐ โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็กต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ผู้ฝากเงินถอนเงินออกจำนวนมาก
การคุ้มครองเงินฝากของ SVB และ Signature Bank ก่อให้เกิดคำถามและข้อถกเถียงว่า แล้วธนาคารขนาดใหญ่ที่รับความเสี่ยงมากกว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐหรือไม่ ในขณะที่สถาบันขนาดเล็กอื่น ๆ ก็กำลังเผชิญกับการถอนเงินอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จึงเกิดการเรียกร้องจากธนาคารหลายแห่งและผู้ฝากเงินว่า รัฐควรคุ้มครองเงินฝากให้ครอบคลุมทั้งหมดไม่ว่าจะในธนาคารเล็กหรือธนาคารใหญ่ 
แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะต้องแก้กฎหมายผ่านกระบวนการในรัฐสภา ซึ่งผู้แทนจากพรรครีพับลิกันคัดค้าน


เพี้ยนเบลอเพี้ยนเซ็งเป็ดเพี้ยนดีออก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่