พาเที่ยวเมืองทงยอง (Tongyeong) เมืองร้อยเกาะของเกาหลีใต้

สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับกระทู้ท่องเที่ยวเกาหลีหลังจากอัดอั้นมานานกับสามปีที่บินไปไหนไม่ได้เลย คิดถึงเกาหลีมากมาย ทั้งทะเล ภูเขา หมูย่าง ปลาดิบ และอากาศเย็นๆ รอบนี้ได้โอกาสเลยขอมาแบ่งปันเมืองทางเลือกสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบวิวทะเลแบบจุกๆ เน้นธีมนั่งโง่ๆ ริมทะเล มองไปทางไหนก็เจอแต่สีฟ้าเต็มไปหมด อาหารทะเลสดอร่อย มีเมนูอาหารท้องถิ่น ต้องที่นี่เลยครับ "ทงยอง" เมืองร้อยเกาะทางใต้ของเกาหลี 

เมืองทงยองเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าในอดีต มีเกาะขนาดเล็กจำนวนมากอยู่รอบๆ และด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาและทะเลที่สวยงาม ทำให้กลายเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวทงยองเป็นคนเกาหลีครับ นิยมมาขึ้นเรือเพื่อเที่ยวชมเกาะต่าง รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ด้วย

แผนที่ท่องเที่ยวเมืองทงยองจาก www.tongyeong.go.kr


การเดินทางมาเมืองทงยองค่อนข้างสะดวกมากครับ ถ้าเดินทางจากปูซาน มีรถบัสข้ามเมืองระหว่างปูซาน-ทงยองเกือบทุก 20 นาที โดยขึ้นรถจากปูซานที่ Busan Seobu Bus Terminal (เดิน 300 ม. จากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Sasang สาย 2 สีเขียว) นั่งรถทัวร์ประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็จะถึงท่ารถเมืองทงยอง (Tongyeong Intercity Bus Terminal) ครับ 

หรือใครที่ต้องการเดินทางจากสนามบินกิมแฮ (ปูซาน) ไปถึงเมืองทงยองเลยก็วิธีเดียวกันครับ จากสนามบินจะมีรถไฟฟ้า light rail มายังสถานี Sasang ลงเดินต่ออีกหน่อยก็ถึงท่ารถ Seobu ครับ ถ้านั่งบัสจากโซลจะนานหน่อย ประมาณ 4 ชม. ครับ

นอกเรื่องนิดนึงสำหรับสายช็อปปิ้งเสื้อผ้า (โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว) ตรงสถานี Seobu จะมีห้างที่ขายเป็นลักษณะ outlet อยู่ครับ และบางทีก็มีบูทมาตั้งในสถานีด้วย อย่าลืมลองไปเสียเงินกันดูก่อนเดินทางนะครับ

เหยียบเมืองทงยอง

ต้องขอออกตัวก่อนว่าแผนการเที่ยวทงยองที่วางไว้ตอนแรกกับตอนไปเที่ยวจริงเปลี่ยนไปมากเลยครับ เดิมทีคิดว่าจะมาช่วงปีใหม่และใช้เวลาในทงยองซัก 5 วัน แต่ติดงาน เลยต้องเปลี่ยนมาเที่ยวช่วงต้นเดือนก.พ. และมีเวลาอยู่ที่ทงยองแค่ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น ตอนแรกกะว่าจะกินอาหารทะเล เที่ยวชมเกาะต่างๆ ซัก 2-3 เกาะ เดินขึ้นเขาดูสะพานแขวนและนั่งกระเช้าขึ้นจุดชมวิวเขามีรึกซาน แต่พอมาถึงก็เจอเรื่องช็อคก่อนเลย คือกระเช้าปิด! ปิดเกือบทั้งเดือนกุมภาพันธ์ ตอนแรกที่เช็คมาช่วงปีใหม่ก็เปิดปกติ ไม่มีปัญหา แต่พอเลื่อนตารางแล้วพลาดเองที่ไม่ได้เช็คอีกรอบครับ เลยต้องทำใจตัดเขามีรึกซานออก เหลือแค่เดินชมวิวท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง คาเฟ่ริมทะเลและเกาะฮันซานโดเท่านั้น

หลังจากที่เราลงรถบัสที่ท่ารถเมืองทงยองแล้ว ก็เดินทางต่อด้วยรถเมล์ในเมือง เพื่อมาเช็คอินโรงแรมก่อนเป็นอันดับแรกครับ โรงแรมที่เราเข้าพักชื่อ ANCHOVY HOTEL อยู่ห่างจากจุดท่องเที่ยวหลักแถวๆ ท่าเรือ Tongyeong hang Port Ferry Terminal และตลาดกลางประมาณ 1.5 กม. ที่เราเลือกโรงแรมนี้เพราะอยู่ใกล้แหล่งร้านอาหารและมีวิวท่าเรือที่เห็นได้จากห้องแบบกว้างๆ เลยครับ 

รูปห้องพักและวิวทะเลจากระเบียงห้อง


สำหรับสถานที่เที่ยววันแรกที่เราเลือกคือ Dpirang The Garden of Lights เนื่องจากอยู่ใกล้ที่พักและสามารถเดินไปได้ครับ ตัว Dpirang จะเป็นภูเขาลูกเตี้ยๆ ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นภูเขาแห่งเลเซอร์และไฟ LED เหมือนตั้งใจจะให้เป็นดินแดนในเทพนิยาย ที่เต็มไปด้วยแสงสีสวยงาม เค้าจะเปิดให้เข้าชมได้หลังพระอาทิตย์ตกประมาน 18.00 เป็นต้นไปครับ จัดให้เข้าเป็นรอบๆ เดินตามฐานไปเรื่อยๆ ครับ โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีเลยครับ ใครชอบถ่ายรูปกับแสงสีกลางคืน ต้องมาลองเลย


ต้องขออภัยในสกิลการถ่ายรูปด้วยครับ แนะนำให้ลองไปดูรูปเพิ่มเติมจากในเน็ตหรือ ig นะครับ #디피랑빛의정원

วันที่ 2 กับคาเฟ่ริมทะเลและเกาะ Hansando

วันที่สองของทริปนี้ เราเริ่มต้นช่วงเช้าด้วยคาเฟ่ริมทะเล ที่อยู่ด้านซ้ายเกือบสุดของทงยองครับ ร้านนี้ชื่อว่า "Baeyangjang" (배양장) เจอมาจาก ig เพราะมีคนไปถ่ายรูปเยอะครับ ต้องบอกก่อนว่าร้านอยู่ห่างจากตัวเมืองและที่พักเราไปประมาณ 13 กม. ต้องนั่งรถเมล์ขึ้นลงเขาไปเรื่อยๆ ประมาน 30-40 นาทีครับ แอบนาน แต่ระหว่างทางที่นั่งรถไปวิวสวยมากครับ มีทั้ง ภูเขา ทะเลมองจากวิวด้านบน และหมู่บ้านชาวประมง เหมือนเที่ยวชมวิวไปในตัวครับ ในส่วนของตัวคาเฟ่และวิวจากคาเฟ่นั้น ให้รูปอธิบายดีกว่า... เจ้าของร้านคุยดีมากด้วยนะ

ตัวร้านจะเป็นตัวตึกชั้นเดียว เฉพาะกล่องซ้ายนะ และสามารถเอากาแฟมากินด้านหน้าร้านได้ครับ


ด้านในร้านก็จะอารมณ์นี้ครับ ตอนเราไปนังไม่มีคนเลย แต่นั่งไปซักพัก ก็มีคนตามมาเต็มเลย


อันนี้เป็นวิวระหว่างทางที่นั่งรถเมล์ข้ามเขาครับ พอลงรถก็จะต้องเดินเข้าไปอีกนิดหน่อย วิวท่าเรือสวยมาก มีจุดให้ถ่ายรูปเต็มเลย

 
วิธีเดินทางไป Baeyangjang คือนั่งรถเมล์สาย 541 ถนนด้านในตลาด (ตรงข้ามท่าเรือ) และตอนขากลับนั่งสาย 540 จากป้ายในหมู่บ้าน ห่างจากร้านไปประมาณ 200 ม. หรือใครจะลองเรียกแท็กซี่ไปก็ได้นะครับ เจ้าของร้านบอกว่าเรียกจากแอพได้เลย ค่ารถประมาณ 12,000 วอน

ช่วงบ่ายหลังจากกลับเข้าเมืองมาแล้ว แผนตอนแรกของเราคือการไปขึ้นกระเช้า เชมวิวบนเขามีรึกซานครับ แต่กระเช้าปิด เราเลยเปลี่ยนแผนมาเที่ยวเกาะ Hansando แทน ที่เลือกเกาะนี้เพราะว่าอยู่ค่อนข้างใกล้กว่าเกาะอื่น มีรอบเรือออกบ่อยที่สุดและใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาทีครับ แลนมาร์คสำคัญคือ ศาลเจ้า "เชซึงดัง" (제승당) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ทัพเรืออีซุนชิน

ตัวศาลเจ้าอยู่ห่างจากท่าเรือ เดินประมาณ 15 นาทีครับ

นอกจากตัวศาลเจ้า ก็ยังมีเส้นทางธรรมชาติให้เกินอีก 4-5 เส้นทางครับ เขาและต้นไม้บนเกาะดูสมบูรณ์มากเลย เดี๋ยวคงต้องมาซ่อมรอบหน้าครับ


ระหว่างนั่งเรือเฟอรี่ก็ชมวิวไปเรื่อยๆ


วิธีเดินทางไป Hansando สะดวกที่สุดในเกาะทั้งหมดครับ รอบเรือมีทุกชั่วโมง สามารถเดินไปซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือเลยครับ เค้าจะขายเป็นตั๋วแบบไปและกลับ โดยจะมีเวลาให้เราเดินเที่ยวประมาณ 1 ชม. แล้วก็ขึ้นเรือรอบถัดไปที่มาถึง กลับขึ้นฝั่งครับ หมายเหตุนิดนึงตอนซื้อตั๋วเรือ เจ้าหน้าที่จะดูไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่กับการขายตั๋วให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็ไม่ได้ใช้เวลานานครับ คนที่เจอสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับดีเลย ติดตรงที่บนตั๋วเรือจะมีชื่อเราพิมพ์อยู่ด้วย ซึ่งเค้าจะขอให้เราช่วยเขียนเป็นอักษรภาษาเกาหลีให้ แนะนำให้เขียนเผื่อเอาไว้ยื่นให้เค้าก็ดีครับ

ขอจบการท่องเที่ยววันที่สองและจุดท่องเที่ยวในทงยองไว้ตรงนี้ เดี๋ยวมาต่อเรื่องของกินนะครับ (เน้นมากกว่าที่เที่ยวอีก 555)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่