JJNY : 5in1 ‘ทักษิณ’มั่นใจพท.ชนะแน่│‘ก้าวไกล’ลุยชลบุรี│แอมเนสตี้ร้องรบ.ไทย│กราดยิงต่อเนื่อง│เซเลนสกีจี้เร่งส่งเครื่องบิน

‘ทักษิณ’ มั่นใจพท.ชนะแน่ แต่ต้องมีพันธมิตร ลั่นขอเลือกศัตรู เป็นทางสุดท้ายตั้งรบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3891377
 
 
 
ทักษิณ มั่นใจพท.ชนะแน่ รับต้องมีพันธมิตรตั้งรบ.-พปชร.เป็นทางเลือกสุดท้าย  
 
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าเขาพร้อมที่จะรับโทษจำคุกในไทยแลกกับการที่จะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปในไทยที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะออกมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม
 
สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น นายทักษิณมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งโดยได้ที่นั่งอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของจำนวนที่นั่งทั้งหมด 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร เพราะประชาชนเบื่อรัฐบาลที่บริหารโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
 
“ถ้ายึดอำนาจหลังรัฐประหารแค่ 1 ปี แล้วปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ประชาคนคงไม่รู้สึกแย่ แต่นี่ใช้เวลา 8 ปี แล้วยังขออีก 2 ปี ผมว่ามันเกินไป มันพิสูจน์ให้คนเห็นธาตุแท้ คือความกระหายที่จะยึดครองอำนาจ” ทักษิณกล่าว
 
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง แต่ก็ยังต้องการพันธมิตรทางการเมือง กระนั้นก็ดีเขารับว่า เป็นเรื่องยากที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับผู้ทำรัฐประหารทั้งกับเขาและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้เป็นน้องสาว กระนั้นก็ดีเขาไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับศัตรูทางการเมือง ซึ่งรวมถึงพรรคพลังประชารัฐ แต่มันอาจเป็นทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกแรก และพรรคเพื่อไทยอาจไม่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะขณะนี้มีสมาชิกวุฒิสภาหลายคนที่เป็นอิสระ และพร้อมที่จะลงคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง
 
เมื่อถามถึงผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย นายทักษิณกล่าวว่า แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของเขาจะเป็นหนึ่งใน 3 รายชื่อร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสมาชิกพรรคอีกคน โดยเขาเชื่อว่าบุตรสาวของเขาพร้อมสำหรับการแข่งขันทางการเมือง เพราะได้เรียนรู้เรื่องการเมืองจากเขาตั้งแต่อายุยังน้อย และแพทองธารจะทำได้ดีกว่าเขา หากเธอได้เป็นนายกรัฐมนตรี 
 
“เธอน่าจะดีกว่าผม เพราะใจเย็นกว่า อดทนกว่าที่ผมคิด และเธอมีความรู้มาก”
 


‘ก้าวไกล’ ลุยชลบุรีปราศรัยใหญ่เย็นนี้ที่แหลมฉบังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.10เขต
https://www.dailynews.co.th/news/2137912/

“ก้าวไกล” ลุยชลบุรี “พิธา-ศิริกัญญา-ธนาธร” ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่เย็นนี้ที่แหลมฉบัง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ครบ 10 เขต ทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.เมืองชล. 

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. แกนนำพรรคก้าวไกล นำโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรค น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เดินสายลงพื้นที่  จ.ชลบุรี  เพื่อแนะนำนโยบายพรรค และแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.

โดยช่วงเช้า น.ส.ศิริกัญญา และคณะ ลงพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านแหลมฉบัง หมู่ 3 ต.สุขลา อ.ศรีราชา เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชน กรณีเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรม หลังจากติดตามมาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โดยพบว่ายังมีประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา และอาจมีการเวนคืนผิดพลาดหรือผิดวัตถุประสงค์  ทั้งนี้ ประชาชนได้ฝากพรรคก้าวไกล ติดตามเรื่องการซื้อคืนเรือประมง น.ส.ศิริกัญญา ในฐานะ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ก็เกิดคำถามต่อสาเหตุที่ทำให้กรณีดังกล่าวค้างคามาตลอด โดยให้ความเชื่อมั่นว่า หากพรรคก้าวไกล ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ให้เป็นรัฐบาล จะมีการแก้ไขกฎหมายประมงให้เป็นธรรมมากขึ้น และให้เกิดการเยียวยาโดยเร็วที่สุด

ทางด้านนายธนาธร ร่วมหาเสียงตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เริ่มต้นที่ตลาดสดหอนาฬิกาเทศบาลเมืองศรีราชา เดินหาเสียงช่วยนายกฤษฏิ์ ชีวะธรรมานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 6 พรรคก้าวไกล ก่อนเดินทางต่อไปยังวัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ ช่วยหาเสียงให้กับ น.ส.นิชนันท์ วังคะฮาต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 10 พรรคก้าวไกล จากนั้น เดินสายต่อมาที่หาดพัทยา อ.บางละมุง หาเสียงร่วมกับ นายยอดชาย พึ่งพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 9 พรรคก้าวไกล ก่อนร่วมเดินตลาดลานโพธิ์นาเกลือ อ.บางละมุง หาเสียงร่วมกับ นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล เป็นลำดับสุดท้าย โดยทุกสถานที่ ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี

สำหรับไฮไลต์วันนี้ ตั้งแต่ 18.30 น. เป็นต้นไป พรรคก้าวไกลจะมีเวทีปราศรัยใหญ่ที่สวนสาธารณะเทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา เพื่อแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ทั้ง 10 เขต และประกาศความพร้อมของพรรคในสนามเลือกตั้ง จ.ชลบุรี ผู้ปราศรัยนำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา นายธนาธร น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสุเทพ อู่อ้น ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ.
 

 
แอมเนสตี้ ร้องรัฐบาลไทย อย่าเนรเทศ ‘ชาวเมียนมา’ ลั่น ปวศ.ที่ผ่านมา ยังเคยช่วยผู้ลี้ภัย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3891548

แอมเนสตี้ ย้อนบทบาท รบ.ไทย เคยช่วยผู้ลี้ภัย วอนอย่าส่งกลับ ‘ชาวเมียนมา’ หลังหนี รปห. ถูกสอบปากคำที่ อ.แม่สอด
 
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด, กองกำลังนเรศวร, เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก และฝ่ายปกครอง  อ.แม่สอด พร้อมหน่วยข่าวด้านความมั่นคง นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เกือบ 40 คูหา บริเวณกลางหมู่บ้านมารวย ย่านชุมชนหนาแน่น ถนนตาลเดี่ยว ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมสอบปากคำพลเมืองเมียนมาประมาณ 100 คนซึ่งในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย เมื่อวันที่ 22 มี.ค. และ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากสืบทราบว่ามีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า โดยเฉพาะกลุ่มกองกำลังป้องกันประชาชน หรือ PDF หนีข้ามจากฝังเมียนมาเข้าหลบอาศัยอยู่ในพื้นที่แม่สอด นั้น
 
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นาง เส็ง (Nang Sein) นักวิจัยประเทศเมียนมา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า ทางการไทยต้องไม่เนรเทศพลเมืองเมียนมากลับไปประเทศเมียนมา ซึ่งพวกเขาอาจเสี่ยงที่จะถูกคุมขัง ทรมาน หรือสั่งประหารชีวิตตามคำสั่งของกองทัพเมียนมา
 
พลเมืองเมียนมาซึ่งหลบหนีข้ามพรมแดนเข้ามา ยังคงต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดกลัว เพราะอาจถูกส่งกลับประเทศ และไม่ทราบชะตากรรมของตนเอง หลายคนหลบหนีจากบ้านเกิด หลังการทำรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เพื่อให้ปลอดภัยจากการปราบปรามการชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรงของกองทัพเมียนมา พวกเขาต้องตกอยู่ในอันตราย เพียงเพราะเข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบ หรือเพราะความเชื่อทางการเมืองของตน พวกเขาไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครได้ และมีโอกาสในการหาเลี้ยงชีพไม่มากนัก
 
ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ประเทศไทยรองรับและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ลี้ภัยทั่วทั้งภูมิภาค ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมาและรัฐภาคีอาเซียน ประเทศไทยสามารถมีบทบาทให้ความคุ้มครองที่จำเป็นต่อประชาชนที่หลบหนีจากการถูกกดขี่และปราบปรามในเมียนมา
 
ทางการไทยควรยึดมั่นตาม ‘หลักการไม่ส่งกลับ’ (principle of non-refoulement) ที่รับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ของไทยเอง ประชาชนเหล่านี้มีสิทธิที่จะมีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และเข้าถึงการขอลี้ภัย” นาง เส็ง กล่าว
 
ทั้งนี้ แอมเนสตี้ฯ ยังชี้ด้วยว่า จากกรณีดังกล่าว แอมเนสตี้ฯ ทราบข้อมูลจากสมาชิกชุมชนในท้องถิ่น ซึ่งระบุว่าทางการมีรายชื่อบุคคลที่เป็นเป้าหมายของการจับกุม รวมทั้งคนที่หนีทหาร อดีตข้าราขการที่เข้าร่วมกลุ่มขบวนการอารยะขัดขืน (Civil Disobedience Movement หรือ CDM) นักการเมือง นักกิจกรรม และบุคคลที่เป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ โดยคาดว่ามีประมาณ 100 คน รวมทั้งเด็กที่ถูกสอบปากคำด้านนอกห้องเช่าของตนเอง และต่อมาได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกันเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ตามข้อมูลของแกนนำชุมชน ทางการยังได้เข้าตรวจค้นอาคารอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพลเมืองเมียนมาในวันที่ 23 มีนาคมที่อำเภอแม่สอด แกนนำชุมชนบอกว่า ทางการไทยมีรูปถ่ายและรายชื่อของบุคคลซึ่งกองทัพเมียนมาต้องการตัว
 
ในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ประเทศไทยมีพันธกรณีต้องไม่เนรเทศบุคคลในกรณีที่จะเกิดอันตรายอันไม่สามารถเยียวยาแก้ไขได้
 
กว่า 2 ปีหลังการทำรัฐประหารของกองทัพเมียนมา ได้เกิดการพลัดถิ่นฐานของประชาชนกว่า 1.4 ล้านคนในเมียนมา คาดการณ์ว่าประชาชน 52,000 คนได้หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน ตามข้อมูลของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ช่วงหลายปีที่ผ่านมา พลเมืองเมียนมาที่หลบหนีจากความรุนแรงและการประหัตประหารในเมียนมา ได้พยายามขอที่ลี้ภัยตามพรมแดนของประเทศไทย เป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นต่อไปหลังการทำรัฐประหาร คาดว่าประชาชน 22,400 คน ได้หลบหนีข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่การทำรัฐประหาร


 
กราดยิงต่อเนื่อง ภาพสะท้อนความล้มเหลวของนโยบาย คสช. ส่งต่อถึง “ประยุทธ์” ?
https://www.matichon.co.th/clips/news_3891532

จากกรณีเหตุการณ์กราดยิงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายของรัฐบาล นำไปสู่ข้อสังเกตว่าเป็นความล้มเหลว ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในความพยายามจะแก้ปัญหาเรื่องนี้หรือไม่ เนื่องจากย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มต้น คสช. มีการประกาศถึงการควบคุมเรื่องนี้อย่างชัดเจน  ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่