แชร์ประสบการณ์การสร้างบ้านครั้งแรก โดยมอบหมายให้คนที่เราไว้ใจบริหารจัดการให้

เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง เป็นเด็กบรรจุใหม่ในที่ทำงานเดียวกัน ตำแหน่งคือวิศวกรโยธา  เขาจบจากมหาวิทยาลัยดังแถวพระราม7  ด้วยวุฒิปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะที่เรียน 5 ปี วุฒิที่ได้สามารถเป็นครูสอนได้ด้วย  ตอนเรารู้จักกับเขา  เขาอายุ 28 ปี  เพิ่งมาบรรจุทำงานที่เดียวกับเรา ราว 7 เดือน
 แต่ตอนที่เขามาสร้างบ้านให้ อายุเขา 29 ปี เพื่อไม่ให้เพื่อนๆที่ทำงานไปไว้ใจให้คน คนนี้สร้างบ้าน  เพราะหลังจากนั้นเรารู้ข่าวมาว่ามีคนติดต่อเขาเรื่องการสร้างบ้าน  และนี่คือข้อความที่เราพิมพ์เตือนไว้ใน Facebook

 ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องสร้างบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ บ้านที่อาศัยอยู่คือซื้อจากโครงการบ้านจัดสรร  เมื่ออยากมีบ้านน้อยในสวน  บนที่ดินมรดกที่พ่อแม่ให้ก็ทำการจ้างเขียนแบบบ้าน คนที่รับจ้างก็คือชายหนุ่มรุ่นลูก ในที่ทำงานเดียวกันกับเราเองค่ะ ที่เข้าไปทำความรู้จักเขาก็เพราะทราบมาว่าเขาสามารถเขียนแบบบ้านได้  เพราะเขาเรียนจบวิชาชีพด้านการก่อสร้างมาโดยเฉพาะ  เมื่อถึงเวลาต้องทำการก่อสร้างก็ลองถามเขาว่าสามารถควบคุมการก่อสร้างให้ได้หรือไม่  เขาก็ตอบว่าทำได้  และเมื่อดูจากโปรไฟล์ของเขาแล้ว  เราก็คิดว่าเขาน่าจะมีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างมาบ้าง ก็เลยชวนเขาให้มาสร้างบ้านให้และคุยกันว่า  ให้เขาสร้างให้ดีเพื่อหวังผลว่า  จะมีงานเข้ามาโดยติดต่อผ่านเรา  และเราจะส่งงานต่อให้เขา  ถือเป็นรายได้เสริมบ้างก็ยังดี  
      เขาใช้เวลาสร้างบ้านให้เราร่วมสี่เดือน  ก็เสร็จ  หรือ  ไม่เสร็จดีนะ  เพราะด้วยความไร้ฝีมือของช่างที่เขาไปว่าจ้างมา  ทำให้บ้านมีปัญหาตั้งแต่ยังไม่เข้าไปอยู่  เราต้องจ้างคนมาทำท่อประปาใหม่ เพราะน้ำซึมทำให้ปั๊มน้ำอัตโนมัติทำงานทุก 3 นาที   อยู่ๆไปราว 3 เดือน  ฝ้าเพดานก็ร่วงลงมา ต้องไปจ้างช่างคนอื่นมาทำให้  เพราะเราไม่สามารถติดต่อผู้ควบคุมงานก่อสร้างของเราได้ เพราะเขาไม่สนใจจะคุย  ปิดการสื่อสารทุกช่องทาง  และด้วยงบประมาณที่บานปลายไปสองแสนกว่า  ทำให้เราประสบความยากลำบากในการปรับปรุง  ต้องปล่อยปัญหาของบ้านไว้แบบนั้น  เริ่มตั้งแต่  การยาแนวพื้นกระเบื้องที่หลุดเป็นรู    มดเดินพาเหรดกันตลอด  และเวลาเดินจะมีเสียงดังกรอบแกรบ  จากการปูกระเบื้องที่ใช้ปูนแบบประหยัด  บ้านที่ส่วนใหญ่เป็นกระจก  เวลาฝนตก น้ำฝนก็ซึมเข้าบ้านทางขอบรอยต่อกระจก  ทุกทิศทุกทาง  ไม่มีบานไหนที่กันน้ำได้เลย ฝ้าเพดานที่เริ่มเลื่อนหลุด  แบบค้างๆคาๆ  ต้องเงยดูทุกวันว่าจะร่วงวันไหน  ฝาผนังที่ฉาบเป็นคลื่น  เชื้อราที่ขึ้นบนผนังบ้านด้านใน  หลังคาเมทัลชีทที่ตอนซื้อเขาบอกว่าจะแพงกว่าที่ประมาณการ  เพราะเป็นสีขาวพิเศษตะไคร่น้ำไม่เกาะ จะขาวอยู่แบบนั้นเป็น 10 ปี แต่เราเพิ่งอยู่ได้เพียง ปีเศษๆ สภาพหลังคาก็มีแต่ตะไคร่น้ำเกาะ  เหมือนสร้างมาแล้ว 10ปี  บ้านที่อยู่อาศัยมาเพียงปีกว่า  กับปัญหามากมายที่ต้องเผชิญ  เราก็เข้าใจว่าเขาเป็นมือใหม่  ทั้งช่างทั้งคนคุม  ที่จริงก็ทำใจเอาไว้แล้ว  แต่ไม่คิดว่าจะเขาจะทอดทิ้ง  เราคิดว่าเขารู้หรือเปล่าว่านะ  ว่าช่างที่เขาจ้างมาไร้ประสบการณ์  เขาต้องควบคุมการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด  แต่เท่าที่เราดูจากผลงานที่ออกมา  เราว่าเขาไว้ใจช่างของเขามากเกินไป  และประกอบกับเราผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน  ก็ไว้ใจเขามากเกินไป  เพราะเข้าใจว่าเขาตั้งใจจะสร้างบ้าน เนื่องด้วยเขาต้องรักษาชื่อเสียงของเขา  เพราะเขาอายุยังน้อย  ยังต้องไปต่อข้างหน้า  แต่เราคิดผิด  เขาน่าจะไม่ได้เต็มใจในการประกอบอาชีพให้ตรงกับที่เขาได้ร่ำเรียนมา    
       เมื่อการสร้างบ้านเดินมาจนสิ้นสุด  ท่ามกลางความไม่สมบูรณ์  เขาก็ส่งงานทั้งแบบนั้น  แบบไม่สนว่าเราจะทำอย่างไรต่อจากนี้  ที่พีคกว่านั้น  บ้านหลังนี้สร้างในงบประมาณที่บานปลาย  แต่เขาก็มาขอค่าแรงจากเราอีก 1 แสนบ้าน  ซึ่งเราบอกว่าบ้านที่สร้างแบบคุมงบไม่ได้เลยแบบนี้  ทำให้เราประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง  แล้วเราจะเอาที่ไหนมาจ่ายค่าแรง  สุดท้ายเมื่อเรายืนยันว่าไม่มีให้ และไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะให้เขาได้ตอนไหน  เขาก็พูดว่า  การเป็นหนี้คนอื่นต้องบอกได้ว่าจะจ่ายให้เขาได้ตอนไหน  เรามีความงงในงง  ว่าเราเป็นหนี้เขาตอนไหน  และตอบไปว่า  บอกไม่ได้นะว่าจะมีเงินตอนไหน  ด้วยสีหน้าของเขาที่ไม่พอใจในคำตอบของเราเป็นอย่างมาก  เขาก็พ่นประโยคสุดท้ายใส่เรา....ว่า  หน้าด้าน 
     ท่าทางเราจะหน้าด้านจริงค่ะ  เพราะพอประโยคนั้นหลุดออกมาจากปากเขา  เราก็หน้าชา  แล้วเราก็ต้องหน้าด้านอยู่ต่อไปในโลกใบนี้  ในบ้านหลังนั้น  ขอบใจเขาคนนั้นที่สอนบทเรียนให้เรารู้ว่า  เราอย่าไปหวังดีกับใคร  ถ้าเขาไม่ได้ร้องขอ  และอย่าไปคาดหวังว่าเราดีกับเขาแล้วเขาจะดีตอบ  เขาจบคณะวิศวกรรมโยธา ส่วนจะเรียนวิชาเอกอะไรมา  จะเอกการแสดงหรือไม่ก็ตาม  แต่เขาไม่น่าจะแสดงบทบาทให้เราคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ  ทั้งที่ความเป็นจริงเขาไม่ใด้ใช้มันเลย  เรื่องสร้างบ้านเป็นหรือไม่  เราก็พร้อมทำใจและคิดอยู่แล้วว่าอาจเกิดขึ้นได้  แต่เรื่องที่เขาไม่ยอมรับผิดชอบในสิ่งที่เขาสร้างนั้น  เราคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคนที่เรียนมหาลัยดังและผลการเรียนดี  เราคิดผิดอย่างสิ้นเชิง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่