“โทนี่” เชื่อ “อิ๊งค์” เป็นนายกฯ ดีกว่าตัวเอง เปิดแคนดิเดตคนที่ 3 วันที่ 5 เม.ย. เผยความชำนาญแต่ละคน
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7571747
“โทนี่” เชื่อ “อิ๊งค์” เป็นนายกฯ ดีกว่าตัวเอง เปิดแคนดิเดตคนที่ 3 วันที่ 5 เม.ย. เผยความชำนาญแต่ละคน ชี้ต่างคาแร็กเตอร์กัน มีความรู้คนละด้าน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มี.ค.2566 นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือ
โทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถาม
ผ่าน CareTalk x Care ClubHouse
เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? กรณีให้คำแนะนำ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ฐานะบุตรสาวอย่างไรในสนามการเมืองว่า น้อง
อิ๊งค์เห็นผมกับการเมืองตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนที่ผมตั้งไทยรักไทยเขาอายุ 12 ขวบ เขาไปกับผมตลอด ไปหาเสียงด้วย เขาจึงเห็นมาตลอด เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่เป็นคนพูดตรงๆ และศึกษาเยอะ หาข้อมูลได้เร็วกว่าสมัยผมเยอะ เขามีวิจารณญาณมากพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ตอนนี้สิ่งที่ผมห่วงเขาก็คือตอนนี้ท้องแก่แล้ว ก็ห่วงเรื่องสุขภาพช่วงนี้ก็ไม่ให้เดินทางไกลๆ ให้เดินทางใกล้ๆ ได้1-2 ชั่วโมง ดีที่เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.เขาคลอดก่อนหลายวันอยู่ ก็ค่อยยังชั่ว ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม เขารู้หมด อยู่ในหัวหมดว่าโดนอะไรช่วงไหน เบื้องลึกเบื้องหลังผมพูดกับเขาทุกเรื่อง
นาย
ทักษิณ ตอบคำถามถึงบทเรียนในการเลือกตั้งปี 54 ที่จะแนะนำให้พรรคพท.ไม่เดินซ้ำรอยเดิม เพื่อไม่ให้จบเหมือนรัฐบาล น.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า คุณ
ยิ่งลักษณ์กับผมดีเอ็นเอใกล้เคียงกัน ส่วนของลูกสาวเขาได้ดีเอ็นเอแม่กับดีเอ็นเอผม ก็จะต่างจากคุณ
ยิ่งลักษณ์ ซึ่งเขาจะชัดเจน เด็ดขาดและมีความเป็นคนรุ่นใหม่กว่า เด็กรุ่นใหม่จะตรงไปตรงมาโผงผาง ไม่มีพูดอ้อมค้อมและโกหกไม่เป็น ส่วนเรื่องแนวนโยบายที่ใช้ต่อเนื่องกันนั้น ตอนคุณยิ่งลักษณ์คือทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่วันนี้ดีเอ็นเอทักษิณคิด ดีเอ็นเอทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็ไปทำ
นาย
ทักษิณ ตอบคำถามกรณีถ้าเพื่อไทยได้ 310 เสียงและได้ตั้งรัฐบาล ในมุมมองของพ่อจะให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ของประเทศได้หรือไม่ว่า ถ้าถามว่าเขาเป็นได้ไหม เขาเป็นได้ดีทีเดียว แต่อย่างว่าเขาบรรลุนิติภาวะแล้วจะไปชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องเลือกเองว่าจะเป็นหรือไม่เป็น ต้องให้ตัดสินใจเอง ผมครอบครองได้แต่ครอบงำเขาไม่ได้ เพราะเขาโตแล้ว เขาคิดเองได้ แล้วแต่เขา ที่เขาทุ่มเททำงานกับพรรคมาขนาดนี้ พรรคก็เกรตฟูลกับเขามาก ผมในฐานะก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาก็เกรตฟูลที่เขาทุ่มเทและทำได้ดีทีเดียว ทั้งๆ ที่ท้องแก่ก็ยังอุตส่าห์ขยันหมั่นเพียร เขามีคาแรกเตอร์ซึ่งบางอย่างผมไม่มี เพราะเขาได้ดีเอ็นเอแม่มาผสมด้วย เขาทำได้ดีกว่าผม
“
พรรคมีแคนดิเดต 3 คนซึ่งคนที่สามคิดว่าวันที่ 5 เม.ย.ก็คงจะเปิดตัวแล้ว” นายทักษิณ ระบุ
นาย
ทักษิณ ตอบคำถามกรณี นาย
เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เหมาะจะเป็นนายกฯหรือไม่ว่า คุณ
เศรษฐาเหมือนตอนผมเข้าสู่การเมืองใหม่ๆ เป็นนักธุรกิจ ทำงานมีเป้าหมายชัดเจน ตรง ขวานผ่าซากเหมือนตอนผมเข้าพรรคพลังธรรม ผมเชื่อว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยทั้งสามคน ใครก็เป็นได้ อิ๊งค์เล่าให้ผมฟังว่าเขามีกติกาว่าใครเป็นนายกฯ อีกสองคนต้องช่วย ซึ่งทั้งสามคนมีคาแร็กเตอร์และความชำนาญคนละแบบ
อิ๊งค์จะชำนาญเรื่องการเมืองระดับรากหญ้า เพราะเขาอยู่กับผมมานาน เขาไปพบปะผู้คนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เค้าจะมีความเห็นอกเห็นใจสูง รวมถึงเรื่องคนรุ่นใหม่และเทคโนโลยี
ส่วนคุณ
เศรษฐาถนัดเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องธุรกิจและเรื่องการหารายได้
ส่วนอีกคนหนึ่งยังไม่บอกว่าเป็นใคร แต่จะเลือกมาคนละคาแร็กเตอร์ ก็จะไม่ใช่นักธุรกิจเหมือนคุณเศรษฐา แล้วเวลาทำงานใครเป็นนายกฯ อีกสองคนต้องช่วยกันคิดและให้แนวทาง เลยไม่รู้ว่าใครจะได้เป็น
“
ปกติทุกคนจะแย่งกัน แต่ครั้งนี้ต่างคนต่างจะเสียสละให้กัน ผมถามน้องอิ๊งค์ก็บอกว่าให้พี่นิดเป็นเถอะ ส่วนนิดก็บอกว่าน้องอิ๊งค์เหมาะมาก ต่างคนต่างบอกใครก็ได้เราช่วยกัน ก็เลยยังไม่รู้ สงสัยต้องให้พรรคเพื่อไทยจับฉลากเอา มันอยู่ที่ว่าใครจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองในช่วงนี้ได้ดีกว่ากัน ส่วนตัวมองว่าคนที่จะเป็นนายกฯ นั้น 1.ต้องเป็นคนรักประชาชน เอาทุกข์ของประชาชนมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา 2.ต้องรู้เท่าทันโลก รู้เท่าทันเทคโนโลยี เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ และ 3.ต้องเข้าใจเศรษฐกิจเพราะมันเป็นแกนสำคัญที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขได้” นาย
ทักษิณ ระบุ
นาย
ทักษิณ ตอบคำถามกรณี นาย
สมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่จะย้ายมาอยู่กับพรรคพท.ได้มองถึงเรื่องอุดมการณ์หรือไม่ว่า การเมืองเมื่อก่อนแรง ทุกคนต้องเอาตัวรอด ถ้าเอาตัวรอดแล้วไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเพื่อไทยและพร้อมที่จะกลับมา เพื่อไทยก็ยินดีรับก็ไม่มีปัญหา เพราะตอนนั้นใครที่เคยเป็นพวกผม ทำงานกับผมก็โดนบี้จนตาย แล้วทหารชุดนี้ควบคุมองค์กรอิสระหมด เขาก็ต้องเอาตัวรอดทุกคนเป็นเรื่องธรรมดา
‘อภิสิทธิ์’ ชี้เพื่อไทย โอกาสสูงสุด ได้ตั้งรัฐบาล มอง ‘ประยุทธ์’ ไม่ง่าย จะได้กลับมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3885937
“อภิสิทธิ์” วิเคราะห์ “เพื่อไทย” โอกาสจัดตั้ง รบ.สูงสุด ส่วนอีกฝ่ายต้องรวมให้ได้ 250 เสียงก่อน แล้วให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯต่อ เชื่อคะแนนนิยมภาคใต้ “ประยุทธ์” นำโด่ง
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นาย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “
คมชัดลึก” วิเคราะห์การเมืองหลังการเลือกตั้งถึงโอกาสที่จะเป็นรัฐบาลว่า พูดตรงไปตรงมา นิด้าโพลเป็นโพลที่ทำมีความต่อเนื่อง มีฐาน รูปแบบการสำรวจที่เป็นมาตรฐาน หากดูผลตรงนี้ ถามคอการเมือง พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคใหญ่ที่สุด เพียงแต่จะได้เสียงข้างมากในสภาหรือไม่ พรรคอันดับ 2 อาจจะไม่ถึง 100 เสียงก็ได้
บรรยากาศหลังเลือกตั้ง เป็นบรรยากาศ พรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสจัดตั้งรัฐบาล แต่เรามีรัฐธรรมนูญมาตรา 272 คือ ส.ว. 250 เสียง ต้องได้ 375 เสียง ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่มีการวิเคราะห์ จะจับมือ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีทั้ง ส.ส.และ ส.ว.พอโน้มน้าวให้มาเลือกได้ รูปการณ์คงไปทางนั้นก่อน ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ อยู่กับตัวเลขและเงื่อนไขอื่นๆ รวมทั้งท่าทีพรรคอื่น เป็นอย่างไร
ส่วนพรรคก้าวไกล ประกาศชัดว่า ร่วมงานกับใครได้บ้าง พรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนไม่ปฏิเสธใคร เช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ ถ้าผลเป็นไปตามโพลบอกขนาดนี้ต้องไปเริ่มที่พรรคเพื่อไทยก่อน ที่ได้รับโอกาสจัดตั้งรัฐบาล
“
ถ้าเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง ถ้ารัฐบาลไปตั้งโดยไม่มีเพื่อไทย แต่ถ้าเขาเกิน อยู่ที่ว่า ให้เขาตั้งรัฐบาลอย่างไร เงื่อนไขเป็นอย่างไร อาจรวมไปถึงนายกฯด้วย ถ้าไม่ถึง 250 จะมีช่องทางอื่นๆมากขึ้น เชื่อว่า เพื่อไทยก็ทราบดี กว่าจะเริ่มตั้งต้นรัฐบาลได้ ต้องมีนายกฯ จะมีนายกฯได้ ต้องได้ 375 เสียงก่อน ใครได้ 375 หรือใกล้กับ 375 ก็มีโอกาส จึงมีการขยับตัวเลขมา 310 พอถึงตัวเลขนี้ เขาก็เชื่อว่าเดี๋ยวอีก 60 เสียงก็ตามมา
จาก 250 ไป 310 เสียง เขาน่าจะไปกินจากพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน เพราะคะแนนขั้วเดียวกัน เสียงที่ไปเติมให้ถึง 375 เสียง จาก 310 เป็น 375 แล้วอีก 60 เสียงตรงนี้ ก็อาจมาจากขั้วเดียวกัน ที่จะถูกนับอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ยังนึกไม่ออก ส.ว.จะทำให้เกิดสูญญากาศแล้วคาดหวังอะไร ไม่มีรัฐบาล มีแต่รัฐบาลรักษาการอย่างนั้นหรือ จะเกิดแรงกดดันจากสังคม คงไม่ง่ายที่ส.ว.จะอธิบาย ทำไมทำให้เกิดสุญญากาศ แต่จะต่อรองอะไรหรือไม่ เชื่อว่า ทำได้ ไม่ว่าจะโดยเปิดเผยหรือไม่ เพราะกติกา อนุญาตให้เขาอธิบายได้ แต่หากเกิดสุญญากาศแล้วเดินไม่ได้ ก็จะตอบไม่ได้ว่าทำไปเพื่ออะไร
กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะกลับมาได้ ต้องทำให้พรรคที่สนับสนุน มีเสียงเกิน 250 เสียง การตั้งรัฐบาลโดยเสียงข้างน้อย โดยเฉพาะในภาวะที่ถ้าเพื่อไทยได้เสียงเกิน 250 ยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย ที่ต่างประกาศไม่สนับสนุนท่าน คงอยู่ยาก จะกลับมาคือ พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้เสียงเกินครึ่ง และให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยอมรับให้ท่านเป็นนายกฯด้วย โดยเงื่อนไข พล.อ.ประยุทธ์ ทำอย่างไรให้ได้เสียงเกิน 250 และหัวหน้าพรรคขั้วเดิม ยอมรับให้ท่านเป็นนายกฯ ไม่ใช่งานง่ายสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์” นาย
อภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า พล.อ.
ประวิตร ข้ามขั้วได้ง่ายกว่า นาย
อภิสิทธิ์กล่าวว่า การเดินแยกทาง พล.อ.
ประวิตร คงตั้งใจอยู่แล้ว การสื่อสารผ่านจดหมาย ก้าวข้ามความขัดแย้ง ได้วางตำแหน่งพรรคพลังประชารัฐใหม่ พร้อมทำงานกับพรรคที่เคยแบ่งขั้ว แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง พลังประชารัฐ มีกำลังเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มีคนมอง พล.อ.
ประวิตร มีความได้เปรียบน่าจะโน้มน้าว ส.ว.ได้อีกส่วนหนึ่ง
เมื่อถามด้วยว่า คะแนน พล.อ.
ประวิตร หรือ พล.อ.
ประยุทธ์ คะแนนจะไหลไปไหน นาย
อภิสิทธิ์กล่าวว่า คะแนนที่สนับสนุนพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนที่สนับสนุน พล.อ.
ประยุทธ์ คะแนนที่เคยเลือก พลังประชารัฐ ในภาคใต้ แนวโน้มที่เคยเลือกพลังประชารัฐ มีแนวโน้มไป พรรครวมไทยสร้างชาติ น่าจะตาม พล.อ.
ประยุทธ์ไป
ส่วนพื้นที่อื่น ก็เป็นอีกเงื่อนไข บ้านใหญ่หากยังอยู่พลังประชารัฐอาจไม่ไปกับ พล.อ.
ประยุทธ์ คะแนนซีกรัฐบาล หากเทียบกับปี 2562 เมื่อดูผลสำรวจ มันลดลง อยู่ที่ว่าช่วงการเลือกตั้งจะดึงกลับมาได้หรือไม่ ขณะที่ความนิยม พล.อ.
ประยุทธ์ ภาคใต้ชัดเจนกว่าที่อื่น และที่อื่นในหมู่ซีกรัฐบาล ท่านยังเป็นอันดับ 1 อยู่ ปฏิเสธไม่ได้
เนื้อหมู แพงไม่หยุด! ขึ้นราคากิโลกรัมละ 8 บาท เผย หน้าฟาร์มจ่อปรับอีก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7571949
แพงอีกแล้ว เนื้อหมู ขึ้นราคา กิโลกรัมละ 8 บาท ฟาร์มจ่อปรับอีก เพราะราคาหน้าฟาร์มยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ 22 มี.ค.2566 รายงานข่าวจาก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แจ้งว่า วันพระล่าสุดที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา สมาคมฯได้ประกาศปรับราคาลูกสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาขายส่งและปลีกเนื้อสุกร โดยราคาลูกสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในพื้นที่ภาคตะวันตกปรับขึ้น 2-4 บาท/กิโลกรัม เป็น 84 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายส่งห้างสรรพสินค้า ปรับเพิ่มขึ้น 3-6 บาท/กิโลกรัม เป็น 134 บาท/กิโลกรัม ส่วนราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4-8 บาท/กิโลกรัม เป็น 166-168 บาท/กิโลกรัม
และภาคตะวันออก ลูกสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้น 2 บาท/กิโลกรัม เป็น 86 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายส่งห้างสรรพสินค้า ปรับเพิ่มขึ้น 3 บาท/กิโลกรัม เป็น 137 บาท/กิโลกรัม ส่วนราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4 บาท/กิโลกรัม เป็น 170-172 บาท/กิโลกรัม
สภาวะการค้าสุกรขุนระหว่างวันพระที่แล้ว ทุกพื้นที่ปรับฐานราคายืนแข็ง และปรับบวกขึ้นในบางพื้นที่ แนวโน้มยืนแข็งต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหน้าฟาร์มยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง โดยต้นทุนการเลี้ยงยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปี 65 มีตันทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 94.82 บาท/กิโลกรัม แต่ปี 2566 ต้นทุนได้ปรับเพิ่มขึ้น ม.ค. อยู่ที่ 100.30 บาท/กิโลกรัม ก.พ. ขัยบขึ้นเป็น 100.73 บาท/กิโลกรัม และ มี.ค. ขยับขึ้นเป็น 101.06บาท/กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ห้างค้าปลีก ค้าส่ง ใช้ กลยุทธ์การ Balance Part ปรับลดสัดส่วนราคาจำหน่ายปลีกเนื้อแดง เช่น สะโพก หัวไหล่ อยู่ในระดับประมาณ 1.6 เท่าของราคาสุกรขุนจากเดิมประมาณ 1.8 เท่า แต่เพิ่มสัดส่วนชิ้นส่วนพรีเมี่ยม สามชั้น สันคอ อยู่ในระดับประมาณ 2.5-2.8 โดยสันนอก สันใน อยู่ในระดับประมาณ 2.2-2.3 เท่าของราคาสุกรขุน
JJNY : “โทนี่”เชื่อ“อิ๊งค์”เป็นนายกฯ ดีกว่าตัวเอง│‘อภิสิทธิ์’ชี้พ.ท.โอกาสสูงสุด│เนื้อหมูแพงไม่หยุด!│สหรัฐฯเร่งส่งรถถัง
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7571747
“โทนี่” เชื่อ “อิ๊งค์” เป็นนายกฯ ดีกว่าตัวเอง เปิดแคนดิเดตคนที่ 3 วันที่ 5 เม.ย. เผยความชำนาญแต่ละคน ชี้ต่างคาแร็กเตอร์กัน มีความรู้คนละด้าน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มี.ค.2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือ โทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถาม
ผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? กรณีให้คำแนะนำ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ฐานะบุตรสาวอย่างไรในสนามการเมืองว่า น้องอิ๊งค์เห็นผมกับการเมืองตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนที่ผมตั้งไทยรักไทยเขาอายุ 12 ขวบ เขาไปกับผมตลอด ไปหาเสียงด้วย เขาจึงเห็นมาตลอด เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่เป็นคนพูดตรงๆ และศึกษาเยอะ หาข้อมูลได้เร็วกว่าสมัยผมเยอะ เขามีวิจารณญาณมากพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ตอนนี้สิ่งที่ผมห่วงเขาก็คือตอนนี้ท้องแก่แล้ว ก็ห่วงเรื่องสุขภาพช่วงนี้ก็ไม่ให้เดินทางไกลๆ ให้เดินทางใกล้ๆ ได้1-2 ชั่วโมง ดีที่เลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.เขาคลอดก่อนหลายวันอยู่ ก็ค่อยยังชั่ว ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับผม เขารู้หมด อยู่ในหัวหมดว่าโดนอะไรช่วงไหน เบื้องลึกเบื้องหลังผมพูดกับเขาทุกเรื่อง
นายทักษิณ ตอบคำถามถึงบทเรียนในการเลือกตั้งปี 54 ที่จะแนะนำให้พรรคพท.ไม่เดินซ้ำรอยเดิม เพื่อไม่ให้จบเหมือนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า คุณยิ่งลักษณ์กับผมดีเอ็นเอใกล้เคียงกัน ส่วนของลูกสาวเขาได้ดีเอ็นเอแม่กับดีเอ็นเอผม ก็จะต่างจากคุณยิ่งลักษณ์ ซึ่งเขาจะชัดเจน เด็ดขาดและมีความเป็นคนรุ่นใหม่กว่า เด็กรุ่นใหม่จะตรงไปตรงมาโผงผาง ไม่มีพูดอ้อมค้อมและโกหกไม่เป็น ส่วนเรื่องแนวนโยบายที่ใช้ต่อเนื่องกันนั้น ตอนคุณยิ่งลักษณ์คือทักษิณคิด เพื่อไทยทำ แต่วันนี้ดีเอ็นเอทักษิณคิด ดีเอ็นเอทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็ไปทำ
นายทักษิณ ตอบคำถามกรณีถ้าเพื่อไทยได้ 310 เสียงและได้ตั้งรัฐบาล ในมุมมองของพ่อจะให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ของประเทศได้หรือไม่ว่า ถ้าถามว่าเขาเป็นได้ไหม เขาเป็นได้ดีทีเดียว แต่อย่างว่าเขาบรรลุนิติภาวะแล้วจะไปชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องเลือกเองว่าจะเป็นหรือไม่เป็น ต้องให้ตัดสินใจเอง ผมครอบครองได้แต่ครอบงำเขาไม่ได้ เพราะเขาโตแล้ว เขาคิดเองได้ แล้วแต่เขา ที่เขาทุ่มเททำงานกับพรรคมาขนาดนี้ พรรคก็เกรตฟูลกับเขามาก ผมในฐานะก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมาก็เกรตฟูลที่เขาทุ่มเทและทำได้ดีทีเดียว ทั้งๆ ที่ท้องแก่ก็ยังอุตส่าห์ขยันหมั่นเพียร เขามีคาแรกเตอร์ซึ่งบางอย่างผมไม่มี เพราะเขาได้ดีเอ็นเอแม่มาผสมด้วย เขาทำได้ดีกว่าผม
“พรรคมีแคนดิเดต 3 คนซึ่งคนที่สามคิดว่าวันที่ 5 เม.ย.ก็คงจะเปิดตัวแล้ว” นายทักษิณ ระบุ
นายทักษิณ ตอบคำถามกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เหมาะจะเป็นนายกฯหรือไม่ว่า คุณเศรษฐาเหมือนตอนผมเข้าสู่การเมืองใหม่ๆ เป็นนักธุรกิจ ทำงานมีเป้าหมายชัดเจน ตรง ขวานผ่าซากเหมือนตอนผมเข้าพรรคพลังธรรม ผมเชื่อว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยทั้งสามคน ใครก็เป็นได้ อิ๊งค์เล่าให้ผมฟังว่าเขามีกติกาว่าใครเป็นนายกฯ อีกสองคนต้องช่วย ซึ่งทั้งสามคนมีคาแร็กเตอร์และความชำนาญคนละแบบ
อิ๊งค์จะชำนาญเรื่องการเมืองระดับรากหญ้า เพราะเขาอยู่กับผมมานาน เขาไปพบปะผู้คนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เค้าจะมีความเห็นอกเห็นใจสูง รวมถึงเรื่องคนรุ่นใหม่และเทคโนโลยี
ส่วนคุณเศรษฐาถนัดเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องธุรกิจและเรื่องการหารายได้
ส่วนอีกคนหนึ่งยังไม่บอกว่าเป็นใคร แต่จะเลือกมาคนละคาแร็กเตอร์ ก็จะไม่ใช่นักธุรกิจเหมือนคุณเศรษฐา แล้วเวลาทำงานใครเป็นนายกฯ อีกสองคนต้องช่วยกันคิดและให้แนวทาง เลยไม่รู้ว่าใครจะได้เป็น
“ปกติทุกคนจะแย่งกัน แต่ครั้งนี้ต่างคนต่างจะเสียสละให้กัน ผมถามน้องอิ๊งค์ก็บอกว่าให้พี่นิดเป็นเถอะ ส่วนนิดก็บอกว่าน้องอิ๊งค์เหมาะมาก ต่างคนต่างบอกใครก็ได้เราช่วยกัน ก็เลยยังไม่รู้ สงสัยต้องให้พรรคเพื่อไทยจับฉลากเอา มันอยู่ที่ว่าใครจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองในช่วงนี้ได้ดีกว่ากัน ส่วนตัวมองว่าคนที่จะเป็นนายกฯ นั้น 1.ต้องเป็นคนรักประชาชน เอาทุกข์ของประชาชนมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา 2.ต้องรู้เท่าทันโลก รู้เท่าทันเทคโนโลยี เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ และ 3.ต้องเข้าใจเศรษฐกิจเพราะมันเป็นแกนสำคัญที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขได้” นายทักษิณ ระบุ
นายทักษิณ ตอบคำถามกรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่จะย้ายมาอยู่กับพรรคพท.ได้มองถึงเรื่องอุดมการณ์หรือไม่ว่า การเมืองเมื่อก่อนแรง ทุกคนต้องเอาตัวรอด ถ้าเอาตัวรอดแล้วไม่เป็นพิษเป็นภัยกับเพื่อไทยและพร้อมที่จะกลับมา เพื่อไทยก็ยินดีรับก็ไม่มีปัญหา เพราะตอนนั้นใครที่เคยเป็นพวกผม ทำงานกับผมก็โดนบี้จนตาย แล้วทหารชุดนี้ควบคุมองค์กรอิสระหมด เขาก็ต้องเอาตัวรอดทุกคนเป็นเรื่องธรรมดา
‘อภิสิทธิ์’ ชี้เพื่อไทย โอกาสสูงสุด ได้ตั้งรัฐบาล มอง ‘ประยุทธ์’ ไม่ง่าย จะได้กลับมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3885937
“อภิสิทธิ์” วิเคราะห์ “เพื่อไทย” โอกาสจัดตั้ง รบ.สูงสุด ส่วนอีกฝ่ายต้องรวมให้ได้ 250 เสียงก่อน แล้วให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯต่อ เชื่อคะแนนนิยมภาคใต้ “ประยุทธ์” นำโด่ง
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คมชัดลึก” วิเคราะห์การเมืองหลังการเลือกตั้งถึงโอกาสที่จะเป็นรัฐบาลว่า พูดตรงไปตรงมา นิด้าโพลเป็นโพลที่ทำมีความต่อเนื่อง มีฐาน รูปแบบการสำรวจที่เป็นมาตรฐาน หากดูผลตรงนี้ ถามคอการเมือง พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคใหญ่ที่สุด เพียงแต่จะได้เสียงข้างมากในสภาหรือไม่ พรรคอันดับ 2 อาจจะไม่ถึง 100 เสียงก็ได้
บรรยากาศหลังเลือกตั้ง เป็นบรรยากาศ พรรคเพื่อไทยได้รับโอกาสจัดตั้งรัฐบาล แต่เรามีรัฐธรรมนูญมาตรา 272 คือ ส.ว. 250 เสียง ต้องได้ 375 เสียง ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่มีการวิเคราะห์ จะจับมือ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีทั้ง ส.ส.และ ส.ว.พอโน้มน้าวให้มาเลือกได้ รูปการณ์คงไปทางนั้นก่อน ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ อยู่กับตัวเลขและเงื่อนไขอื่นๆ รวมทั้งท่าทีพรรคอื่น เป็นอย่างไร
ส่วนพรรคก้าวไกล ประกาศชัดว่า ร่วมงานกับใครได้บ้าง พรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนไม่ปฏิเสธใคร เช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ ถ้าผลเป็นไปตามโพลบอกขนาดนี้ต้องไปเริ่มที่พรรคเพื่อไทยก่อน ที่ได้รับโอกาสจัดตั้งรัฐบาล
“ถ้าเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง ถ้ารัฐบาลไปตั้งโดยไม่มีเพื่อไทย แต่ถ้าเขาเกิน อยู่ที่ว่า ให้เขาตั้งรัฐบาลอย่างไร เงื่อนไขเป็นอย่างไร อาจรวมไปถึงนายกฯด้วย ถ้าไม่ถึง 250 จะมีช่องทางอื่นๆมากขึ้น เชื่อว่า เพื่อไทยก็ทราบดี กว่าจะเริ่มตั้งต้นรัฐบาลได้ ต้องมีนายกฯ จะมีนายกฯได้ ต้องได้ 375 เสียงก่อน ใครได้ 375 หรือใกล้กับ 375 ก็มีโอกาส จึงมีการขยับตัวเลขมา 310 พอถึงตัวเลขนี้ เขาก็เชื่อว่าเดี๋ยวอีก 60 เสียงก็ตามมา
จาก 250 ไป 310 เสียง เขาน่าจะไปกินจากพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน เพราะคะแนนขั้วเดียวกัน เสียงที่ไปเติมให้ถึง 375 เสียง จาก 310 เป็น 375 แล้วอีก 60 เสียงตรงนี้ ก็อาจมาจากขั้วเดียวกัน ที่จะถูกนับอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ยังนึกไม่ออก ส.ว.จะทำให้เกิดสูญญากาศแล้วคาดหวังอะไร ไม่มีรัฐบาล มีแต่รัฐบาลรักษาการอย่างนั้นหรือ จะเกิดแรงกดดันจากสังคม คงไม่ง่ายที่ส.ว.จะอธิบาย ทำไมทำให้เกิดสุญญากาศ แต่จะต่อรองอะไรหรือไม่ เชื่อว่า ทำได้ ไม่ว่าจะโดยเปิดเผยหรือไม่ เพราะกติกา อนุญาตให้เขาอธิบายได้ แต่หากเกิดสุญญากาศแล้วเดินไม่ได้ ก็จะตอบไม่ได้ว่าทำไปเพื่ออะไร
กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะกลับมาได้ ต้องทำให้พรรคที่สนับสนุน มีเสียงเกิน 250 เสียง การตั้งรัฐบาลโดยเสียงข้างน้อย โดยเฉพาะในภาวะที่ถ้าเพื่อไทยได้เสียงเกิน 250 ยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ด้วย ที่ต่างประกาศไม่สนับสนุนท่าน คงอยู่ยาก จะกลับมาคือ พรรคร่วมรัฐบาลเดิมได้เสียงเกินครึ่ง และให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ยอมรับให้ท่านเป็นนายกฯด้วย โดยเงื่อนไข พล.อ.ประยุทธ์ ทำอย่างไรให้ได้เสียงเกิน 250 และหัวหน้าพรรคขั้วเดิม ยอมรับให้ท่านเป็นนายกฯ ไม่ใช่งานง่ายสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ข้ามขั้วได้ง่ายกว่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเดินแยกทาง พล.อ.ประวิตร คงตั้งใจอยู่แล้ว การสื่อสารผ่านจดหมาย ก้าวข้ามความขัดแย้ง ได้วางตำแหน่งพรรคพลังประชารัฐใหม่ พร้อมทำงานกับพรรคที่เคยแบ่งขั้ว แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง พลังประชารัฐ มีกำลังเท่าไหร่ แต่ตอนนี้มีคนมอง พล.อ.ประวิตร มีความได้เปรียบน่าจะโน้มน้าว ส.ว.ได้อีกส่วนหนึ่ง
เมื่อถามด้วยว่า คะแนน พล.อ.ประวิตร หรือ พล.อ.ประยุทธ์ คะแนนจะไหลไปไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คะแนนที่สนับสนุนพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ คะแนนที่เคยเลือก พลังประชารัฐ ในภาคใต้ แนวโน้มที่เคยเลือกพลังประชารัฐ มีแนวโน้มไป พรรครวมไทยสร้างชาติ น่าจะตาม พล.อ.ประยุทธ์ไป
ส่วนพื้นที่อื่น ก็เป็นอีกเงื่อนไข บ้านใหญ่หากยังอยู่พลังประชารัฐอาจไม่ไปกับ พล.อ.ประยุทธ์ คะแนนซีกรัฐบาล หากเทียบกับปี 2562 เมื่อดูผลสำรวจ มันลดลง อยู่ที่ว่าช่วงการเลือกตั้งจะดึงกลับมาได้หรือไม่ ขณะที่ความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ภาคใต้ชัดเจนกว่าที่อื่น และที่อื่นในหมู่ซีกรัฐบาล ท่านยังเป็นอันดับ 1 อยู่ ปฏิเสธไม่ได้
เนื้อหมู แพงไม่หยุด! ขึ้นราคากิโลกรัมละ 8 บาท เผย หน้าฟาร์มจ่อปรับอีก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7571949
แพงอีกแล้ว เนื้อหมู ขึ้นราคา กิโลกรัมละ 8 บาท ฟาร์มจ่อปรับอีก เพราะราคาหน้าฟาร์มยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
วันที่ 22 มี.ค.2566 รายงานข่าวจาก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แจ้งว่า วันพระล่าสุดที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา สมาคมฯได้ประกาศปรับราคาลูกสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม และราคาขายส่งและปลีกเนื้อสุกร โดยราคาลูกสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในพื้นที่ภาคตะวันตกปรับขึ้น 2-4 บาท/กิโลกรัม เป็น 84 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายส่งห้างสรรพสินค้า ปรับเพิ่มขึ้น 3-6 บาท/กิโลกรัม เป็น 134 บาท/กิโลกรัม ส่วนราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4-8 บาท/กิโลกรัม เป็น 166-168 บาท/กิโลกรัม
และภาคตะวันออก ลูกสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้น 2 บาท/กิโลกรัม เป็น 86 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคาขายส่งห้างสรรพสินค้า ปรับเพิ่มขึ้น 3 บาท/กิโลกรัม เป็น 137 บาท/กิโลกรัม ส่วนราคาขายปลีก ปรับเพิ่มขึ้น 4 บาท/กิโลกรัม เป็น 170-172 บาท/กิโลกรัม
สภาวะการค้าสุกรขุนระหว่างวันพระที่แล้ว ทุกพื้นที่ปรับฐานราคายืนแข็ง และปรับบวกขึ้นในบางพื้นที่ แนวโน้มยืนแข็งต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหน้าฟาร์มยังต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง โดยต้นทุนการเลี้ยงยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปี 65 มีตันทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 94.82 บาท/กิโลกรัม แต่ปี 2566 ต้นทุนได้ปรับเพิ่มขึ้น ม.ค. อยู่ที่ 100.30 บาท/กิโลกรัม ก.พ. ขัยบขึ้นเป็น 100.73 บาท/กิโลกรัม และ มี.ค. ขยับขึ้นเป็น 101.06บาท/กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม ห้างค้าปลีก ค้าส่ง ใช้ กลยุทธ์การ Balance Part ปรับลดสัดส่วนราคาจำหน่ายปลีกเนื้อแดง เช่น สะโพก หัวไหล่ อยู่ในระดับประมาณ 1.6 เท่าของราคาสุกรขุนจากเดิมประมาณ 1.8 เท่า แต่เพิ่มสัดส่วนชิ้นส่วนพรีเมี่ยม สามชั้น สันคอ อยู่ในระดับประมาณ 2.5-2.8 โดยสันนอก สันใน อยู่ในระดับประมาณ 2.2-2.3 เท่าของราคาสุกรขุน