เกริ่นนะคะ แม่สามีของเราอายุ 80 กว่า แข็งแรง ดูแลสุขภาพอย่างดี และชอบหาความรู้จากการติดตามคลิป YouTube ปกติท่านน่ารักค่ะ ไปตลาดก็ซื้อนั่นนี่มาฝาก นำเกล็ดความรู้การดูแลสุขภาพมาแชร์ (แต่เล่าทีจะพูดยาว และพูดวนๆ ตามประสาคนแก่)
เราก็รู้สึกดีใจที่แม่สามีใจดี และเราก็รักและเป็นห่วงท่าน คอยบอกสามีให้ดูแลท่านดีๆ เพราะอายุมากแล้ว
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราหงุดหงิด คือ เราเพิ่งมีเบบี๋เมื่อปลายปีที่แล้วค่ะ ทีนี้แม่สามีก็จะมาบอกให้ทำแบบนั้นทำแบบนี้ ทักท้วงว่าวิธีการเลี้ยงลูกของเราไม่ดี และพูดซ้ำๆ วันละหลายรอบ (ขนาดท่านมาที่บ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ยังทำให้เราหงุดหงิดจนไมเกรนขึ้นเลยค่ะ) เราและสามีเคยพยายามอธิบาย จนสามีเราบอกว่า ต่อไปถ้าแม่พูดวิจารณ์อะไรอีก ให้เดินหนีหรือทำหูทวนลม เพราะอธิบายอะไรไปเค้าก็ยังยึดติดกับตรรกะและความคิดของเค้า ที่เค้าคิดว่าเลี้ยงลูกมาจนโตได้ และตัวเองมีความรู้เรื่องสุขภาพเพราะฟังมาเยอะ ... แต่เราเดินหนีหรือหูทวนลมเหมือนสามีไม่ได้ไงคะ เพราะเราไม่ใช่ลูกแท้ๆ ถ้าเราเดินหนีหรือถามไม่ตอบ ท่านก็จะพาลเกลียดเราเอาได้ ... เราเลยต้องมาตั้งกระทู้ระบายความเครียดตรงนี้
ขอยกตัวอย่างสิ่งที่แม่สามีบอกให้ทำ/วิจารณ์เรานะคะ
- ต้องให้เด็กกินน้ำตั้งแต่แรกเกิด เพราะคอจะแห้ง น้ำลายเหนียว (เรากับสามีเปิดคลิป อ่านบทความแพทย์ให้ฟัง แม่สามีก็ยังบอกว่าอย่าเชื่อหมอมาก ที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้ เผลอๆให้กินน้ำส้มคั้นตั้งแต่เดือนแรก)
- ต้องให้เด็กนอนคว่ำตอนหลับ จะได้ไม่ผวา หัวทุย คอแข็ง (หมอสั่งห้ามนอนคว่ำช่วงสามเดือนแรก เว้นแต่จะมีคนจ้องตาไม่กระพริบตลอดเวลา ขนาดหมอกำชับ แม่สามีก็สั่งให้ทำซ้ำๆ)
- ห้ามให้เด็กนอนคว่ำตอนตื่นหรือตอนนอนเล่น เพราะทับปอด เค้าจะเหนื่อย (ทั้งๆที่หลักการคือตอนเล่นต้องฝึก tummy time เยอะๆ)
- ลูกกินนมจากเต้าล้วน เค้าจะเหนื่อยจากการดูดเต้า หัวใจจะทำงานหนัก (...เอิ่ม...)
- ลูกเราพลิกจากหงายเป็นคว่ำได้ตั้งแต่สามเดือนนิดๆ แต่ยังพลิกคว่ำมาหงายไม่ได้ แม่สามีบอกว่าเพราะเราไม่ยอมให้ลูกนอนหลับแบบคว่ำตั้งแต่แรก ถ้าคว่ำแต่แรก เค้าตื่นมาก็จะพลิกตัวจากคว่ำเป็นหงายได้เอง (ที่เราอ่านๆมา เด็กส่วนใหญ่ก็พลิกหงายเป็นคว่ำได้ก่อนทั้งนั้น)
- ลูกเราฟันกำลังจะขึ้น น้ำลายไหลเยอะ และชอบหยิบของเข้าปาก ซึ่งเป็นสิ่งปกติของเด็กวัยนี้ แม่สามีบอกว่าเพราะเราให้ลูกดูดจุกหลอก ลูกเลยติดที่จะหยิบทุกอย่างเข้าปาก และโทษทุกอย่างว่าเป็นเพราะเราให้จุกหลอก (ลูกเราใช้จุกหลอกเฉพาะช่วง 1-2 เดือนแรก และเป็นตอนนั่งรถแค่ 2-3 ครั้งค่ะ และก็ไม่ได้ใช้อีกเพราะเค้าคายทิ้ง เราศึกษาข้อดีข้อเสีย และวิธีการใช้มาแล้วก่อนให้ใช้ หมอเด็กชื่อดังและเพื่อนเราที่เป็นหมอเด็ก ก็ให้ลูกใช้)
- บอกให้ใช้รถหัดเดินฝึกลูก ทั้งๆที่หมอ และบางประเทศสั่งห้ามใช้ เพราะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและไม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการเด็ก (แม่สามีอ้างแบบเดิมว่า แกก็เลี้ยงลูกมาจนโตได้ ไม่เห็นเป็นไร)
- ตอนอุ้ม ลูกเราจะเริ่มกางแขน เพื่อจะชี้ไปทางนั้นทางนี้ อยากจับนั่นจับนี่ แม่สามีบอกว่าลูกเราคอไม่แข็ง กล้ามเนื้อพัฒนาไม่ดี ทรงตัวไม่ได้ เลยต้องกางแขนเพื่อทรงตัว และย้อนกลับไปบ่นเรื่องให้นอนหลับแบบนอนคว่ำ (จริงๆคือพัฒนาการของเด็กวัยนี้)
ปล. แม่สามีฝากยายเลี้ยงลูก และต่อมาก็ไปจ้างคนแถวบ้านเลี้ยงค่ะ ตอนแบเบาะแทบจะไม่ได้เลี้ยงฟูลไทม์ และบอกว่าตอนเลี้ยงลูกไม่เห็นเลี้ยงยากหรือเหนื่อยเหมือนเราเลย
ถ้าแม่สามีพูดครั้งเดียวจบ หรือฟังเราอธิบาย เราจะไม่หงุดหงิดเลยค่ะ
ช่วงแรกๆ เราพยายามอธิบาย อ้างหมอ อ้างหนังสือ บทความวิชาการ แต่เค้าก็ตอบกลับมาว่าหมอไม่ได้รู้ไปหมด หนังสือกับสถานการณ์จริงไม่เหมือนกัน จนพักหลังเราเงียบและพยักหน้า แต่เค้าก็ชอบมาถามจี้ว่า ให้ลูกนอนแบบไหน ยังใช้จุกหลอกมั้ย นั่นๆนี่ๆ เราก็ตอบไปตามจริง เค้าก็ยกเรื่องเดิมๆมาพูดซ้ำๆๆๆๆ และตั้งคำถามนั่นนี่เพื่อให้เรารีแอค เช็คว่าเราฟังมั้ย เลยต้องจำใจฟังตรรกะแปลกๆ และแนวความคิดที่แม่สามีเชื่อมั่นนักหนาว่าถูก ทั้งๆที่มันขัดกับความรู้และผลการศึกษาในยุคสมัยนี้
นี่แหละฮะ ทำให้เราต้องตั้งกระทู้ระบาย เพราะกลัวจะไประเบิด อธิบายแบบขึ้นเสียงใส่แม่สามี T-T
[ระบาย] เริ่มรู้สึกไม่โอเคกับแม่สามี เมื่อเรามีลูก
เราก็รู้สึกดีใจที่แม่สามีใจดี และเราก็รักและเป็นห่วงท่าน คอยบอกสามีให้ดูแลท่านดีๆ เพราะอายุมากแล้ว
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราหงุดหงิด คือ เราเพิ่งมีเบบี๋เมื่อปลายปีที่แล้วค่ะ ทีนี้แม่สามีก็จะมาบอกให้ทำแบบนั้นทำแบบนี้ ทักท้วงว่าวิธีการเลี้ยงลูกของเราไม่ดี และพูดซ้ำๆ วันละหลายรอบ (ขนาดท่านมาที่บ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ยังทำให้เราหงุดหงิดจนไมเกรนขึ้นเลยค่ะ) เราและสามีเคยพยายามอธิบาย จนสามีเราบอกว่า ต่อไปถ้าแม่พูดวิจารณ์อะไรอีก ให้เดินหนีหรือทำหูทวนลม เพราะอธิบายอะไรไปเค้าก็ยังยึดติดกับตรรกะและความคิดของเค้า ที่เค้าคิดว่าเลี้ยงลูกมาจนโตได้ และตัวเองมีความรู้เรื่องสุขภาพเพราะฟังมาเยอะ ... แต่เราเดินหนีหรือหูทวนลมเหมือนสามีไม่ได้ไงคะ เพราะเราไม่ใช่ลูกแท้ๆ ถ้าเราเดินหนีหรือถามไม่ตอบ ท่านก็จะพาลเกลียดเราเอาได้ ... เราเลยต้องมาตั้งกระทู้ระบายความเครียดตรงนี้
ขอยกตัวอย่างสิ่งที่แม่สามีบอกให้ทำ/วิจารณ์เรานะคะ
- ต้องให้เด็กกินน้ำตั้งแต่แรกเกิด เพราะคอจะแห้ง น้ำลายเหนียว (เรากับสามีเปิดคลิป อ่านบทความแพทย์ให้ฟัง แม่สามีก็ยังบอกว่าอย่าเชื่อหมอมาก ที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้ เผลอๆให้กินน้ำส้มคั้นตั้งแต่เดือนแรก)
- ต้องให้เด็กนอนคว่ำตอนหลับ จะได้ไม่ผวา หัวทุย คอแข็ง (หมอสั่งห้ามนอนคว่ำช่วงสามเดือนแรก เว้นแต่จะมีคนจ้องตาไม่กระพริบตลอดเวลา ขนาดหมอกำชับ แม่สามีก็สั่งให้ทำซ้ำๆ)
- ห้ามให้เด็กนอนคว่ำตอนตื่นหรือตอนนอนเล่น เพราะทับปอด เค้าจะเหนื่อย (ทั้งๆที่หลักการคือตอนเล่นต้องฝึก tummy time เยอะๆ)
- ลูกกินนมจากเต้าล้วน เค้าจะเหนื่อยจากการดูดเต้า หัวใจจะทำงานหนัก (...เอิ่ม...)
- ลูกเราพลิกจากหงายเป็นคว่ำได้ตั้งแต่สามเดือนนิดๆ แต่ยังพลิกคว่ำมาหงายไม่ได้ แม่สามีบอกว่าเพราะเราไม่ยอมให้ลูกนอนหลับแบบคว่ำตั้งแต่แรก ถ้าคว่ำแต่แรก เค้าตื่นมาก็จะพลิกตัวจากคว่ำเป็นหงายได้เอง (ที่เราอ่านๆมา เด็กส่วนใหญ่ก็พลิกหงายเป็นคว่ำได้ก่อนทั้งนั้น)
- ลูกเราฟันกำลังจะขึ้น น้ำลายไหลเยอะ และชอบหยิบของเข้าปาก ซึ่งเป็นสิ่งปกติของเด็กวัยนี้ แม่สามีบอกว่าเพราะเราให้ลูกดูดจุกหลอก ลูกเลยติดที่จะหยิบทุกอย่างเข้าปาก และโทษทุกอย่างว่าเป็นเพราะเราให้จุกหลอก (ลูกเราใช้จุกหลอกเฉพาะช่วง 1-2 เดือนแรก และเป็นตอนนั่งรถแค่ 2-3 ครั้งค่ะ และก็ไม่ได้ใช้อีกเพราะเค้าคายทิ้ง เราศึกษาข้อดีข้อเสีย และวิธีการใช้มาแล้วก่อนให้ใช้ หมอเด็กชื่อดังและเพื่อนเราที่เป็นหมอเด็ก ก็ให้ลูกใช้)
- บอกให้ใช้รถหัดเดินฝึกลูก ทั้งๆที่หมอ และบางประเทศสั่งห้ามใช้ เพราะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและไม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการเด็ก (แม่สามีอ้างแบบเดิมว่า แกก็เลี้ยงลูกมาจนโตได้ ไม่เห็นเป็นไร)
- ตอนอุ้ม ลูกเราจะเริ่มกางแขน เพื่อจะชี้ไปทางนั้นทางนี้ อยากจับนั่นจับนี่ แม่สามีบอกว่าลูกเราคอไม่แข็ง กล้ามเนื้อพัฒนาไม่ดี ทรงตัวไม่ได้ เลยต้องกางแขนเพื่อทรงตัว และย้อนกลับไปบ่นเรื่องให้นอนหลับแบบนอนคว่ำ (จริงๆคือพัฒนาการของเด็กวัยนี้)
ปล. แม่สามีฝากยายเลี้ยงลูก และต่อมาก็ไปจ้างคนแถวบ้านเลี้ยงค่ะ ตอนแบเบาะแทบจะไม่ได้เลี้ยงฟูลไทม์ และบอกว่าตอนเลี้ยงลูกไม่เห็นเลี้ยงยากหรือเหนื่อยเหมือนเราเลย
ถ้าแม่สามีพูดครั้งเดียวจบ หรือฟังเราอธิบาย เราจะไม่หงุดหงิดเลยค่ะ
ช่วงแรกๆ เราพยายามอธิบาย อ้างหมอ อ้างหนังสือ บทความวิชาการ แต่เค้าก็ตอบกลับมาว่าหมอไม่ได้รู้ไปหมด หนังสือกับสถานการณ์จริงไม่เหมือนกัน จนพักหลังเราเงียบและพยักหน้า แต่เค้าก็ชอบมาถามจี้ว่า ให้ลูกนอนแบบไหน ยังใช้จุกหลอกมั้ย นั่นๆนี่ๆ เราก็ตอบไปตามจริง เค้าก็ยกเรื่องเดิมๆมาพูดซ้ำๆๆๆๆ และตั้งคำถามนั่นนี่เพื่อให้เรารีแอค เช็คว่าเราฟังมั้ย เลยต้องจำใจฟังตรรกะแปลกๆ และแนวความคิดที่แม่สามีเชื่อมั่นนักหนาว่าถูก ทั้งๆที่มันขัดกับความรู้และผลการศึกษาในยุคสมัยนี้
นี่แหละฮะ ทำให้เราต้องตั้งกระทู้ระบาย เพราะกลัวจะไประเบิด อธิบายแบบขึ้นเสียงใส่แม่สามี T-T