กระทู้นี้ต่อจาก
https://pantip.com/topic/41897506/comment23-4 (มุสลิมเรียนรู้ถึงแก่นของพระพุทธศาสนา)
สรุปจากกระทู้ "มุสลิมเรียนรู้ถึงแก่นของพระพุทธศาสนา"
วิมุติคือความหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวง อันเป็นแก่นของพระพุทธศาสนา การที่จะบรรลุถึงวิมุตินั้นสมประสงค์ จะต้องปฏิบัติหลักธรรมดังต่อไปนี้:
1. โพชฌงค์ ๗ ประการแล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังวิชชาแลวิมุติให้บริบูรณ์
2. สติปัฏฐาน ๔ แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ประการให้บริบูรณ์
3. สุจริต ๓ ประการแล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ประการให้บริบูรณ์
4. อินทรีย์สังวรแล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังสุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์
สรุป:
A. สำหรับมุสลิมและนักศึกษามุสลิมเท่าที่ผมประมวลได้ แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคือการนำพุทธศาสนิกชนไปสู่วิธีการดับทุกข์ เพื่อไปสู่ความว่างที่สมบูรณ์ ซึ่งเรียกว่า "นิพพาน" ซึ่งเป็นความสุขนิรันด์ ผู้ปฏิบัติจะเข้าถึงนิพพานได้ทั้งบนโลกนี้และในสภาวะความว่างนอกจักรวาล (ความว่างสัมบูรณ์คือ พระนิพพาน ธาตุหรืออมตธาตุ ความว่างนี้จะพ้นคลื่นความถี่ของพลังงานทั้งหมดในจักรวาล) จากการศึกษาในเรื่องนี้มุสลิมจะเห็นได้ว่าพุทธศาสนารับรองสภาวะว่างเปล่านอกจักรวาล
B. สำหรับมุสลิมและนักศึกษามุสลิม สรุปตรงนี้ได้ความว่าพุทธศาสนาสอนเรื่อง:
1. นรก และสวรรค์ และรับรองว่านรกสวรรค์นั้นมีจริง จากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์
2. ผู้ทีเป็นคนพาล จะไปเกิดเป็นสัตว์นรก มนุษย์ ก็เป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง
3. ผู้ที่มีคุณธรรม จรรยาธรรมดี จะได้ไปเกิดบนสวรรค์ ชาวสวรรค์ในร่างมนุษย์
4. จิต,วิญญาณ, มโน ภาษาบาลี มีความหมายเดียวกัน
5. จิต,วิญญาณ, มโน นี้จะอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้ จะต้องอาศัยปัจจัย คือร่างกาย (ถ้ำ)
6. มนุษย์ไปเกิดเป็นสัตว์ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับความรู้ทางพุทธศาสนานั้นผมมีพอสมควรพอที่จะคุยกับท่านทั้งหลายได้ ทั้งการสนทนากับท่านรองเจ้าอาวาส วัดไผ่เงินโชตินาราม ถนนวัดไผ่เงิน ยานนาวา กทม. ตั้งแต่อายุ 12-18 ปี ติดต่อกันมา เนื่องจากท่านเป็นเพื่อนสนิทสนมทางครอบครัว และเรื่อยมากับพุทธสมาชิกที่มีความรู้ เช่นเดียวกับท่านพุทธสมาชิกในที่นี้ ในขณะที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ก็ได้ศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนาอยู่ตลอดมาจนถึงในปัจจุบัน (นอกเหนือจากการเรียนศาสนาอิสลามและภาษาอรับมาแต่ในวัยเด็ก) ตำราที่เคยอ่านและใช้อ้างอิงหลักการทางพุทธศาสนา ก็มีของท่านพุทธทาส และอังกฤษแนวใหม่เรื่องพุทธปรัชญา, พระพุทธศาสนากับวิทยาการสมัยใหม่, แนวโน้มบทบาทพระสงฆ์กับการเมืองไทยในสองทศวรรษหน้า, A Buddhist Worldview (โลกทัศน์ชาวพุทธ), ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริกับหลักธรรมในพระพุทธศาสนา, รวมทั้งเอกสารอ้างอิงออนไลน์ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายในปัจจุบัน การที่ผมต้องนำเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวก็เพื่อให้ท่านสมาชิกแน่ใจว่า การสนทนาของผมมิได้ขาดความเข้าใจพระพุทธศาสนาเสียเลย ทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิส่วนตัวผมเข้าใจการเขียนของคุณๆได้เป็นอย่างดี การที่ผมขอร้องให้อธิบายเป็นภาษาง่ายๆ ก็เพื่อให้เยาวชนมุสลิมและพุทธศาสนิกชนชาวบ้านได้เข้าใจการสนทนาของเรา ซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าการโหลดคัมภีร์ จำนวนมากซ้ำๆกันมาในกระทู้แต่ไม่มีผู้ใดสนใจที่จะอ่านหวังว่าคงได้ความร่วมมือจากท่าน
เราได้สนทนากันเรื่องนรกสวรรค์ว่ามีอยู่จริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ คำถามต่อไปก็คือ:
“สวรรค์” และ “นรก” ตามคำสอนของพระพุทธองค์ เกิดขึ้นเมื่อไร? หมายความว่า ทั้งสวรรค์และนรกนั้นเกิดขณะที่พระพุทธองค์ทรงเทศนาหรือก่อนการเทศนาของพระองค์?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
“สวรรค์” และ “นรก” ตามคำสอนของพระพุทธองค์ เกิดขึ้นเมื่อไร?
สรุปจากกระทู้ "มุสลิมเรียนรู้ถึงแก่นของพระพุทธศาสนา"
วิมุติคือความหลุดพ้นจากอาสวะกิเลสทั้งปวง อันเป็นแก่นของพระพุทธศาสนา การที่จะบรรลุถึงวิมุตินั้นสมประสงค์ จะต้องปฏิบัติหลักธรรมดังต่อไปนี้:
1. โพชฌงค์ ๗ ประการแล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังวิชชาแลวิมุติให้บริบูรณ์
2. สติปัฏฐาน ๔ แล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังโพชฌงค์ ๗ ประการให้บริบูรณ์
3. สุจริต ๓ ประการแล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังสติปัฏฐาน ๔ ประการให้บริบูรณ์
4. อินทรีย์สังวรแล อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมยังสุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์
สรุป:
A. สำหรับมุสลิมและนักศึกษามุสลิมเท่าที่ผมประมวลได้ แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคือการนำพุทธศาสนิกชนไปสู่วิธีการดับทุกข์ เพื่อไปสู่ความว่างที่สมบูรณ์ ซึ่งเรียกว่า "นิพพาน" ซึ่งเป็นความสุขนิรันด์ ผู้ปฏิบัติจะเข้าถึงนิพพานได้ทั้งบนโลกนี้และในสภาวะความว่างนอกจักรวาล (ความว่างสัมบูรณ์คือ พระนิพพาน ธาตุหรืออมตธาตุ ความว่างนี้จะพ้นคลื่นความถี่ของพลังงานทั้งหมดในจักรวาล) จากการศึกษาในเรื่องนี้มุสลิมจะเห็นได้ว่าพุทธศาสนารับรองสภาวะว่างเปล่านอกจักรวาล
B. สำหรับมุสลิมและนักศึกษามุสลิม สรุปตรงนี้ได้ความว่าพุทธศาสนาสอนเรื่อง:
1. นรก และสวรรค์ และรับรองว่านรกสวรรค์นั้นมีจริง จากพระโอษฐ์ของพระพุทธองค์
2. ผู้ทีเป็นคนพาล จะไปเกิดเป็นสัตว์นรก มนุษย์ ก็เป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง
3. ผู้ที่มีคุณธรรม จรรยาธรรมดี จะได้ไปเกิดบนสวรรค์ ชาวสวรรค์ในร่างมนุษย์
4. จิต,วิญญาณ, มโน ภาษาบาลี มีความหมายเดียวกัน
5. จิต,วิญญาณ, มโน นี้จะอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้ จะต้องอาศัยปัจจัย คือร่างกาย (ถ้ำ)
6. มนุษย์ไปเกิดเป็นสัตว์ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราได้สนทนากันเรื่องนรกสวรรค์ว่ามีอยู่จริงตามคำสอนของพระพุทธองค์ คำถามต่อไปก็คือ:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้