เส้นทางอันขรุขระของเด็กป.โท

สวัสดีค่ะ จขกท ตอนนี้เรียนปโทเทอมสุดท้ายแล้ว แต่มันเครียด เหนื่อย เสียใจ อยากหาที่ระบาย เลยมาโพสพูดคุยกันในนี้ 
เราเรียนสถาบันรัฐแห่งนึงที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง และทำงาน Full time ไปด้วย  แต่ต้องบอกถึงชีวิตปตรีก่อนว่าเป็นเด็กเอกชนจบศิลป์ภาษาเกรดไม่ถึง3 เราไม่ได้เก่งภาษาแค่พอถูไถ และรู้สึกว่าน่าจะถนัดสุดในทุกสาขา ก็เลยเลือกเรียนศิลป์ภาษา ซึ่งตอนเรียนจบมอนี้ไม่มีทำ IS นะคะ แค่เป็นโครงงาน ทำเป็นกลุ่มกับเพื่อน พอเรียนโทต้องทำ IS เลยรู้สึกว่ามันยากมาก แล้วที่ปรึกษาเรามี นศ3คน ซึ่งอาจารไม่คุยกับคนใดคนนึง ต้องได้คุย3คนพร้อมกัน แล้วงานเสร็จไม่ตรงกัน กว่าจะได้คุยแต่ละที ก็เนิ่นนาน ล่าสุดหมาดๆ วันศุกร์ที่ผ่านมา พวกเรา3คนก็นัดคุยกับอาจาร น้องคนแรกเปิดก่อน ก็โดนชุใหญ่ ว่าทำงานเหมือนเด็กปตรี อาจารไม่ชอบ ย้ายไปที่ปรึกษาไปเลยจะดีกว่า เราได้ฟังก็ว่าแรงแล้ว เพราะตอนอาจารพูดมีการเอาอารมณ์ใส่ลงมาด้วย เราฟังแล้วสะอึกแทน จนน้องต้องยอมเปลี่ยนอาจารที่ปรึกษา พอถัดมาเป็นเรา  ครั้งก่อนบทที่1 เราโดนสั่งแก้แค่นิดเดียว แล้วเราก็แก้ตามที่อาจารบอก แล้วก็ไปลุยบท2-3 แต่รอบนี้อาจารบอกทำไมไม่ใส่นู่นนี่มาด้วย เราก็เลยบอกว่า อ๋อเดี๋ยวหนูไปหาเพิ่มมาใส่ค่ะ เพราะครั้งก่อนที่แก้มีแค่จุดนี้ หนูนึกว่าส่วนอื่นโอเค เราก็โดนด่าว่าทำงานไม่ฉลาด หัดคิดนอกกรอบซะบ้าง ไม่ใช่สั่งอะไรก็ทำตามแบบนั้น เราสะอึกเลย แล้วครั้งก่อนให้เราเก็บเชิงคุณภาพ แล้วเราไม่รู้จริงๆว่าเชิงคุณภาพควรลิสคำถามมาให้อาจารอ่านด้วย อันนี้เราก็ผิดเอง เพราะตอนเรียน เรียนแค่เชิงปริมาณ คือเราคิดว่าเชิงคุณภาพ คำถามมันอิสระ สามารถพลิกผันตามผู้ถูกสัมภาษณ์ได้ เลยไม่ได้ลิสให้อาจาร ก็โดนอีก1แมต ว่าจะมาถามอาจารทุกเรื่องไม่ได้ หัดหาอ่านเองซะบ้าง เราก็คิดในใจว่าอืม ก็จริงเนอะ แต่ถ้าอย่างนั้นเราจะมีที่ปรึกษาไว้ทำไมนะ ถ้าการที่เราไม่รู้เรื่อง IS แล้วเราโดนด่า มากกว่าโดนแนะนำ สุดท้ายปิดโดยการให้แก้เป็นเชิงปริมาณอีก แต่อีกคนอาจารพูดดีมาก แก้ wording ให้ ว่าควรใช้อย่างนี้ๆนะ คำถามแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่เป็นไรนะไปแก้มาใหม่  เหตุผลที่เค้าพูดกับพี่คนนี้ดีเพราะว่า เค้าชอบไปเม้ามอยกับอาจาร ขยันพูด ขยันเจ้าะแจ้ะ  ไปทานข้าวกับอาจาร ซึ่งเรากับน้องอีกคนไม่เคยทำแบบนั้น เพราะจะคุยกับอาจารก็แค่เรื่องงาน แล้วพอเจอสองมาตรฐานแบบนี้ เรานั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่คนเดียว จนแฟนต้องเดินเข้ามาปลอบ เพราะเค้าได้ยินทุกคำพูดที่อาจารพูดกับเรา เอ่อ น่าจะเชิงตะคอกมากกว่า เรานอนไม่หลับเลย ถึงหลับในหัวก็วนอยู่แต่เรื่องทำ IS ซ้ำๆ พยายามตื่นละหลับใหม่ก็ฝันแต่เรื่องเดิม เรายอมรับว่าเราโง่ แต่สิ่งที่เราทำส่งอาจารนั่นก็คือความพยายามเหมือนกันนะ ทำไมอาจารถึงพูดด้อยค่าเราต่อหน้าคนอื่นขนาดนั้นด้วย เราโทรไปร้องไห้กับเพื่อน ถามเพื่อนว่าอาจารที่ปรึกษาของเพื่อนเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้เด็กอาจารมีกี่คน ซึ่งเพื่อนบอกว่าอาจารตามงานตลอด ไม่ต้องคุยรวม ไม่ต้องนัดเจอ ส่งงานอาจารตรงจให้แล้วฟีดแบคกลับ ซึ่งต่างจากเรามาก ต้องเจอรวม คนนึงไม่พร้อมก็ไม่ต้องเจองี้ แล้วเด็กอาจารของเพื่อนมี11 คน  เราก็เกรงใจที่จะไปพูดกับอาจารเลย เพราะเด็กแกเยอะแล้ว แต่เราไม่อยากทนทำกับที่ปรึกษาคนนี้เราแล่วจริงๆ ถ้าได้คุยงานกันอีกเราคงมองเค้าไม่เหมือนเดิม ไม่สนิทใจที่จะคุยด้วย ต้องระแวงว่าจะโดนด่า โดนตะคอกอีกมั้ย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่