“น่าน - แพร่” ทริปนี้ที่หลงรัก

กระทูนี้จะมาเล่า และแจกทริป"เที่ยวน่าน-แพร่ 4วัน 3คืนโดยรถยนต์ส่วนตัว"ค่ะ เพราะยอมรับว่าตอนไปไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย ดูรีวิวหลายๆท่านก็ยังไม่รู้จะเอาแบบไหน ไปอย่างไร จนรวบรวมข้อมูลจากหลายๆทางมาเพื่อปรับให้เข้ากับความชอบ และความสะดวกถูกใจผู้ร่วมเดินทางทุกคน พอจบทริปแล้วคือฟินมาก มากจนเลิกแปลกใจว่าทำไมเมืองน่านจึงเป็นเมืองที่มีสเน่ห์จนคนหลงรักมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เพียงสิ่งของ หรือสิ่งปลูกสร้าง แต่มันคือผู้คนที่เป็นมิตรเอามากๆ เอาแบบหยาบๆเลยนะคะ เป็นมิตรยันหมาอ่ะ โอ๊ยยยยย 
และก่อนจะเข้าเรื่อง ต้องออกตัวขออภัยไว้ก่อนนะคะ หากในเนื้อหามีประโยคใด หรือข้อมูลใดที่ผิดพลาดหรือพลั้งไปต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ ท่านสมาชิกสามารถทักท้วงหรือช่วยแก้ไขได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ
พิกัดการเดินทาง โคราช - น่าน – แพร่ (ระยะการเดินทางและเส้นทางปรับใช้กับกรุงเทพ-น่านได้ค่ะ)
รูปแบบการท่องเที่ยว// เชิงวัฒนธรรม-สถาปัตยกรรม-วิถีชุมชน-ธรรมชาติ เน้นไปเรื่อยๆไม่เก็บเช็คอินค่ะ ใครท่องเที่ยวสายคาเฟ่อาจไม่เหมาะกับทริปนี้ค่ะ
ยานพาหนะ// เก๋ง1.0Turbo 4ประตู
ผู้โดยสาร// 4ท่าน วัยรุ่นสอง วัยกล้วยไม้สอง 555+

วันแรกไปกันเลย โคราช - น่าน
-ออกจากตัวเมืองโคราชเวลา23.00น. เดินทางไปเรื่อยๆผ่าน เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ จนเวลาประมาณ06.30น.ก็เดินทางถึงเมืองแพร่แล้ว พอเช้าเราก็ต้องกินสินะ ไม่รอช้าหักหัวรถเข้าไปที่เมืองแพร่ทันทีแถวตลาดสดเทศบาลเพื่อหาอะไรกิน แม้จะดูเงียบๆไปหน่อยแต่ก็มีของกินยามเช้ามากมาย และมีพระเดินบิณฑบาตมาเป็นระยะ ก่อนกินข้าวเลยได้ใส่บาตรไปหนึ่งกรุบ...อิ่มบุญกันไปตั้งแต่วันแรก
-มื้อแรกของทริปที่เมืองแพร่ ถ้าไม่รวมปาท่องโก๋ จะเป็นร้านโจ๊ก ข้าวต้ม ต้มเลือดหมู ซึ่งร้านอยู่ใกล้ๆกับประตูตลาดสดเทศบาลเมืองแพร่เลย จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อร่อยมากค่ะ ประทับใจ ใครมาเช้าแถวๆนี้แนะนำแวะมากินเลยค่ะ
-น้ำมันหนึ่งถังจากโคราชมาถึงแพร่ขึ้นเตือนที่นี่พอดี เลยแวะจิบกาแฟที่อเมซอนที่ปั๊มปตท.บ้านทุ่งโฮ้งก่อน จิบกาแฟเสร็จแล้วก็เลยออกไปเติมน้ำมันปั๊มเชลล์ข้างๆเต็มถัง 5555555+
-ที่แรกเมื่อไปถึงน่านคือวัดพระธาตุแช่แห้ง น่าเสียดายเอามากๆที่อยู่ในระหว่างการรีโนเวท เลยได้แค่กราบอยู่ด้านนอก และพระประธานในศาลาค่ะ ถึงแม้จะรู้สึกไม่โอเคที่ตรงพระธาตุล้อมผ้าไว้หมด แต่เรากลับไปตื่นตาตื่นใจกับเครื่องรางของขลังที่นี่มากกกก มากแบบก.ไก่ล้านตัว ด้วยความที่วัดนี้เป็นวัดที่เก็บพระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะตามความเชื่อแบบล้านนา ของฝากของขลังในวัดมันเลยดูตะมุตะมิไปหมด สุดท้ายแล้วเหมาสาลิกามากำมือนึง และอื่นๆอีกเพียบ ประหนึ่งแองเจลิน่า โจลี่แบกศาลพระภูมิจากไทยกลับบ้าน

-ที่สองที่ต้องไปคือวัดพระธาตุเขาน้อย อากาศอาจร้อนไปหน่อย แต่ก็ยังมีลมเย็นผ่านตลอดเวลา โลว์ซีซั่นแบบนี้เอารถไปจอดข้างบนได้เลยค่ะ ร้านของฝากมีมากมายเลย โดยเฉพาะมะไฟจีนที่แม่ค้าตั้งแต่วัดที่แล้วโฆษณาว่ามีขายแค่ที่น่านเท่านั้น แต่ก็ยังไม่ซื้อเพราะยังไปอีกหลายที่ เลยได้แค่เก็บภาพความประทับใจเฉยๆ ซึ่งหากใครไปน่านก็แนะนำวัดนี้ด้วยค่ะ เพราะพระประธานเป็นพระสไตล์พม่าแบบหน้าขาวปากแดง และการตกแต่งด้านในแบบล้านนา เป็นอะไรที่สวยงามมากจริงๆค่ะ
-ออกจากวัดได้ก็หิวเลยค่ะ เปิดโปรแกรมที่เขียนไว้แล้วมุ่งหน้าไปร้านเลย ชื่อร้าน สวนสะเนียนซึ่งอยู่ติดแม่น้ำน่าน ถึงแม้น้ำจะมีน้อยแต่ก็ยังดูสวยและมีลมพัดโชยมาตลอดพอได้ผ่อนคลายค่ะ ส่วนอาหารที่สั่งมีชุดออเดิร์ฟเมือง ไก่ทอดมะแขว่น และยำขมิ้นขาว ตักใส่ปากเท่านั้นล่ะ แสงออกปากเลย อร่อยแต๊อร่อยว่า ใครจะไปเที่ยวยังไม่มีร้านในใจแนะนำร้านนี้เลยค่ะ อาหารอร่อย วิวดี มีที่จอดรถเยอะ
-กินข้าวเสร็จก็กลับโรงแรมเลย ขับรถมาทั้งคืนเหนื่อยมาก แนะนำท่านที่ขับรถมาเองแบบไม่มีคนเปลี่ยน วันนี้อย่าให้โปรแกรมแน่นมาก และเพื่อเป็นการเซฟเวลาให้คุ้มค่าที่สุด จึงต้องเลือกโรงแรมที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวให้มากที่สุดด้วย และที่เราเลือกก็คือ”โรงแรมน่านลานนา” ตัวโรงแรมจะอยู่ในซอยด้านหลังวัดหัวข่วงเลยค่ะ โดยโรงแรมจะมีจักรยานให้ยืม 2คัน สามารถปั่นไปรอบๆเมืองได้ หรือถ้าขยันไปหลายท่านก็สามารถเดินออกไปได้เลยค่ะเพราะจักรยานไม่มีตะแกรงซ้อนท้าย หน้าปากซอยติดพิพิธภัณฑ์ที่มีซุ้มลีลาวดี เดินไปอีกหน่อยก็วัดภูมินทร์ ข้างวัดภูมินทร์มีถนนคนเดิน ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์มาก แต่ฝากเรื่องถนนคนเดินต้องระวังกระเป๋าเงินนิดนึงนะคะ เพราะว่า...ถ้าคุมสติไม่ได้อาจจะล้มละลายออกมาจากตลาดได้เลย โอ้โห ทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้าพื้นเมือง ของฝากพื้นเมือง มันละลานตาไปหมดจนอยากจะเอาเก๋งไปเทิร์นกระบะมาเสียวันนั้น ที่เก็บของรถเก๋งมันน้อยป๊ายยยย
-และโปรแกรมวันแรกก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ อาจจะมีหน่อยนึงตอนดึกๆแอบปั่นจักรยานออกไปเล่นชิลล์ๆในบริเวณใกล้เคียง ตอนกลางคืนก็สวยมากๆเลยค่ะ ไม่ร้อนด้วย รอบๆตัวเมืองสร้างบ้านเรือนร้านค้าคุมโทนไปหมด คุมโทนสียันเซเว่น สวยมากจริงๆ และในส่วนของโรงแรมที่พักนั้นแนะนำเลยทั้งทำเล ตัวห้องพัก พนักงาน ที่จอดรถ เอาไปสิบอมยิ้ม ได้ผ่านไปก็พักเถอะ นะนะ ถือว่าขอร้อง


วันที่สอง ตัวเมืองน่าน - ปัว – สะปัน
-ออกจากโรงแรมประมาณแปดโมงเช้าแบบไม่รีบเร่ง แถมยังมีเวลาแวะไปกราบพระและถ่ายรูปอีกนิดหน่อยที่วัดหัวข่วงหน้าโรงแรมก่อนที่จะออกไปหาข้าวเช้ากินเพราะโรงแรมไม่มีBF
-กินอาหารเช้าที่ร้านวันดาข้าวแกง อร่อยแสงออกปากอีกแล้ว เรากับแฟนสั่งขนมจีนน้ำเงี้ยวกับข้าวซอย ส่วนคุณแม่กับเพื่อนสั่งเป็นข้าวราดแกง คุณแม่ราดกับข้าวชื่อตำจ่าวเพราะอยากลองอาหารพื้นเมือง อร่อยมากๆจนคิดว่าถ้ากลับบ้านวันนี้คงได้ซื้อห่อกลับด้วย เพราะเปิดหาสูตรทำแล้ว ตำจ่าวไม่มีในกูเกิ้ล สะเทือนใจมาก ใครคนน่านช่วยชี้แนะทีมันคืออะไร

-กินข้าวเสร็จจุดหมายต่อไปก็คือร้านกาแฟ จึงเลือกเป็นร้านเอราบิก้า Erabica เพราะจากการหาข้อมูลร้านนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายเมล็ดกาแฟน่านของแท้จากดอยน่าน เลยตั้งใจจะไปจิบกาแฟและซื้อเมล็ดกาแฟด้วย เนื่องจากที่บ้านมีเครื่องดริปกาแฟแบบแมชชีนติดบ้านไว้ เวลาไปไหนเลยจะต้องได้หนีบกาแฟพื้นที่กลับมาด้วยทุกครั้ง อ่ะ อ่ะ และแน่นอน กาแฟที่นี่อร่อยแสงออกปากอีกเช่นเคย ไม่ออกธรรมดานะ ออกไปพร้อมกับเงินในกระเป๋าที่เบาบาง ราคาใช้ได้เลยล่ะ แต่รับได้เพราะร้านสวย กาแฟอร่อย พนักงานเทคแคร์ดี ที่สำคัญเหมือนคัดหน้าตามา น่าหนีบกลับบ้านมากกว่าเมล็ดกาแฟเสียอีก โอ๊ย พอๆสายแล้วจะไปทางอื่น

-สถานีต่อไปอ.ปัว ตอนแรกตัดสินใจนานมากว่าจะไปทางไหนก่อน แต่เพราะแพลนจะนอนสะปันเลยตัดสินใจวิ่งไปทางปัว ขึ้นเขาไปทางอช.ดอยภูคา และลงนอนสะปันดีกว่า แต่ก่อนจะขึ้นเขาไปนั้นก็ต้องแวะหาอะไรแว้บๆก่อนขึ้นเขาใช่ไหมล่ะ เลยไปเริ่มที่แรกกับโกโก้วัลเลย์ ถ้าใครไปแวะเหอะขอร้อง(อีกแล้ว) เพราะของมันต้องลอง เราไปช่วงเกือบปลายก.พ. โกโก้กำลังสุกเลย ถ่ายรูปกันเปรม แถมมีเมนูโกโก้เต็มไปหมด มียันเมล็ดโกโก้น้ำปลาหวาน น้ำปลาหวานอร่อยสุดๆ แต่ตัวเมล็ดโกโก้นั้น...ก็กินแค่ให้ได้รู้สึกว่ามาถึงทั้งทีมันต้องกินอ่าเนาะ ข้ามๆๆ แต่เอาเป็นว่าล้มละลายไปอีกหนึ่งกรุบเพราะราคาค่อนข้างแรงนักเชียว
-อ่ะ อิ่มแล้วก็ไปเข้าวัด ชื่อว่าวัดภูเก็ต ตอนไปก็งงๆชื่อวัดนะ พอเลี้ยวลงไปหน้าวัดเจอร้านของฝากเท่านั้นล่ะ เก็ตเลย เพราะตรงนั้นเรียกบ้านเก็ต วัดอยู่บนภู เลยเรียกวัดภูเก็ต หลังจากได้ข้อมูลก็ช็อปเช่นเคย ล้มละลายก๊อกสองของวัน ทั้งผ้าถิ่นทอมือ ผ้าเขียนเทียนพื้นบ้าน หอมแดงที่เค้าเพิ่งถอน มะแขว่นแห้ง กาละแมไทลื้อ ถั่วลายเสือ เก้าลอเก้า ยูโน้ว เปรมกันเลย...
-แล้วก็ถึงเวลากิน จึงเลือกไปที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ เราจะไม่แนะนำเมนูอะไร พยายามกินง่ายสุดๆ เพราะเห็นราคาแล้วเวียนหัวนิดๆแต่ก็อร่อยทุกอย่างจริง บรรยากาศดี มีน้องปลาคาร์พให้มองเพลินๆ แต่เห็ดสดไม่มีขายเนื่องจากลูกค้าเยอะมากต้องเอามาทำอาหารจนเกลี้ยง...ดีแล้ว ไม่งั้นมีล้มละลายก็อกสาม
-ขึ้นเขาจริงจังกันสักที และแวะทุกตรงเพราะอยากเห็นดอกชมพูภูคา ยอมแม้กระทั่งเข้าไปในอุทยานเสียค่าผ่านทางร้อยกว่าบาทเพื่อไปเจอชมพูภูคา2-3ช่อ กรี๊ดดดด ดีนะคนวัยกล้วยไม้ไม่ต้องเสียค่าเข้าอุทยาน
-แวะร้านข้างทางได้ชาดอกกาแฟ เมล็ดกาแฟจากบ้านสะเกี๋ยง อโวคาโด้ ร้านอยู่ก่อนถึงถนน 1715 พอถึง1715ก็แวะอีก เจอร้านเพิงเล็กๆขายของฝาก...ซื้ออีก เอามันเข้าไป ซื้อเหมือนเอารถบรรทุกมาจริงๆ

-กว่าจะลากตัวเองออกมาได้แต่ละจุด สุดท้ายก็ถึงสะปันเสียที ทั้งที่ตอนแรกแพลนจะแวะเที่ยวบ่อเกลือก่อนแท้ๆ ความเพลิดเพลินเป็นเหตุ และวันนี้ที่พักเราเลือกเป็น”ภูพญาโฮมสเตย์” เป็นโฮมสเตย์ที่อยู่ตรงปากทางเข้าน้ำตก ตอนแรกไม่ได้คาดหวังมากเพราะไม่ได้อยู่ติดริมน้ำดูดีเหมือนที่อื่นเขา แต่ตัดสินใจจองไปเพราะราคาโอเคกว่าที่อื่น หนึ่งพันบาทมีห้องน้ำในตัวพร้อมอาหารเช้า เพอร์เฟคอีกแล้วสำหรับพื้นที่กลางหุบแบบนี้ แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าบรรยากาศดี และสวยมากๆ มีหมาตัวจ้ำม่ำ2-3ตัววิ่งมาต้อนรับด้วย เจ้าของก็ใจดีบอกให้เราเดินเลือกห้องตามสบายเลย อยากได้หลังไหนเชิญ เพราะทั้งพื้นที่มีแค่เราที่จองไปสองห้อง T_T
-เย็นนี้กินข้าวที่ร้านอาหาร ”มีสะปัน”ติดกับริมน้ำเลยค่ะ ปั่นจักรยานของโฮมสเตย์ออกไป รสชาติใช้ได้ ราคาก็ค่อนไปทางแพงแต่ก็สามารถเข้าใจได้ เพราะการเดินทางมันยากจริง เมื่อกินเสร็จก็กลับที่พักนอนฟังเสียงน้ำไหลจากธารน้ำตก จิบเบียร์เพลิน อากาศเย็นมาก เย็นจนควันออกปากทีเดียว อุณหภูมิคืนนั้นจนเช้าประมาณ 10-15องศาเซลเซียสเลย พัดลมกับแอร์นี่มีไว้เป็นพรอพเฉยๆตามลุงเจ้าของแกว่าเป๊ะ
-ยามเช้าเดินสูดอากาศไปรอบๆ พร้อมกับถ่ายภาพดอกไม้สีชมพูอย่างเพลิดเพลิน ต้นดอกไม้นี้ลุงแกเล่าว่ามีแค่ที่นี่ที่เดียว เพราะหลานสาวไปเอากิ่งมาจากมาดากัสก้าสองกิ่ง ลองชำดูปรากฏว่ามันงอกดีมากๆจนเริ่มขยายพันธุ์ไปทั่วบริเวณนั้น ชื่อว่าต้น “เตรดตาดิเนีย Tetradenia” ดอกต้นใบมีความคล้ายกะเพราและยี่หร่ามาก แต่ดอกเป็นสีชมพูอ่อนไปจนเข้ม ลุงยังใจดีแบ่งให้เอามาปลูกที่บ้านด้วยตั้งสองต้น น่ารักสุดๆ ถ้ามาอีกยังไงก็นอนนี่ค่ะลุงงงงง

***ได้แค่สองวัน โควต้าอักษรเต็มซะแล้ว เดี๋ยวต่อในคอมเมนต์นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่